‘ชาวเมียนมา’ ฝากบอกลุงตู่ ‘พม่าไม่ได้เผากรุงศรี แต่สร้างกรุงเทพฯ’ ขอค่าแรง 600 จี้เคลียร์มาเฟียหักหัวคิว ในสถานทูตมีเพียบ
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3733608
3 นิ้วพรึบ ‘ชาวเมียนมา’ ฝากบอกลุงตู่ ‘พม่าไม่ได้เผากรุงศรี แต่สร้างกรุงเทพฯ’ จี้เคลียร์มาเฟียกดขี่แรงงาน หักหัวคิว-เรียกรับส่วย ชี้ในสถานทูตนายหน้าเพีย งง สมัครงานยังต้องจ่ายเงิน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 ธันวาคม ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้า BTS เซนต์หลุยส์ บริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา ประจำประเทศไทย ถนนสาธร เขตบางรัก กรุงเทพฯ แรงงานชาวเมียนมาในไทย กลุ่ม Bright future นัดหมายชุมนุมเนื่องใน “
วันแรงงานข้ามชาติสากล”
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ มีแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมา ที่อยู่อาศัยและทำงานในประเทศไทยจำนวนหลายร้อยคน เดินทางมารวมตัวบนทางเท้าหน้าสถานทูตเมียนมา เพื่อเรียกร้องให้นายทุนเผด็จการร่วมรับผิดชอบสิทธิขั้นพื้นฐาน สำหรับแรงงานข้ามชาติสัญชาติเมียนมา โดยผู้ชุมนุมส่วนมากสวมใส่เสื้อยืดสีขาว โพกผ้าสีแดงบนศรีษะ มีข้อความ อาทิ NLD บางรายถือธงสัญลักษณ์กลุ่ม Bright future และธงชาติสีแดง
ทั้งนี้ แกนนำได้ปราศรัยด้วยภาษาเมียนมา พร้อมอ่านแถลงการณ์ โดยมีการชูภาพ นาง
ออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตชาติเพื่อประชาธิปไตย และผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งของเมียนมา ที่ถูกยึดอำนาจโดยกองทัพ พร้อมกล่าวประณาม พล.อ.อาวุโส
มิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือ ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศเมียนมา โดยผู้ชุมนุมร่วมชู 3 นิ้ว และปรบมือเป็นระยะ ในตอนหนึ่งมีการเปิดคลิปเสียง NY AR ผ่านลำโพง รวมถึงมีการร่วมกันร้องเพลง และเรียกร้องสิทธิแรงงานไปพร้อมๆ กับการเรียกร้องทางการเมือง
ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายสิบนาย ยืนกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์รอบบริเวณสถานทูตเมียนมา โดยกั้นรั้วเหล็กเป็นแนวหน้าสถานทูต และวางกรวยจราจร กินพื้นที่ถนนเกือบ 1 เลน
แกนนำกลุ่ม Bright future กล่าวถึงการทำกิจกรรมวันนี้ว่า ตั้งแต่ที่ประเทศพม่าของเราโดนยึดอำนาจมา ร่วม 2 ปีแล้ว ตอนนี้ เราหาเวลา เวที และจังหวะ เพื่อมาแสดงออกให้โลกรู้ว่า เราไม่ยอมแพ้ เราไม่ได้เงียบไป เรายังสู้ อยากให้ทั่วโลกได้รู้ว่า ชาวพม่าที่อยู่ในไทยฝ่ายประชาธิปไตย เราเต็มที่ที่จะไล่ พล.อ.อาวุโส
