“พิชัย” หนุนกกร.ค้านขึ้นค่าไฟฟ้าแนะนายกฯอย่าเอื้อนายทุน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_470592/
“พิชัย” หนุนกกร.ค้านขึ้นค่าไฟฟ้า ชี้เห็นด้วยกับ 5 ข้อเสนอ จี้ ต้องหยุดให้ใบอนุญาตไฟฟ้าเพิ่ม แนะผู้นำต้องเข้าใจปัญหาพลังงาน อย่าคิดแต่เอื้อนายทุน
นาย
พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจกล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้า และสมาคมธนาคารไทย ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการขึ้นค่าไฟฟ้า พร้อมขอเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเพื่อชี้แจง โดยให้เหตุผลเหมือนกับที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยแถลงคัดค้านไว้นานแล้ว
ซึ่งเรื่องนี้จะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้เงินเฟ้อมากขึ้น สร้างความลำบากให้กับประชาชน อีกทั้งยังทำให้ความสามารถแข่งขันของประเทศไทยลดลง ทั้งนี้ กกร. ได้มี 5 ข้อเสนอ ซึ่งคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยและเป็นเหตุเป็นผล คือ การตรึงราคาค่าไฟฟ้าของครัวเรือนเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ไม่ควรผลักภาระการตรึงราคาไฟฟ้าของครัวเรือนไปภาคส่วนอื่น ซึ่งต้องยอมรับก่อนว่าปัญหาค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงมาจากการบริหารที่ผิดพลาดของรัฐบาลในหลายด้าน
ทั้งการส่งมอบสัมปทานในพื้นที่อ่าวไทย การให้ใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการไปมากถึงกว่า 50% ทั้งที่ตามหลักการต้องผลิตเกินแค่ 15% เท่านั้น ทำให้ต้องเสียค่าความพร้อมเป็นจำนวนเงินสูงมาก, การขยายเงินกู้ให้กับ กฟผ. เป็น 2 ปี เพื่อให้ กฟผ. แบกรับภาระแทนประชาชนไปก่อน โดยหยุดการส่งเงินกำไรเข้าคลัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้และควรทำ อีกทั้งมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ราคาเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าจะมีราคาลดลง หากรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาสัมปทานในอ่าวไทยได้
และราคาพลังงานโลกมีแนวโน้มจะลดลงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีหน้า, ปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า ขอให้ปรับค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติแบบขั้นบันได เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ประกอบการ, ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีการปรับตัวหรือบริหารจัดการพลังงาน, เสนอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐ และเอกชนด้านพลังงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการทำงานร่วมกันโดยเอกชนจะควรจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของรัฐบาลในเรื่องพลังงาน
นอกจาก 5 ข้อเสนอของ กกร. แล้ว คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ยังอยากเรียกร้องให้รัฐบาลระงับการให้ใบอนุญาตไฟฟ้าจำนวน 5.203 เมกกะวัตต์ไว้ก่อน เพราะปัจจุบันมีการผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการสูงกว่า 50% บางครั้งสูงถึง 57% ซึ่งทำให้เสียค่าความพร้อมสูงมากและยังมีโรงงานไฟฟ้าที่ได้ใบอนุญาตที่จะสร้างเสร็จเพิ่มอีก การให้ใบอนุญาตไฟฟ้าเพิ่มจะทำให้กำลังผลิตไฟฟ้าล้นกว่าเดิม และเรื่องสุดท้ายที่ต้องขอตอกย้ำคือการเร่งเจรจาแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชา
ซึ่งจะทำให้ไทยได้รับก๊าซในราคาถูก สามารถนำมาผลิตไฟฟ้าในราคาที่ถูกลงได้มาก ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซในอ่าวไทยและก๊าซจากเมียนมาร์จะอยู่เพียงหน่วยละ 2-3 บาทเท่านั้นและไทยจะมีความมั่นคงทางพลังงานเพราะมีแหล่งพลังงานเอง อีกทั้งยังจะได้รายได้จากค่าภาคหลวงปีละหลายแสนล้านบาทไปอีกเป็นสิบๆ ปี เพื่อนำเงินมาทำสวัสดิการให้กับกลุ่มเปราะบางและผู้สูงอายุอีกด้วย
ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำของประเทศจะต้องมีความรู้เรื่องพลังงาน และต้องรู้ถึงความสำคัญของพลังงานต่อระบบเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน จะตามใจนายทุนพลังงานอย่างเดียวไม่ได้ เพราะจะเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจโดยส่วนรวมและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมากเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
2 ผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหา หมิ่น 'ประชา-เฉลิมเกียรติ' หนุนตู้ห่าวทำผิด กม.
