สวัสดีค่า ธศรเอง
ห่างหายจากการตั้งกระทู้ไปนานมาก และห่างหายจากการไปต่างประเทศมานานมาก
ก็อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่เนาะ
และเมื่อเริ่มเดินทางได้บ้างแล้ว ทริปแรกที่ออกเดินทาง ธศรก็ออกเดินทางด้วยความ ติ่ง (แฟนคลับ)
ธศรเป็นไป "ติ่ง" ที่อินเดียมาค่ะ ^^
ธศรเดินทางจบไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 แล้ว
แต่เพิ่งได้มาเขียน ไม่รู้ว่ายังจะมีคนอ่านกระทู้ท่องเที่ยวอยู่หรือไม่
เดี๋ยวนี้คนจะนิยมการดูคลิปท่องเที่ยวมากกว่า เพราะตัวเองก็เช่นกัน ><
แต่อยากมาเล่าประสบการณ์
หลัก ๆ คือ อยากบอกว่า
ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวอินเดียได้ น้า....
เผื่อจะเป็นแรงบันดาลใจ เป็นข้อมูลให้คนอยากเดินทางท่องเที่ยว ว่า
เราไปได้ค่า เราทำได้ และรอดด้วย กับอยากตอบแทนบุญคุณ
เพราะการเตรียมตัวก่อนไปเที่ยว ก็อ่านกระทู้เที่ยวบังกาลอร์ และ กัลกัตตา
จากในพันทิปนี้เป็นข้อมูลที่ช่วยได้มากทีเดียวค่า
รวบรัดตัดความเผื่อใครอยากอ่านสั้น ๆ
อินเดียไปเที่ยวคนเดียวได้
“แต่” หรือ “แค่” ต้องเตรียม ทั้งเตรียมตัว เตรียมใจ
เตรียมตัว คือ เตรียมหาข้อมูล เพื่อเป็นทางหนีทีไล่ จะไปเที่ยวแบบไม่รู้อะไรเลย อันนั้นก็เกินไป
เตรียมใจ คือ เปิดใจให้กว้าง เราไปเพื่อเรียนรู้ อะไรดีก็ เอ้อ ดีจัง อะไรไม่ดี ก็ เอ้อ...ผ่าน ๆ มันไป
แนะนำให้ดูคลิป I roam Alone 10 ข้อควรรู้ก่อนไปอินเดีย จะช่วยให้เขาเปิดโลก และเปิดใจ ได้มาก
(แต่เชื่อว่า คนจะไปเที่ยวอินเดีย ก็ต้องมีใจชื่นชอบกันประมาณหนึ่งแหละ มั้ยนะ)
https://www.youtube.com/watch?v=DgRdN_zOaH0
ด้วยความที่เมืองที่ไป คือ บังกาลอร์ ซึ่งมีความเป็นเมือง เมืองมาก ๆ เมืองเหมือนกรุงเทพบ้านดิฉัน
มันจึงไม่ยากมาก คิดว่านะคะ
- บังกาลอร์มีรถไฟฟ้า ขึ้นไม่ยาก ดิฉันตามรอยกระทู้นี้ ขอบคุณมากค่ะ
https://pantip.com/topic/35356162
รถไฟฟ้าราคาไม่แรง สถานีเดียว 10 รูปี ประมาณ 5 บาท ไกลสุดไม่เกิน 60 รูปี
ไปแลกเหรียญเพื่อขึ้นรถบนสถานี เตรียมเงินให้พอดี เขามักไม่มีทอน
(เคยขึ้นสถานีนึง ยื่นธนบัตรไป เขาบอกไม่มีทอน ก็เลยกวาดเหรียญทั้งกระเป๋ามาจ่าย ขาดไป 1รูปี เขาก็ลดให้ค่ะ )
- บังกาลอร์มี Uber (จริง ๆ เขามี Ola ด้วย แต่ใช้ได้เฉพาะเบอร์อินเดียค่ะ)
ติดตั้งแอพ และผูกบัตรเครดิตไว้ตั้งแต่เมืองไทยค่ะ เพราะรู้มาว่า เขามักไม่ทอนเหรียญ
แต่เตรียมเงินสดเผื่อไว้ก็ดีนะคะ เผื่อฉุกเฉิน บัตรตัดไม่ได้ เพราะโดนมาแล้ว
การใช้ Uber ดีตรงไม่ต้องพูดกันเยอะ ปักหมุด หรือ พิมพ์ชื่อสถานที่ที่เราจะไป