มิน อ่อง ลาย แน่นอน
“
นี่คือพลังของคนพม่าที่มารวมตัวกัน ต่อต้านเผด็จการในประเทศไทย ข้อเรียกร้อง แน่นอนว่ามีเรื่องเกี่ยวกับ กระทรวงแรงงาน และสวัสดิการของแรงงานอยู่แล้ว เพราะกระทรวงแรงงานของรัฐบาลไทย ใช้ได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่ใช้เวลามานานมาก จนบางคนไม่อยากทำ (เอกสาร) แล้ว คือเราทำ 1 เคส 6 เดือนแล้วยังไม่จบ ส่วนมากคนที่ทำเคส จะไม่อยากทำ แล้วเลิกไปโดยปริยาย นี่คือปัญหา เราจึงมาเรียกร้องตรงนี้ว่าให้พวกคุณทำงานให้ไวหน่อย” แกนนำกลุ่ม Bright future เผย
แกนนำกลุ่ม Bright future กล่าวต่อว่า แน่นอนว่าต้องมีค่าใช้จ่าย ในการไปฟ้อง ดำเนินคดี สมมติตนไปกระทรวงแรงงาน ต้องไปส่งเอกสาร 3 รอบ เพราะว่าไม่มีงาน เงินก็ได้แค่ 200-300 บาท ไม่มีเงินค่ารถอีก นี่แหละปัญหาปากท้อง จึงอยากให้ภาครัฐทั้งหลาย รวมถึงกระทรวงแรงงาน ต้องเอาเงินค่ารถมาให้พวกตนบ้างเวลาที่ติดต่อเคส
“
หลักๆ วันนี้ เราอยากเรียกร้องประชาธิปไตยให้กับประเทศพม่า และอยากให้ทั่วโลกรู้ว่า ต้องเอาสถานทูตนี้ออกไปก่อน ไม่อยากให้อยู่ในประเทศไทย เพราะมันเป็นของเผด็จการ สถานทูตนี้ไม่มีประโยชน์อะไร พาสปอร์ต เมื่อก่อนสมัย อองซาน ซูจี เล่มละ 400-800 บาท ทุกวันนี้เล่มละ 7,000-8,000 มันกระโดดขึ้นเยอะ
ต้องบอกว่า สถานทูตนี้ห่วย ช่วยอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ชาวพม่าทุกคนก็รู้ แต่เรื่องเอกสารอย่างไรเราก็ต้องมาพึ่งตรงนี้อยู่ดี แล้วก็มารอให้เขากดขี่เราอีกรอบหนึ่ง เข้าไปข้างในจะมีพวกนายหน้าเยอะ นายหน้าจะหาช่องทางหากินกับพวกผม ทั้งๆ ที่ทำข้างในก็ได้ แต่เพราะโควกัน นี่คือระบบเผด็จการ ซึ่งมันไม่โอเคมากๆ และไม่ควรจะอยู่ในประเทศไทย สถานทูตนี้” แกนนำกลุ่ม Bright future ชี้
เมื่อถามถึงเรื่องค่าแรงว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีการเอาเปรียบหรือไม่ ?
แกนนำกลุ่ม Bright future เผยว่า ตอนนี้ค่าแรง แรงงานชาวเมียนมา 335-350 บาท/วัน
“
แต่เชื่อไหมว่า คนพม่าบางคนได้แค่ 100 กว่าบาท บางทีได้ 200 คนที่ได้เต็ม 350 บาทก็มีแต่ส่วนน้อย ส่วนมากคือเราโดนหักค่าประกันสังคม แต่เจ้านายไม่ส่งเงินสมทบให้กับประกันสังคม ผมเจอแบบนี้ 2-3 เคสแล้ว มีโรงงานหนึ่งอยู่มาหลายปี ไม่ทำประกันสังคมให้ จนผมต้องไปร้อง กว่าจะได้มาก็เป็นปี แล้วเรื่องนี้ก็ยังไม่จบ จึงคิดว่ากระบวนการยุติธรรมไทย ต้องทำงานให้ไวกว่านี้ ถ้าช้าอยู่อย่างนี้ เราไม่โอเคเกี่ยวกับสิทธิ สวัสดิการแรงงาน” แกนนำกลุ่ม Bright future กล่าว
เมื่อถามต่อว่า ถ้าค่าแรงเพิ่มขึ้นจะดีกว่านี้หรือไม่ ?
