การฉลองแชมป์บอลโลกของอาเจนติน่า fifa worldcup 2022
อาร์เจนตินา ประสบปัญหาเงินเฟ้อสูงและวิกฤตเศรษฐกิจอย่างมากๆ การได้เป็นแชมป์บอลโลกนำพาความสุขในคนทั้งประเทศ
และคนทั่วโลกที่รักในทีมชาติอาเจนติน่า รักมาราโดน่า รักเมสซี่มีความสุข
แต่เมื่อได้ดูจากข่าวและภาพ คลิปการฉลองภายในประเทศอาเจนติน่า การปิดเมือง การประกาศให้เป็นวันหยุด ผู้คนหลักหลายแสนหรือเป็นล้านๆคน แห่แหน
ออกมาเดินถนน ตีกลองบ้าง เป่าแตรบ้าง และก็การยืนกระโดดเพื่อแสดงออกถึงความดีใจ รู้สึกมองเห็นในมุมที่ต่างออกไปในหลายแง่มุมดังนี้
ทำไมรัฐบาลและเอกชนภายในประเทศ เขาไม่สามารถหยิบจับประโยชน์และความยิ่งใหญ่ในการได้แชมป์โลกในรอบ 36 ปีของชาติตนเองได้
ไม่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจใดๆให้เห็น ทั้งที่การได้แชมป์ฟุตบอลโลกเป็นพลังบวกของประเทศอย่างมากมายมหาศาลมากๆ มากกว่าเิงนรางวับ 1500 กว่าล้านบาทมากๆ สามารถต่อยอดเป็นเงินหลักหมื่นล้านได้เลยทีเดียว
ลองคิดเล่นๆ ถ้าเอกชนหรือรัฐบาลภายในประเทศ จัดทำกิจกรรมหรือมีสินค้าเป็น official เช่น
หนังสือหรือสิ่งพิมพ์ประมวลภาพ ตั้งแต่รอบคัดเลือกจนเป็นแชมป์โลก เพื่อเป็นที่ระลึก ขายได้ทั้งในประเทศและทั่วโลก
หมวก นาฬิกา กระเป๋า พวงกุญแจ / นำนักฟุตบอลชุดแชมป์เดินสายถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา เป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อต่อยอดกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้ครบในช่วงกลับไปฉลอง ก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายกลับสโมสร มีกิจกรรมแจกลายเซ็นต์บนของที่ระลึก หารายได้เพื่อสนับสนุนนักฟุตบอลที่ยากจนในประเทศ เพื่อสร้างดาวคนใหม่ๆในอนาคต แม้แต่ร้านค้าของกิน อาหารเครื่องดื่ม น้ำ สารพัด ล้วนแต่จะมียอดขายได้มหาศาล เงินสะพัดในช่วง 7 วันเฉลิมฉลองได้เป็น หมื่นๆแสนๆล้านล้านได้เลย แต่ภาพจากคลิปจากยูทูป ถ่ายไปที่ไหน มีแต่เดินตีกลองแบบงงๆ เป่าแตรบ้างสลับกับโห่ร้อง แบบไม่รู้จะแสดงออกแบบไหนได้อีก เพราะไม่มีกิจกรรมแห่งความสุขที่ดูเป็นรูปธรรม ไม่มีแบบซุ้มถ่ายรูปกับแบล็คดรอปสวยๆ ว่าเป็นกิจกรรมฉลองชัยชนะแชมป์บอลโลก ไม่มีกิจกรรมให้คนในประเทศมาถ่ายภาพร่วมกับรูปเมสซี่ถือถ้วย หรือกิจกรรมถือถ้วยแชมป์จำลอง คิดไปได้เยอะมากๆ ที่เป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ต่อยอดให้เป็นธุรกิจการท่องเที่ยวในคนจากทั่วโลกอยากไปท่องเที่ยวอาเจนติน่า นำเงินเข้าประเทศได้อีกมากๆ
การได้แชมป์ฟุตบอลโลกของอาเจนเป็นโคตร ซอฟท์พาวเวอร์ ที่อาเจนติน่าไม่ได้คว้ามาต่อยอดให้ทันถ่วงที ไม่กี่วัน นักฟุตบอลแต่ละคนก็จะแยกย้ายกลับสโมสรต้นสังกัด และอาเจนติน่าก็กลับไปเงียบเหงา มีแต่ปัญหามากมายดังเดิม ทิ้งไว้แค่ภาพจำที่ผู้คนหลักล้านเดินยืนเต็มเมือง
