ท้าวความก่อนว่า เรามีเพื่อนคนนึง รู้จักกันตอนเราย้ายร.ร.มาและเริ่มสนิทกัน และเล่นเกมด้วยกัน วันนึงเราทั้งคู่ก็รู้จักพี่ชายคนนึงในเกม ซึ่งก็เล่นกันมาเรื่อยๆ ช่วงแรกๆจะเป็นเพื่อนเราที่เล่นกับพี่เขาบ่อยๆแล้วเพื่อนเราก็มาคุยให้เราฟังว่าเล่นอะไรกันมาบ้าง และทุกครั้งที่เราไปเล่นด้วย เราจะได้รู้จากบทสนทนาที่พี่เขาแซวเราเรื่องต่างๆ ซึ่งเราไม่เคยพูดเรื่องเหล่านั้นและเพื่อนเราชอบพูดเรื่องเราทั้งเรื่องจริงและไม่จริง แต่เราไม่เคยว่าอะไรเพราะเราไม่เคยมีเพื่อนสนิท และไม่อยากพูดหักหน้าหรือทำร้ายใคร และต่อมาเราก็เริ่มเล่นกับพี่คนนั้นบ่อยขึ้น ขอเรียกแทนพี่เขาว่า น นะคะ เราเล่นกับพี่ น บ่อยขึ้น และในตี้ที่เล่นกันบางครั้งก็จะไม่มีเพื่อนสนิทเราในตี้  แต่ทุกครั้งที่ตี้ว่างเราจะชวนเพื่อนคนนี้มาเล่นด้วยแทบทุกครั้ง((แต่บางครั้งเพื่อนเราคนนี้ก็เล่นกับเพื่อนคนอื่นๆของนาง เพราะเพื่อนคนนี้เป็นคนที่คุยเก่ง อะไรภาษาและเพื่อนๆต่างชาติ )) ขอเรียนแทนเพื่อนว่า ม นะคะ  ม เป็นคนพูดเก่ง คุยสนุก ต่างจากเราที่ค่อนข้างเงียบ คุยกับใครสานสัมพันธ์ไม่เป็นเลย เราเริ่มสนิทกับพี่ น แต่ด้วยความที่เราคุยกับใครไม่เป็น เลยไม่ค่อยคุย ยกเว้นชวนเล่นเกม กับคุยเล่นนิดหน่อย ต่อมาเราเริ่มออนเกมช้า ด้วยอะไรหลายอย่าง  และตอนนั้นเราโกรธเพื่อนที่ ชอบพูดเรื่องเรา(และตอนนั้นเพื่อนพูดเรื่องที่เราไม่ok และบอก ม แล้วว่าอย่าพูด) ซึ่งมันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวหรือสอง แต่เป็นแบบนี้มาหลายครั้งและหลายเรื่อง บางครั้งมันทำให้เราดูแย่ และภาพลักษณ์เราดูไม่ดี ซึ่งเราไม่ชอบเลย รู้สึกแย่มากๆทุกครั้ง เราโกรธ ม และได้พูดคุยปรึกษาเรื่องนี้กับพี่ น และพี่เขาก็แนะนำไม่ให้เราพูดเรื่องนี้และบอกว่าที่ ม ชอบพูดเรื่องเราเพราะเราเป็นคนสำคัญของเขา และ ม เคยบอกพี่ น ว่าเราเป็นเพื่อนแท้ของเขา  เราจึงใจเย็นและปล่อยเรื่องนี้ไป แต่ก็ไม่ค่อยได้เล่นเกมกับพี่ น เลย และคนที่เล่นจะพี่ น จะเป็น ม และตี้ก็เต็มตลอดเลยซึ่งตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไรปาร์ตี้เต็มเราก็เลยไม่ได้เล่นด้วยแค่นั้น เราเริ่มสังเกตเห็นว่า ม ไม่ชวนเราเล่นเกมเลยค่อย

