ทีมศก.เพื่อไทย ออกโรงยันพูดแล้วทำได้จริง
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_464449/
ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ยืนยันพูดแล้วทำได้จริง ขอประชาชนมั่นใจ ย้ำเคยทำสำเร็จมาแล้วในอดีต โวเป็นพรรคเดียวที่ประกาศแล้วทำได้
ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย นำโดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นาย
เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส. จ.เลย นาย
เอกชัย ทรงอำนาจเจริญ ส.ส. จ.อุบลราชธานี และ น.ส
จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าว “
นโยบายเพื่อไทย พูดแล้วทำได้จริง คิดใหญ่ ทำเป็น”
โดยนาย
พิชัย กล่าวว่า ตามที่นางสาว
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยได้ประกาศนโยบายของพรรคเพื่อไทยหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ อยากให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย สามารถทำได้จริงตามที่ได้ประกาศอย่างแน่นอน และเป็นการคิดใหญ่ ทำเป็น เพราะเคยทำสำเร็จมาแล้วทุกนโยบายในอดีต เรียกได้ว่า พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคการเมืองเดียวที่ประกาศนโยบายแล้วทำได้จริง ไม่เหมือนหลายพรรคที่ประกาศนโยบายแต่ทำไม่ได้ หรือทำไม่เป็น เป็นต้น
โดยเฉพาะนโยบายที่เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาก คือ นโยบายค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 บาท ในปี 2570 หรือ อีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งสามารถทำได้จริง ถ้าประเทศไทยสามารถขยายเศรษฐกิจปีละ 5% ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ทั้งนี้ การขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 600 บาทในอีก 5 ปีข้างหน้า จะทำให้ประเทศไทยมีการกระจายรายได้และลดความเหลื่อมล้ำ อีกทั้งจะผลักดันให้ประเทศไทยต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้พัฒนาสร้างงานและดึงดูดการลงทุนที่จะสามารถรับค่าแรงในระดับนั้นได้ และจะเร่งให้ไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางเร็วขึ้น
อีกนโยบายที่มีความสำคัญและเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนได้ทันที คือ นโยบายที่จะลดราคา น้ำมัน ไฟฟ้า และ ก๊าซหุงต้ม ซึ่งสามารถทำได้ทันที โดยเข้าไปปรับเปลี่ยนแก้ไขโครงสร้างราคาพลังงาน ซึ่งคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ได้ชี้แจงมาตลอดและจะสามารถเข้าไปแก้ไขและลดราคาน้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม ได้ทันที เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในระดับครัวเรือน ซึ่งเป็นทิศทางของโลก โดยเฉพาะปัจจุบันที่ค่าไฟฟ้าจะขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของไทยอย่างมาก
ด้านนางสาว
จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต บางรัก สาทร ปทุมวัน และ โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ระบุ หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล พร้อมยกระดับประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาท รักษาทุกโรค ตรวจสุขภาพเชิงรุก เปลี่ยนประเทศด้วยเทคโนโลยี บัตรประชาชนใบเดียว และรักษาได้ทุกสถานพยาบาล ทำให้ประชาชนคุณภาพชีวิตดีขึ้น
" 2 ส.ส.หญิง พท." แถลงยันไม่คิดย้ายไป "ภูมิใจไทย" ลั่นไม่คิดทรยศหักหลัง ปชช.
