สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาว TEFXCLUB ทุกท่านเป็นอย่างไรกันบ้างครับ อากาศวันนี้
📊 ดาวโจนส์ปิดลบ 162.92 จุด กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยฉุดศก.ถดถอย
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (19 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะฉุดเศรษฐกิจสหรัฐให้เข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,757.54 จุด ลดลง 162.92 จุด หรือ -0.49%,
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,817.66 จุด ลดลง 34.70 จุด หรือ -0.90% และ
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,546.03 จุด ลดลง 159.38 จุด หรือ -1.49%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เนื่องจากนักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไป แม้มีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเริ่มอ่อนแอลงก็ตาม
นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า การส่งสัญญาณที่แข็งกร้าวของเฟดกำลังขัดขวางบรรยากาศการซื้อขายในช่วงปลายปี โดยเอ็ด โมยา นักวิเคราะห์จากบริษัท Oanda กล่าวว่า “เฟดใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวด ขณะที่นายเจอโรม พาวเวลส่งสัญญาณได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 4% ภายในเวลา 9 เดือน ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย”
ขณะที่คริส ลาร์คิน นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์กล่าวว่า “เรากำลังเข้าสู่ช่วงปลายปี และนักลงทุนต่างก็รอคอยปรากฎการณ์ ‘ซานต้า แรลลี่’ แต่ขณะนี้ตลาดกลับร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมานั้นนักลงทุนคาดหวังว่าการที่เงินเฟ้อชะลอตัวลงอาจจะทำให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนตลาด แต่เฟดและนายพาวเวลยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไป ซึ่งสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน”
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.579% เมื่อคืนนี้ และเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดตลาด เนื่องจากการพุ่งขึ้นของพันธบัตรดังกล่าวซึ่งใช้อ้างอิงการกำหนดราคาตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐด้วยนั้น จะทำให้ผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินกู้จำนองเพิ่มมากขึ้น ขณะที่บริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
Cr. จากทาง >>>
https://www.infoquest.co.th/2022/260234
📊 น้ำมัน WTI ปิดบวก 90 เซนต์ รับความหวังจีนเปิดปท.หนุนดีมานด์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (19 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าจีนจะกลับมาเปิดประเทศ หลังมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นปัจจัยกดดันตลาดในระหว่างวัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 75.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 79.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นหลังจากปิดร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยตลาดได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า การเปิดประเทศของจีนและการที่รัฐบาลจีนวางแผนใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2566 จะช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันให้ฟื้นตัวขึ้น
ในการประชุมคณะทำงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนได้ให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟูการอุปโภคบริโภคและสนับสนุนภาคเอกชน ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า สัญญาณดังกล่าวบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าเป้าหมายสำคัญสำหรับปี 2566 ของรัฐบาลจีนคือการกระตุ้นตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยจีนมีแนวโน้มที่จะกำหนดเป้าการขยายตัวของ GDP ที่ 5% ขึ้นไป
ADVERTISEMENT
Cr. จากทาง >>>
https://www.infoquest.co.th/2022/260240
📊 ทองปิดลบ $2.5 บอนด์ยีลด์พุ่งกดดันตลาด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (19 ธ.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 2.5 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 1,797.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 12.9 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 23.199 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 12.30 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 987.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 41.70 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 1,664.90 ดอลลาร์/ออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.579% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ
Cr. จากทาง >>>
https://www.infoquest.co.th/2022/260243
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (19 ธ.ค.) บทวิเคราะห์โดย YLG Bullion
สรุป ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวสูงขึ้น 16.13 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าราคาทองคำปรับตัวลงในระหว่างวัน โดยได้รับแรงกดดันหลักจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,774.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงตลาดสหรัฐ โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังเอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นอยู่ที่ 46.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 31 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 47.7 ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นอยู่ที่ 44.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 46.5 เช่นกัน บ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน
สถานการณ์ดังกล่าวหนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นจนทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,794.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำยังคงอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากดัชนีดอลลาร์ยังคงแข็งค่าจากแรงซื้อสกุลเงินปลอดภัย
ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดยังคงแสดงความเห็นในเชิง Hawkish ไม่ว่าจะเป็นนายจอห์น วิลเลียมส์ประธานเฟดนิวยอร์ก, นางแมรี ดาลี ประธานเฟดซานฟรานซิสโก และนางลอเรตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดคลีฟแลนด์ ที่กล่าวสอดคล้องกันว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า และไม่เร่งรีบในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวสกัดช่วงบวกราคาทองคำเอาไว้ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -3.48 ตัน
สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
