ขอเอาข่าว 3 ข่าวที่เกี่ยวเนื่องกันมารวมเป็นกระทู้เดียวกันเลย
NHK ทราบเรื่องร่างเอกสารสำคัญด้านการป้องกันประเทศ 3 ฉบับ
วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม เวลา 17:58น.
NHK ได้ทราบเกี่ยวกับร่างเอกสารสำคัญด้านการป้องกันประเทศ 3 ฉบับของญี่ปุ่น โดยรัฐบาลกำลังแก้ไขทบทวนเอกสารดังกล่าวภายในสิ้นปีนี้
แผนการที่จะมาแทนที่โครงการเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศในช่วงกึ่งวาระปัจจุบันระบุว่า ญี่ปุ่นจะจัดหางบประมาณ 43 ล้านล้านเยน หรือราว 11 ล้านล้านบาท สำหรับการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศระหว่างปีงบประมาณ 2566 ถึงปีงบประมาณ 2570
แผนการนี้ระบุว่างบประมาณ 5 ล้านล้านเยนจะใช้กับด้านที่เรียกว่า “สแตนด์ออฟ” ซึ่งเป็นขีดความสามารถด้านการป้องกันประเทศที่จะโจมตีเป้าหมายจากนอกพิสัยที่อาวุธศัตรูยิงมา
ส่วนงบประมาณราว 9 ล้านล้านเยนจะใช้กับการซ่อมบำรุงยานพาหนะที่สำคัญ เช่น เครื่องบินและเรือ และ 6 ล้านล้านเยนจะใช้กับการจัดหาอุปกรณ์ใหม่ ๆ
งบประมาณ 2 ล้านล้านเยนจะใช้เพื่อซื้อกระสุนและขีปนาวุธนำวิถี ส่วนงบประมาณสำหรับด้านที่เกี่ยวกับอวกาศและไซเบอร์นั้น จะได้รับการจัดสรรอย่างละ 1 ล้านล้านเยน ตลอดจนการจัดซื้อโดรนไร้คนขับโดยเร็วด้วย
ยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันแห่งชาติ ซึ่งมาแทนที่แนวทางของโครงการป้องกันแห่งชาติระบุว่า ญี่ปุ่นจะครอบครองขีดความสามารถในการยิงโจมตีตอบโต้ไปยังสถานที่ยิงขีปนาวุธและเป้าหมายอื่น ๆ ของศัตรู
เอกสารระบุว่ากองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นอาจเริ่มการโจมตีตอบโต้ได้ ก็ต่อเมื่อการโจมตีด้วยอาวุธ เช่น การโจมตีด้วยขีปนาวุธต่อญี่ปุ่นได้เริ่มขึ้นแล้วเท่านั้น และสถานการณ์ตรงกับเงื่อนไข 3 ประการสำหรับการใช้สิทธิเพื่อป้องกันตนเอง
เอกสารระบุว่าการโจมตีตอบโต้สามารถดำเนินการได้กับเป้าหมายทางทหารโดยตรงเท่านั้น โดยใช้กำลังพลให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นต่อการป้องกันการโจมตีของศัตรูที่อาจเกิดขึ้นอีก
เอกสารอธิบายขีดความสามารถในการโจมตีโต้กลับว่าเป็นสิ่งที่สามารถเริ่มการโจมตีโต้กลับที่ได้ผลในดินแดนของศัตรูได้ โดยใช้ขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ “สแตนด์ออฟ”
ยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันแห่งชาติระบุถึงการที่จีนยิงขีปนาวุธซึ่งตกลงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่นเมื่อเดือนสิงหาคม โดยกล่าวว่าผู้คนในญี่ปุ่นและในภูมิภาคนี้มองว่าสิ่งนี้เป็นภัยคุกคาม
อย่างไรก็ตาม พรรคเสรีประชาธิปไตยซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลญี่ปุ่นและพรรคโคเมโต ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ยังคงหารือคำว่า “ภัยคุกคาม” กันอยู่ เนื่องจากพรรคโคเมโตมีท่าทีระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้คำนี้
ยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันแห่งชาติระบุในเอกสารอีกฉบับหนึ่ง โดยกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของจีนว่าเป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่งของญี่ปุ่นและประชาคมนานาชาติ และว่าจีนทำให้เกิดความท้าทายทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
รมต.คลังญี่ปุ่นระบุต้องทำความเข้าใจกับประชาชนเรื่องขึ้นภาษีเพื่อนำไปใช้ป้องกันประเทศ
วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม เวลา 17:44น.