แต่ควรตรวจสอบให้ดีว่า เขียนถูก เราต้องหาข้อมูลไปบ้างว่า ห้างนั้น วัดนั้น อยู่แถว ๆ ไหน ถนนอะไร
ปักหมุดผิดที่ นี่ยุ่งเลยนะคะ
จากนั้นก็กดเรียก ยืนรอรถ พอเทียบเลขทะเบียนตรงกันก็ขึ้นเลยค่ะ
จะลำบากก็ตอนที่หารถไม่เจอ คนขับก็พยายามจะโทรเรา
ซึ่งแน่นอนคุยกันไม่รู้เรื่อง โอ้ย ชีวิต หรือบางคนแนะนำว่า ให้เปิดแอพเพื่อเทียบราคา
แล้วก็โบกรถ Taxi หรือสามล้อม ที่ผ่านไปมาเอา
ซึ่งไม่เคยทำนะคะ ใช้วิธีกดเรียกแล้วก็ยืนรอตลอด
ขึ้น Taxi ปุ๊ปก็บอก A/C please เปิดแอร์ให้หน่อยค่า
ซึ่งทุกคันเปิดแอร์ให้นะคะ
- คนที่บังกาลอร์พูดภาษาอังกฤษ ถ้าใครพูดคล่อง คือ คล่องเลย คล่องจนฟังไม่ออก
ก็ได้แต่ตอบ โอเค อะไรก็ได้ เอามาเลย
นี่โดนตั้งแต่ ตม. ศุลกากร จนถึงพนักงานส่งไปรษณีย์ พูดรัว ๆ ใส่จนท้อใจ
ภาษาอังกฤษเราแย่มากจริง ๆ แต่สุดท้ายก็รอดมาได้ค่ะ ไม่ต้องกลัว
เขาถามจนเหนื่อย เขาก็เลิกถามไปเอง
ก็ได้เหรอ ><
ถ้าไม่ฟังออกก็แค่ถามซ้ำ ไม่อย่างนั้นก็ยื่นกระดาษที่เราจดข้อมูลมาให้เขาไปเลย หรือเปิดรูปให้ดูก็ได้
- ห้องน้ำ เป็นสิ่งหนึ่งที่กลัว แต่ได้เข้าห้องน้ำทั้งในสนามบิน สถานีรถไฟฟ้า กับ ร้านอาหาร
สะอาดค่ะ ไม่มีกลิ่น ห้องน้ำที่เจอเป็นชักโครก มีสายชำระ มีน้ำให้ล้างมือ
แต่ไม่มีกระดาษชำระ กับไม่มีถังขยะในห้องน้ำค่ะ
- โควิด19 เอ่อ พูดยังไงดี ไม่ต้องไปกลัวเขาหรอกค่ะ
ดิฉันบอกตัวเองว่า ฉันอยู่ในประเทศที่ฉีดวัคซีน 4 เข็ม
สวมหน้ากากอนามัย แม้กระทั่งอยู่ในบ้าน
พ่นแอลกอฮอล์ใส่ทุกสิ่ง ยังติดเลยค่ะ ไม่มีหน้าไประแวงเขาเลยค่ะ
แต่เผื่อแจคพอตระหว่างทาง ก็เตรียม ฟ้าทะลายโจร ที่พอกินสำหรับครบโดสค่ะ
- ร้านค้าบางร้าน อาจไม่ค่อยทอนเหรียญ เราอาจได้เงินทอนเป็นลูกอม
หรือขนมห่อเล็ก ๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจค่ะ
ขึ้นรถ taxi หรือ รถรับจ้าง ก็เช่นกันเขาอาจปัดเศษ
หรือไม่ก็ทอนเท่าที่เขามี ก็ตามนั้นค่ะ
- ราคาสินค้าทุกอย่าง จะถูกตีไว้บนฉลาก บนขวด บนกล่อง เลยค่ะ
ลองหมุน ๆ หา Rs. ตามด้วยตัวเลขดูค่ะ
จะได้ทราบราคาเบื้องต้น ก่อนไปชำระเงินค่ะ
ที่นี่ก็ไม่แจกถุงพลาสติก หลอดดูดน้ำ ก็ใช้หลอดกระดาษค่ะ
- ปลั๊กไฟ ที่นี่ต้องเปิดสวิตซ์ด้วยนะคะ ไม่งั้นไฟไม่เข้า
แล้วตอนปิดไฟก่อนเข้านอนก็ระวัง อย่าปิดสวิตซ์ที่ปล่อยไฟเข้าปลั๊กนะคะ
- ที่บังกาลอร์ไม่ใช้ไม้แขวนเสื้อ ><
ในโรงแรมมีตู้เสื้อผ้า แต่ไม่มีไม้แขวน
ผ่านร้านขายของชำ ที่ไปบ่อยจนเขาจำได้ เปิดรูปให้ดูว่า เราอยากได้ไม้แขวนเสื้อ เขาไม่มีขาย
