JJNY : “พิชัย”หนุนกกร.ค้านขึ้นค่าไฟ| 2ผู้ต้องหารับทราบหมิ่น| "โควิด"เสียชีวิตอันดับ 3 ในอเมริกา|จีนแบล็กลิสต์สองพลเมือง

“พิชัย” หนุนกกร.ค้านขึ้นค่าไฟฟ้าแนะนายกฯอย่าเอื้อนายทุน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_470592/

“พิชัย” หนุนกกร.ค้านขึ้นค่าไฟฟ้า ชี้เห็นด้วยกับ 5 ข้อเสนอ จี้ ต้องหยุดให้ใบอนุญาตไฟฟ้าเพิ่ม แนะผู้นำต้องเข้าใจปัญหาพลังงาน อย่าคิดแต่เอื้อนายทุน
  
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจกล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้า และสมาคมธนาคารไทย ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการขึ้นค่าไฟฟ้า พร้อมขอเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเพื่อชี้แจง โดยให้เหตุผลเหมือนกับที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยแถลงคัดค้านไว้นานแล้ว
 
ซึ่งเรื่องนี้จะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้เงินเฟ้อมากขึ้น สร้างความลำบากให้กับประชาชน อีกทั้งยังทำให้ความสามารถแข่งขันของประเทศไทยลดลง ทั้งนี้ กกร. ได้มี 5 ข้อเสนอ ซึ่งคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยและเป็นเหตุเป็นผล คือ การตรึงราคาค่าไฟฟ้าของครัวเรือนเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ไม่ควรผลักภาระการตรึงราคาไฟฟ้าของครัวเรือนไปภาคส่วนอื่น ซึ่งต้องยอมรับก่อนว่าปัญหาค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงมาจากการบริหารที่ผิดพลาดของรัฐบาลในหลายด้าน
  
ทั้งการส่งมอบสัมปทานในพื้นที่อ่าวไทย การให้ใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการไปมากถึงกว่า 50% ทั้งที่ตามหลักการต้องผลิตเกินแค่ 15% เท่านั้น ทำให้ต้องเสียค่าความพร้อมเป็นจำนวนเงินสูงมาก, การขยายเงินกู้ให้กับ กฟผ. เป็น 2 ปี เพื่อให้ กฟผ. แบกรับภาระแทนประชาชนไปก่อน โดยหยุดการส่งเงินกำไรเข้าคลัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้และควรทำ อีกทั้งมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ราคาเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าจะมีราคาลดลง หากรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาสัมปทานในอ่าวไทยได้
 
และราคาพลังงานโลกมีแนวโน้มจะลดลงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีหน้า, ปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า ขอให้ปรับค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติแบบขั้นบันได เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ประกอบการ, ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีการปรับตัวหรือบริหารจัดการพลังงาน, เสนอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐ และเอกชนด้านพลังงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการทำงานร่วมกันโดยเอกชนจะควรจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของรัฐบาลในเรื่องพลังงาน
 
นอกจาก 5 ข้อเสนอของ กกร. แล้ว คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ยังอยากเรียกร้องให้รัฐบาลระงับการให้ใบอนุญาตไฟฟ้าจำนวน 5.203 เมกกะวัตต์ไว้ก่อน เพราะปัจจุบันมีการผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการสูงกว่า 50% บางครั้งสูงถึง 57% ซึ่งทำให้เสียค่าความพร้อมสูงมากและยังมีโรงงานไฟฟ้าที่ได้ใบอนุญาตที่จะสร้างเสร็จเพิ่มอีก การให้ใบอนุญาตไฟฟ้าเพิ่มจะทำให้กำลังผลิตไฟฟ้าล้นกว่าเดิม และเรื่องสุดท้ายที่ต้องขอตอกย้ำคือการเร่งเจรจาแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชา
  