แกนนำกลุ่ม Bright future กล่าวว่า ลองคิดดูว่า แรงงานมีทั้งค่ารถ ค่าห้อง ค่ากิน 350 บาท อย่างไรก็ไม่พออยู่แล้ว แน่นอนว่าอยากได้มากกว่า 350 อยากได้ 600-700 ขึ้นไป
“
ถ้าได้เท่านั้น เราอาจจะอยู่ได้ไปสักระยะหนึ่ง เพราะอย่าลืมว่า คนที่จะหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้มีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นนายหน้าทั้งหลาย ดังนั้น ต้องจัดการพวกนายหน้า พวกที่กดขี่กินค่าหัวคิว ค่าสมัครงาน ทุกวันนี้ไปสมัครงานคนพม่าต้องจ่ายเงิน 2,500-7,000 บาท คนไทยไม่มี พม่ามี งงมาก ต้องเคลียร์มาเฟียพวกนี้ให้หมดก่อน” แกนนำกลุ่ม Bright future ระบุ
เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรถึงผู้มีอำนาจ หรือรัฐบาลไทย ?
แกนนำกลุ่ม Bright future กล่าวว่า ลุงของเราใช่ไหม ? ไม่รู้จะพูดอย่างไรกับลุงดี
“
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอเวลาอีกไม่นานนี่ก็ 8 ปีแล้ว ตามสบายลุง แล้วแต่ลุงแล้วกัน อย่าว่าแต่ 8 ปีเลย เพิ่มอีก 2 ปีก็ได้ อย่าว่าแต่คนไทยเองที่อดอยาก คนพม่าก็จะไม่มีกินเหมือนกัน เพราะฝีมือของลุงตลอดระยะเวลา 8 ปี
ช่วงโควิดด้วย เศรษฐกิจด้วย การเมืองด้วย มันก็เลยทำให้ข้อเรียกร้องของฝ่ายประชาธิปไตยไม่ค่อยได้รับการยอมรับ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลุงอย่าเข้าข้าง ‘มิน อ่อง ลาย’ ก็แล้วกัน รู้ว่าเป็นเพื่อนกัน แต่อย่าอวยกันมาก อย่าเข้าข้างกันมาก มาเข้าข้างพี่น้องคนพม่าดีกว่าลุง อย่าลืมว่ากรรมกรคนพม่า เรามาสร้างชาติให้ประเทศไทย พวกตึกทั้งหลาย คนไทยไม่ทำ มีแต่แรงงานข้ามชาติอย่างเราทำกัน ถนนหนทางเราเป็นคนทำ เราทำให้ประเทศไทยสวยงาม
ผมว่าลุงน่าจะดูแลพวกผมบ้าง อยากบอกว่า ‘พม่าไม่ได้เผากรุงศรี แต่พม่าสร้างกรุงเทพฯ’ อันนี้คือความจริง และอยากให้ลุงมาดูแลพวกผมบ้าง เห็นใจบ้าง อย่าทิ้งพวกผม เข้าใจว่าเป็นเพื่อนกับ มิน อ่อง ลาย แต่อย่าเข้าข้างเขาเลย” แกนนำกลุ่ม Bright future กล่าว
ย้อนอ่าน :
ใครเผาอยุธยา ถ้า ‘พม่า’ ไม่ใช่คำตอบ? เปิดข้อมูลขุดค้น ไม่พบชั้นดิน ‘ไฟไหม้’ คราวกรุงแตก!