เข้าห้างใหญ่ ก็ตรงไปซุปเปอร์ เลย มีอุปกรณ์ซักผ้าขาย แต่ไม่มีไม้แขวน แนะนำให้พกไปเองค่ะ
- สนามบินอินเดีย “ดู” เหมือนจะไม่เคร่งเรื่องน้ำหนักกระเป๋า มั้ง
เจ้าหน้าที่ดูผ่าน ๆ ผ่านมาก ๆ และพกน้ำขึ้นเครื่องบินได้
แต่การตรวจกระเป๋าและร่างกาย ละเอียดมาก เผื่อเวลาด้วยนะคะ
- การเข้าสถานีรถไฟฟ้า ตอนที่ไปบังคับสวมหน้ากาก (แต่พอเข้ามาในขบวน คนก็ถอดออก แฮ่)
และมีการตรวจแสกนกระเป๋า แบบจริงจัง ตรวจร่างกายก็จริงจัง ผู้หญิงจะมีห้องแยก มีผ้าม่านกั้น มีตำรวจหญิงตรวจให้
- รถไฟฟ้า ตู้แรกสุดเป็นตู้สำหรับผู้หญิงค่ะ Lady only
ผู้หญิงไปขึ้นตู้นั้นได้ แต่เดินไกลหน่อยนะคะ
- คน ไม่มีกลิ่นนะคะ
เอาจริง ไปมาทั้งบังกาลอร์ กัลกัตตา ทริปนี้
ทั้งเดลี อักรา ชัยปุระ ทริปก่อน ก็ไม่เจอกลิ่นที่ร่ำลือกันค่ะ
- เวลาที่อินเดีย ช้ากว่าไทย 1.30 ชั่วโมงค่ะ อย่าลืมปรับนาฬิกา แต่ปัจจุบันไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่
เพราะถ้าโทรศัพท์มือถือ จับสัญญาณของที่นั่นได้ ก็ปรับเวลาให้อัตโนมัติ
- บังกาลอร์ไม่ได้น่ากลัวนะคะ หลังจากเที่ยวไป 1 วัน กลับเข้าที่พัก
ก็นึกในใจ และบอกเพื่อนว่า ชอบนะ ถ้าให้มาอีกก็มาได้
ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปอีกค่ะ
ข้อมูลเที่ยวบังกาลอร์รวม ๆ ดิฉันอ่านและดูจากที่นี่ค่ะ
https://pantip.com/topic/38041330
และวีดิโอของท่านนี้ ใช้เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมไปให้พอรู้เหนือรู้ใต้
พอรู้ว่าบ้านเมืองเขาเป็นแบบไหน ถนนหนทาง ร้านอาหาร ผู้คน
https://www.youtube.com/watch?v=C0gREatFqrI
หลังจากนี้จะเป็นเรื่องของความติ่งค่า การเดินทางแรกหลังจากโควิด 19 เพื่อไปหาพระเอกที่ดิฉันดูละครของเขามากว่า 2 ปี อยากเล่าให้ฟังค่า
เล่าประสบการณ์ไปเป็น "ติ่ง" ที่อินเดีย : เที่ยวบังกาลอร์ 2022
ห่างหายจากการตั้งกระทู้ไปนานมาก และห่างหายจากการไปต่างประเทศมานานมาก
ก็อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่เนาะ
และเมื่อเริ่มเดินทางได้บ้างแล้ว ทริปแรกที่ออกเดินทาง ธศรก็ออกเดินทางด้วยความ ติ่ง (แฟนคลับ)
ธศรเป็นไป "ติ่ง" ที่อินเดียมาค่ะ ^^
ธศรเดินทางจบไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 แล้ว
แต่เพิ่งได้มาเขียน ไม่รู้ว่ายังจะมีคนอ่านกระทู้ท่องเที่ยวอยู่หรือไม่
เดี๋ยวนี้คนจะนิยมการดูคลิปท่องเที่ยวมากกว่า เพราะตัวเองก็เช่นกัน ><
แต่อยากมาเล่าประสบการณ์
หลัก ๆ คือ อยากบอกว่า ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวอินเดียได้ น้า....
เผื่อจะเป็นแรงบันดาลใจ เป็นข้อมูลให้คนอยากเดินทางท่องเที่ยว ว่า
เราไปได้ค่า เราทำได้ และรอดด้วย กับอยากตอบแทนบุญคุณ
เพราะการเตรียมตัวก่อนไปเที่ยว ก็อ่านกระทู้เที่ยวบังกาลอร์ และ กัลกัตตา
จากในพันทิปนี้เป็นข้อมูลที่ช่วยได้มากทีเดียวค่า
รวบรัดตัดความเผื่อใครอยากอ่านสั้น ๆ
อินเดียไปเที่ยวคนเดียวได้
“แต่” หรือ “แค่” ต้องเตรียม ทั้งเตรียมตัว เตรียมใจ
เตรียมตัว คือ เตรียมหาข้อมูล เพื่อเป็นทางหนีทีไล่ จะไปเที่ยวแบบไม่รู้อะไรเลย อันนั้นก็เกินไป
เตรียมใจ คือ เปิดใจให้กว้าง เราไปเพื่อเรียนรู้ อะไรดีก็ เอ้อ ดีจัง อะไรไม่ดี ก็ เอ้อ...ผ่าน ๆ มันไป
แนะนำให้ดูคลิป I roam Alone 10 ข้อควรรู้ก่อนไปอินเดีย จะช่วยให้เขาเปิดโลก และเปิดใจ ได้มาก
(แต่เชื่อว่า คนจะไปเที่ยวอินเดีย ก็ต้องมีใจชื่นชอบกันประมาณหนึ่งแหละ มั้ยนะ)
https://www.youtube.com/watch?v=DgRdN_zOaH0
ด้วยความที่เมืองที่ไป คือ บังกาลอร์ ซึ่งมีความเป็นเมือง เมืองมาก ๆ เมืองเหมือนกรุงเทพบ้านดิฉัน
มันจึงไม่ยากมาก คิดว่านะคะ
- บังกาลอร์มีรถไฟฟ้า ขึ้นไม่ยาก ดิฉันตามรอยกระทู้นี้ ขอบคุณมากค่ะ
https://pantip.com/topic/35356162
รถไฟฟ้าราคาไม่แรง สถานีเดียว 10 รูปี ประมาณ 5 บาท ไกลสุดไม่เกิน 60 รูปี
ไปแลกเหรียญเพื่อขึ้นรถบนสถานี เตรียมเงินให้พอดี เขามักไม่มีทอน
(เคยขึ้นสถานีนึง ยื่นธนบัตรไป เขาบอกไม่มีทอน ก็เลยกวาดเหรียญทั้งกระเป๋ามาจ่าย ขาดไป 1รูปี เขาก็ลดให้ค่ะ )
- บังกาลอร์มี Uber (จริง ๆ เขามี Ola ด้วย แต่ใช้ได้เฉพาะเบอร์อินเดียค่ะ)
ติดตั้งแอพ และผูกบัตรเครดิตไว้ตั้งแต่เมืองไทยค่ะ เพราะรู้มาว่า เขามักไม่ทอนเหรียญ
แต่เตรียมเงินสดเผื่อไว้ก็ดีนะคะ เผื่อฉุกเฉิน บัตรตัดไม่ได้ เพราะโดนมาแล้ว
การใช้ Uber ดีตรงไม่ต้องพูดกันเยอะ ปักหมุด หรือ พิมพ์ชื่อสถานที่ที่เราจะไป
แต่ควรตรวจสอบให้ดีว่า เขียนถูก เราต้องหาข้อมูลไปบ้างว่า ห้างนั้น วัดนั้น อยู่แถว ๆ ไหน ถนนอะไร
ปักหมุดผิดที่ นี่ยุ่งเลยนะคะ
