ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! มรณะ(ความตาย) เป็นอย่างไรเล่า ?
มรณะคือ การจุติ ความเคลื่อน การแตกสลาย การหายไป การวายชีพ การตาย
การทำกาละ การแตกแห่งขันธ์ทั้งหลาย การทอดทิ้งร่าง การขาดแห่งอินทรีย์คือชีวิต
จากสัตวนิกายนั้น ๆ (วิญญาณฐิติ...)ของสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น ๆ ;
นี้ เรียกว่า มรณะ (ความตาย)
.
เพราะเหตุใด ?
“? สัตว์โลกเหล่าใด ไปสู่สังสาระแห่งชาติ และมรณะร่ำไป๑;
ประเดี๋ยวอย่างนั้นประเดี๋ยวอย่างอื่น; ? อวิชชานั่นเอง
แหละ เป็นคติ (เครื่องไป ) ของสัตว์เหล่านั้น ?
ซึ่งมีความเป็นอย่างนี้แล้วเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น๒อยู่บ่อย ๆ ;
? ก็อวิชชานี้แลเป็นความมืดอันใหญ่หลวง คือทำให้สัตว์
ต้องท่องเที่ยวไป ในวัฏฏสงสาร อยู่ตลอดสิ้นกาลนาน.
? สัตว์เหล่าใด ผู้ทำลายกิเลสได้แล้ว
เป็นผู้ไปด้วยวิชชา คือ อรหัตมรรค.
สัตว์เหล่านั้น ย่อมไม่เข้าถึงภพใหม่อีก”.
๑ ยถึงความบังเกิดแห่งขันธ์ มรณะ หมายถึงความแตกสลายแห่งขันธ์
สงสารหมายถึง ลำดับความสืบต่อแห่งขันธ์หรือการเวียนว่ายตายเกิด (ขุ.สุ.อ. ๒/๓๓๘)
๒ สภาวะอย่างนี้และสภาวะอย่างอื่น หมายถึงสภาวะแห่งความเป็นมนุษย์
และความเป็นสัตว์อื่นที่เหลือจากความเป็นมนุษย์ (ขุ.สุ.อ. ๒/๗๓๕/๓๓๘)
.

ท่านจงดูโลกนี้เถิด (จะเห็นว่า) สัตว์ทั้งหลายอันอวิชชาหนาแน่นบังหน้าแล้ว ;
และว่า สัตว์ผู้ยินดีในภพอันเป็นแล้วนั้น ย่อมไม่เป็นผู้หลุดพ้นไปจากภพได้.
ก็ภพทั้งหลายเหล่าหนึ่งเหล่าใด อันเป็นไปในที่หรือในเวลาทั้งปวง๒
เพื่อความมีแห่งประโยชน์โดยประการทั้งปวง.
ภพ(ภูมิ)ทั้งหลายทั้งหมดนั้น ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา.
ป.ล.เพราะการเวียนว่ายตายเกิดนั่นเอง (แต่ละภพภูมิเวลาไม่เท่ากัน).ล.ถ้าโลกหมุนรอบตัวเองช้าลง เวลาก็ช้าลงตามไปด้วย.
เมื่อเทียบกับเวลาในสวรรค์ เป็นอย่างไร ?
ดูกรนางวิสาขา ๕๐ ปีซึ่งเป็นของมนุษย์
เป็นคืนหนึ่งกับวันหนึ่งของเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา โดยราตรีนั้น ๓๐ ราตรีเป็นหนึ่งเดือน โดยเดือนนั้น ๑๒ เดือนเป็นหนึ่งปี โดยปีนั้น ๕๐๐ ปีอันเป็นทิพย์เป็นประมาณอายุของเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา (1 วันในสวรรค์ชั้นต่ำสุด = 50 ปีมนุษย์) ....ฯลฯ ....
http://pbs.mcu.ac.th/wp-content/uploads/2018/02/00174_010_2556สารนิพนธ์เรื่องคำถามว่าด้วยเรื่องเวลา-พระมหากฤษณะ-ตรุโณ2cผศ.ดร.127-138.pdf
ป.ล.2 เวลาคือความรู้สึกของผู้สังเกตการณ์ ณ. ขณะนั้น ⌚️🥱🛌😴⏰
.