นายซูซูกิ ชุนอิจิ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ปุ่นระบุว่า รัฐบาลต้องอธิบายอย่างตรงไปตรงมาต่อประชาชนถึงแผนในการขึ้นภาษี เพื่อนำไปใช้เป็นงบประมาณในการป้องกันประเทศที่เพิ่มขึ้น
นายคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้บรรดารัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาลเพิ่มงบประมาณการป้องกันประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ความมั่นคงที่รุนแรงเพิ่มขึ้นรอบ ๆ ญี่ปุ่น
ผู้นำญี่ปุ่นหวังที่จะเพิ่มงบประมาณป้องกันประเทศประจำปีและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นร้อยละ 2 ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศในปีงบประมาณที่เริ่มจากเดือนเมษายน 2570
คาดว่างบประมาณที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวจะทำให้ขาดดุลงบประมาณปีละมากกว่า 1 ล้านล้านเยนหรือกว่า 2.55 ล้านล้านบาทเริ่มจากปีงบประมาณ 2570
รัฐบาลและบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลกำลังพิจารณาที่จะขึ้นภาษีแบบค่อยเป็นค่อยไป ปรับปรุงค่าใช้จ่ายและใช้เงินส่วนเกิน
รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคมว่า รัฐบาลจะพยายามหาแหล่งรายได้ แต่จะต้องขอให้ผู้จ่ายภาษีจ่ายเพิ่มขึ้นหากไม่สามารถหาได้
เขายังกล่าวเสริมว่า รัฐบาลจะต้องอธิบายกระบวนการตัดสินใจอย่างละเอียดเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ
ผู้นำญี่ปุ่นขอให้เพิ่มงบป้องกันประเทศร้อยละ 50 ในช่วง 5 ปีข้างหน้า
วันอังคารที่ 6 ธันวาคม เวลา 19:01น.
นายกรัฐมนตรีคิชิดะ ฟูมิโอะของญี่ปุ่น กับนายซูซูกิ ชุนอิจิ รัฐมนตรีคลัง และนายฮามาดะ ยาซูกาซุ รัฐมนตรีกระทรวงการป้องกันประเทศ เห็นพ้องกันเกี่ยวกับขนาดของงบประมาณด้านการป้องกันประเทศใน 5 ปีข้างหน้า
ผู้นำญี่ปุ่นพบกับรัฐมนตรีคลังและรัฐมนตรีกระทรวงการป้องกันประเทศเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม และเห็นพ้องกันว่าจะทำงานเพื่อจัดหาเงิน 43 ล้านล้านเยน หรือราว 11 ล้านล้านบาท เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ ระหว่างปีงบประมาณ 2566 ถึง 2570 ซึ่งเป็นการเพิ่มร้อยละ 50 จากงบประมาณในช่วง 5 ปีปัจจุบัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายคิชิดะสั่งการให้รัฐมนตรีทั้งสองเพิ่มงบประมาณประจำปีด้านการป้องกันประเทศและงบประมาณอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเพิ่มให้เป็นร้อยละ 2 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ในปีงบประมาณ 2570
เดิมกระทรวงการป้องกันประเทศของบประมาณ 48 ล้านล้านเยน โดยระบุถึงความจำเป็นในการเพิ่มขีดความสามารถด้านการป้องกันประเทศ ขณะเดียวกัน เดิมกระทรวงการคลังขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้กระทรวงการป้องกันประเทศไม่เกินราว 35 ล้านล้านเยน เพื่อรักษาความมั่นคงด้านการคลัง
เจ้าหน้าที่รัฐบาลระบุว่า พวกตนจะสำรวจแนวทางจัดสรรเงินสำหรับงบประมาณที่เพิ่มขึ้น โดยคำนึงถึงรายได้จากภาษีและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เจ้าหน้าที่พยายามแสวงหาแนวทางที่จะสร้างแผนต้นแบบที่ครอบคลุมภายในสิ้นปีนี้ โดยประสานกับพรรคร่วมรัฐบาล
ก่อนหน้านี้ นายคิชิดะพบกับนายยามางูจิ นัตสึโอะ หัวหน้าพรรคโคเมโตซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลร่วมกันกับพรรคเสรีประชาธิปไตยที่มีนายคิชิดะเป็นหัวหน้าพรรค นายคิชิดะเห็นพ้องกับนายยามางูจิเกี่ยวกับแผนสำหรับงบประมาณรวมด้านการป้องกันประเทศและการจัดหาเงินเพื่อนำไปสรุปขั้นสุดท้ายโดยคณะทำงานที่นำโดยรองหัวหน้าพรรคของตน
ที่มา
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/400803/
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/400656/
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/400165/
ญี่ปุ่นมีโครงการเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศ,จะขึ้นภาษีเพื่อนำไปใช้เป็นงบประมาณในการป้องกันประเทศที่เพิ่มขึ้น
NHK ทราบเรื่องร่างเอกสารสำคัญด้านการป้องกันประเทศ 3 ฉบับ
วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม เวลา 17:58น.