สำหรับ แถลงการณ์วันแรงงานข้ามชาติสากล ที่กลุ่ม Bright future อ่านหน้าสถานทูตเมียนมา มีเนื้อหา ดังนี้
เนื่องในวันที่ 18 ธันวาคม ของทุกปี นับเป็นวันแรงงานข้ามชาติสากล หรือ International Migrants Day ตามประกาศ องค์การสหประชาชาติ อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติและครอบครัว ค.ศ.1990 เพื่อให้แรงงานข้ามชาติทั่วโลกได้รับการคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชน สิทธิแรงงาน และการปฏิบัติที่ดีจากรัฐบาลและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งประเทศต้นทางและประเทศปลายทาง โดยต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติอันเนื่องมาจากความแตกต่างทางเชื้อชาติ ภาษา สีผิว และเพศสภาพ พวกเราจึงขอยืนยันในข้อเรียกร้อง ดังนี้
1.ให้ตำรวจไทยดำเนินคดีกับบริษัทนายหน้าผู้ทุจริตหลอกลวงตามกฎหมายอาญามาตรา 344 อย่างตรงไปตรงมา และกระทรวงแรงงานต้องเข้าช่วยเหลือเยียวยาแรงงานที่ตกเป็นเหยื่อโดยเร็ว รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องไม่ปล่อยให้มีขบวนการข่มขู่แรงงานด้วยกฎหมายเพื่อทำการเก็บส่วย กระทำการนอกเหนือจากหน้าที่ และความถูกต้องในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งอยู่ใต้ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่
2.กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ต้องมีการช่วยเหลือทางกฎหมาย จัดหาทนายให้ในการฟ้องร้อง พนักงานตรวจแรงงานต้องให้ข้อมูลกับแรงงานอย่างครบถ้วน เพื่อให้แรงงานสามารถเรียกสิทธิประโยชน์ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ รวมไปถึงการจัดให้มีการช่วยเหลือค่าเดินทางเพื่อให้คนทำงานได้เข้าถึงกลไกกฎหมายแรงงานได้ง่ายยิ่งขึ้น และเพื่อให้คนทุกกลุ่มได้รับสิทธิแรงงานกับผลประโยชน์ต่างๆ รวมถึงประกันสังคมและเงินบำนาญตามการคุ้มครองตามกฎหมายไทยอย่างไม่เลือกปฏิบัติ
3.ในะยะยาวนั้น กรมการจัดหางาน ต้องแก้ไขปัญหาการหลอกลวงไปค้ามนุษย์ ด้วยการทำสัญญาจ้างแบบรัฐต่อรัฐ ยกเลิกระบบนายหน้าเอกชน พร้อมจัดหาการช่วยเหลือด้านภาษา ทำระบบการร้องเรียนแบบที่เดียวจบ หรือ One Stop Service โดยไม่ผลักภาระให้ผู้ร้องเรียนต้องเดินเรื่องไปกระทรวงต่างๆ หลายแห่ง หลายครั้ง เร่งทำกระบวนการทำเอกสารให้เรียบง่าย ค่าธรรมเนียมย่อมเยา ทำบริการของรัฐให้เข้าถึงได้จริง เอกสารที่จำเป็นต่อการจ้างงานแรงงานข้ามชาติไม่ควรต้องรวมพาสปอร์ตด้วย เนื่องจากการแสดงตนช้ำช้อนกับเอกสารอื่นๆ อย่างใบอนุญาตทำงาน นับเป็นการสร้างอุปสรรคทางเอกสารโดยไม่จำเป็น สถานทูตต่างๆ จะต้องมีคำาธรรมเนียมที่โปร่งใสและย่อมเยา ช่วยให้แรงงานเข้าถึงและดำรงสถานะถูกต้องตามกฎหมายได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เข้าถึงการคุ้มครองตามกฎหมายได้อย่างตรงไปตรงมา อีกด้วย
