.
สำหรับมือใหม่หัดขับหลายคน เวลารถชนกัน ส่งซ่อมรถซ่อม ไม่มีรถใช้ เชื่อว่าหลายคนก็คงปล่อยให้ทางบริษัทจัดการเรื่องซ่อมไปจนเสร็จ ได้รถคืนก็ค่อยกลับมาขับ แบบนี้ใช่หรือเปล่า?
แต่รู้มั้ยว่า จริงๆ แล้วถ้าเกิดเหตุจนรถต้องซ่อม รถใช้งานไม่ได้ จนไม่มีรถใช้งานเนี่ย สามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ หรือถ้าเอาภาษาบ้านๆ ก็พวกค่าเดินทาง จากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายหรือบริษัทประกันของฝ่ายผิดได้นะครับ
ใครที่ยังไม่รู้ หรือยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร มาครับ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง
แต่ก่อนจะไปถึงวิธีการเรียกร้อง จะขออธิบายสั้นๆ ก่อนว่า ค่าขาดประโยชน์ เนี่ยมันคืออะไร?
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือ ค่าสินไหม หรือเรียกว่า ค่าชดเชย ที่ทางบริษัทประกันของฝ่ายผิดต้องให้กับฝ่ายที่ถูก ในขณะที่รถของฝ่ายที่ถูกส่งซ่อม หรือไม่สามารถใช้ได้ หรือต้องใช้การเดินทางอื่นๆ แทน เช่น แท็กซี่ รถเมล์ รถไฟฟ้า วินมอเตอร์ไซต์ เช่ารถยนต์ ฯลฯ
ส่วนวิธีการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถมีขั้นตอนอะไรบ้าง? ใช้เอกสารอะไรบ้าง? มาดูกันครับ
หยิบปากกาขึ้นมาจดได้เลยครับ นี่คือลิสต์เอกสารที่ใช้เรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถฉบับละเอียดยิบ!
1. เอกสารใบเคลม
2. ใบรับรองความเสียหาย
3. เอกสารการนำรถเข้าซ่อม ที่มีระบุวันส่งรถ-รับรถไว้อย่างชัดเจน
4. รูปถ่ายในขณะที่รถกำลังถูกซ่อม
5. สำเนาเล่มทะเบียนรถยนต์
6. สำเนาตารางกรมธรรม์ของประกันรถยนต์
7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
8. สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
9. เอกสารประกอบการใช้รถแต่ละวัน (ถ้ามี)
10. ใบเสร็จค่าใช้จ่ายการเดินทางในระหว่างที่ไม่ได้ใช้รถของตัวเอง (ถ้ามี)
11. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร
12. หนังสือเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถยนต์
มีเอกสารแล้วต้องยังไงต่อ? เริ่มแรกเลยครับ ติดต่อไปหาบริษัทประกันของฝ่ายผิดและแจ้งความประสงค์ครับว่าเราต้องการยื่นคำร้องเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ระหว่างที่รถของคุณกำลังส่งซ่อม
หลังจากนั้นให้นำเอกสารสำคัญที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ส่งให้กับบริษัทประกันฝ่ายผิดเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการเรียกร้องครับ รอจนกว่าบริษัทประกันจะติดต่อกลับมา ในช่วงขั้นตอนนี้อาจจะมีการต่อรองเกิดขึ้นนะ ถ้าตกลงกันได้ทางบริษัทประกันฝ่ายผิดก็จะโอนค่าสินไหมมายังบัญชีที่คุณแนบไป แต่ถ้าตอนเจรจราตกลงกันไม่ได้ หรือคิดว่าไม่เป็นธรรม สามารถเรียกร้องไปทางสำนักงาน คปภ. ของทุกจังหวัดได้เลยครับ!