https://siamrath.co.th/n/406898
วันที่ 13 ธ.ค.65 ที่พรรคเพื่อไทย นาง
บุญรื่น ศรีธเรส ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนาง
จุฑาพัตธน์ เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย
โดยนาง
บุญรื่น กล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม่มีความคิดที่ย้ายไปพรรคการเมืองอื่น ตนเป็น ส.ส.ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงเพื่อไทยในปัจจุบัน เป็นเวลา รวม 23 ปี ตั้งแต่ 2544 จนถึงปัจจุบันไม่เคยสอบตก เป็น ส.ส.รวม 5 สมัย ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้าทำงานในสภา หากรวมการเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ 2 ครั้ง รวมแล้วตนชนะการเลือกตั้ง 7 ครั้ง ในความรู้สึกนึกคิดนั้นไม่เคยคิดว่าจะไปอยู่พรรคอื่น เพราะพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่ดี มอบเป็นมรดกตกทอดให้พี่น้องประชาชนหลายด้าน ส่งผลให้การดำเนินชีวิตของประชาชนถูกยกระดับดีขึ้น เพราะประชาชนคือหัวใจหลักของพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ดีตนจะไม่ฟ้องร้อง เนื่องจากมองว่าเป็นปกติของการเมืองที่มีการโจมตีกัน ตนเพียงขอชี้แจงให้กับพี่น้องในพื้นที่ได้รับทราบข้อเท็จจริงเท่านั้น ที่ผ่านมาบอกลูกหลานมาโดยตลอดว่าพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคที่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี มีนโยบายที่ดีให้พี่น้องประชาชนพอใจ ในจิตใจของป้า
รื่นไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนพรรคการเมืองเลย ป้าเกิดที่นี่ จะขอตายที่นี่ในทางการเมือง นี่คือปณิธาน ขอพูดครั้งสุดท้าย อย่าเชื่อข่าว ต้องเชื่อป้าเท่านั้น” นาง
บุญรื่น กล่าว
ด้านนาง
จุฑาพัตธน์ กล่าวว่า กรณีที่ท็อปนิวส์ นำเสนอข่าวว่ามีชื่อ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทยคาดว่าจะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย ได้สร้างความเสียหาย และสร้างความสับสนให้กับพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ที่เลือกตนเป็นอย่างมาก ขอแจ้งให้พี่น้องประชาชนชาวอำเภอวังสามหมอ อำเภอศรีธาตุ อำเภอกู่แก้ว อำเภอไชยวาน ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ของตนได้รับทราบว่า ตนจะไม่ย้ายไปพรรคภูมิใจไทยตามที่เป็นข่าว ตั้งแต่ได้รับเลือกจากพี่น้องประชาชน เป็น ส.ส.สมัยแรก เกิดได้เพราะพรรคเพื่อไทย จะไม่คิดทรยศต่อคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนที่ไว้วางใจเลือกเข้ามาเป็นตัวแทนของประชาชน และจะไม่หักหลังพรรคเพื่อไทยไปสังกัดพรรคอื่นเป็นเด็ดขาด จะสู้ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพรรคเพื่อไทย เกิดที่เพื่อไทย ขอตายในทางการเมืองที่เพื่อไทยเท่านั้น
“สมคิด” อวยพร ส.ส.ย้ายพรรค “ขอให้ไปดี” สงสัย ภท.คิดอะไรอยู่ให้ ส.ส.ลาออกก่อนกม.กัญชาผ่าน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3722378
“สมคิด” อวยพร ส.ส.ย้ายพรรค “ขอให้ไปดี” สงสัย ภท.คิดอะไรอยู่ให้ ส.ส.ลาออกก่อนกม.กัญชาผ่าน แนะ “บิ๊กตู่” ยุบสภาหากแก้ปัญหาองค์ประชุมล่มไม่ได้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม ที่รัฐสภา นาย
สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาฯ ในสัปดาห์นี้ ว่า เราเลื่อนวาระร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ… ให้มาพิจารณาก่อน ในการประชุมวิปฝ่ายค้านวันนี้ก็จะมีการคุยกันว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยมาตราไหน และเท่าที่ฟังดูพรรคอื่นก็ไม่เอาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสันทนาการทั้งหมด ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยก็ประกาศมาโดยตลอด ว่าจะสนับสนุนมาตราที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ สำหรับแนวโน้มในวาระ 3 หลายพรรคก็เผยว่าจะไม่รับ ซึ่งทางพรรค พท.เองก็ได้ชี้แจงว่าหากยังไม่มีการแก้ไขหรือปรับปรุง เราก็จะไม่เห็นด้วย
เมื่อถามว่า การประชุมจะดำเนินต่อได้หรือไม่เพราะมี ส.ส.ลาออกเยอะ นายสมคิด กล่าวว่า การให้ ส.ส.ลาออกนั้น หมายความว่าพรรคที่เป็นเจ้าของร่างพ.ร.บ. จะทิ้งร่างฉบับนี้หรือไม่ โดยในส่วนของพรรค พท.ได้ลาออกไปแล้วหนึ่งคน และคาดการณ์ว่าจะลาออกอีก 9 คน ตนได้ถามเหตุผลว่าทำไมจึงรีบออกไม่เป็นห่วงเรื่ององค์ประชุมหรือ เขาก็ชี้แจงว่าต้องเตรียมออกไปใส่เสื้อสีใหม่ ซึ่งก็เป็นปกติเป็นสิทธิ์ของเขา แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือรัฐบาลต้องควบคุมองค์ประชุมให้ ขนาดคนที่จะลาออกทั้งหมดโหวตให้รัฐบาลยังเอาตัวไม่รอด แล้วคนที่ลาออกจากการเป็นส.ส. และไม่มีสิทธิ์มาโหวต ถามว่ารัฐบาลจะคุมของตัวเองมาโหวตได้หรือไม่ ฉะนั้นต้องรอดูว่าในวันพรุ่งนี้ (14 ธันวาคม) ตนคิดว่าจะเป็นปัญหาเกือบทุกมาตรา ทั้งนี้ หากสภาจะล่มก็ต้องล่มเป็นเรื่องธรรมดา เรายืนยันว่าหากมีเหตุผลที่ดีฝ่ายค้านก็พร้อมที่จะทำงานไปด้วย แต่ทุกอย่างก็ไม่ใช่จะมาโยนภาระให้ทั้งหมด ฉะนั้น เรื่องนี้ก็ไม่เข้าใจว่ารัฐบาลคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงระดมส.ส.ลาออก ตนคิดว่าองค์ประชุมมีปัญหาแน่นอน
เมื่อถามว่า พรรคที่เสนอร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่จริงใจในการแก้ปัญหาใช่หรือไม่ นาย
สมคิด กล่าวว่า ตนไม่ได้มองในจุดนั้น แต่มองว่ารัฐบาลอาจจะแพคกันอยู่ แต่ตนไม่เชื่อเพราะฟังจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พูดแล้วก็แปร่งๆ อยู่ โดยคนที่ลาออกส่วนมากก็เป็นคนของฝ่ายค้านอยู่แล้วไม่กระทบกับงานของรัฐบาล
เมื่อถามว่า มีการเปิดเผยรายชื่อส.ส.ของพรรค พท. ที่จะลาออกไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นาย
สมคิด กล่าวว่า เป็นคนเก่าคนเดิมที่ทางพรรคทราบอยู่แล้ว ตอนที่มีเรื่องไม่โหวตตามมติพรรค ทางคณะกรรมการจริยธรรมของพรรคก็ได้สอบสวนแล้ว เรามองว่าระยะเวลา 180 วันก็ถือว่าไม่มากที่จะให้เขาตัดสินใจ และคนที่จะตัดสินส.ส.ก็คือประชาชน ไม่ใช่คณะกรรมการบริหารพรรค เราไม่ห่วงเรื่องคนลาออก ทางพรรค พท.ก็ขออวยพรให้ไปดี และเราก็เตรียมคนไปต่อสู้ในพื้นที่นั้นๆ แล้ว