NHK ได้ทราบเกี่ยวกับร่างเอกสารสำคัญด้านการป้องกันประเทศ 3 ฉบับของญี่ปุ่น โดยรัฐบาลกำลังแก้ไขทบทวนเอกสารดังกล่าวภายในสิ้นปีนี้
แผนการที่จะมาแทนที่โครงการเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศในช่วงกึ่งวาระปัจจุบันระบุว่า ญี่ปุ่นจะจัดหางบประมาณ 43 ล้านล้านเยน หรือราว 11 ล้านล้านบาท สำหรับการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศระหว่างปีงบประมาณ 2566 ถึงปีงบประมาณ 2570
แผนการนี้ระบุว่างบประมาณ 5 ล้านล้านเยนจะใช้กับด้านที่เรียกว่า “สแตนด์ออฟ” ซึ่งเป็นขีดความสามารถด้านการป้องกันประเทศที่จะโจมตีเป้าหมายจากนอกพิสัยที่อาวุธศัตรูยิงมา
ส่วนงบประมาณราว 9 ล้านล้านเยนจะใช้กับการซ่อมบำรุงยานพาหนะที่สำคัญ เช่น เครื่องบินและเรือ และ 6 ล้านล้านเยนจะใช้กับการจัดหาอุปกรณ์ใหม่ ๆ
งบประมาณ 2 ล้านล้านเยนจะใช้เพื่อซื้อกระสุนและขีปนาวุธนำวิถี ส่วนงบประมาณสำหรับด้านที่เกี่ยวกับอวกาศและไซเบอร์นั้น จะได้รับการจัดสรรอย่างละ 1 ล้านล้านเยน ตลอดจนการจัดซื้อโดรนไร้คนขับโดยเร็วด้วย
ยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันแห่งชาติ ซึ่งมาแทนที่แนวทางของโครงการป้องกันแห่งชาติระบุว่า ญี่ปุ่นจะครอบครองขีดความสามารถในการยิงโจมตีตอบโต้ไปยังสถานที่ยิงขีปนาวุธและเป้าหมายอื่น ๆ ของศัตรู
เอกสารระบุว่ากองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นอาจเริ่มการโจมตีตอบโต้ได้ ก็ต่อเมื่อการโจมตีด้วยอาวุธ เช่น การโจมตีด้วยขีปนาวุธต่อญี่ปุ่นได้เริ่มขึ้นแล้วเท่านั้น และสถานการณ์ตรงกับเงื่อนไข 3 ประการสำหรับการใช้สิทธิเพื่อป้องกันตนเอง
เอกสารระบุว่าการโจมตีตอบโต้สามารถดำเนินการได้กับเป้าหมายทางทหารโดยตรงเท่านั้น โดยใช้กำลังพลให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นต่อการป้องกันการโจมตีของศัตรูที่อาจเกิดขึ้นอีก
เอกสารอธิบายขีดความสามารถในการโจมตีโต้กลับว่าเป็นสิ่งที่สามารถเริ่มการโจมตีโต้กลับที่ได้ผลในดินแดนของศัตรูได้ โดยใช้ขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ “สแตนด์ออฟ”
ยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันแห่งชาติระบุถึงการที่จีนยิงขีปนาวุธซึ่งตกลงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่นเมื่อเดือนสิงหาคม โดยกล่าวว่าผู้คนในญี่ปุ่นและในภูมิภาคนี้มองว่าสิ่งนี้เป็นภัยคุกคาม
อย่างไรก็ตาม พรรคเสรีประชาธิปไตยซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลญี่ปุ่นและพรรคโคเมโต ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ยังคงหารือคำว่า “ภัยคุกคาม” กันอยู่ เนื่องจากพรรคโคเมโตมีท่าทีระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้คำนี้
ยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันแห่งชาติระบุในเอกสารอีกฉบับหนึ่ง โดยกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของจีนว่าเป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่งของญี่ปุ่นและประชาคมนานาชาติ และว่าจีนทำให้เกิดความท้าทายทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
รมต.คลังญี่ปุ่นระบุต้องทำความเข้าใจกับประชาชนเรื่องขึ้นภาษีเพื่อนำไปใช้ป้องกันประเทศ
วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม เวลา 17:44น.