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_3739732
ทนายความ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ติดตามคดีบุคคลผู้ใช้งานเฟซบุ๊กโพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จ ด้านตำรวจไซเบอร์พิสูจน์ทราบตัวบุคคลแจ้งข้อหาแล้ว 2 ราย
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) ศูนย์ราชการ อาคารบี นายพิชา ป้อมค่าย ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.อ.
ประชา พรหมนอก และ พล.ต.อ.
เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีที่ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลผู้ใช้งานเฟซบุ๊กจากกรณีเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นมา
ได้พบว่า มีบุคคล หรือกลุ่มบุคคลทำการเผยแพร่ข้อความอันเป็นความเท็จในเฟซบุ๊ก ทั้งการโพสต์ข้อความ แชร์ลิงก์เป็นจำนวนมากกว่า 10 บัญชีเฟซบุ๊ก โดยกล่าวหาว่า พล.ต.อ.
ประชา พรหมนอก และ พล.ต.อ.
เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน เป็นคนใช้ สั่งการ หรือสนับสนุนให้นายตู้ห่าวกระทำความผิดต่อกฎหมาย ซึ่งเป็นความเท็จ
เพราะ พล.ต.อ.
ประชา พรหมนอก และ พล.ต.อ.
เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ไม่เคยใช้ สั่งการ หรือสนับสนุนการกระทำใดๆ ของนายตู้ห่าวที่เป็นความผิดต่อกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องของยาเสพติดที่ พล.ต.อ.
ประชา และพล.ต.อ.
เฉลิมเกียรติ ซึ่งเคยเป็นนายตำรวจระดับสูงต่างก็สนับสนุนให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาดมาโดยตลอด
นาย
พิชากล่าวว่า การเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าวเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลเป็นเท็จ ซึ่ง พล.ต.อ.
ประชา และ พล.ต.อ.
เฉลิมเกียรติขอยืนยันว่า ทั้งสองท่านไม่เคยรู้เห็น หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจผิดกฎหมายของนายตู้ห่าว หรือบุคคลใดๆ ทั้งสองเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและเกียรติประวัติ จึงไม่สามารถยินยอมให้บุคคลใดมาใส่ร้ายใส่ความในเรื่องที่ไม่มีมูลความจริงได้ แต่เนื่องจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลผู้ใช้เฟซบุ๊กที่เผยแพร่ข้อความดังกล่าวไม่ได้แสดงตัวตนที่ชัดเจน การดำเนินคดีตามปกติทำได้ยาก พล.ต.อ.
ประชา และพล.ต.อ.
เฉลิมเกียรติจึงต้องร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจที่มีความรู้ความชำนาญและมีเครื่องมือในการตรวจสอบหาตัวตนของผู้ที่กระทำความผิด จึงได้มอบหมายให้ทนายความมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลอย่างเด็ดขาดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
นาย
พิชากล่าวว่า ผ่านไปเดือนกว่าทราบว่าพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบสามารถรู้ว่าใครเป็นผู้โพสต์ข้อความและเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กสามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้แล้ว 3 ราย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกบุคคลเหล่านี้มารับทราบข้อกล่าวหา
“
ขอฝากเตือนว่าการจะโพสต์ การเผยแพร่ หรือการจะแชร์ลิงก์ใดๆ ก็ตาม ควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีเสียก่อนว่าข้อความที่ท่านจะเผยแพร่สู่สาธารณะ หรือประชาชนเป็นความจริง หรือเป็นความเท็จ ความสัมพันธ์ใดๆ ไม่ได้หมายความว่าบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติ หรือความสัมพันธ์ส่วนตัวใดๆ จะเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดเสมอไป อย่าพาดพิงกันโดยไม่มีมูลฐาน หรือข้อเท็จจริง” นาย
พิชากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้พนักงานสอบสวน บก.สอท.1 ได้เชิญบุคคลที่เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จในเฟซบุ๊กมารับทราบข้อกล่าวหา 2 ราย ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความเอง ส่วนบุคคลอื่นที่มีการโพสต์ข้อความในลักษณะเดียวกันอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ยังน่ากลัวอยู่นะวิ! "โควิด"สาเหตุหลักเสียชีวิตอันดับ 3 ในอเมริกา
https://siamrath.co.th/n/409673
วันที่ 23 ธ.ค.65 รศ.นพ.
ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุข้อความว่า...