เมื่อถามว่า เมื่อวานนี้ (12 ธันวาคม) มีการเปิดเผยรายชื่อส.ส.ทั้งหมด 37 คนที่จะย้ายไปพรรคภท.มองว่าจะเป็นพรรคที่น่ากลัวหรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายสมคิด กล่าวว่า ตนกังวลกับทุกพรรคเพราะเวลาลงสนามเลือกตั้งทุกพรรคน่ากลัว แต่ที่ผ่านมา 8 ปีตนคิดว่าประชาชนทราบดีว่ารัฐบาลเป็นอย่างไร คำตอบก็จะอยู่ในคูหาเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นต่อให้พรรคภท.ระดมคนไปแค่ไหนก็ไม่เป็นปัญหาในการทำงานของเรา เราไปทางใต้ก็คิดว่าจะสู้เต็มที่ และเราก็จะสู้เต็มที่ทั้ง 400 เขตแต่ก็อยู่ที่ประชาชน เราเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง
เมื่อถามถึง เรื่องความคืบหน้าในกรณียื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 นายสมคิด กล่าวว่า ทางหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านได้มีการพูดคุยกัน และได้มีการเซ็นชื่อแล้ว คาดว่าสัปดาห์นี้จะได้ยื่น และจะได้อภิปรายประมาณปลายเดือนมกราคม ทั้งนี้ ต้องมีการประเมินสถานการณ์จากสภาด้วย เพราะไม่ทราบว่ารัฐบาลจะเอาอย่างไร เราเองก็ต้องทำหน้าที่ในสภาไป อันที่จริงก็มีปัญหามาตลอด ตนคิดว่ารัฐบาลยุบเถอะ มันคาราคาซังเปล่าๆ ปัญหาของพวกท่านไม่ใช่ปัญหาของฝ่ายค้าน พวกท่านต้องแก้ปัญหา หากแก้ปัญหาไม่ได้ ก็ขอเรียกร้องไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ยุบสภาให้ประชาชนตัดสินดีที่สุดงานจะได้เดินได้ ให้ยอมเสียเวลาสัก 2-3 เดือนก็จะได้รัฐบาลใหม่ ตนมั่นใจว่าประชาชนรออยู่
JJNY : ทีมศก.เพื่อไทยออกโรงยัน| "2 ส.ส.หญิง พท."แถลง| “สมคิด”อวยพร ส.ส.ย้ายพรรค|ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ พ.ย.เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_464449/
ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ยืนยันพูดแล้วทำได้จริง ขอประชาชนมั่นใจ ย้ำเคยทำสำเร็จมาแล้วในอดีต โวเป็นพรรคเดียวที่ประกาศแล้วทำได้
ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย นำโดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส. จ.เลย นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ ส.ส. จ.อุบลราชธานี และ น.ส จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าว “นโยบายเพื่อไทย พูดแล้วทำได้จริง คิดใหญ่ ทำเป็น”
โดยนายพิชัย กล่าวว่า ตามที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยได้ประกาศนโยบายของพรรคเพื่อไทยหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ อยากให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย สามารถทำได้จริงตามที่ได้ประกาศอย่างแน่นอน และเป็นการคิดใหญ่ ทำเป็น เพราะเคยทำสำเร็จมาแล้วทุกนโยบายในอดีต เรียกได้ว่า พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคการเมืองเดียวที่ประกาศนโยบายแล้วทำได้จริง ไม่เหมือนหลายพรรคที่ประกาศนโยบายแต่ทำไม่ได้ หรือทำไม่เป็น เป็นต้น
