เห็นข่าวที่มีเรื่องบนท้องถนนแล้วยิงกันตายที่ สน. แล้วนึกถึงวันที่ผมเจอกับตัวเอง

หลายเดือนก่อนผมขับรถจากบ้านไปทำงาน แถวพระราม 3 ต้องผ่านเส้นกัลปพฤกษ์มุ่งหน้าไปแยกท่าพระ เพื่อขึ้นสพานไปพระราม 3 ผมไม่แน่ใจว่าผมไปทำอะไรให้รถกะป๋อ 4 ล้อเล็ก ไม่พอใจตอนไหน แต่แน่ใจว่าไม่ได่มีการเฉี่ยวชนแน่ ๆ ขับไปสักพักเหมือนรถกะป๋อจะจอดรถผมที่ตีนสะพาน ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรสักพักมีการขับตามและแซงปาดหน้ารถผมเหมือนจะให้ผมลงมาคุย แต่ผมไม่ลงพยายามขับหนีเค้าก็ก็ขับปาดซ้ายที ขวาที พยายามบล๊อคไม่ให้ผมขับ ตอนนั้นก็แอบกลัว ๆ นะ แต่ผมเลือกที่จะไม่ลงนั่งมองรูปลูกสาวที่ติดตรงคอนโซล คิดในใจว่าถ้าลงไปต้องมีเรื่องแน่ ๆ  เพราะเหมือนเค้าโมโหมาก ลงไปคุยตอนนี้คงมีแต่เสียกับเสีย เพราะคนขับมีเปิดประตูรถลงมาเตะข้างรถผมทีหนึ่งด้วย พอเห็นว่าผมไม่เค้าก็ขับไปลงวุฒากาศผมก็มุ่งหน้าไปทำงาน ไม่มีเรื่องกัน ผมก็ขี้เกียจไปแจ้งความเลิกแล้วต่อกันดีกว่า 

จริง ๆ ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ผมก็เจอคนทำไม่ดีกับผมมาแต่ผมเลือกที่จะไม่โต้ตอบ นิ่ง ๆ ไป ก่อนมาทำงานที่นี้ผมเคยเจอเจ้าของบริษัทตะโกนไล่ออก ต่อหน้าคน 7 - 8 คน ผมก็เงียบ ๆ นิ่งๆ แล้วเดินออกมาจากห้อง แต่ผมเลือกที่จะไปฟ้องศาลแรงงานกลาง แทนการโต้ตอบโดยใช้ความรุนแรง ผมเลยมองเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั้งบนท้องถนน หรือครอบครัวว่าเหมือนเดี๋ยวนี้คนเราใจร้อนขึ้นมาก ๆ อะไรนิดหน่อยจะโต้ตอบกลับแทบทันทีไม่ทันได้คิดถึงผลที่จะตามมา เหมือนได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่