ว่าด้วยความตาย...
มรณะคือ การจุติ ความเคลื่อน การแตกสลาย การหายไป การวายชีพ การตาย
การทำกาละ การแตกแห่งขันธ์ทั้งหลาย การทอดทิ้งร่าง การขาดแห่งอินทรีย์คือชีวิต
จากสัตวนิกายนั้น ๆ (วิญญาณฐิติ...)ของสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น ๆ ;
นี้ เรียกว่า มรณะ (ความตาย)
.
เพราะเหตุใด ?
“? สัตว์โลกเหล่าใด ไปสู่สังสาระแห่งชาติ และมรณะร่ำไป๑;
ประเดี๋ยวอย่างนั้นประเดี๋ยวอย่างอื่น; ? อวิชชานั่นเอง
แหละ เป็นคติ (เครื่องไป ) ของสัตว์เหล่านั้น ?
ซึ่งมีความเป็นอย่างนี้แล้วเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น๒อยู่บ่อย ๆ ;
? ก็อวิชชานี้แลเป็นความมืดอันใหญ่หลวง คือทำให้สัตว์
ต้องท่องเที่ยวไป ในวัฏฏสงสาร อยู่ตลอดสิ้นกาลนาน.
? สัตว์เหล่าใด ผู้ทำลายกิเลสได้แล้ว
เป็นผู้ไปด้วยวิชชา คือ อรหัตมรรค.
สัตว์เหล่านั้น ย่อมไม่เข้าถึงภพใหม่อีก”.
๑ ยถึงความบังเกิดแห่งขันธ์ มรณะ หมายถึงความแตกสลายแห่งขันธ์
สงสารหมายถึง ลำดับความสืบต่อแห่งขันธ์หรือการเวียนว่ายตายเกิด (ขุ.สุ.อ. ๒/๓๓๘)
๒ สภาวะอย่างนี้และสภาวะอย่างอื่น หมายถึงสภาวะแห่งความเป็นมนุษย์
และความเป็นสัตว์อื่นที่เหลือจากความเป็นมนุษย์ (ขุ.สุ.อ. ๒/๗๓๕/๓๓๘)
.
ท่านจงดูโลกนี้เถิด (จะเห็นว่า) สัตว์ทั้งหลายอันอวิชชาหนาแน่นบังหน้าแล้ว ;
และว่า สัตว์ผู้ยินดีในภพอันเป็นแล้วนั้น ย่อมไม่เป็นผู้หลุดพ้นไปจากภพได้.
ก็ภพทั้งหลายเหล่าหนึ่งเหล่าใด อันเป็นไปในที่หรือในเวลาทั้งปวง๒
เพื่อความมีแห่งประโยชน์โดยประการทั้งปวง.
ภพ(ภูมิ)ทั้งหลายทั้งหมดนั้น ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา.
ป.ล.เพราะการเวียนว่ายตายเกิดนั่นเอง (แต่ละภพภูมิเวลาไม่เท่ากัน).ล.ถ้าโลกหมุนรอบตัวเองช้าลง เวลาก็ช้าลงตามไปด้วย.
เมื่อเทียบกับเวลาในสวรรค์ เป็นอย่างไร ?
ดูกรนางวิสาขา ๕๐ ปีซึ่งเป็นของมนุษย์
เป็นคืนหนึ่งกับวันหนึ่งของเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา โดยราตรีนั้น ๓๐ ราตรีเป็นหนึ่งเดือน โดยเดือนนั้น ๑๒ เดือนเป็นหนึ่งปี โดยปีนั้น ๕๐๐ ปีอันเป็นทิพย์เป็นประมาณอายุของเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา (1 วันในสวรรค์ชั้นต่ำสุด = 50 ปีมนุษย์) ....ฯลฯ ....
http://pbs.mcu.ac.th/wp-content/uploads/2018/02/00174_010_2556สารนิพนธ์เรื่องคำถามว่าด้วยเรื่องเวลา-พระมหากฤษณะ-ตรุโณ2cผศ.ดร.127-138.pdf
ป.ล.2 เวลาคือความรู้สึกของผู้สังเกตการณ์ ณ. ขณะนั้น ⌚️🥱🛌😴⏰
.