โดยเฉพาะนโยบายที่เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาก คือ นโยบายค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 บาท ในปี 2570 หรือ อีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งสามารถทำได้จริง ถ้าประเทศไทยสามารถขยายเศรษฐกิจปีละ 5% ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ทั้งนี้ การขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 600 บาทในอีก 5 ปีข้างหน้า จะทำให้ประเทศไทยมีการกระจายรายได้และลดความเหลื่อมล้ำ อีกทั้งจะผลักดันให้ประเทศไทยต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้พัฒนาสร้างงานและดึงดูดการลงทุนที่จะสามารถรับค่าแรงในระดับนั้นได้ และจะเร่งให้ไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางเร็วขึ้น
อีกนโยบายที่มีความสำคัญและเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนได้ทันที คือ นโยบายที่จะลดราคา น้ำมัน ไฟฟ้า และ ก๊าซหุงต้ม ซึ่งสามารถทำได้ทันที โดยเข้าไปปรับเปลี่ยนแก้ไขโครงสร้างราคาพลังงาน ซึ่งคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ได้ชี้แจงมาตลอดและจะสามารถเข้าไปแก้ไขและลดราคาน้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม ได้ทันที เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในระดับครัวเรือน ซึ่งเป็นทิศทางของโลก โดยเฉพาะปัจจุบันที่ค่าไฟฟ้าจะขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของไทยอย่างมาก
ด้านนางสาวจุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต บางรัก สาทร ปทุมวัน และ โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ระบุ หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล พร้อมยกระดับประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาท รักษาทุกโรค ตรวจสุขภาพเชิงรุก เปลี่ยนประเทศด้วยเทคโนโลยี บัตรประชาชนใบเดียว และรักษาได้ทุกสถานพยาบาล ทำให้ประชาชนคุณภาพชีวิตดีขึ้น
" 2 ส.ส.หญิง พท." แถลงยันไม่คิดย้ายไป "ภูมิใจไทย" ลั่นไม่คิดทรยศหักหลัง ปชช.
https://siamrath.co.th/n/406898
วันที่ 13 ธ.ค.65 ที่พรรคเพื่อไทย นางบุญรื่น ศรีธเรส ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนางจุฑาพัตธน์ เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย
โดยนางบุญรื่น กล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม่มีความคิดที่ย้ายไปพรรคการเมืองอื่น ตนเป็น ส.ส.ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงเพื่อไทยในปัจจุบัน เป็นเวลา รวม 23 ปี ตั้งแต่ 2544 จนถึงปัจจุบันไม่เคยสอบตก เป็น ส.ส.รวม 5 สมัย ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้าทำงานในสภา หากรวมการเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ 2 ครั้ง รวมแล้วตนชนะการเลือกตั้ง 7 ครั้ง ในความรู้สึกนึกคิดนั้นไม่เคยคิดว่าจะไปอยู่พรรคอื่น เพราะพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่ดี มอบเป็นมรดกตกทอดให้พี่น้องประชาชนหลายด้าน ส่งผลให้การดำเนินชีวิตของประชาชนถูกยกระดับดีขึ้น เพราะประชาชนคือหัวใจหลักของพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ดีตนจะไม่ฟ้องร้อง เนื่องจากมองว่าเป็นปกติของการเมืองที่มีการโจมตีกัน ตนเพียงขอชี้แจงให้กับพี่น้องในพื้นที่ได้รับทราบข้อเท็จจริงเท่านั้น ที่ผ่านมาบอกลูกหลานมาโดยตลอดว่าพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคที่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี มีนโยบายที่ดีให้พี่น้องประชาชนพอใจ ในจิตใจของป้ารื่นไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนพรรคการเมืองเลย ป้าเกิดที่นี่ จะขอตายที่นี่ในทางการเมือง นี่คือปณิธาน ขอพูดครั้งสุดท้าย อย่าเชื่อข่าว ต้องเชื่อป้าเท่านั้น” นางบุญรื่น กล่าว