ซึ่งจะทำให้ไทยได้รับก๊าซในราคาถูก สามารถนำมาผลิตไฟฟ้าในราคาที่ถูกลงได้มาก ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซในอ่าวไทยและก๊าซจากเมียนมาร์จะอยู่เพียงหน่วยละ 2-3 บาทเท่านั้นและไทยจะมีความมั่นคงทางพลังงานเพราะมีแหล่งพลังงานเอง อีกทั้งยังจะได้รายได้จากค่าภาคหลวงปีละหลายแสนล้านบาทไปอีกเป็นสิบๆ ปี เพื่อนำเงินมาทำสวัสดิการให้กับกลุ่มเปราะบางและผู้สูงอายุอีกด้วย
 
ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำของประเทศจะต้องมีความรู้เรื่องพลังงาน และต้องรู้ถึงความสำคัญของพลังงานต่อระบบเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน จะตามใจนายทุนพลังงานอย่างเดียวไม่ได้ เพราะจะเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจโดยส่วนรวมและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมากเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
 

 
2 ผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหา หมิ่น 'ประชา-เฉลิมเกียรติ' หนุนตู้ห่าวทำผิด กม.
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_3739732
 
ทนายความ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ติดตามคดีบุคคลผู้ใช้งานเฟซบุ๊กโพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จ ด้านตำรวจไซเบอร์พิสูจน์ทราบตัวบุคคลแจ้งข้อหาแล้ว 2 ราย
 
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) ศูนย์ราชการ อาคารบี นายพิชา ป้อมค่าย ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีที่ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลผู้ใช้งานเฟซบุ๊กจากกรณีเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นมา

ได้พบว่า มีบุคคล หรือกลุ่มบุคคลทำการเผยแพร่ข้อความอันเป็นความเท็จในเฟซบุ๊ก ทั้งการโพสต์ข้อความ แชร์ลิงก์เป็นจำนวนมากกว่า 10 บัญชีเฟซบุ๊ก โดยกล่าวหาว่า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน เป็นคนใช้ สั่งการ หรือสนับสนุนให้นายตู้ห่าวกระทำความผิดต่อกฎหมาย ซึ่งเป็นความเท็จ
 
เพราะ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ไม่เคยใช้ สั่งการ หรือสนับสนุนการกระทำใดๆ ของนายตู้ห่าวที่เป็นความผิดต่อกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องของยาเสพติดที่ พล.ต.อ.ประชา และพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ซึ่งเคยเป็นนายตำรวจระดับสูงต่างก็สนับสนุนให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาดมาโดยตลอด
 
นายพิชากล่าวว่า การเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าวเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลเป็นเท็จ ซึ่ง พล.ต.อ.ประชา และ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติขอยืนยันว่า ทั้งสองท่านไม่เคยรู้เห็น หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจผิดกฎหมายของนายตู้ห่าว หรือบุคคลใดๆ ทั้งสองเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและเกียรติประวัติ จึงไม่สามารถยินยอมให้บุคคลใดมาใส่ร้ายใส่ความในเรื่องที่ไม่มีมูลความจริงได้ แต่เนื่องจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลผู้ใช้เฟซบุ๊กที่เผยแพร่ข้อความดังกล่าวไม่ได้แสดงตัวตนที่ชัดเจน การดำเนินคดีตามปกติทำได้ยาก พล.ต.อ.ประชา และพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติจึงต้องร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจที่มีความรู้ความชำนาญและมีเครื่องมือในการตรวจสอบหาตัวตนของผู้ที่กระทำความผิด จึงได้มอบหมายให้ทนายความมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลอย่างเด็ดขาดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
 
นายพิชากล่าวว่า ผ่านไปเดือนกว่าทราบว่าพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบสามารถรู้ว่าใครเป็นผู้โพสต์ข้อความและเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กสามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้แล้ว 3 ราย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกบุคคลเหล่านี้มารับทราบข้อกล่าวหา
 