สุดท้ายนี้ พวกเราจากกลุ่ม Bright Future ขอเรียกร้องให้เราทุกคนตั้งแต่ในกาครัฐ ภาคเอกชน ไปจนถึงเพื่อนประชาชนทุกหนแห่ง ใช้หลักการสิทธิมนุษยชนเป็นที่ตั้ง มิใช่ความเชื่อในลัทธิชาตินิยม มองคนให้เท่ากับคน และสร้างจิตสำนึกร่วมกันว่าเราล้วนต่างคือพี่น้องในวังวนการดิ้นรนทำงานหาเงินมาเลี้ยงชีพ เฉกเช่นเดียวกัน และเราจะไม่มีวันหลุดพ้นจากปัญหาเดิมๆ หากเราไม่ผนึกกำลังแล้วร่วมมือกันแก้ปัญหาของคน 99% ไปด้วยกัน เพื่อที่สักวันหนึ่ง เส้นพรมแดนจะต้องไม่ขวางกั้นความมั่นคงในปากท้องของคนทำงาน
Bright Future
19 ธ.ค. 2565
JJNY : 5in1 ‘ชาวเมียนมา’ฝากบอกตู๋│Gen Z หนุนยกเลิก รธน.60│‘พิจารณ์’ถาม‘ทร.’│กสิกรไทยคาด'ท่องเที่ยว'│‘อิแทวอน’ ยังไม่ฟื้น
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3733608
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 ธันวาคม ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้า BTS เซนต์หลุยส์ บริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา ประจำประเทศไทย ถนนสาธร เขตบางรัก กรุงเทพฯ แรงงานชาวเมียนมาในไทย กลุ่ม Bright future นัดหมายชุมนุมเนื่องใน “วันแรงงานข้ามชาติสากล”
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ มีแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมา ที่อยู่อาศัยและทำงานในประเทศไทยจำนวนหลายร้อยคน เดินทางมารวมตัวบนทางเท้าหน้าสถานทูตเมียนมา เพื่อเรียกร้องให้นายทุนเผด็จการร่วมรับผิดชอบสิทธิขั้นพื้นฐาน สำหรับแรงงานข้ามชาติสัญชาติเมียนมา โดยผู้ชุมนุมส่วนมากสวมใส่เสื้อยืดสีขาว โพกผ้าสีแดงบนศรีษะ มีข้อความ อาทิ NLD บางรายถือธงสัญลักษณ์กลุ่ม Bright future และธงชาติสีแดง
ทั้งนี้ แกนนำได้ปราศรัยด้วยภาษาเมียนมา พร้อมอ่านแถลงการณ์ โดยมีการชูภาพ นางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตชาติเพื่อประชาธิปไตย และผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งของเมียนมา ที่ถูกยึดอำนาจโดยกองทัพ พร้อมกล่าวประณาม พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือ ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศเมียนมา โดยผู้ชุมนุมร่วมชู 3 นิ้ว และปรบมือเป็นระยะ ในตอนหนึ่งมีการเปิดคลิปเสียง NY AR ผ่านลำโพง รวมถึงมีการร่วมกันร้องเพลง และเรียกร้องสิทธิแรงงานไปพร้อมๆ กับการเรียกร้องทางการเมือง
ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายสิบนาย ยืนกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์รอบบริเวณสถานทูตเมียนมา โดยกั้นรั้วเหล็กเป็นแนวหน้าสถานทูต และวางกรวยจราจร กินพื้นที่ถนนเกือบ 1 เลน