ด้านนางจุฑาพัตธน์ กล่าวว่า กรณีที่ท็อปนิวส์ นำเสนอข่าวว่ามีชื่อ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทยคาดว่าจะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย ได้สร้างความเสียหาย และสร้างความสับสนให้กับพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ที่เลือกตนเป็นอย่างมาก ขอแจ้งให้พี่น้องประชาชนชาวอำเภอวังสามหมอ อำเภอศรีธาตุ อำเภอกู่แก้ว อำเภอไชยวาน ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ของตนได้รับทราบว่า ตนจะไม่ย้ายไปพรรคภูมิใจไทยตามที่เป็นข่าว ตั้งแต่ได้รับเลือกจากพี่น้องประชาชน เป็น ส.ส.สมัยแรก เกิดได้เพราะพรรคเพื่อไทย จะไม่คิดทรยศต่อคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนที่ไว้วางใจเลือกเข้ามาเป็นตัวแทนของประชาชน และจะไม่หักหลังพรรคเพื่อไทยไปสังกัดพรรคอื่นเป็นเด็ดขาด จะสู้ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพรรคเพื่อไทย เกิดที่เพื่อไทย ขอตายในทางการเมืองที่เพื่อไทยเท่านั้น
“สมคิด” อวยพร ส.ส.ย้ายพรรค “ขอให้ไปดี” สงสัย ภท.คิดอะไรอยู่ให้ ส.ส.ลาออกก่อนกม.กัญชาผ่าน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3722378
“สมคิด” อวยพร ส.ส.ย้ายพรรค “ขอให้ไปดี” สงสัย ภท.คิดอะไรอยู่ให้ ส.ส.ลาออกก่อนกม.กัญชาผ่าน แนะ “บิ๊กตู่” ยุบสภาหากแก้ปัญหาองค์ประชุมล่มไม่ได้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาฯ ในสัปดาห์นี้ ว่า เราเลื่อนวาระร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ… ให้มาพิจารณาก่อน ในการประชุมวิปฝ่ายค้านวันนี้ก็จะมีการคุยกันว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยมาตราไหน และเท่าที่ฟังดูพรรคอื่นก็ไม่เอาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสันทนาการทั้งหมด ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยก็ประกาศมาโดยตลอด ว่าจะสนับสนุนมาตราที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ สำหรับแนวโน้มในวาระ 3 หลายพรรคก็เผยว่าจะไม่รับ ซึ่งทางพรรค พท.เองก็ได้ชี้แจงว่าหากยังไม่มีการแก้ไขหรือปรับปรุง เราก็จะไม่เห็นด้วย
เมื่อถามว่า การประชุมจะดำเนินต่อได้หรือไม่เพราะมี ส.ส.ลาออกเยอะ นายสมคิด กล่าวว่า การให้ ส.ส.ลาออกนั้น หมายความว่าพรรคที่เป็นเจ้าของร่างพ.ร.บ. จะทิ้งร่างฉบับนี้หรือไม่ โดยในส่วนของพรรค พท.ได้ลาออกไปแล้วหนึ่งคน และคาดการณ์ว่าจะลาออกอีก 9 คน ตนได้ถามเหตุผลว่าทำไมจึงรีบออกไม่เป็นห่วงเรื่ององค์ประชุมหรือ เขาก็ชี้แจงว่าต้องเตรียมออกไปใส่เสื้อสีใหม่ ซึ่งก็เป็นปกติเป็นสิทธิ์ของเขา แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือรัฐบาลต้องควบคุมองค์ประชุมให้ ขนาดคนที่จะลาออกทั้งหมดโหวตให้รัฐบาลยังเอาตัวไม่รอด แล้วคนที่ลาออกจากการเป็นส.