จากนั้นก็กดเรียก ยืนรอรถ พอเทียบเลขทะเบียนตรงกันก็ขึ้นเลยค่ะ
จะลำบากก็ตอนที่หารถไม่เจอ คนขับก็พยายามจะโทรเรา
ซึ่งแน่นอนคุยกันไม่รู้เรื่อง โอ้ย ชีวิต หรือบางคนแนะนำว่า ให้เปิดแอพเพื่อเทียบราคา
แล้วก็โบกรถ Taxi หรือสามล้อม ที่ผ่านไปมาเอา
ซึ่งไม่เคยทำนะคะ ใช้วิธีกดเรียกแล้วก็ยืนรอตลอด
ขึ้น Taxi ปุ๊ปก็บอก A/C please เปิดแอร์ให้หน่อยค่า
ซึ่งทุกคันเปิดแอร์ให้นะคะ
- คนที่บังกาลอร์พูดภาษาอังกฤษ ถ้าใครพูดคล่อง คือ คล่องเลย คล่องจนฟังไม่ออก
ก็ได้แต่ตอบ โอเค อะไรก็ได้ เอามาเลย
นี่โดนตั้งแต่ ตม. ศุลกากร จนถึงพนักงานส่งไปรษณีย์ พูดรัว ๆ ใส่จนท้อใจ
ภาษาอังกฤษเราแย่มากจริง ๆ แต่สุดท้ายก็รอดมาได้ค่ะ ไม่ต้องกลัว
เขาถามจนเหนื่อย เขาก็เลิกถามไปเอง
ก็ได้เหรอ ><
ถ้าไม่ฟังออกก็แค่ถามซ้ำ ไม่อย่างนั้นก็ยื่นกระดาษที่เราจดข้อมูลมาให้เขาไปเลย หรือเปิดรูปให้ดูก็ได้
- ห้องน้ำ เป็นสิ่งหนึ่งที่กลัว แต่ได้เข้าห้องน้ำทั้งในสนามบิน สถานีรถไฟฟ้า กับ ร้านอาหาร
สะอาดค่ะ ไม่มีกลิ่น ห้องน้ำที่เจอเป็นชักโครก มีสายชำระ มีน้ำให้ล้างมือ
แต่ไม่มีกระดาษชำระ กับไม่มีถังขยะในห้องน้ำค่ะ
- โควิด19 เอ่อ พูดยังไงดี ไม่ต้องไปกลัวเขาหรอกค่ะ
ดิฉันบอกตัวเองว่า ฉันอยู่ในประเทศที่ฉีดวัคซีน 4 เข็ม
สวมหน้ากากอนามัย แม้กระทั่งอยู่ในบ้าน
พ่นแอลกอฮอล์ใส่ทุกสิ่ง ยังติดเลยค่ะ ไม่มีหน้าไประแวงเขาเลยค่ะ
แต่เผื่อแจคพอตระหว่างทาง ก็เตรียม ฟ้าทะลายโจร ที่พอกินสำหรับครบโดสค่ะ
- ร้านค้าบางร้าน อาจไม่ค่อยทอนเหรียญ เราอาจได้เงินทอนเป็นลูกอม
หรือขนมห่อเล็ก ๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจค่ะ
ขึ้นรถ taxi หรือ รถรับจ้าง ก็เช่นกันเขาอาจปัดเศษ
หรือไม่ก็ทอนเท่าที่เขามี ก็ตามนั้นค่ะ
- ราคาสินค้าทุกอย่าง จะถูกตีไว้บนฉลาก บนขวด บนกล่อง เลยค่ะ
ลองหมุน ๆ หา Rs. ตามด้วยตัวเลขดูค่ะ
จะได้ทราบราคาเบื้องต้น ก่อนไปชำระเงินค่ะ
ที่นี่ก็ไม่แจกถุงพลาสติก หลอดดูดน้ำ ก็ใช้หลอดกระดาษค่ะ
