ถ้าพูดถึงสิ่งที่เรียกว่า ความรัก และ ชีวิตคู่
ใครๆก็พูดว่ามันเป็นเรื่องของ บุพเพสันนิวาส หรือ บุญพาวาสนา ที่ทำให้คนสองคนมาเจอกัน (โดยที่ไม่ต้องทำอะไร หรือพยายามอะไรเลย)
หากวันหนึ่งในชีวิตจริง เราบังเอิญได้พบที่คนถูกใจ และต่างคนก็ต่างพึงพอใจซึ่งกันและกัน
เจอกันในระยะเวลาช่วงหนึ่ง และแยกย้ายกันไป โดยที่ไม่ได้สร้างความสัมพันธ์อะไรเลย
เหลือเพียงแค่ความรู้สึกดีๆ ความทรงจำที่มีต่อกัน เพราะเชื่อว่า ถ้ามันใช่ มันจะใช่เอง
หรือ เชื่อว่า วันนึงเราจะมีเหตุการณ์ที่วนกลับมาเจอกัน และรักกันในที่สุด โดยที่เรานั้นไม่ต้องทำอะไร
ความเชื่อแบบนี้ มันถูกต้องหรือครับ
มันเป็นหลักของความจริง หรือว่าเป็นเพียงแค่ในนิยาย หรือละครที่คนแต่งขึ้น หรือพูดต่อๆกันมาครับ
หากเราอยู่เฉยๆ ไม่ต้องพยายาม ไม่ต้องตามหา ไม่ต้องเปิดใจคุยกับใครก่อน
หรือไม่ต้องอดทนที่จะเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
(มีความเชื่อว่า ถ้ามันใช่ มันใช่ไปตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ต้องรอเวลา) ความคิดนี้อันตรายไหมครับ
ผมยังรอคนใครบางคน ที่หวังจะมาเติมเต็มซึ่งกันและกัน (รอคอยคนในอนาคต)
โดยปัจจุบัน จะโฟกัสไปที่เรื่องงาน และการสร้างชีวิตส่วนตัวเป็นหลัก
เพราะคิดมาเสมอว่า ถ้าวันนึง เราดีพอ (มีทัศนคติดี เป็นคนดี หน้าที่การงาน-ฐานะดี มีพร้อมทุกอย่าง)
เราจะสามารถเลือกคนดีๆ และคนที่ดีพอที่สามารถเข้ากับเราได้ มาอยู่ข้างๆเราเอง
แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจในความเชื่อ และทัศนคติของผม 100%
เพราะจากการเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่น และคิดเอาเองในบางครั้ง
บางทีเราปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปนานนับสิบๆปี จนอายุ 40 50 ปี ถึงเวลานั้น เรายังจะมานั่งตั้งคำถามนี้อยู่ไหม
ว่าทำไมเรามีพร้อมขนาดนี้แล้ว ยังไม่มีใครอยู่ข้างๆเราอีก
ผมไม่แน่ใจเลยว่า ผมควรจะ Balance ชีวิตตัวเองอย่างไรดี
ผมสนใจคนรอบข้างน้อยมาก หลุดจากวงโคจรเพื่อน ไม่ค่อยได้คุยกับครอบครัว ไม่หาแฟน ไม่หาคนคุย
โฟกัสที่ตัวเองอย่างเดียว (ทำแต่งาน และการพัฒนาตัวเอง รวมถึงดูแลสุขภาพตัวเอง) แบบนี้ผมทำผิดไปไหมครับ
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นล่วงหน้านะครับ
หากมีความเชื่อว่า ความรัก เป็นสิ่งที่เราไม่ต้องลงมือทำอะไรเลย ผลสุดท้ายมันจะเป็นอย่างไรครับ
ใครๆก็พูดว่ามันเป็นเรื่องของ บุพเพสันนิวาส หรือ บุญพาวาสนา ที่ทำให้คนสองคนมาเจอกัน (โดยที่ไม่ต้องทำอะไร หรือพยายามอะไรเลย)
หากวันหนึ่งในชีวิตจริง เราบังเอิญได้พบที่คนถูกใจ และต่างคนก็ต่างพึงพอใจซึ่งกันและกัน
เจอกันในระยะเวลาช่วงหนึ่ง และแยกย้ายกันไป โดยที่ไม่ได้สร้างความสัมพันธ์อะไรเลย
เหลือเพียงแค่ความรู้สึกดีๆ ความทรงจำที่มีต่อกัน เพราะเชื่อว่า ถ้ามันใช่ มันจะใช่เอง
หรือ เชื่อว่า วันนึงเราจะมีเหตุการณ์ที่วนกลับมาเจอกัน และรักกันในที่สุด โดยที่เรานั้นไม่ต้องทำอะไร
ความเชื่อแบบนี้ มันถูกต้องหรือครับ
มันเป็นหลักของความจริง หรือว่าเป็นเพียงแค่ในนิยาย หรือละครที่คนแต่งขึ้น หรือพูดต่อๆกันมาครับ
หากเราอยู่เฉยๆ ไม่ต้องพยายาม ไม่ต้องตามหา ไม่ต้องเปิดใจคุยกับใครก่อน
หรือไม่ต้องอดทนที่จะเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
(มีความเชื่อว่า ถ้ามันใช่ มันใช่ไปตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ต้องรอเวลา) ความคิดนี้อันตรายไหมครับ
ผมยังรอคนใครบางคน ที่หวังจะมาเติมเต็มซึ่งกันและกัน (รอคอยคนในอนาคต)
โดยปัจจุบัน จะโฟกัสไปที่เรื่องงาน และการสร้างชีวิตส่วนตัวเป็นหลัก
เพราะคิดมาเสมอว่า ถ้าวันนึง เราดีพอ (มีทัศนคติดี เป็นคนดี หน้าที่การงาน-ฐานะดี มีพร้อมทุกอย่าง)
เราจะสามารถเลือกคนดีๆ และคนที่ดีพอที่สามารถเข้ากับเราได้ มาอยู่ข้างๆเราเอง
แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจในความเชื่อ และทัศนคติของผม 100%
เพราะจากการเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่น และคิดเอาเองในบางครั้ง
บางทีเราปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปนานนับสิบๆปี จนอายุ 40 50 ปี ถึงเวลานั้น เรายังจะมานั่งตั้งคำถามนี้อยู่ไหม
ว่าทำไมเรามีพร้อมขนาดนี้แล้ว ยังไม่มีใครอยู่ข้างๆเราอีก
ผมไม่แน่ใจเลยว่า ผมควรจะ Balance ชีวิตตัวเองอย่างไรดี
ผมสนใจคนรอบข้างน้อยมาก หลุดจากวงโคจรเพื่อน ไม่ค่อยได้คุยกับครอบครัว ไม่หาแฟน ไม่หาคนคุย
โฟกัสที่ตัวเองอย่างเดียว (ทำแต่งาน และการพัฒนาตัวเอง รวมถึงดูแลสุขภาพตัวเอง) แบบนี้ผมทำผิดไปไหมครับ
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นล่วงหน้านะครับ