ส. และไม่มีสิทธิ์มาโหวต ถามว่ารัฐบาลจะคุมของตัวเองมาโหวตได้หรือไม่ ฉะนั้นต้องรอดูว่าในวันพรุ่งนี้ (14 ธันวาคม) ตนคิดว่าจะเป็นปัญหาเกือบทุกมาตรา ทั้งนี้ หากสภาจะล่มก็ต้องล่มเป็นเรื่องธรรมดา เรายืนยันว่าหากมีเหตุผลที่ดีฝ่ายค้านก็พร้อมที่จะทำงานไปด้วย แต่ทุกอย่างก็ไม่ใช่จะมาโยนภาระให้ทั้งหมด ฉะนั้น เรื่องนี้ก็ไม่เข้าใจว่ารัฐบาลคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงระดมส.ส.ลาออก ตนคิดว่าองค์ประชุมมีปัญหาแน่นอน
เมื่อถามว่า พรรคที่เสนอร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่จริงใจในการแก้ปัญหาใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ตนไม่ได้มองในจุดนั้น แต่มองว่ารัฐบาลอาจจะแพคกันอยู่ แต่ตนไม่เชื่อเพราะฟังจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พูดแล้วก็แปร่งๆ อยู่ โดยคนที่ลาออกส่วนมากก็เป็นคนของฝ่ายค้านอยู่แล้วไม่กระทบกับงานของรัฐบาล
เมื่อถามว่า มีการเปิดเผยรายชื่อส.ส.ของพรรค พท. ที่จะลาออกไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายสมคิด กล่าวว่า เป็นคนเก่าคนเดิมที่ทางพรรคทราบอยู่แล้ว ตอนที่มีเรื่องไม่โหวตตามมติพรรค ทางคณะกรรมการจริยธรรมของพรรคก็ได้สอบสวนแล้ว เรามองว่าระยะเวลา 180 วันก็ถือว่าไม่มากที่จะให้เขาตัดสินใจ และคนที่จะตัดสินส.ส.ก็คือประชาชน ไม่ใช่คณะกรรมการบริหารพรรค เราไม่ห่วงเรื่องคนลาออก ทางพรรค พท.ก็ขออวยพรให้ไปดี และเราก็เตรียมคนไปต่อสู้ในพื้นที่นั้นๆ แล้ว
เมื่อถามว่า เมื่อวานนี้ (12 ธันวาคม) มีการเปิดเผยรายชื่อส.ส.ทั้งหมด 37 คนที่จะย้ายไปพรรคภท.มองว่าจะเป็นพรรคที่น่ากลัวหรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายสมคิด กล่าวว่า ตนกังวลกับทุกพรรคเพราะเวลาลงสนามเลือกตั้งทุกพรรคน่ากลัว แต่ที่ผ่านมา 8 ปีตนคิดว่าประชาชนทราบดีว่ารัฐบาลเป็นอย่างไร คำตอบก็จะอยู่ในคูหาเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นต่อให้พรรคภท.ระดมคนไปแค่ไหนก็ไม่เป็นปัญหาในการทำงานของเรา เราไปทางใต้ก็คิดว่าจะสู้เต็มที่ และเราก็จะสู้เต็มที่ทั้ง 400 เขตแต่ก็อยู่ที่ประชาชน เราเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง
เมื่อถามถึง เรื่องความคืบหน้าในกรณียื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 นายสมคิด กล่าวว่า ทางหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านได้มีการพูดคุยกัน และได้มีการเซ็นชื่อแล้ว คาดว่าสัปดาห์นี้จะได้ยื่น และจะได้อภิปรายประมาณปลายเดือนมกราคม ทั้งนี้ ต้องมีการประเมินสถานการณ์จากสภาด้วย เพราะไม่ทราบว่ารัฐบาลจะเอาอย่างไร เราเองก็ต้องทำหน้าที่ในสภาไป อันที่จริงก็มีปัญหามาตลอด ตนคิดว่ารัฐบาลยุบเถอะ มันคาราคาซังเปล่าๆ ปัญหาของพวกท่านไม่ใช่ปัญหาของฝ่ายค้าน พวกท่านต้องแก้ปัญหา หากแก้ปัญหาไม่ได้ ก็ขอเรียกร้องไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ยุบสภาให้ประชาชนตัดสินดีที่สุดงานจะได้เดินได้ ให้ยอมเสียเวลาสัก 2-3 เดือนก็จะได้รัฐบาลใหม่ ตนมั่นใจว่าประชาชนรออยู่