คำแนะนำ เปิดสถานะขาย $1,808-1,824
จุดทำกำไร ซื้อคืนเพื่อทำกำไร $1,774-1,765
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,824
Cr. จากทาง >>> แนวโน้มราคาทองวันนี้ (19 ธ.ค.) บทวิเคราะห์โดย YLG Bullion (msn.com)
อัพเดทราคาหุ้น TFEX และราคาทองคำ วันนี้ 20/12/2022
📊 ดาวโจนส์ปิดลบ 162.92 จุด กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยฉุดศก.ถดถอย
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (19 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะฉุดเศรษฐกิจสหรัฐให้เข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,757.54 จุด ลดลง 162.92 จุด หรือ -0.49%,
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,817.66 จุด ลดลง 34.70 จุด หรือ -0.90% และ
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,546.03 จุด ลดลง 159.38 จุด หรือ -1.49%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เนื่องจากนักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไป แม้มีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเริ่มอ่อนแอลงก็ตาม
นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า การส่งสัญญาณที่แข็งกร้าวของเฟดกำลังขัดขวางบรรยากาศการซื้อขายในช่วงปลายปี โดยเอ็ด โมยา นักวิเคราะห์จากบริษัท Oanda กล่าวว่า “เฟดใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวด ขณะที่นายเจอโรม พาวเวลส่งสัญญาณได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 4% ภายในเวลา 9 เดือน ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย”
ขณะที่คริส ลาร์คิน นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์กล่าวว่า “เรากำลังเข้าสู่ช่วงปลายปี และนักลงทุนต่างก็รอคอยปรากฎการณ์ ‘ซานต้า แรลลี่’ แต่ขณะนี้ตลาดกลับร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมานั้นนักลงทุนคาดหวังว่าการที่เงินเฟ้อชะลอตัวลงอาจจะทำให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนตลาด แต่เฟดและนายพาวเวลยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไป ซึ่งสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน”
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.579% เมื่อคืนนี้ และเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดตลาด เนื่องจากการพุ่งขึ้นของพันธบัตรดังกล่าวซึ่งใช้อ้างอิงการกำหนดราคาตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐด้วยนั้น จะทำให้ผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินกู้จำนองเพิ่มมากขึ้น ขณะที่บริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
📊 น้ำมัน WTI ปิดบวก 90 เซนต์ รับความหวังจีนเปิดปท.หนุนดีมานด์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (19 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าจีนจะกลับมาเปิดประเทศ หลังมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นปัจจัยกดดันตลาดในระหว่างวัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 75.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 79.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นหลังจากปิดร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยตลาดได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า การเปิดประเทศของจีนและการที่รัฐบาลจีนวางแผนใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2566 จะช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันให้ฟื้นตัวขึ้น
ในการประชุมคณะทำงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนได้ให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟูการอุปโภคบริโภคและสนับสนุนภาคเอกชน ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า สัญญาณดังกล่าวบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าเป้าหมายสำคัญสำหรับปี 2566 ของรัฐบาลจีนคือการกระตุ้นตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยจีนมีแนวโน้มที่จะกำหนดเป้าการขยายตัวของ GDP ที่ 5% ขึ้นไป
ADVERTISEMENT
Cr. จากทาง >>> https://www.infoquest.co.th/2022/260240
📊 ทองปิดลบ $2.5 บอนด์ยีลด์พุ่งกดดันตลาด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (19 ธ.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 2.5 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 1,797.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 12.9 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 23.199 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 12.30 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 987.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 41.70 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 1,664.90 ดอลลาร์/ออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.579% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ
Cr. จากทาง >>> https://www.infoquest.co.th/2022/260243
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (19 ธ.ค.) บทวิเคราะห์โดย YLG Bullion
สรุป ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวสูงขึ้น 16.13 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าราคาทองคำปรับตัวลงในระหว่างวัน โดยได้รับแรงกดดันหลักจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,774.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงตลาดสหรัฐ โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังเอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นอยู่ที่ 46.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 31 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 47.7 ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นอยู่ที่ 44.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 46.5 เช่นกัน บ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน
ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดยังคงแสดงความเห็นในเชิง Hawkish ไม่ว่าจะเป็นนายจอห์น วิลเลียมส์ประธานเฟดนิวยอร์ก, นางแมรี ดาลี ประธานเฟดซานฟรานซิสโก และนางลอเรตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดคลีฟแลนด์ ที่กล่าวสอดคล้องกันว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า และไม่เร่งรีบในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวสกัดช่วงบวกราคาทองคำเอาไว้ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -3.48 ตัน
สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
คำแนะนำ เปิดสถานะขาย $1,808-1,824
จุดทำกำไร ซื้อคืนเพื่อทำกำไร $1,774-1,765
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,824
Cr. จากทาง >>> แนวโน้มราคาทองวันนี้ (19 ธ.ค.) บทวิเคราะห์โดย YLG Bullion (msn.com)