อ่านมาถึงตรงนี้บางคนคงยังสงสัยว่า แล้วค่าขาดประโยชน์เนี่ยมันต้องเรียกเท่าไหร่ ควรจะได้เท่าไหร่กัน? ไม่ต้องห่วงครับ กฎหมายเขามีกำหนดขั้นต่ำเอาไว้ให้
ตามกฎหมายแล้วทางบริษัทประกันของฝ่ายผิดจะต้อจ่ายค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถตามที่ คปภ. กำหนดเอาไว้ โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์ 3 ประเภท ดังนี้
1. รถยนต์ส่วนบุคคลแบบไม่เกิน 7 ที่นั่ง จะได้รับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถไม่ต่ำกว่า 500 บาท / วัน
2. รถยนต์รับจ้างสาธารณะแบบไม่เกิน 7 ที่นั่ง จะได้รับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถไม่ต่ำกว่า 700 บาท / วัน
3. รถยนต์ทุกประเภทแบบเกิน 7 ที่นั่ง จะได้รับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท / วัน
แล้วถ้าบางคนดันโชคไม่เข้าข้าง คู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดดันไม่มีประกัน จะเรียกร้องยังไง? ใครจะเป็นคนจ่าย? คำตอบคือ คุณต้องเรียกร้องกับผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถยนต์ที่เป็นฝ่ายผิดโดยตรงแทนครับ
แต่ถ้าใครไม่อยากเสียเวลารอนาน กว่าคู่กรณีหรือบริษัทประกันคู่กรณีจะติดต่อกลับ ผมมีอีกทางมาแนะนำนั่นก็คือ แค่คุณทำประกันรถยนต์ชั้น 1 TIP Premium+ กับ TIPINSURE ประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมความคุ้มครองค่าชดเชยเมื่อนำรถเข้าซ่อม!
• กรณีเป็นฝ่ายถูก (ไม่เกิน 2 ครั้ง/ปี) 3,000 บาท/ครั้ง
• กรณีเป็นฝ่ายผิด (ไม่เกิน 1 ครั้ง/ปี) 1,000 บาท/ครั้ง
นอกจากนี้ยังมีความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมให้อีกเพียบ แน่นอนว่าคุณก็ยังไม่เสียสิทธิ์ตามกฎที่ คปภ. กำหนดไว้อีกด้วยนะ ใครสนใจอยากได้ค่าชดเชยหรือค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือเช็กราคาฟรี 24 ชั่วโมงได้ที่
https://bit.ly/3P5HmF4 ด้วยความห่วงใยจากทิพยประกันภัยนะครับผม!
[Advertorial]
[BR] ไขข้อสงสัย EP.10 รู้ยัง? รถชนส่งซ่อม เรียกค่าเดินทางจากคู่กรณีได้
แต่รู้มั้ยว่า จริงๆ แล้วถ้าเกิดเหตุจนรถต้องซ่อม รถใช้งานไม่ได้ จนไม่มีรถใช้งานเนี่ย สามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ หรือถ้าเอาภาษาบ้านๆ ก็พวกค่าเดินทาง จากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายหรือบริษัทประกันของฝ่ายผิดได้นะครับ
ใครที่ยังไม่รู้ หรือยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร มาครับ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง
แต่ก่อนจะไปถึงวิธีการเรียกร้อง จะขออธิบายสั้นๆ ก่อนว่า ค่าขาดประโยชน์ เนี่ยมันคืออะไร?
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือ ค่าสินไหม หรือเรียกว่า ค่าชดเชย ที่ทางบริษัทประกันของฝ่ายผิดต้องให้กับฝ่ายที่ถูก ในขณะที่รถของฝ่ายที่ถูกส่งซ่อม หรือไม่สามารถใช้ได้ หรือต้องใช้การเดินทางอื่นๆ แทน เช่น แท็กซี่ รถเมล์ รถไฟฟ้า วินมอเตอร์ไซต์ เช่ารถยนต์ ฯลฯ
ส่วนวิธีการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถมีขั้นตอนอะไรบ้าง? ใช้เอกสารอะไรบ้าง? มาดูกันครับ
หยิบปากกาขึ้นมาจดได้เลยครับ นี่คือลิสต์เอกสารที่ใช้เรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถฉบับละเอียดยิบ!
1. เอกสารใบเคลม
2. ใบรับรองความเสียหาย
3. เอกสารการนำรถเข้าซ่อม ที่มีระบุวันส่งรถ-รับรถไว้อย่างชัดเจน
4. รูปถ่ายในขณะที่รถกำลังถูกซ่อม
5. สำเนาเล่มทะเบียนรถยนต์
6. สำเนาตารางกรมธรรม์ของประกันรถยนต์
7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
8. สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
9. เอกสารประกอบการใช้รถแต่ละวัน (ถ้ามี)
10. ใบเสร็จค่าใช้จ่ายการเดินทางในระหว่างที่ไม่ได้ใช้รถของตัวเอง (ถ้ามี)
11. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร
12. หนังสือเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถยนต์
มีเอกสารแล้วต้องยังไงต่อ? เริ่มแรกเลยครับ ติดต่อไปหาบริษัทประกันของฝ่ายผิดและแจ้งความประสงค์ครับว่าเราต้องการยื่นคำร้องเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ระหว่างที่รถของคุณกำลังส่งซ่อม
หลังจากนั้นให้นำเอกสารสำคัญที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ส่งให้กับบริษัทประกันฝ่ายผิดเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการเรียกร้องครับ รอจนกว่าบริษัทประกันจะติดต่อกลับมา ในช่วงขั้นตอนนี้อาจจะมีการต่อรองเกิดขึ้นนะ ถ้าตกลงกันได้ทางบริษัทประกันฝ่ายผิดก็จะโอนค่าสินไหมมายังบัญชีที่คุณแนบไป แต่ถ้าตอนเจรจราตกลงกันไม่ได้ หรือคิดว่าไม่เป็นธรรม สามารถเรียกร้องไปทางสำนักงาน คปภ. ของทุกจังหวัดได้เลยครับ!
อ่านมาถึงตรงนี้บางคนคงยังสงสัยว่า แล้วค่าขาดประโยชน์เนี่ยมันต้องเรียกเท่าไหร่ ควรจะได้เท่าไหร่กัน? ไม่ต้องห่วงครับ กฎหมายเขามีกำหนดขั้นต่ำเอาไว้ให้
ตามกฎหมายแล้วทางบริษัทประกันของฝ่ายผิดจะต้อจ่ายค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถตามที่ คปภ. กำหนดเอาไว้ โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์ 3 ประเภท ดังนี้
1. รถยนต์ส่วนบุคคลแบบไม่เกิน 7 ที่นั่ง จะได้รับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถไม่ต่ำกว่า 500 บาท / วัน
2. รถยนต์รับจ้างสาธารณะแบบไม่เกิน 7 ที่นั่ง จะได้รับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถไม่ต่ำกว่า 700 บาท / วัน
3. รถยนต์ทุกประเภทแบบเกิน 7 ที่นั่ง จะได้รับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท / วัน
แล้วถ้าบางคนดันโชคไม่เข้าข้าง คู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดดันไม่มีประกัน จะเรียกร้องยังไง? ใครจะเป็นคนจ่าย? คำตอบคือ คุณต้องเรียกร้องกับผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถยนต์ที่เป็นฝ่ายผิดโดยตรงแทนครับ
แต่ถ้าใครไม่อยากเสียเวลารอนาน กว่าคู่กรณีหรือบริษัทประกันคู่กรณีจะติดต่อกลับ ผมมีอีกทางมาแนะนำนั่นก็คือ แค่คุณทำประกันรถยนต์ชั้น 1 TIP Premium+ กับ TIPINSURE ประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมความคุ้มครองค่าชดเชยเมื่อนำรถเข้าซ่อม!
• กรณีเป็นฝ่ายถูก (ไม่เกิน 2 ครั้ง/ปี) 3,000 บาท/ครั้ง
• กรณีเป็นฝ่ายผิด (ไม่เกิน 1 ครั้ง/ปี) 1,000 บาท/ครั้ง
นอกจากนี้ยังมีความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมให้อีกเพียบ แน่นอนว่าคุณก็ยังไม่เสียสิทธิ์ตามกฎที่ คปภ. กำหนดไว้อีกด้วยนะ ใครสนใจอยากได้ค่าชดเชยหรือค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือเช็กราคาฟรี 24 ชั่วโมงได้ที่ https://bit.ly/3P5HmF4 ด้วยความห่วงใยจากทิพยประกันภัยนะครับผม!
[Advertorial]
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน