Format 48 ทีมบอลโลกครั้งหน้า กับ เสียงวิจารณ์ ข้อดี ข้อเสีย





ข้อดี 

- หลายชาติมีส่วนร่วมมากขึ้น เงินสะพัดเข้าฟีฟ่าสูงขึ้น ค่าลิขสิทธิ์ เรตติ้งการชม กระแสฟีเวอร์บอลโลกจะสูงขึ้นอย่างแน่นอน 

คิดดูถ้าจีนได้เข้าบอลโลกอีกรอบเงินจะสะพัดมหาศาลขนาดไหน

- ให้โอกาสกับชาติที่อาจไม่เคยได้สัมผัสกับบอลโลก หรือชาติขาประจำที่อาจพลาดตกรอบคัดเลือกอย่างพลิกล็อกเช่น อังกฤษพลาดบอลโลก 1994 ฮอลแลนด์ 2018 อเมริกา 2018 อิตาลี 2018 2022 เป็นต้น


นักเตะระดับโลกหลายคน โอกาสจะพลาดตกรอบก็จะน้อยลง จะสร้างสีสันมากขึ้น

- ฟีฟ่ากำหนดให้ 3 ชาติร่วมเป็นเจ้าภาพ เนื่องจากมีเกมส์ถึง 80 เกมส์ หมายความว่าโอกาสชาติต่างๆได้เป็นเจ้าถาพก็มีมากขึ้น

โอกาสทีมชาติไทยจะไปบอลโลก อาจไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป

ข้อเสีย

- จาก 16 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม 2 ทีมเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้ายไปรอบ Knocked out  ทีมที่ตกรอบจะมีแมตช์ให้เล่นแค่ 2 เกมส์ น้อยกว่าบอลโลกทุกครั้งที่มี 3 เกมส์

- ความสนุกของบอลโลกทุกครั้งโดยเฉพาะครั้งนี้คือ การแข่งพร้อมกันของรอบแบ่งกลุ่มในนัดสุดท้าย  ต่อไปเสน่ห์ตรงนี้จะหายไปอย่างน่าเสียดาย


ภาพเกาหลีใต้ล้อมวงลุ้นคู่อุรุกวัยกลางสนาม


ภาพตูนิเซียลุ้นผลคู่ออสเตรเลียข้างสนามระหว่างแข่ง


ภาพเลวานดีใจหลังซาอุยิงเม็คซิโกท้ายเกมส์


ภาพการเข้ารอบ 3 นาทีของคอสตาริกา หลังยิงนํา เยอรมัน 2-1 


เสน่ห์การกดรีโมทไปมาระหว่างที่ลุ้นนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม

- ปกติเราจะจําบอลโลกครั้งนั้นไปพร้อมกับเจ้าภาพ ต่อไปเจ้าภาพจะมี 3 ชาติ และ 3 วัฒนธรรม เสน่ห์ตรงนี้จะหายไป



- ความแตกต่างของมารตฐานของชาติเข้าร่วม  จะห่างมากขึ้น จะต้องมีชาติที่ต้องร้องขอชีวิตในบอลโลกให้เห็น 


ผลการแข่งขัน สเปน VS ทีมชาติตาฮิติแชมป์โซนโอเชียเนีย OFC ในบอล confederation cup ปี 2013



เยอรมันเป็น 1 ในชาติที่ไม่เห็นด้วยกับระบบ 48 ทีม ประธานฟุตบอลของเยอรมันให้ความเห็นว่า เสน่ห์ของบอลโลกจะหายไป ปริมาณจะมาก่อนคุณภาพ  อีกอย่างถึงแม้จะมี 7 เกมส์เท่าเดิม แต่การเริ่ม Knocked out จาก 32 ทีมหมายความว่าทุกทีมจะไม่มีเกมส์ที่สามารถพักนักเตะหลักได้เลยและอาจจะเหนื่อยล้ามากขึ้นจากการต่อเวลา

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่