แกนนำกลุ่ม Bright future กล่าวถึงการทำกิจกรรมวันนี้ว่า ตั้งแต่ที่ประเทศพม่าของเราโดนยึดอำนาจมา ร่วม 2 ปีแล้ว ตอนนี้ เราหาเวลา เวที และจังหวะ เพื่อมาแสดงออกให้โลกรู้ว่า เราไม่ยอมแพ้ เราไม่ได้เงียบไป เรายังสู้ อยากให้ทั่วโลกได้รู้ว่า ชาวพม่าที่อยู่ในไทยฝ่ายประชาธิปไตย เราเต็มที่ที่จะไล่ พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง ลาย แน่นอน
“นี่คือพลังของคนพม่าที่มารวมตัวกัน ต่อต้านเผด็จการในประเทศไทย ข้อเรียกร้อง แน่นอนว่ามีเรื่องเกี่ยวกับ กระทรวงแรงงาน และสวัสดิการของแรงงานอยู่แล้ว เพราะกระทรวงแรงงานของรัฐบาลไทย ใช้ได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่ใช้เวลามานานมาก จนบางคนไม่อยากทำ (เอกสาร) แล้ว คือเราทำ 1 เคส 6 เดือนแล้วยังไม่จบ ส่วนมากคนที่ทำเคส จะไม่อยากทำ แล้วเลิกไปโดยปริยาย นี่คือปัญหา เราจึงมาเรียกร้องตรงนี้ว่าให้พวกคุณทำงานให้ไวหน่อย” แกนนำกลุ่ม Bright future เผย
แกนนำกลุ่ม Bright future กล่าวต่อว่า แน่นอนว่าต้องมีค่าใช้จ่าย ในการไปฟ้อง ดำเนินคดี สมมติตนไปกระทรวงแรงงาน ต้องไปส่งเอกสาร 3 รอบ เพราะว่าไม่มีงาน เงินก็ได้แค่ 200-300 บาท ไม่มีเงินค่ารถอีก นี่แหละปัญหาปากท้อง จึงอยากให้ภาครัฐทั้งหลาย รวมถึงกระทรวงแรงงาน ต้องเอาเงินค่ารถมาให้พวกตนบ้างเวลาที่ติดต่อเคส
“หลักๆ วันนี้ เราอยากเรียกร้องประชาธิปไตยให้กับประเทศพม่า และอยากให้ทั่วโลกรู้ว่า ต้องเอาสถานทูตนี้ออกไปก่อน ไม่อยากให้อยู่ในประเทศไทย เพราะมันเป็นของเผด็จการ สถานทูตนี้ไม่มีประโยชน์อะไร พาสปอร์ต เมื่อก่อนสมัย อองซาน ซูจี เล่มละ 400-800 บาท ทุกวันนี้เล่มละ 7,000-8,000 มันกระโดดขึ้นเยอะ
ต้องบอกว่า สถานทูตนี้ห่วย ช่วยอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ชาวพม่าทุกคนก็รู้ แต่เรื่องเอกสารอย่างไรเราก็ต้องมาพึ่งตรงนี้อยู่ดี แล้วก็มารอให้เขากดขี่เราอีกรอบหนึ่ง เข้าไปข้างในจะมีพวกนายหน้าเยอะ นายหน้าจะหาช่องทางหากินกับพวกผม ทั้งๆ ที่ทำข้างในก็ได้ แต่เพราะโควกัน นี่คือระบบเผด็จการ ซึ่งมันไม่โอเคมากๆ และไม่ควรจะอยู่ในประเทศไทย สถานทูตนี้” แกนนำกลุ่ม Bright future ชี้
เมื่อถามถึงเรื่องค่าแรงว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีการเอาเปรียบหรือไม่ ?
แกนนำกลุ่ม Bright future เผยว่า ตอนนี้ค่าแรง แรงงานชาวเมียนมา 335-350 บาท/วัน
“แต่เชื่อไหมว่า คนพม่าบางคนได้แค่ 100 กว่าบาท บางทีได้ 200 คนที่ได้เต็ม 350 บาทก็มีแต่ส่วนน้อย ส่วนมากคือเราโดนหักค่าประกันสังคม แต่เจ้านายไม่ส่งเงินสมทบให้กับประกันสังคม ผมเจอแบบนี้ 2-3 เคสแล้ว มีโรงงานหนึ่งอยู่มาหลายปี ไม่ทำประกันสังคมให้ จนผมต้องไปร้อง กว่าจะได้มาก็เป็นปี แล้วเรื่องนี้ก็ยังไม่จบ จึงคิดว่ากระบวนการยุติธรรมไทย ต้องทำงานให้ไวกว่านี้ ถ้าช้าอยู่อย่างนี้ เราไม่โอเคเกี่ยวกับสิทธิ สวัสดิการแรงงาน” แกนนำกลุ่ม Bright future กล่าว
เมื่อถามต่อว่า ถ้าค่าแรงเพิ่มขึ้นจะดีกว่านี้หรือไม่ ?