- ปลั๊กไฟ ที่นี่ต้องเปิดสวิตซ์ด้วยนะคะ ไม่งั้นไฟไม่เข้า
แล้วตอนปิดไฟก่อนเข้านอนก็ระวัง อย่าปิดสวิตซ์ที่ปล่อยไฟเข้าปลั๊กนะคะ
- ที่บังกาลอร์ไม่ใช้ไม้แขวนเสื้อ ><
ในโรงแรมมีตู้เสื้อผ้า แต่ไม่มีไม้แขวน
ผ่านร้านขายของชำ ที่ไปบ่อยจนเขาจำได้ เปิดรูปให้ดูว่า เราอยากได้ไม้แขวนเสื้อ เขาไม่มีขาย
เข้าห้างใหญ่ ก็ตรงไปซุปเปอร์ เลย มีอุปกรณ์ซักผ้าขาย แต่ไม่มีไม้แขวน แนะนำให้พกไปเองค่ะ
- สนามบินอินเดีย “ดู” เหมือนจะไม่เคร่งเรื่องน้ำหนักกระเป๋า มั้ง
เจ้าหน้าที่ดูผ่าน ๆ ผ่านมาก ๆ และพกน้ำขึ้นเครื่องบินได้
แต่การตรวจกระเป๋าและร่างกาย ละเอียดมาก เผื่อเวลาด้วยนะคะ
- การเข้าสถานีรถไฟฟ้า ตอนที่ไปบังคับสวมหน้ากาก (แต่พอเข้ามาในขบวน คนก็ถอดออก แฮ่)
และมีการตรวจแสกนกระเป๋า แบบจริงจัง ตรวจร่างกายก็จริงจัง ผู้หญิงจะมีห้องแยก มีผ้าม่านกั้น มีตำรวจหญิงตรวจให้
- รถไฟฟ้า ตู้แรกสุดเป็นตู้สำหรับผู้หญิงค่ะ Lady only
ผู้หญิงไปขึ้นตู้นั้นได้ แต่เดินไกลหน่อยนะคะ
- คน ไม่มีกลิ่นนะคะ
เอาจริง ไปมาทั้งบังกาลอร์ กัลกัตตา ทริปนี้
ทั้งเดลี อักรา ชัยปุระ ทริปก่อน ก็ไม่เจอกลิ่นที่ร่ำลือกันค่ะ
- เวลาที่อินเดีย ช้ากว่าไทย 1.30 ชั่วโมงค่ะ อย่าลืมปรับนาฬิกา แต่ปัจจุบันไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่
เพราะถ้าโทรศัพท์มือถือ จับสัญญาณของที่นั่นได้ ก็ปรับเวลาให้อัตโนมัติ
- บังกาลอร์ไม่ได้น่ากลัวนะคะ หลังจากเที่ยวไป 1 วัน กลับเข้าที่พัก
ก็นึกในใจ และบอกเพื่อนว่า ชอบนะ ถ้าให้มาอีกก็มาได้
ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปอีกค่ะ
ข้อมูลเที่ยวบังกาลอร์รวม ๆ ดิฉันอ่านและดูจากที่นี่ค่ะ
https://pantip.com/topic/38041330
และวีดิโอของท่านนี้ ใช้เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมไปให้พอรู้เหนือรู้ใต้
พอรู้ว่าบ้านเมืองเขาเป็นแบบไหน ถนนหนทาง ร้านอาหาร ผู้คน
https://www.youtube.com/watch?v=C0gREatFqrI