นายซูซูกิ ชุนอิจิ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ปุ่นระบุว่า รัฐบาลต้องอธิบายอย่างตรงไปตรงมาต่อประชาชนถึงแผนในการขึ้นภาษี เพื่อนำไปใช้เป็นงบประมาณในการป้องกันประเทศที่เพิ่มขึ้น
นายคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้บรรดารัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาลเพิ่มงบประมาณการป้องกันประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ความมั่นคงที่รุนแรงเพิ่มขึ้นรอบ ๆ ญี่ปุ่น
ผู้นำญี่ปุ่นหวังที่จะเพิ่มงบประมาณป้องกันประเทศประจำปีและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นร้อยละ 2 ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศในปีงบประมาณที่เริ่มจากเดือนเมษายน 2570
คาดว่างบประมาณที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวจะทำให้ขาดดุลงบประมาณปีละมากกว่า 1 ล้านล้านเยนหรือกว่า 2.55 ล้านล้านบาทเริ่มจากปีงบประมาณ 2570
รัฐบาลและบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลกำลังพิจารณาที่จะขึ้นภาษีแบบค่อยเป็นค่อยไป ปรับปรุงค่าใช้จ่ายและใช้เงินส่วนเกิน
รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคมว่า รัฐบาลจะพยายามหาแหล่งรายได้ แต่จะต้องขอให้ผู้จ่ายภาษีจ่ายเพิ่มขึ้นหากไม่สามารถหาได้
เขายังกล่าวเสริมว่า รัฐบาลจะต้องอธิบายกระบวนการตัดสินใจอย่างละเอียดเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ
ผู้นำญี่ปุ่นขอให้เพิ่มงบป้องกันประเทศร้อยละ 50 ในช่วง 5 ปีข้างหน้า
วันอังคารที่ 6 ธันวาคม เวลา 19:01น.
นายกรัฐมนตรีคิชิดะ ฟูมิโอะของญี่ปุ่น กับนายซูซูกิ ชุนอิจิ รัฐมนตรีคลัง และนายฮามาดะ ยาซูกาซุ รัฐมนตรีกระทรวงการป้องกันประเทศ เห็นพ้องกันเกี่ยวกับขนาดของงบประมาณด้านการป้องกันประเทศใน 5 ปีข้างหน้า
ผู้นำญี่ปุ่นพบกับรัฐมนตรีคลังและรัฐมนตรีกระทรวงการป้องกันประเทศเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม และเห็นพ้องกันว่าจะทำงานเพื่อจัดหาเงิน 43 ล้านล้านเยน หรือราว 11 ล้านล้านบาท เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ ระหว่างปีงบประมาณ 2566 ถึง 2570 ซึ่งเป็นการเพิ่มร้อยละ 50 จากงบประมาณในช่วง 5 ปีปัจจุบัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายคิชิดะสั่งการให้รัฐมนตรีทั้งสองเพิ่มงบประมาณประจำปีด้านการป้องกันประเทศและงบประมาณอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเพิ่มให้เป็นร้อยละ 2 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ในปีงบประมาณ 2570
เดิมกระทรวงการป้องกันประเทศของบประมาณ 48 ล้านล้านเยน โดยระบุถึงความจำเป็นในการเพิ่มขีดความสามารถด้านการป้องกันประเทศ ขณะเดียวกัน เดิมกระทรวงการคลังขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้กระทรวงการป้องกันประเทศไม่เกินราว 35 ล้านล้านเยน เพื่อรักษาความมั่นคงด้านการคลัง
เจ้าหน้าที่รัฐบาลระบุว่า พวกตนจะสำรวจแนวทางจัดสรรเงินสำหรับงบประมาณที่เพิ่มขึ้น โดยคำนึงถึงรายได้จากภาษีและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เจ้าหน้าที่พยายามแสวงหาแนวทางที่จะสร้างแผนต้นแบบที่ครอบคลุมภายในสิ้นปีนี้ โดยประสานกับพรรคร่วมรัฐบาล
ก่อนหน้านี้ นายคิชิดะพบกับนายยามางูจิ นัตสึโอะ หัวหน้าพรรคโคเมโตซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลร่วมกันกับพรรคเสรีประชาธิปไตยที่มีนายคิชิดะเป็นหัวหน้าพรรค นายคิชิดะเห็นพ้องกับนายยามางูจิเกี่ยวกับแผนสำหรับงบประมาณรวมด้านการป้องกันประเทศและการจัดหาเงินเพื่อนำไปสรุปขั้นสุดท้ายโดยคณะทำงานที่นำโดยรองหัวหน้าพรรคของตน
ที่มา
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/400803/
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/400656/
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/400165/