แกนนำกลุ่ม Bright future กล่าวว่า ลองคิดดูว่า แรงงานมีทั้งค่ารถ ค่าห้อง ค่ากิน 350 บาท อย่างไรก็ไม่พออยู่แล้ว แน่นอนว่าอยากได้มากกว่า 350 อยากได้ 600-700 ขึ้นไป
“ถ้าได้เท่านั้น เราอาจจะอยู่ได้ไปสักระยะหนึ่ง เพราะอย่าลืมว่า คนที่จะหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้มีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นนายหน้าทั้งหลาย ดังนั้น ต้องจัดการพวกนายหน้า พวกที่กดขี่กินค่าหัวคิว ค่าสมัครงาน ทุกวันนี้ไปสมัครงานคนพม่าต้องจ่ายเงิน 2,500-7,000 บาท คนไทยไม่มี พม่ามี งงมาก ต้องเคลียร์มาเฟียพวกนี้ให้หมดก่อน” แกนนำกลุ่ม Bright future ระบุ
เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรถึงผู้มีอำนาจ หรือรัฐบาลไทย ?
แกนนำกลุ่ม Bright future กล่าวว่า ลุงของเราใช่ไหม ? ไม่รู้จะพูดอย่างไรกับลุงดี
“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอเวลาอีกไม่นานนี่ก็ 8 ปีแล้ว ตามสบายลุง แล้วแต่ลุงแล้วกัน อย่าว่าแต่ 8 ปีเลย เพิ่มอีก 2 ปีก็ได้ อย่าว่าแต่คนไทยเองที่อดอยาก คนพม่าก็จะไม่มีกินเหมือนกัน เพราะฝีมือของลุงตลอดระยะเวลา 8 ปี
ช่วงโควิดด้วย เศรษฐกิจด้วย การเมืองด้วย มันก็เลยทำให้ข้อเรียกร้องของฝ่ายประชาธิปไตยไม่ค่อยได้รับการยอมรับ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลุงอย่าเข้าข้าง ‘มิน อ่อง ลาย’ ก็แล้วกัน รู้ว่าเป็นเพื่อนกัน แต่อย่าอวยกันมาก อย่าเข้าข้างกันมาก มาเข้าข้างพี่น้องคนพม่าดีกว่าลุง อย่าลืมว่ากรรมกรคนพม่า เรามาสร้างชาติให้ประเทศไทย พวกตึกทั้งหลาย คนไทยไม่ทำ มีแต่แรงงานข้ามชาติอย่างเราทำกัน ถนนหนทางเราเป็นคนทำ เราทำให้ประเทศไทยสวยงาม
ผมว่าลุงน่าจะดูแลพวกผมบ้าง อยากบอกว่า ‘พม่าไม่ได้เผากรุงศรี แต่พม่าสร้างกรุงเทพฯ’ อันนี้คือความจริง และอยากให้ลุงมาดูแลพวกผมบ้าง เห็นใจบ้าง อย่าทิ้งพวกผม เข้าใจว่าเป็นเพื่อนกับ มิน อ่อง ลาย แต่อย่าเข้าข้างเขาเลย” แกนนำกลุ่ม Bright future กล่าว
ย้อนอ่าน : ใครเผาอยุธยา ถ้า ‘พม่า’ ไม่ใช่คำตอบ? เปิดข้อมูลขุดค้น ไม่พบชั้นดิน ‘ไฟไหม้’ คราวกรุงแตก!
