ตัดต้นตอที่จะเบียดเบียนคนอื่น
----------
พอได้ยินคำว่ากฎหมาย กฎหมายคืออะไร กฎหมายเป็นพระพุทธศาสนาหรือเปล่า? ไม่ใช่ ไม่มีสักคำที่กล่าวถึงธรรม ทั้งๆที่ทุกอย่างเป็นธรรม เพราะฉะนั้น เมื่อแต่ละคนเกิดมาต่างกันตามการสะสม ดีบ้าง ชั่วบ้าง มากบ้างน้อยบ้าง อยู่รวมกันอย่างนี้ แล้วก็ไม่ได้มีใครที่จะศึกษาพระธรรมเป็นที่พึ่ง เป็นเถรวาทะ(วาทะที่มั่นคง) ทั้งหมดเลย น้อยมาก เพราะเหตุว่า ถ้าถาม ฟังใคร? อาจารย์ท่านนั้นอาจารย์ท่านนี้ แล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าอย่างไร ไม่ได้มีการฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ “ธัมมมามกะ” ไม่ใช่คนของพระธรรม จึงไม่กล่าวคำของพระธรรม และก็ไม่ใช่คนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย เพราะฉะนั้น ก็แสดงให้เห็นว่า ด้วยเหตุนี้ จึงมีกฎหมายเพื่อที่จะให้เป็นที่พึ่งที่จะให้คนที่อยู่รวมกันได้มีความสุข ไม่มีการกระทำที่เบียดเบียนกันประทุษร้ายต่อกันเดือดร้อนกัน เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีกฎหมายเลยก็ย่อมเดือดร้อนมาก แต่ว่าทั้งหมด เดือดร้อนเพราะอะไร ที่พึ่งจริงๆที่จะไม่ให้เดือดร้อน มี แต่เมื่อไม่มีความเข้าใจเลยในความเป็นจริงของธรรม ก็ไม่ได้พึ่งพระธรรม แต่ประพฤติตามอัธยาศัยที่สะสมมา ดีชั่ว ตามที่เห็นกันอยู่ เพราะฉะนั้น จึงมีกฎหมาย เพื่อที่จะให้คนชั่วไม่เบียดเบียนคนดี และวิธีที่จะรู้ว่าเมื่อเบียดเบียนแล้วเป็นโทษอย่างไร ก็ตามกรรมคือการกระทำที่กระทำ สมควรแค่ไหน แต่ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องของความเข้าใจพระธรรม แต่เป็นเรื่องของการที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยให้คนที่อยู่ร่วมกันได้อยู่ร่วมกันด้วยความผาสุก แต่ทั้งหมด เหตุที่ดีผลที่ดี ทั้งหมด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ละเอียดยิ่ง
เพราะฉะนั้น สิ่งใดที่เป็นความถูกต้อง สิ่งนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ สิ่งใดที่เป็นความไม่ถูกต้อง พระองค์ก็ตรัสไว้ แต่ละเอียดถึงรากถึงเหตุที่จะทำให้เกิดพฤติกรรมทั้งทางกายทั้งวาจา ละเอียดกว่านั้นมาก เป็นการขัดเกลาอย่างยิ่งถึงเหตุที่จะให้ไม่เป็นผู้ที่ประทุษร้ายเบียดเบียนคนอื่น เพราะค่อยๆ เห็นโทษว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นการเบียดเบียนตัวเอง เพราะฉะนั้น ถ้ารู้ว่าเบียดเบียนตัวเองก็ไม่ทำ ใช่ไหม?
คิดแต่จะเบียดเบียนคนอื่น แต่ลืมว่าขณะนั้นเบียดเบียนตนเอง เพราะฉะนั้น คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ตัดต้นตอที่จะทำให้เบียดเบียนคนอื่น เพราะรู้ว่าเบียดเบียนคนอื่นเมื่อไหร่เบียดเบียนตนเองเมื่อนั้น ประทุษร้ายด้วยกิเลสที่ทำให้จิตขณะนั้นไม่ผ่องใส แปดเปื้อนสกปรกไม่ดีงาม เศร้าหมอง เพราะอกุศลที่เกิดขึ้น เพราะไม่รู้ความจริง เพราะฉะนั้น ความจริงเท่านั้นเมื่อรู้ถูกต้องแล้วก็จะทำให้สามารถที่จะค่อยๆละคลายความไม่ดี ซึ่งถ้าทุกคนดีหมด กฎหมายก็คงจะไม่ต้องบัญญัติไว้มากมาย
----------
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง...