 พี่ น ไม่ค่อยคุยหรือตอบแชตเรา และเล่นเกมแต่กับ ม ตลอด นึกสักพักเราก็ได้รู้ว่า ม มีไลน์พี่ น จึงชวนกันนัดเล่นเกมได้ ซึ่งตอนนี้เราก็ไม่คิดอะไรเพราะว่าตอนที่เราเล่นกับ พี่ น บางครั้งเราก็ไม่ได้ชวน ม มาเล่น  แต่ละวันนึงพี่ น ชวนเราไปเล่น ตอนแรกเราก็ดีใจแต่พอเล่นไปสักพักเพื่อนพี่ น และพี่ น พูดแต่เรื่องเกมก่อนหน้านี้แล้วพูดถึงแต่ ม บอกว่าเสียดายที่ ม ไปนอน และบอกให้ไปตาม ม กลับมาเล่น เราเริ่มรู้สึกไม่ดีมากๆ พอเล่นได้ 2 เกมเราก็ออกจากตี้ แล้วเราก็เล่นคนเดียวตลอดมีครั้งหนึ่งที่เราออนเกมแล้วเห็น พี่ น และ ม ออนเกมและวิธีกัน 2 คนเราจะมายืนดูว่า ม ชวนเราเข้าตี้ไหม แต่ก็ไม่ และเขาก็เล่นกัน 2 คน และมีอีกครั้งที่เราขอเล่นด้วยแต่พอเราเล่นได้เกมเดียวเรากลับโดนเตะออกจากตี้ เพราะมีเพื่อนคนนึงของพี่เขาออนเกมและเป็นคนที่เล่นด้วยกันประจำเขาเลยเตะออกจากตี้เพื่อให้มีที่ว่าง ถ้าไม่เสียใจเท่าไหร่ที่เราโดนเตะออกมาแต่เราเสียใจที่เพื่อนเราไม่พยายามพูดปกป้องเราเลยจะกลับคำหัวเราะชอบใจเหมือนมีอะไรเกิดขึ้นเหมือนการที่เราโดนเตะออกมาเป็นแค่เรื่องตลก หลังจากนั้นเราก็เริ่มคิดทบทวนว่าที่ผ่านมาเราไม่ได้ถูกชวนเลย และมีครั้งหนึ่ง ที่ ม พูดว่าเสียดายที่เราไม่ได้เล่นเกมด้วย แล้วบอกว่า เพราะเวลาเราโดนด่ามันสนุกดี ตอนนั้นเรารู้สึกแย่มากที่เพื่อนพูดแบบนี้

     เราคิดว่าเพราะตัวเราไม่เหมาะสมที่จะเล่นกับเขาหรือเปล่า เพราะ ม ดีกว่าเราทุกอย่าง มันจะดีกว่าถ้า ม เล่นกับพวกพี่เขา ถ้ามีเราด้วยที่จะเงียบมาก เรากลัวว่าเราจะทำให้คนอื่นในตี้อึดอัด แต่เราก็อดน้อยใจไม่ได้ที่เพื่อนเราไม่ชวนเราเลยถึงแม้ว่าที่จะว่างอยู่ก็ตาม ตอนนี้ก็ชวนมาครั้งสองครั้งแต่ทุกครั้งก็รู้สึกว่ามันเป็นส่วนเกินและกลัวว่าจะมายืนแทนที่ใครทำให้คนอื่นในตี้ไม่พอใจรึเปล่า  วันนี้เป็นครั้งล่าสุดที่เราออนเกมและเห็นเขาเล่นกัน 2 คน ที่จะคิดไม่ได้ว่าทำไมไม่มีใครชวนเราเลย  เรารู้สึกน้อยใจ ที่พี่ น ไม่ชวนเรา น้อยใจ  ม ที่เป็นเพื่อนเราก็ไม่ชวนเหมือนกัน ทุกครั้งที่ไปโรงเรียน ม จะพูดเรื่องเกมกับเรา คุยว่าวันนี้คุยอะไรกันเล่นอะไรกัน เหมือนเราเล่นเกมด้วยกันมา ทั้งที่มันไม่ใช่   ตอนนี้ก็เลยตัดสินใจที่จะเลิกเล่นเกมเพราะเราก็คิดว่าความผิดมันไม่ได้ผิดที่ใครหรอกแต่มันผิดที่ตัวเราเองที่คิดมากเกินไป  แต่เราก็รู้สึกน้อยใจจริงๆนะรู้สึกเหมือนโดนทิ้งเลยทั้งที่เคยเล่นด้วยกันมาแท้ๆแต่ตอนนี้กลับเป็นเราที่เป็นส่วนเกิน 

(เรื่องความรู้สึกชื่นชู้สาวตัดออกไปได้เลยเพราะเราไม่ได้คิดกับใครเกินเลยคนที่เรากล่าวถึงเรานับถือเขาเป็นพี่เป็นน้องและเป็นเพื่อนที่ดี)

(เรามีเพื่อนเล่นคนอื่นนะแต่เพื่อนเราก็มีแฟนแล้วเราก็ไม่อยากรบกวนพวกเขาเพราะแฟนเขาก็เล่นเกมนี้เหมือนกัน ถ้าจะเล่นด้วยกันบ่อยๆมันก็คงไม่ดีและเพื่อนเราก็ไม่ค่อยออนเกม)