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 405,965 คน ตายเพิ่ม 922 คน รวมแล้วติดไป 660,009,316 คน เสียชีวิตรวม 6,679,574 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ไต้หวัน และฮ่องกง
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 17 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 93.59 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 81.67
...BF.7 ระบาดในอินเดีย
หากจำกันได้ เราทราบกันชัดเจนว่าการระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีนที่กำลังหนักหน่วงอยู่นั้นเกิดจากไวรัส Omicron สายพันธุ์ย่อย BF.7
ล่าสุด BF.7 ได้ระบาดในอินเดียแล้วเช่นกัน ทำให้มีการติดเชื้อมากขึ้น
หากดูจากเรื่องสมรรถนะของไวรัส จะพบว่าดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่า BA.4/BA.5 อยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก
ในขณะที่สายพันธุ์ย่อย BQ.1.x ที่ระบาดมากในยุโรปและอเมริกา และ XBB ในเอเชียนั้นจะดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่า จึงต้องระมัดระวังให้ดี
...อายุขัยเฉลี่ยของประชากรในอเมริกา
ล่าสุดทาง Wall Street Journal ได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับอายุขัยเฉลี่ยของประชากรในอเมริกา
สาระสำคัญคือ อายุขัยของประชากรในปี 2021 นั้นลดลงไปกว่า 2020 ถึงราว 20%
นอกจากนี้อายุขัยเฉลี่ยนั้นอยู่ในระดับน้อยที่สุดในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา (นับตั้งแต่ปี 1996 เป็นต้นมา)
สาเหตุหลักที่ทำให้เสียชีวิตได้แก่ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โดยโรคโควิด-19 สูงเป็นอันดับ 3
โควิด-19 ทำให้มีอัตราเสียชีวิตต่อประชากรแสนคน มากกว่าโรคหลอดเลือดสมอง การบาดเจ็บ เบาหวาน โรคปอด และโรคไต
...สำหรับไทยเรานั้น
การระบาดในแต่ละวันยังมีจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท ป้องกันตัวเสมอ
เลี่ยงที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี ระวังการพบปะคลุกคลีใกล้ชิดผู้อื่นเป็นเวลานาน
เลือกสถานที่ดื่มกิน ที่พนักงานบริการมีการป้องกันตัว
ควรไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบตามกำหนด ลดเสี่ยงป่วยรุนแรง เสียชีวิต และ Long COVID
สำคัญที่สุดคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
ป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ หรือไม่ติดเชื้อซ้ำ ย่อมดีที่สุด
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid029VpreyPD4rxif2NsWJyuhv2tt13ow9E42fkApmWtG7BHk1vVeqfiJ4QePEHV9ygel
JJNY : “พิชัย”หนุนกกร.ค้านขึ้นค่าไฟ| 2ผู้ต้องหารับทราบหมิ่น| "โควิด"เสียชีวิตอันดับ 3 ในอเมริกา|จีนแบล็กลิสต์สองพลเมือง
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_470592/
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจกล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้า และสมาคมธนาคารไทย ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการขึ้นค่าไฟฟ้า พร้อมขอเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเพื่อชี้แจง โดยให้เหตุผลเหมือนกับที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยแถลงคัดค้านไว้นานแล้ว
ซึ่งเรื่องนี้จะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้เงินเฟ้อมากขึ้น สร้างความลำบากให้กับประชาชน อีกทั้งยังทำให้ความสามารถแข่งขันของประเทศไทยลดลง ทั้งนี้ กกร. ได้มี 5 ข้อเสนอ ซึ่งคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยและเป็นเหตุเป็นผล คือ การตรึงราคาค่าไฟฟ้าของครัวเรือนเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ไม่ควรผลักภาระการตรึงราคาไฟฟ้าของครัวเรือนไปภาคส่วนอื่น ซึ่งต้องยอมรับก่อนว่าปัญหาค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงมาจากการบริหารที่ผิดพลาดของรัฐบาลในหลายด้าน
ทั้งการส่งมอบสัมปทานในพื้นที่อ่าวไทย การให้ใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการไปมากถึงกว่า 50% ทั้งที่ตามหลักการต้องผลิตเกินแค่ 15% เท่านั้น ทำให้ต้องเสียค่าความพร้อมเป็นจำนวนเงินสูงมาก, การขยายเงินกู้ให้กับ กฟผ. เป็น 2 ปี เพื่อให้ กฟผ. แบกรับภาระแทนประชาชนไปก่อน โดยหยุดการส่งเงินกำไรเข้าคลัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้และควรทำ อีกทั้งมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ราคาเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าจะมีราคาลดลง หากรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาสัมปทานในอ่าวไทยได้