ตัดต้นตอที่จะเบียดเบียนคนอื่น_อ.สุจินต์
----------
พอได้ยินคำว่ากฎหมาย กฎหมายคืออะไร กฎหมายเป็นพระพุทธศาสนาหรือเปล่า? ไม่ใช่ ไม่มีสักคำที่กล่าวถึงธรรม ทั้งๆที่ทุกอย่างเป็นธรรม เพราะฉะนั้น เมื่อแต่ละคนเกิดมาต่างกันตามการสะสม ดีบ้าง ชั่วบ้าง มากบ้างน้อยบ้าง อยู่รวมกันอย่างนี้ แล้วก็ไม่ได้มีใครที่จะศึกษาพระธรรมเป็นที่พึ่ง เป็นเถรวาทะ(วาทะที่มั่นคง) ทั้งหมดเลย น้อยมาก เพราะเหตุว่า ถ้าถาม ฟังใคร? อาจารย์ท่านนั้นอาจารย์ท่านนี้ แล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าอย่างไร ไม่ได้มีการฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ “ธัมมมามกะ” ไม่ใช่คนของพระธรรม จึงไม่กล่าวคำของพระธรรม และก็ไม่ใช่คนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย เพราะฉะนั้น ก็แสดงให้เห็นว่า ด้วยเหตุนี้ จึงมีกฎหมายเพื่อที่จะให้เป็นที่พึ่งที่จะให้คนที่อยู่รวมกันได้มีความสุข ไม่มีการกระทำที่เบียดเบียนกันประทุษร้ายต่อกันเดือดร้อนกัน เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีกฎหมายเลยก็ย่อมเดือดร้อนมาก แต่ว่าทั้งหมด เดือดร้อนเพราะอะไร ที่พึ่งจริงๆที่จะไม่ให้เดือดร้อน มี แต่เมื่อไม่มีความเข้าใจเลยในความเป็นจริงของธรรม ก็ไม่ได้พึ่งพระธรรม แต่ประพฤติตามอัธยาศัยที่สะสมมา ดีชั่ว ตามที่เห็นกันอยู่ เพราะฉะนั้น จึงมีกฎหมาย เพื่อที่จะให้คนชั่วไม่เบียดเบียนคนดี และวิธีที่จะรู้ว่าเมื่อเบียดเบียนแล้วเป็นโทษอย่างไร ก็ตามกรรมคือการกระทำที่กระทำ สมควรแค่ไหน แต่ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องของความเข้าใจพระธรรม แต่เป็นเรื่องของการที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยให้คนที่อยู่ร่วมกันได้อยู่ร่วมกันด้วยความผาสุก แต่ทั้งหมด เหตุที่ดีผลที่ดี ทั้งหมด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ละเอียดยิ่ง
เพราะฉะนั้น สิ่งใดที่เป็นความถูกต้อง สิ่งนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ สิ่งใดที่เป็นความไม่ถูกต้อง พระองค์ก็ตรัสไว้ แต่ละเอียดถึงรากถึงเหตุที่จะทำให้เกิดพฤติกรรมทั้งทางกายทั้งวาจา ละเอียดกว่านั้นมาก เป็นการขัดเกลาอย่างยิ่งถึงเหตุที่จะให้ไม่เป็นผู้ที่ประทุษร้ายเบียดเบียนคนอื่น เพราะค่อยๆ เห็นโทษว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นการเบียดเบียนตัวเอง เพราะฉะนั้น ถ้ารู้ว่าเบียดเบียนตัวเองก็ไม่ทำ ใช่ไหม?
คิดแต่จะเบียดเบียนคนอื่น แต่ลืมว่าขณะนั้นเบียดเบียนตนเอง เพราะฉะนั้น คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ตัดต้นตอที่จะทำให้เบียดเบียนคนอื่น เพราะรู้ว่าเบียดเบียนคนอื่นเมื่อไหร่เบียดเบียนตนเองเมื่อนั้น ประทุษร้ายด้วยกิเลสที่ทำให้จิตขณะนั้นไม่ผ่องใส แปดเปื้อนสกปรกไม่ดีงาม เศร้าหมอง เพราะอกุศลที่เกิดขึ้น เพราะไม่รู้ความจริง เพราะฉะนั้น ความจริงเท่านั้นเมื่อรู้ถูกต้องแล้วก็จะทำให้สามารถที่จะค่อยๆละคลายความไม่ดี ซึ่งถ้าทุกคนดีหมด กฎหมายก็คงจะไม่ต้องบัญญัติไว้มากมาย
----------
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง...