ผมเป็นนักเรียนม.6คนนึงที่เครียดมากๆครับ ช่วงนี้จะสอบเรียนต่อแล้ว มีแต่ปัญหาเข้ามาถาโถม
หลายๆสิ่งชอบทำให้ผมไขว้เขว ทั้งคำพูดบั่นทอนกำลังใจ ทั้งหลายสิ่งหลายอย่าง ผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ ผู้ปกครองผมก็มาบอกว่าอ่านจริงเปล่า มัวแต่เล่นโทรศัพท์บ้าง อะไรบ้าง หรือหนักสุดก็บอกว่าผมติดยา ติดพนันออนไลน์ ชอบเอาผมไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ลูกบ้านโน่นเรียนนั่นเรียนนี่
แม้ที่บ้านก็เข้าใจตรงที่อยากให้เรียนอะไรก็ได้ แต่ก็แอบมีความคาดหวังเล็กๆ อารมณ์ประมาณว่าถ้าผมเรียนอันนี้ก็จะมีความผิดหวังในตัวผมนิดนึง คำพูดที่เหมือนจะเป็นกำลังใจก็กลับกลายเป็นเหมือนหนามทิ่มแทงใจให้ผมปวดร้าวไปทุกวัน ประโยคที่ว่า “ถ้ามีบุญเดี๋ยวก็ได้เองแหละ” มันทำให้ผมคิดว่าชีวิตนี้คงไม่มีความหวังพึ่งสิ่งต่างๆแล้วนอกจากบุญกุศล
ก่อนหน้านี้ผมยื่นแฟ้มสะสมผลงาน หรือ พอร์ตฟอลิโอไปที่มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ซึ่งตอนประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สัมภาษณ์ผมก็ดีใจมาก วันนั้นผมกลับไปบอกที่บ้านว่าติด แต่สิ่งที่ตอบกลับมาก็ทำให้ผมไม่มีแรงจูงใจที่จะเข้ารับการสัมภาษณ์
ผมเข้าใจนะว่าที่บ้านหวังดี อยากให้เรียนอะไรก็ได้ แต่สุดท้ายก็เสนอแนวทางให้ผมศึกษาต่อตามคณะที่เขาอยากให้เรียนอยู่ดี ซึ่งก็หนีไม่พ้นคณะแพทย์ ครับ
หลังจากนั้นผมก็เครียดหนักเข้ากว่าเดิม พยายามคิดทุกวันว่าเราจะเรียนหมอได้หรอ จะรอดมั้ย เราชอบจริงหรือแค่ที่บ้านอยากให้เรียน ผมเครียดจนไม่มีจิตใจจะอ่านหนังสือ
ผมไม่เคยเข้าใจความรู้สึกเด็กม.6มาก่อน จนตัวเองได้มาอยู่ในจุดๆนี้ จุดที่มันพูดอะไรมากไม่ได้ จุดที่ไม่มีแรงจะใช้ชีวิตต่อ จุดที่ต้องถามตัวเองตลอดว่า “เราโตมาทำไมกันนะ” ถ้าเราไม่อยู่ ภาระก็คงจะน้อยลงเป็นเท่าตัว
วันสองวันที่ผ่านมา ผมโดนจู้จี้จากการถามเรื่องต่างๆจนผมเกิดความหงุดหงิดบวกกับความเครียดเป็นทุนเดิม ทำให้ผมตอบกลับคำถามต่างๆที่ถามมาด้วยน้ำเสียงตะคอก ตอบกลับห้วนๆ และอย่างที่บอกว่าที่บ้านมองว่าผมเหมือนคนติดยา ติดพนันออนไลน์ ในขณะที่ผมนั่งตรวจข้อสอบที่ทำอยู่ ซึ่งตอนนั้นทั้งเครียดทั้งเฟลกับคะแนนที่ได้ เมื่อได้ยินประโยคเหล่านี้ทำให้ผมอุทานออกมาเสียงดังว่า “โอ้ย” จนทุกอย่างเงียบลง..
นับจากตอนนั้นผมก็สงบสติอารมณ์ลง และเข้าสู่ความเงียบโดยที่ในใจยังรู้สึกผิดที่ทำอะไรลงไป
จนผมได้มานั่งเรียบเรียงลงพันทิปเพื่อที่หวังว่าจะมีสักคนนึงที่ช่วยให้คำแนะนำ หรือกำลังใจกับผม
ผมควรจะใช้ชีวิตยังไงต่อ ผมควรจะทำยังไง ในใจผมหว้าวุ่นเหลือเกิน แต่ผมก็ยังคิดว่าถ้าอยู่ต่อชีวิตในวัยทำงานคงจะยากกว่านี้ แต่ถ้าไม่อยู่ ชีวิตหลังความตายก็คงจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับ แต่ก็คงจะไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับคนอื่น ..
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ครับ
ช่วยด้วยครับ เครียด
หลายๆสิ่งชอบทำให้ผมไขว้เขว ทั้งคำพูดบั่นทอนกำลังใจ ทั้งหลายสิ่งหลายอย่าง ผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ ผู้ปกครองผมก็มาบอกว่าอ่านจริงเปล่า มัวแต่เล่นโทรศัพท์บ้าง อะไรบ้าง หรือหนักสุดก็บอกว่าผมติดยา ติดพนันออนไลน์ ชอบเอาผมไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ลูกบ้านโน่นเรียนนั่นเรียนนี่
แม้ที่บ้านก็เข้าใจตรงที่อยากให้เรียนอะไรก็ได้ แต่ก็แอบมีความคาดหวังเล็กๆ อารมณ์ประมาณว่าถ้าผมเรียนอันนี้ก็จะมีความผิดหวังในตัวผมนิดนึง คำพูดที่เหมือนจะเป็นกำลังใจก็กลับกลายเป็นเหมือนหนามทิ่มแทงใจให้ผมปวดร้าวไปทุกวัน ประโยคที่ว่า “ถ้ามีบุญเดี๋ยวก็ได้เองแหละ” มันทำให้ผมคิดว่าชีวิตนี้คงไม่มีความหวังพึ่งสิ่งต่างๆแล้วนอกจากบุญกุศล
ก่อนหน้านี้ผมยื่นแฟ้มสะสมผลงาน หรือ พอร์ตฟอลิโอไปที่มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ซึ่งตอนประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สัมภาษณ์ผมก็ดีใจมาก วันนั้นผมกลับไปบอกที่บ้านว่าติด แต่สิ่งที่ตอบกลับมาก็ทำให้ผมไม่มีแรงจูงใจที่จะเข้ารับการสัมภาษณ์
ผมเข้าใจนะว่าที่บ้านหวังดี อยากให้เรียนอะไรก็ได้ แต่สุดท้ายก็เสนอแนวทางให้ผมศึกษาต่อตามคณะที่เขาอยากให้เรียนอยู่ดี ซึ่งก็หนีไม่พ้นคณะแพทย์ ครับ
หลังจากนั้นผมก็เครียดหนักเข้ากว่าเดิม พยายามคิดทุกวันว่าเราจะเรียนหมอได้หรอ จะรอดมั้ย เราชอบจริงหรือแค่ที่บ้านอยากให้เรียน ผมเครียดจนไม่มีจิตใจจะอ่านหนังสือ
ผมไม่เคยเข้าใจความรู้สึกเด็กม.6มาก่อน จนตัวเองได้มาอยู่ในจุดๆนี้ จุดที่มันพูดอะไรมากไม่ได้ จุดที่ไม่มีแรงจะใช้ชีวิตต่อ จุดที่ต้องถามตัวเองตลอดว่า “เราโตมาทำไมกันนะ” ถ้าเราไม่อยู่ ภาระก็คงจะน้อยลงเป็นเท่าตัว
วันสองวันที่ผ่านมา ผมโดนจู้จี้จากการถามเรื่องต่างๆจนผมเกิดความหงุดหงิดบวกกับความเครียดเป็นทุนเดิม ทำให้ผมตอบกลับคำถามต่างๆที่ถามมาด้วยน้ำเสียงตะคอก ตอบกลับห้วนๆ และอย่างที่บอกว่าที่บ้านมองว่าผมเหมือนคนติดยา ติดพนันออนไลน์ ในขณะที่ผมนั่งตรวจข้อสอบที่ทำอยู่ ซึ่งตอนนั้นทั้งเครียดทั้งเฟลกับคะแนนที่ได้ เมื่อได้ยินประโยคเหล่านี้ทำให้ผมอุทานออกมาเสียงดังว่า “โอ้ย” จนทุกอย่างเงียบลง..
นับจากตอนนั้นผมก็สงบสติอารมณ์ลง และเข้าสู่ความเงียบโดยที่ในใจยังรู้สึกผิดที่ทำอะไรลงไป
จนผมได้มานั่งเรียบเรียงลงพันทิปเพื่อที่หวังว่าจะมีสักคนนึงที่ช่วยให้คำแนะนำ หรือกำลังใจกับผม
ผมควรจะใช้ชีวิตยังไงต่อ ผมควรจะทำยังไง ในใจผมหว้าวุ่นเหลือเกิน แต่ผมก็ยังคิดว่าถ้าอยู่ต่อชีวิตในวัยทำงานคงจะยากกว่านี้ แต่ถ้าไม่อยู่ ชีวิตหลังความตายก็คงจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับ แต่ก็คงจะไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับคนอื่น ..
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ครับ