และราคาพลังงานโลกมีแนวโน้มจะลดลงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีหน้า, ปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า ขอให้ปรับค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติแบบขั้นบันได เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ประกอบการ, ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีการปรับตัวหรือบริหารจัดการพลังงาน, เสนอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐ และเอกชนด้านพลังงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการทำงานร่วมกันโดยเอกชนจะควรจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของรัฐบาลในเรื่องพลังงาน
นอกจาก 5 ข้อเสนอของ กกร. แล้ว คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ยังอยากเรียกร้องให้รัฐบาลระงับการให้ใบอนุญาตไฟฟ้าจำนวน 5.203 เมกกะวัตต์ไว้ก่อน เพราะปัจจุบันมีการผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการสูงกว่า 50% บางครั้งสูงถึง 57% ซึ่งทำให้เสียค่าความพร้อมสูงมากและยังมีโรงงานไฟฟ้าที่ได้ใบอนุญาตที่จะสร้างเสร็จเพิ่มอีก การให้ใบอนุญาตไฟฟ้าเพิ่มจะทำให้กำลังผลิตไฟฟ้าล้นกว่าเดิม และเรื่องสุดท้ายที่ต้องขอตอกย้ำคือการเร่งเจรจาแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชา
ซึ่งจะทำให้ไทยได้รับก๊าซในราคาถูก สามารถนำมาผลิตไฟฟ้าในราคาที่ถูกลงได้มาก ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซในอ่าวไทยและก๊าซจากเมียนมาร์จะอยู่เพียงหน่วยละ 2-3 บาทเท่านั้นและไทยจะมีความมั่นคงทางพลังงานเพราะมีแหล่งพลังงานเอง อีกทั้งยังจะได้รายได้จากค่าภาคหลวงปีละหลายแสนล้านบาทไปอีกเป็นสิบๆ ปี เพื่อนำเงินมาทำสวัสดิการให้กับกลุ่มเปราะบางและผู้สูงอายุอีกด้วย
ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำของประเทศจะต้องมีความรู้เรื่องพลังงาน และต้องรู้ถึงความสำคัญของพลังงานต่อระบบเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน จะตามใจนายทุนพลังงานอย่างเดียวไม่ได้ เพราะจะเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจโดยส่วนรวมและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมากเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
2 ผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหา หมิ่น 'ประชา-เฉลิมเกียรติ' หนุนตู้ห่าวทำผิด กม.
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_3739732
ทนายความ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ติดตามคดีบุคคลผู้ใช้งานเฟซบุ๊กโพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จ ด้านตำรวจไซเบอร์พิสูจน์ทราบตัวบุคคลแจ้งข้อหาแล้ว 2 ราย
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) ศูนย์ราชการ อาคารบี นายพิชา ป้อมค่าย ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีที่ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลผู้ใช้งานเฟซบุ๊กจากกรณีเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นมา
ได้พบว่า มีบุคคล หรือกลุ่มบุคคลทำการเผยแพร่ข้อความอันเป็นความเท็จในเฟซบุ๊ก ทั้งการโพสต์ข้อความ แชร์ลิงก์เป็นจำนวนมากกว่า 10 บัญชีเฟซบุ๊ก โดยกล่าวหาว่า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน เป็นคนใช้ สั่งการ หรือสนับสนุนให้นายตู้ห่าวกระทำความผิดต่อกฎหมาย ซึ่งเป็นความเท็จ
เพราะ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ไม่เคยใช้ สั่งการ หรือสนับสนุนการกระทำใดๆ ของนายตู้ห่าวที่เป็นความผิดต่อกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องของยาเสพติดที่ พล.ต.อ.ประชา และพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ซึ่งเคยเป็นนายตำรวจระดับสูงต่างก็สนับสนุนให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาดมาโดยตลอด
นายพิชากล่าวว่า การเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าวเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลเป็นเท็จ ซึ่ง พล.ต.อ.ประชา และ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติขอยืนยันว่า ทั้งสองท่านไม่เคยรู้เห็น หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจผิดกฎหมายของนายตู้ห่าว หรือบุคคลใดๆ ทั้งสองเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและเกียรติประวัติ จึงไม่สามารถยินยอมให้บุคคลใดมาใส่ร้ายใส่ความในเรื่องที่ไม่มีมูลความจริงได้ แต่เนื่องจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลผู้ใช้เฟซบุ๊กที่เผยแพร่ข้อความดังกล่าวไม่ได้แสดงตัวตนที่ชัดเจน การดำเนินคดีตามปกติทำได้ยาก พล.ต.อ.ประชา และพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติจึงต้องร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจที่มีความรู้ความชำนาญและมีเครื่องมือในการตรวจสอบหาตัวตนของผู้ที่กระทำความผิด จึงได้มอบหมายให้ทนายความมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลอย่างเด็ดขาดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
นายพิชากล่าวว่า ผ่านไปเดือนกว่าทราบว่าพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบสามารถรู้ว่าใครเป็นผู้โพสต์ข้อความและเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กสามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้แล้ว 3 ราย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกบุคคลเหล่านี้มารับทราบข้อกล่าวหา
“ขอฝากเตือนว่าการจะโพสต์ การเผยแพร่ หรือการจะแชร์ลิงก์ใดๆ ก็ตาม ควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีเสียก่อนว่าข้อความที่ท่านจะเผยแพร่สู่สาธารณะ หรือประชาชนเป็นความจริง หรือเป็นความเท็จ ความสัมพันธ์ใดๆ ไม่ได้หมายความว่าบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติ หรือความสัมพันธ์ส่วนตัวใดๆ จะเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดเสมอไป อย่าพาดพิงกันโดยไม่มีมูลฐาน หรือข้อเท็จจริง” นายพิชากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้พนักงานสอบสวน บก.สอท.1 ได้เชิญบุคคลที่เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จในเฟซบุ๊กมารับทราบข้อกล่าวหา 2 ราย ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความเอง ส่วนบุคคลอื่นที่มีการโพสต์ข้อความในลักษณะเดียวกันอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ยังน่ากลัวอยู่นะวิ! "โควิด"สาเหตุหลักเสียชีวิตอันดับ 3 ในอเมริกา
https://siamrath.co.th/n/409673
วันที่ 23 ธ.ค.65 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุข้อความว่า...
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 405,965 คน ตายเพิ่ม 922 คน รวมแล้วติดไป 660,009,316 คน เสียชีวิตรวม 6,679,574 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ไต้หวัน และฮ่องกง
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 17 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 93.59 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 81.67
...BF.7 ระบาดในอินเดีย
หากจำกันได้ เราทราบกันชัดเจนว่าการระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีนที่กำลังหนักหน่วงอยู่นั้นเกิดจากไวรัส Omicron สายพันธุ์ย่อย BF.7
ล่าสุด BF.7 ได้ระบาดในอินเดียแล้วเช่นกัน ทำให้มีการติดเชื้อมากขึ้น
หากดูจากเรื่องสมรรถนะของไวรัส จะพบว่าดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่า BA.4/BA.5 อยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก
ในขณะที่สายพันธุ์ย่อย BQ.1.x ที่ระบาดมากในยุโรปและอเมริกา และ XBB ในเอเชียนั้นจะดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่า จึงต้องระมัดระวังให้ดี
...อายุขัยเฉลี่ยของประชากรในอเมริกา
ล่าสุดทาง Wall Street Journal ได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับอายุขัยเฉลี่ยของประชากรในอเมริกา
สาระสำคัญคือ อายุขัยของประชากรในปี 2021 นั้นลดลงไปกว่า 2020 ถึงราว 20%
นอกจากนี้อายุขัยเฉลี่ยนั้นอยู่ในระดับน้อยที่สุดในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา (นับตั้งแต่ปี 1996 เป็นต้นมา)
สาเหตุหลักที่ทำให้เสียชีวิตได้แก่ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โดยโรคโควิด-19 สูงเป็นอันดับ 3
โควิด-19 ทำให้มีอัตราเสียชีวิตต่อประชากรแสนคน มากกว่าโรคหลอดเลือดสมอง การบาดเจ็บ เบาหวาน โรคปอด และโรคไต
...สำหรับไทยเรานั้น
การระบาดในแต่ละวันยังมีจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท ป้องกันตัวเสมอ
เลี่ยงที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี ระวังการพบปะคลุกคลีใกล้ชิดผู้อื่นเป็นเวลานาน
เลือกสถานที่ดื่มกิน ที่พนักงานบริการมีการป้องกันตัว
ควรไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบตามกำหนด ลดเสี่ยงป่วยรุนแรง เสียชีวิต และ Long COVID
สำคัญที่สุดคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
ป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ หรือไม่ติดเชื้อซ้ำ ย่อมดีที่สุด
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid029VpreyPD4rxif2NsWJyuhv2tt13ow9E42fkApmWtG7BHk1vVeqfiJ4QePEHV9ygel