ขอฝากเตือนว่าการจะโพสต์ การเผยแพร่ หรือการจะแชร์ลิงก์ใดๆ ก็ตาม ควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีเสียก่อนว่าข้อความที่ท่านจะเผยแพร่สู่สาธารณะ หรือประชาชนเป็นความจริง หรือเป็นความเท็จ ความสัมพันธ์ใดๆ ไม่ได้หมายความว่าบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติ หรือความสัมพันธ์ส่วนตัวใดๆ จะเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดเสมอไป อย่าพาดพิงกันโดยไม่มีมูลฐาน หรือข้อเท็จจริง” นายพิชากล่าว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้พนักงานสอบสวน บก.สอท.1 ได้เชิญบุคคลที่เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จในเฟซบุ๊กมารับทราบข้อกล่าวหา 2 ราย ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความเอง ส่วนบุคคลอื่นที่มีการโพสต์ข้อความในลักษณะเดียวกันอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป



ยังน่ากลัวอยู่นะวิ! "โควิด"สาเหตุหลักเสียชีวิตอันดับ 3 ในอเมริกา
https://siamrath.co.th/n/409673

วันที่ 23 ธ.ค.65 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุข้อความว่า...
 
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 405,965 คน ตายเพิ่ม 922 คน รวมแล้วติดไป 660,009,316 คน เสียชีวิตรวม 6,679,574 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ไต้หวัน และฮ่องกง
 
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 17 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 93.59 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 81.67
 
...BF.7 ระบาดในอินเดีย
หากจำกันได้ เราทราบกันชัดเจนว่าการระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีนที่กำลังหนักหน่วงอยู่นั้นเกิดจากไวรัส Omicron สายพันธุ์ย่อย BF.7
ล่าสุด BF.7 ได้ระบาดในอินเดียแล้วเช่นกัน ทำให้มีการติดเชื้อมากขึ้น
หากดูจากเรื่องสมรรถนะของไวรัส จะพบว่าดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่า BA.4/BA.5 อยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก
ในขณะที่สายพันธุ์ย่อย BQ.1.x ที่ระบาดมากในยุโรปและอเมริกา และ XBB ในเอเชียนั้นจะดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่า จึงต้องระมัดระวังให้ดี
 
...อายุขัยเฉลี่ยของประชากรในอเมริกา
ล่าสุดทาง Wall Street Journal ได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับอายุขัยเฉลี่ยของประชากรในอเมริกา
สาระสำคัญคือ อายุขัยของประชากรในปี 2021 นั้นลดลงไปกว่า 2020 ถึงราว 20%
นอกจากนี้อายุขัยเฉลี่ยนั้นอยู่ในระดับน้อยที่สุดในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา (นับตั้งแต่ปี 1996 เป็นต้นมา)
สาเหตุหลักที่ทำให้เสียชีวิตได้แก่ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โดยโรคโควิด-19 สูงเป็นอันดับ 3
โควิด-19 ทำให้มีอัตราเสียชีวิตต่อประชากรแสนคน มากกว่าโรคหลอดเลือดสมอง การบาดเจ็บ เบาหวาน โรคปอด และโรคไต
 
...สำหรับไทยเรานั้น
การระบาดในแต่ละวันยังมีจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท ป้องกันตัวเสมอ
เลี่ยงที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี ระวังการพบปะคลุกคลีใกล้ชิดผู้อื่นเป็นเวลานาน
เลือกสถานที่ดื่มกิน ที่พนักงานบริการมีการป้องกันตัว
ควรไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบตามกำหนด ลดเสี่ยงป่วยรุนแรง เสียชีวิต และ Long COVID
สำคัญที่สุดคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
ป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ หรือไม่ติดเชื้อซ้ำ ย่อมดีที่สุด

https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid029VpreyPD4rxif2NsWJyuhv2tt13ow9E42fkApmWtG7BHk1vVeqfiJ4QePEHV9ygel
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่