ชนพื้นเมืองอเมริกา เป็นมองโกลอยด์ใต้ ใช่ไหมคะ

ดูจากหน้าตา จากภาษา เช่น เสียงสระ (5 เสียง เหมือนญี่ปุ่นเลย) การนับเลข (ฐาน 5?)

ว่าแต่ เราจะทราบได้อย่างไร ว่าอักษรที่ใช้ เป็นของเดิม หรือประดิษฐ์ใหม่ หลังจากชาวสเปนหรือชาวยุโรปเข้ามาคะ เห็นมีเลข 0 ด้วย เลยสงสัยน่ะค่ะ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
1. การจำแนกมนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์(Race)เป็นสิ่งที่นักวิชาการส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่นิยมใช้แล้ว เพราะมนุษย์ทุกคนคือเผ่าพันธุ์เดียวกัน โดยทั่วไปเขาคำนึงถึงความเป็นชาติพันธุ์(Ethnicity)มากกว่า เช่น ในทางพันธุศาสตร์กลุ่มประชากรที่มีลักษณะทางกายภาพใกล้เคียงกับชาวเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้มากกว่าคนในภูมิภาคอื่น แสดงให้เห็นว่ามีเชื้อสาย "ชาวยูเรเซียตะวันออก" (East-Eurasian) เป็นหลัก, กลุ่มคนที่คล้ายชาวยุโรป, เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ และแอฟริกาเหนือ มีดีเอ็นเอของ "ชาวยูเรเซียตะวันตก" (West-Eurasian), กลุ่มประชากรที่มีลักษณะใกล้เคียงกับชาวแอฟริกาทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารามีเชื้อสาย "ชาวแอฟริกาใต้สะฮารา" (Sub-Saharan African) และกลุ่มคนที่คล้ายชาวนิกริโต(Negrito), เมลานีเซีย, อะบอริจิน ฯลฯ มีดีเอ็นเอของ "ชาวออสตราเลเชีย" (Australasian) เป็นต้น

2. ภาษาของชนพื้นเมืองทวีปอเมริกามีหลากหลายมาก ซึ่งบางภาษาก็มีเสียงสระน้อยกว่า บ้างก็มากกว่า และยังมีเสียงสระที่ไม่พบในภาษาญี่ปุ่น อีกทั้งคำศัพท์เกี่ยวกับเลขโดยทั่วไปมักเป็นเลขฐานสิบ(Decimal)กับเลขฐานยี่สิบ(Vigesimal)

แผนที่แสดงตำแหน่งของตระกูลภาษาและภาษาเอกเทศต่างๆของชนพื้นเมืองในภูมิภาคอเมริกาเหนือ, กลาง และใต้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


3. ชุดอักษรของชนพื้นเมืองทวีปอเมริกาที่ยังใช้กันอยู่ล้วนถูกประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ ในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19-21 อาทิ อักษร Osage, Deseret, Duployan shorthand, Afaka, Cherokee syllabary, Dene Syllabics และ Canadian Aboriginal syllabics ฯลฯ ขณะที่อักษรดั้งเดิมของชนพื้นเมืองทวีปอเมริกามักเป็นอักษรโบราณซึ่งไม่มีใครใช้แล้ว ยกตัวอย่างเช่น อักษร Miꞌkmaq, Anishinaabe, Maya, Mixtec, Aztec, Isthmian และ Olmec hieroglyphs เป็นต้น

4. ลักษณะฟันของชนพื้นเมืองทวีปอเมริกาอาจไม่ใช่ทั้งแบบ Sinodont และ Sundadont แต่เป็นแบบที่นักวิชาการในปัจจุบันมักเรียกกันว่า "Super-Sinodont" อีกทั้งลักษณะฟันของชาวเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ก็ไม่แตกต่างกันมากและสามารถพบฟันทั้งสองแบบในทั้งสองภูมิภาค  

5. ชนพื้นเมืองทวีปอเมริกามีบรรพชนร่วมกัน คือ "ชนพื้นเมืองอเมริกาโบราณ" (Ancestral Native American: ANA) ซึ่งมีเชื้อสายของ "ชาวเอเชียตะวันออกยุคแรกเริ่ม" (Basal-East Asian) หรือบรรพชนร่วมกันของชาวเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ กับ "ชาวยูเรเซียเหนือโบราณ" (Ancient North Eurasian: ANE) ที่เดินทางมาเจอกันในบริเวณแถบรัสเซียตะวันออกไกลปัจจุบัน ก่อนจะเริ่มเคลื่อนย้ายไปยังทวีปอเมริกาเมื่อประมาณ 20,000 ปีก่อน โดย ANE เป็นลูกผสมระหว่าง West-Eurasian กับ Basal-East Asian ในยุคหินเก่าตอนปลาย โดยดีเอ็นเอค่อนไปทาง West-Eurasian มากกว่า ฉะนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมชนพื้นเมืองทวีปอเมริกาบางคนถึงดูคล้ายชาวยุโรป บ้างดูใกล้เคียงชาวเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตามแม้ชนพื้นเมืองทวีปอเมริกาจะมีความใกล้ชิดทางพันธุกรรมกับชาวเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้มากกว่ากลุ่มประชากรในยุโรป, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ฯลฯ แต่ก็ไม่ได้ใกล้กันมากนักเพราะบรรพชนของทั้งสองแยกจากกันที่เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่ 36,000 ปีที่แล้วครับ

แผนภาพแสดงการสืบเชื้อสายของชนพื้นเมืองอเมริกาโดย Dr. Ben A. Potter ประจำ University of Alaska Fairbanks
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภาพจำลองใบหน้าของชาวยุโรปตะวันออกกับชนพื้นเมืองอเมริกาเหนือยุคหินเก่าตอนปลาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภาพจำลองใบหน้าของ "Naia woman" อายุประมาณ 12,000-13,000 ปี ค้นพบที่คาบสมุทรยูกาตัน ประเทศเม็กซิโก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภาพจำลองใบหน้าของ "Luzia woman" อายุราว 11,243-11,710 ปี ที่เขตเทศบาล Pedro Leopoldo รัฐมีนัชเจไรช์ ประเทศบราซิล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่