ตรวจศพรู้แล้ว 2 ราย เร่งค้นหาอีก 8 ลูกเรือสูญหาย หาจุดเรือจมไม่พบเพิ่ม
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7433827
ตรวจศพรู้แล้ว 2 ราย เร่งค้นหาอีก 8 ลูกเรือสูญหาย หาจุดเรือจมไม่พบเพิ่ม เตรียมเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 10 นายไปฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.65 พล.ร.อ.
ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ในส่วนของการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพล กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในพื้นที่ลาดตระเวนตามแผน นอกจากการลาดตระเวนบนผิวน้ำและพื้นที่ตามแนวชายฝั่งแล้ว ในวันนี้เรือหลวงบางระจันได้ทำการกำหนดตำบลที่ใต้น้ำและติดตั้งทุ่นลอยบริเวณเรือหลวงสุโขทัย ที่เคยติดตั้งไว้แล้วก่อนหน้านี้ แต่ภายหลังพบว่าได้หลุดหายไปจากการทำประมง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดถอดทำลายอมภัณฑ์ได้ปฏิบัติภารกิจในการสำรวจและค้นหาผู้ประสบภัยรอบตัวเรือหลวงสุโขทัยบริเวณเหนือดาดฟ้าหลัก โดยมีเรือหลวงราวี เป็นฐานปฏิบัติการ ซึ่งจากการสำรวจและค้นหายังไม่ปรากฏร่างของผู้เสียชีวิตในบริเวณที่ทำการสำรวจ
ขณะที่ผลการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล 2 ใน 3 ราย ยืนยันตัวบุคคลแล้ว คือ จ่าโท สหรัฐ อีสา ที่ดำเนินการเก็บกู้ร่างได้วันที่ 26 ธ.ค. และจ่าตรี สิริธิติ งามทอง ที่เก็บกู้ร่างได้เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ 1 ร่างที่สามารถเก็บกู้ได้ในวันนี้เช่นกัน อยู่ระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล
ทั้งนี้ ในวันที่ 28 ธ.ค.65 จะเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 10 นาย ประกอบด้วย 1.จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์ 2.จ่าเอกชูชัย เชิดชิด 3.จ่าโท ธวัชชัย สาพิราช 4.จ่าโท สหรัฐ อีสา 5.จ่าตรี สถาพร สมเหนือ 6.จ่าตรี นพณัฐ คำวงค์ 7.จ่าตรี ศุภกิจ ทิวาลัย 8.จ่าตรี สิริธิติ งามทอง 9.พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี 10. พลทหาร จำลอง แสนแก ไปยังฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ โดยในเวลา 11.30 น. จะออกเดินทางจากมูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน อ.บางสะพาน ไปยังกองบิน 5 อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และเวลา 13.00 น. จะออกเดินทางโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศแบบ C – 130 มายังสนามบินอู่ตะเภา และมีกำหนดถึงสนามบินอู่ตะเภาเวลา 15.00 น. จากนั้นจะเคลื่อนร่างทั้ง 9 นายไปยังฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ในเวลา 17.00 น.
สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (วันที่ 27 ธันวาคม 2565) เวลา 17.30 น. ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต 76 นาย เสียชีวิตรวม 21 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 20 นาย และมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 1 นาย คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 8 นาย
สำหรับรายชื่อกำลังพลที่เสียชีวิต ซึ่งสามารถเพื่อยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว 20 นาย ประกอบด้วย
1. ว่าที่เรือเอก สามารถ แก้วผลึก
2. พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์
3. พันจ่าเอก สมเกียรติ หมายชอบ
4. พันจ่าเอก อำนาจ พิมที
5. จ่าเอก จักร์พงศ์ พูลผล
6. จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์
7. จ่าเอกชูชัย เชิดชิด
8. จ่าโท ธวัชชัย สาพิราช
9. จ่าโท สหรัฐ อีสา
10. จ่าตรี สถาพร สมเหนือ
11. จ่าตรี นพณัฐ คำวงค์
12. จ่าตรี ศุภกิจ ทิวาลัย
13. จ่าตรี ศราวุธ นาดี
14. จ่าตรี สิริธิติ งามทอง
15. พลทหาร อัครเดช โพธิ์บัติ
16. พลทหาร จิราวัฒน์ ธูปหอม
17. พลทหาร สิทธิพงษ์ หงษ์ทอง
18. พลทหาร วรพงษ์ บุญละคร
19. พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี
20. พลทหาร จำลอง แสนแก
เจาะลึกการเมือง : “ดร.พิชาย”ฟันธง”ประยุทธ์”กลับมายาก ก้าวไกลจับขั้วเพื่อไทย ต้องลดเงื่อนไข
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3746156
สัมภาษณ์พิเศษ : รศ.ดร.
พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) วิเคราะห์ โอกาสและการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
ประยุทธ กลับมายาก เสียงไม่พอ
ประวิตร เป็นไปได้มากกว่า เปิดวิจัยใหม่ เพื่อไทยมาแรงในภาคใต้ ก้าวไกลเพื่อไทยจับขั้วต้องลดเงื่อนไข ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
ก้าวไกล ลั่นเสียงแข็ง ไม่จับมือกับร่างทรงทหาร พปชร.หรือรทสช.ก็ไม่เอา
https://www.matichon.co.th/politics/news_3746288
ก้าวไกล ลั่นเสียงแข็ง ไม่จับมือกับร่างทรงทหาร พปชร.หรือรทสช.ก็ไม่เอา
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม เพจ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กยืนยืนว่า เราจะไม่จับมือกับทุกพรรคการเมืองที่สืบทอดอำนาจทหาร โดย จากกรณีที่มีกระแสข่าวตั้งคำถามว่า “
พรรคก้าวไกลพร้อมจับมือกับ ‘พรรคพลังประชารัฐ’ และพรรคอื่นๆ เพื่อล้ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่?”
“
พรรคก้าวไกลขอยืนยันว่าเราไม่มีวันจับมือกับพรรคสืบทอดอำนาจทหาร ไม่ว่าจะเป็นพลังประชารัฐหรือรวมไทยสร้างชาติ
พรรคก้าวไกลย้ำจุดยืนมาตลอดตั้งแต่ครั้งอนาคตใหม่ว่าปัญหาของประชาธิปไตยในประเทศไทย ไม่ใช่แค่เมื่อเผด็จการคืนอำนาจให้มีการเลือกตั้งแล้วจบ แต่ระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยดำรงอยู่ได้ด้วยการสร้างเครือข่ายสืบทอดอำนาจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ และพรรคการเมืองร่างทรงทหาร
การจับมือกับพรรคการเมืองเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐที่นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นส่วนหนึ่งของกลไกสืบทอดอำนาจทหาร ซึ่งพรรคก้าวไกลไม่สามารถเล่นละครหลอกประชาชนแบบนั้นได้”
ตู่ ยังฉุน! ฉายารัฐบาล โวยใครจะไม่โมโห ‘บิ๊กป้อม-อู๊ดด้า’ ฟาดเดือดกลางวง ครม.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7433826
‘บิ๊กตู่’ ยังฉุน! ฉายารัฐบาล บอกเจอแบบนี้ใครจะไม่โมโห – ครม. เดือด! ‘บิ๊กป้อม-อู๊ดด้า’ ฟาดกันนัว ปมแต่งตั้งอธิบดีกรมฝนหลวง
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2565 รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้งว่า ในช่วงหนึ่งของการประชุม พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ปรารภตอนหนึ่งถึงนโยบายหาเสียงของบางพรรคการเมืองว่า การจะหาเสียงอะไรช่วยดูงบประมาณประเทศด้วย ใครเป็นนายกฯ หรือรัฐบาลต่อปวดหัวแน่นอนถ้าหาเสียงแบบนี้ ตนก็เข้าใจและอยากดูแลประชาชนเหมือนกัน แต่บางเรื่อง เช่น ล้างหนี้ ยกให้หมดจะเอาเงินมาจากไหน
รวมถึงได้ปรารภเรื่องฉายารัฐบาล ปี 2565 ที่สื่อมวลประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งว่า โดนกันหมด นาย
ดอน ปรมัถต์วินัย รมว.ต่างประเทศ ยังโดนฉายา ‘
ลุ่มๆ ดอนๆ’ เจออย่างนี้ใครจะไม่โมโห โดนหาว่าทำเอเปกสู้ครั้งก่อนไม่ได้ แต่เวลาตนไปต่างประเทศก็มีแต่คนชื่นชม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงหนึ่งที่ประชุมหารือถึงวาระการแต่งตั้ง อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอรายชื่อนาย
สุพิศ พิทักษ์ธรรม ในตำแหน่งอธิบดีกรมฝนกลวง โดยนาย
สุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ยกมือทักท้วงไม่เห็นด้วย ทำให้นายกฯ ถามไปยังเลขาฯ ครม.ว่า สามารถทักท้วงในที่ประชุมได้หรือไม่ โดยเลขาฯ ครม. ชี้แจงว่า ทำได้
จากนั้นที่ประชุมผ่านการพิจารณาเรื่องดังกล่าวไปประชุมเรื่องอื่นต่อ จนกระทั่งจบการประชุมในวาระต่างๆ แล้ว นาย
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นหารืออีกครั้ง โดยระบุว่า ตนกำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ และได้โทรศัพท์พูดคุยกับ นาย
เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ที่ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม ยืนยันเสนอชื่อนาย
สุพิศ
ทำให้ พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แย้งว่า ตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวงฯ เป็นโควตาในกำกับของรัฐมนตรีพลังประชารัฐ (พปชร.) และได้ตกลงกับนายเฉลิมชัยแล้วว่า จะเป็นคนอื่น จนกระทั่ง พล.อ.
อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ต้องออกความเห็นว่า ในที่ประชุมครม.เป็นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรยกเรื่องโควตาพรรคมาพูดกัน และตามกฎหมายผู้มีอำนาจแต่งตั้งอธิบดี คือ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ
ทำให้นาย
สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง พูดสนับสนุน พล.อ.
ประวิตร ว่า เมื่อมีการแบ่งงานกันแล้วก็ควรให้เกียรติรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ที่กำกับดูแลหน่วยงานต่างๆ ไม่เช่นนั้นจะมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงไว้ทำไม ขณะที่นาย
จุรินทร์ ยังยืนยันหลักการเดิมว่า เป็นสิทธิของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ในการแบ่งงานในกระทรวง จะมอบหมายให้ใครทำอะไร
ทำให้นายกฯ ตัดบทว่า ให้ครม.ผ่านเรื่องดังกล่าวไปก่อน พร้อมกับตำแหน่งอื่นๆ ทั้ง 11 รายชื่อที่กระทรวงเสนอแต่งตั้งโยกย้ายในคราวนี้ เพราะระหว่างนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยหลังการประชุม พล.อ.
ประวิตร ได้เรียกเลขาฯ ครม. ไปคุยค่อนข้างนาน และมีรัฐมนตรีหลายคนเข้าไปพูดคุยด้วย
JJNY 5in1 ตรวจศพรู้แล้ว2ราย│“ดร.พิชาย”ฟันธง”ประยุทธ์”กลับมายาก│ก้าวไกลลั่นเสียงแข็ง│ตู่ยังฉุน!ฉายารัฐบาล│ส่งออกพย.คิดลบ
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7433827
ตรวจศพรู้แล้ว 2 ราย เร่งค้นหาอีก 8 ลูกเรือสูญหาย หาจุดเรือจมไม่พบเพิ่ม เตรียมเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 10 นายไปฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.65 พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ในส่วนของการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพล กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในพื้นที่ลาดตระเวนตามแผน นอกจากการลาดตระเวนบนผิวน้ำและพื้นที่ตามแนวชายฝั่งแล้ว ในวันนี้เรือหลวงบางระจันได้ทำการกำหนดตำบลที่ใต้น้ำและติดตั้งทุ่นลอยบริเวณเรือหลวงสุโขทัย ที่เคยติดตั้งไว้แล้วก่อนหน้านี้ แต่ภายหลังพบว่าได้หลุดหายไปจากการทำประมง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดถอดทำลายอมภัณฑ์ได้ปฏิบัติภารกิจในการสำรวจและค้นหาผู้ประสบภัยรอบตัวเรือหลวงสุโขทัยบริเวณเหนือดาดฟ้าหลัก โดยมีเรือหลวงราวี เป็นฐานปฏิบัติการ ซึ่งจากการสำรวจและค้นหายังไม่ปรากฏร่างของผู้เสียชีวิตในบริเวณที่ทำการสำรวจ
ขณะที่ผลการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล 2 ใน 3 ราย ยืนยันตัวบุคคลแล้ว คือ จ่าโท สหรัฐ อีสา ที่ดำเนินการเก็บกู้ร่างได้วันที่ 26 ธ.ค. และจ่าตรี สิริธิติ งามทอง ที่เก็บกู้ร่างได้เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ 1 ร่างที่สามารถเก็บกู้ได้ในวันนี้เช่นกัน อยู่ระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล
ทั้งนี้ ในวันที่ 28 ธ.ค.65 จะเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 10 นาย ประกอบด้วย 1.จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์ 2.จ่าเอกชูชัย เชิดชิด 3.จ่าโท ธวัชชัย สาพิราช 4.จ่าโท สหรัฐ อีสา 5.จ่าตรี สถาพร สมเหนือ 6.จ่าตรี นพณัฐ คำวงค์ 7.จ่าตรี ศุภกิจ ทิวาลัย 8.จ่าตรี สิริธิติ งามทอง 9.พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี 10. พลทหาร จำลอง แสนแก ไปยังฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ โดยในเวลา 11.30 น. จะออกเดินทางจากมูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน อ.บางสะพาน ไปยังกองบิน 5 อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และเวลา 13.00 น. จะออกเดินทางโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศแบบ C – 130 มายังสนามบินอู่ตะเภา และมีกำหนดถึงสนามบินอู่ตะเภาเวลา 15.00 น. จากนั้นจะเคลื่อนร่างทั้ง 9 นายไปยังฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ในเวลา 17.00 น.
สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (วันที่ 27 ธันวาคม 2565) เวลา 17.30 น. ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต 76 นาย เสียชีวิตรวม 21 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 20 นาย และมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 1 นาย คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 8 นาย
สำหรับรายชื่อกำลังพลที่เสียชีวิต ซึ่งสามารถเพื่อยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว 20 นาย ประกอบด้วย
1. ว่าที่เรือเอก สามารถ แก้วผลึก
2. พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์
3. พันจ่าเอก สมเกียรติ หมายชอบ
4. พันจ่าเอก อำนาจ พิมที
5. จ่าเอก จักร์พงศ์ พูลผล
6. จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์
7. จ่าเอกชูชัย เชิดชิด
8. จ่าโท ธวัชชัย สาพิราช
9. จ่าโท สหรัฐ อีสา
10. จ่าตรี สถาพร สมเหนือ
11. จ่าตรี นพณัฐ คำวงค์
12. จ่าตรี ศุภกิจ ทิวาลัย
13. จ่าตรี ศราวุธ นาดี
14. จ่าตรี สิริธิติ งามทอง
15. พลทหาร อัครเดช โพธิ์บัติ
16. พลทหาร จิราวัฒน์ ธูปหอม
17. พลทหาร สิทธิพงษ์ หงษ์ทอง
18. พลทหาร วรพงษ์ บุญละคร
19. พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี
20. พลทหาร จำลอง แสนแก
เจาะลึกการเมือง : “ดร.พิชาย”ฟันธง”ประยุทธ์”กลับมายาก ก้าวไกลจับขั้วเพื่อไทย ต้องลดเงื่อนไข
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3746156
สัมภาษณ์พิเศษ : รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) วิเคราะห์ โอกาสและการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ประยุทธ กลับมายาก เสียงไม่พอ ประวิตร เป็นไปได้มากกว่า เปิดวิจัยใหม่ เพื่อไทยมาแรงในภาคใต้ ก้าวไกลเพื่อไทยจับขั้วต้องลดเงื่อนไข ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
ก้าวไกล ลั่นเสียงแข็ง ไม่จับมือกับร่างทรงทหาร พปชร.หรือรทสช.ก็ไม่เอา
https://www.matichon.co.th/politics/news_3746288
ก้าวไกล ลั่นเสียงแข็ง ไม่จับมือกับร่างทรงทหาร พปชร.หรือรทสช.ก็ไม่เอา
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม เพจ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กยืนยืนว่า เราจะไม่จับมือกับทุกพรรคการเมืองที่สืบทอดอำนาจทหาร โดย จากกรณีที่มีกระแสข่าวตั้งคำถามว่า “พรรคก้าวไกลพร้อมจับมือกับ ‘พรรคพลังประชารัฐ’ และพรรคอื่นๆ เพื่อล้ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่?”
“พรรคก้าวไกลขอยืนยันว่าเราไม่มีวันจับมือกับพรรคสืบทอดอำนาจทหาร ไม่ว่าจะเป็นพลังประชารัฐหรือรวมไทยสร้างชาติ
พรรคก้าวไกลย้ำจุดยืนมาตลอดตั้งแต่ครั้งอนาคตใหม่ว่าปัญหาของประชาธิปไตยในประเทศไทย ไม่ใช่แค่เมื่อเผด็จการคืนอำนาจให้มีการเลือกตั้งแล้วจบ แต่ระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยดำรงอยู่ได้ด้วยการสร้างเครือข่ายสืบทอดอำนาจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ และพรรคการเมืองร่างทรงทหาร
การจับมือกับพรรคการเมืองเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐที่นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นส่วนหนึ่งของกลไกสืบทอดอำนาจทหาร ซึ่งพรรคก้าวไกลไม่สามารถเล่นละครหลอกประชาชนแบบนั้นได้”
ตู่ ยังฉุน! ฉายารัฐบาล โวยใครจะไม่โมโห ‘บิ๊กป้อม-อู๊ดด้า’ ฟาดเดือดกลางวง ครม.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7433826
‘บิ๊กตู่’ ยังฉุน! ฉายารัฐบาล บอกเจอแบบนี้ใครจะไม่โมโห – ครม. เดือด! ‘บิ๊กป้อม-อู๊ดด้า’ ฟาดกันนัว ปมแต่งตั้งอธิบดีกรมฝนหลวง
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2565 รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้งว่า ในช่วงหนึ่งของการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ปรารภตอนหนึ่งถึงนโยบายหาเสียงของบางพรรคการเมืองว่า การจะหาเสียงอะไรช่วยดูงบประมาณประเทศด้วย ใครเป็นนายกฯ หรือรัฐบาลต่อปวดหัวแน่นอนถ้าหาเสียงแบบนี้ ตนก็เข้าใจและอยากดูแลประชาชนเหมือนกัน แต่บางเรื่อง เช่น ล้างหนี้ ยกให้หมดจะเอาเงินมาจากไหน
รวมถึงได้ปรารภเรื่องฉายารัฐบาล ปี 2565 ที่สื่อมวลประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งว่า โดนกันหมด นายดอน ปรมัถต์วินัย รมว.ต่างประเทศ ยังโดนฉายา ‘ลุ่มๆ ดอนๆ’ เจออย่างนี้ใครจะไม่โมโห โดนหาว่าทำเอเปกสู้ครั้งก่อนไม่ได้ แต่เวลาตนไปต่างประเทศก็มีแต่คนชื่นชม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงหนึ่งที่ประชุมหารือถึงวาระการแต่งตั้ง อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอรายชื่อนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ในตำแหน่งอธิบดีกรมฝนกลวง โดยนายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ยกมือทักท้วงไม่เห็นด้วย ทำให้นายกฯ ถามไปยังเลขาฯ ครม.ว่า สามารถทักท้วงในที่ประชุมได้หรือไม่ โดยเลขาฯ ครม. ชี้แจงว่า ทำได้
จากนั้นที่ประชุมผ่านการพิจารณาเรื่องดังกล่าวไปประชุมเรื่องอื่นต่อ จนกระทั่งจบการประชุมในวาระต่างๆ แล้ว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นหารืออีกครั้ง โดยระบุว่า ตนกำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ และได้โทรศัพท์พูดคุยกับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ที่ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม ยืนยันเสนอชื่อนายสุพิศ
ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แย้งว่า ตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวงฯ เป็นโควตาในกำกับของรัฐมนตรีพลังประชารัฐ (พปชร.) และได้ตกลงกับนายเฉลิมชัยแล้วว่า จะเป็นคนอื่น จนกระทั่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ต้องออกความเห็นว่า ในที่ประชุมครม.เป็นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรยกเรื่องโควตาพรรคมาพูดกัน และตามกฎหมายผู้มีอำนาจแต่งตั้งอธิบดี คือ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ
ทำให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง พูดสนับสนุน พล.อ.ประวิตร ว่า เมื่อมีการแบ่งงานกันแล้วก็ควรให้เกียรติรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ที่กำกับดูแลหน่วยงานต่างๆ ไม่เช่นนั้นจะมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงไว้ทำไม ขณะที่นายจุรินทร์ ยังยืนยันหลักการเดิมว่า เป็นสิทธิของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ในการแบ่งงานในกระทรวง จะมอบหมายให้ใครทำอะไร
ทำให้นายกฯ ตัดบทว่า ให้ครม.ผ่านเรื่องดังกล่าวไปก่อน พร้อมกับตำแหน่งอื่นๆ ทั้ง 11 รายชื่อที่กระทรวงเสนอแต่งตั้งโยกย้ายในคราวนี้ เพราะระหว่างนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยหลังการประชุม พล.อ.ประวิตร ได้เรียกเลขาฯ ครม. ไปคุยค่อนข้างนาน และมีรัฐมนตรีหลายคนเข้าไปพูดคุยด้วย