สำหรับ แถลงการณ์วันแรงงานข้ามชาติสากล ที่กลุ่ม Bright future อ่านหน้าสถานทูตเมียนมา มีเนื้อหา ดังนี้
เนื่องในวันที่ 18 ธันวาคม ของทุกปี นับเป็นวันแรงงานข้ามชาติสากล หรือ International Migrants Day ตามประกาศ องค์การสหประชาชาติ อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติและครอบครัว ค.ศ.1990 เพื่อให้แรงงานข้ามชาติทั่วโลกได้รับการคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชน สิทธิแรงงาน และการปฏิบัติที่ดีจากรัฐบาลและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งประเทศต้นทางและประเทศปลายทาง โดยต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติอันเนื่องมาจากความแตกต่างทางเชื้อชาติ ภาษา สีผิว และเพศสภาพ พวกเราจึงขอยืนยันในข้อเรียกร้อง ดังนี้
1.ให้ตำรวจไทยดำเนินคดีกับบริษัทนายหน้าผู้ทุจริตหลอกลวงตามกฎหมายอาญามาตรา 344 อย่างตรงไปตรงมา และกระทรวงแรงงานต้องเข้าช่วยเหลือเยียวยาแรงงานที่ตกเป็นเหยื่อโดยเร็ว รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องไม่ปล่อยให้มีขบวนการข่มขู่แรงงานด้วยกฎหมายเพื่อทำการเก็บส่วย กระทำการนอกเหนือจากหน้าที่ และความถูกต้องในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งอยู่ใต้ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่
2.กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ต้องมีการช่วยเหลือทางกฎหมาย จัดหาทนายให้ในการฟ้องร้อง พนักงานตรวจแรงงานต้องให้ข้อมูลกับแรงงานอย่างครบถ้วน เพื่อให้แรงงานสามารถเรียกสิทธิประโยชน์ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ รวมไปถึงการจัดให้มีการช่วยเหลือค่าเดินทางเพื่อให้คนทำงานได้เข้าถึงกลไกกฎหมายแรงงานได้ง่ายยิ่งขึ้น และเพื่อให้คนทุกกลุ่มได้รับสิทธิแรงงานกับผลประโยชน์ต่างๆ รวมถึงประกันสังคมและเงินบำนาญตามการคุ้มครองตามกฎหมายไทยอย่างไม่เลือกปฏิบัติ
3.ในะยะยาวนั้น กรมการจัดหางาน ต้องแก้ไขปัญหาการหลอกลวงไปค้ามนุษย์ ด้วยการทำสัญญาจ้างแบบรัฐต่อรัฐ ยกเลิกระบบนายหน้าเอกชน พร้อมจัดหาการช่วยเหลือด้านภาษา ทำระบบการร้องเรียนแบบที่เดียวจบ หรือ One Stop Service โดยไม่ผลักภาระให้ผู้ร้องเรียนต้องเดินเรื่องไปกระทรวงต่างๆ หลายแห่ง หลายครั้ง เร่งทำกระบวนการทำเอกสารให้เรียบง่าย ค่าธรรมเนียมย่อมเยา ทำบริการของรัฐให้เข้าถึงได้จริง เอกสารที่จำเป็นต่อการจ้างงานแรงงานข้ามชาติไม่ควรต้องรวมพาสปอร์ตด้วย เนื่องจากการแสดงตนช้ำช้อนกับเอกสารอื่นๆ อย่างใบอนุญาตทำงาน นับเป็นการสร้างอุปสรรคทางเอกสารโดยไม่จำเป็น สถานทูตต่างๆ จะต้องมีคำาธรรมเนียมที่โปร่งใสและย่อมเยา ช่วยให้แรงงานเข้าถึงและดำรงสถานะถูกต้องตามกฎหมายได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เข้าถึงการคุ้มครองตามกฎหมายได้อย่างตรงไปตรงมา อีกด้วย
สุดท้ายนี้ พวกเราจากกลุ่ม Bright Future ขอเรียกร้องให้เราทุกคนตั้งแต่ในกาครัฐ ภาคเอกชน ไปจนถึงเพื่อนประชาชนทุกหนแห่ง ใช้หลักการสิทธิมนุษยชนเป็นที่ตั้ง มิใช่ความเชื่อในลัทธิชาตินิยม มองคนให้เท่ากับคน และสร้างจิตสำนึกร่วมกันว่าเราล้วนต่างคือพี่น้องในวังวนการดิ้นรนทำงานหาเงินมาเลี้ยงชีพ เฉกเช่นเดียวกัน และเราจะไม่มีวันหลุดพ้นจากปัญหาเดิมๆ หากเราไม่ผนึกกำลังแล้วร่วมมือกันแก้ปัญหาของคน 99% ไปด้วยกัน เพื่อที่สักวันหนึ่ง เส้นพรมแดนจะต้องไม่ขวางกั้นความมั่นคงในปากท้องของคนทำงาน
Bright Future
19 ธ.ค. 2565