การฉลองแชมป์บอลโลกของอาเจนติน่า 2022
อาร์เจนตินา ประสบปัญหาเงินเฟ้อสูงและวิกฤตเศรษฐกิจอย่างมากๆ การได้เป็นแชมป์บอลโลกนำพาความสุขในคนทั้งประเทศ
และคนทั่วโลกที่รักในทีมชาติอาเจนติน่า รักมาราโดน่า รักเมสซี่มีความสุข
แต่เมื่อได้ดูจากข่าวและภาพ คลิปการฉลองภายในประเทศอาเจนติน่า การปิดเมือง การประกาศให้เป็นวันหยุด ผู้คนหลักหลายแสนหรือเป็นล้านๆคน แห่แหน
ออกมาเดินถนน ตีกลองบ้าง เป่าแตรบ้าง และก็การยืนกระโดดเพื่อแสดงออกถึงความดีใจ รู้สึกมองเห็นในมุมที่ต่างออกไปในหลายแง่มุมดังนี้
ทำไมรัฐบาลและเอกชนภายในประเทศ เขาไม่สามารถหยิบจับประโยชน์และความยิ่งใหญ่ในการได้แชมป์โลกในรอบ 36 ปีของชาติตนเองได้
ไม่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจใดๆให้เห็น ทั้งที่การได้แชมป์ฟุตบอลโลกเป็นพลังบวกของประเทศอย่างมากมายมหาศาลมากๆ มากกว่าเิงนรางวับ 1500 กว่าล้านบาทมากๆ สามารถต่อยอดเป็นเงินหลักหมื่นล้านได้เลยทีเดียว
ลองคิดเล่นๆ ถ้าเอกชนหรือรัฐบาลภายในประเทศ จัดทำกิจกรรมหรือมีสินค้าเป็น official เช่น
หนังสือหรือสิ่งพิมพ์ประมวลภาพ ตั้งแต่รอบคัดเลือกจนเป็นแชมป์โลก เพื่อเป็นที่ระลึก ขายได้ทั้งในประเทศและทั่วโลก
หมวก นาฬิกา กระเป๋า พวงกุญแจ / นำนักฟุตบอลชุดแชมป์เดินสายถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา เป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อต่อยอดกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้ครบในช่วงกลับไปฉลอง ก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายกลับสโมสร มีกิจกรรมแจกลายเซ็นต์บนของที่ระลึก หารายได้เพื่อสนับสนุนนักฟุตบอลที่ยากจนในประเทศ เพื่อสร้างดาวคนใหม่ๆในอนาคต แม้แต่ร้านค้าของกิน อาหารเครื่องดื่ม น้ำ สารพัด ล้วนแต่จะมียอดขายได้มหาศาล เงินสะพัดในช่วง 7 วันเฉลิมฉลองได้เป็น หมื่นๆแสนๆล้านล้านได้เลย แต่ภาพจากคลิปจากยูทูป ถ่ายไปที่ไหน มีแต่เดินตีกลองแบบงงๆ เป่าแตรบ้างสลับกับโห่ร้อง แบบไม่รู้จะแสดงออกแบบไหนได้อีก เพราะไม่มีกิจกรรมแห่งความสุขที่ดูเป็นรูปธรรม ไม่มีแบบซุ้มถ่ายรูปกับแบล็คดรอปสวยๆ ว่าเป็นกิจกรรมฉลองชัยชนะแชมป์บอลโลก ไม่มีกิจกรรมให้คนในประเทศมาถ่ายภาพร่วมกับรูปเมสซี่ถือถ้วย หรือกิจกรรมถือถ้วยแชมป์จำลอง คิดไปได้เยอะมากๆ ที่เป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ต่อยอดให้เป็นธุรกิจการท่องเที่ยวในคนจากทั่วโลกอยากไปท่องเที่ยวอาเจนติน่า นำเงินเข้าประเทศได้อีกมากๆ
การได้แชมป์ฟุตบอลโลกของอาเจนเป็นโคตร ซอฟท์พาวเวอร์ ที่อาเจนติน่าไม่ได้คว้ามาต่อยอดให้ทันถ่วงที ไม่กี่วัน นักฟุตบอลแต่ละคนก็จะแยกย้ายกลับสโมสรต้นสังกัด และอาเจนติน่าก็กลับไปเงียบเหงา มีแต่ปัญหามากมายดังเดิม ทิ้งไว้แค่ภาพจำที่ผู้คนหลักล้านเดินยืนเต็มเมือง