ประสบการณ์การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สหรัฐอเมริกา

กระทู้สนทนา
เราจะมาแชร์ประสบการณ์การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่รัฐเซาท์ดาโคต้านะ เป็นรัฐที่อยู่บริเวณตอนเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา ขอบอกเลยถ้าต้องการความเย็นสุดขั้วแบบเจอหิมะอย่างหนาแน่นอุณหภูมิติดลบเยอะๆ ต้องที่นี่เลย คุณจะเป็นดักแด้ในชุดกันหนาวแบบเราทั้งทริป
 
เหตุผลที่ตัดสินใจไปสอบเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนโครงการ Engenius จะว่าเป็นการบังเอิญก็ได้ที่เดินผ่านห้องแนะแนว และเห็นประกาศรับสมัครโครงการเด็กแลกเปลี่ยน ครั้งแรกสะดุดเพราะอยากไปเที่ยว ไม่ได้คิดไรมากเลย ก็ลองสมัครสอบดู เราคิดว่าหลายคนเป็นแบบเราคืออยากเที่ยวอเมริกาตอนนั้นคิดว่าถ้าผ่านจะลองขอพ่อแม่ดู พอผลสอบผ่านขึ้นมา ซึ่งเป็นทุนสนับสนุน 50% จากรัฐบาลอเมริกา ทางเราจะต้องจ่ายสมทบอีกส่วนหนึ่ง เราก็ลองขอคุณพ่อคุณแม่ดู ปรากฎว่าพ่อแม่ท่านอนุญาติให้ไปโครงการนี้ หลังจากไปฟังบรรยายรายละเอียดจากโครงการมา เราว่าคงอยากให้เราได้ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นเหตุผลแรก เพราะเราเรียนโรงเรียนรัฐ ภาคปกติ ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้แข็งแรงอะไร แค่คิดว่าเราคงเอาตัวรอดได้ไม่ยากถ้าต้องไปเรียนที่นั่น พอมีโอกาสก็คว้าเลย คิดในใจจะทำให้ดีที่สุด 
 
ตอนสมัครโครงการแลกเปลี่ยนตอนเราอยู่ ม.5 กำลังขึ้นม.6 เราตัดสินใจว่าเราจะไปแลกเปลี่ยน 10 เดือนกับโครงการ แล้วกลับมาเรียนซ้ำชั้น  ม.6 อีกรอบ เพราะเราเรียนสายวิทย์ ขั้นตอนหลังจากการยืนยันเข้าร่วมโครงการแล้ว เราก็ต้องเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมภาษาของเรา นอกจากนั้นเราต้องเตรียมเอกสารของโครงการ ก็จะเป็นพวกข้อมูลส่วนตัวของเรา เขียนจดหมายแนะนำตัวถึงโฮสต์แฟมิลี่ ทำรูปภาพต่างๆ เพื่อให้ทางอเมริกาสรรหาโฮสต์แฟมิลี่ให้เรา ขั้นตอนนี้จะต้องเตรียมเยอะนิดนึง ต้องติดต่อขอเอกสารจากโรงเรียน ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล  แต่ก็ถือว่าเป็นการฝึกความรับผิดชอบของเราในขั้นแรกเลยนะ ก่อนที่จะไปใช้ชิวิตที่ต้องห่างจากคุณพ่อคุณแม่ ต้องช่วยเหลือและรับผิดชอบชีวิตของตัวเองถึง 10 เดือน แต่ในขั้นตอนนี้ทางโครงการก็จะช่วยเหลือและอธิบายให้เราตลอด หากมีข้อสงสัยหรืองงตรงไหนทางโครงการก็จะช่วยแนะนำและประสานงานกับทางโรงเรียนให้ ทั้งเอกสารที่ต้องส่งให้ทางอเมริกาเพื่อสรรหาโฮสต์แฟมิลี่และโรงเรียน รวมถึงเอกสารการทำวีซ่าด้วย รวมๆ แล้วใช้เวลาเกือบ 1 ปีเลยในการเตรียมตัวเตรียมเอกสาร
 
วันแรกที่โฮสมารับที่สนามบิน พายุทอร์นาโดก็มารับที่สนามบินพร้อมโฮสเลย ทั้งตื่นเต้นทั้งตกใจเพราะไม่เคยเจอ ก็อยู่ในรถด้วยบรรยากาศตึงเครียด ขับรถฝ่าพายุฝนกระหน่ำแบบแรงมากๆ และถนนมืดสุดๆ ทุกคนในรถก็เงียบกันหมด 555 เราก็เงียบสิรออะไร เป็นใบ้จนถึงบ้านโฮสก็ดึกมากแล้ว ก็มีคุยนิดหน่อยแค่นั้นก่อนนอน แอบตื่นเต้นทำตัวไม่ถูกเลย ไม่รู้จะคุยอะไรยังไง ภาษาอังกฤษก็สำเนียงไทยจ๋า เค้าฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง และนอกจากโฮสแล้วเรายังมีผู้ดูแลเราจากทางโครงการฝั่งอเมริกา ซึ่งเราเรียกว่า  Area Representative เขาจะเป็นเจ้าหน้าที่ ที่เป็นคนในพื้นและค่อยช่วยเหลือให้คำปรึกษาเราหากเรามีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความไม่เข้าใจกันกับโฮส การปรับตัวเข้ากับโรงเรียนหรือเพื่อนไม่ได้ ต่างๆ เนื่องจากวัฒนธรรมที่แตกต่าง ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นได้ตลอดไม่ใช่เรื่องแปลกเลย  Area Representative นี่แหละที่เราสามารถปรึกษาและขอความช่วยเหลือจากเขาได้
 
ส่วนในเรื่องของภาษา สรุปให้นะ ผ่านไปสัก 3 เดือน เราจะสื่อสารได้ ทุกคนจะเข้าในเราและเราก็จะเข้าใจเขา ฉะนั้นอยากแนะนำเลยดูซีรีส์ภาษาอังกฤษตุนไว้เลยช่วยเราได้จริงๆ หรือร้องเพลงสากลก็ช่วยได้เหมือนกัน              การปรับตัวก็ต้องปรับทั้งอาหารการกิน ความเป็นอยู่ ทำให้รู้เลยว่าอยู่ที่ไหนก็ไม่สบายเท่าที่บ้านอยู่แล้ว แต่เมื่อเราไปอยู่บ้านเค้าแล้ว เราก็ต้องปรับตัว ทำอะไรก็ต้องเกรงใจเค้า การยิ้มบ่อยๆช่วยคุณได้ทุกสถานการณ์ 555 อันนี้น่าจะทำได้ทุกคนยิ้มเข้าไว้สบายใจไปหนึ่งสเต็ป การเรียนที่นั่นก็ง่ายกว่าไทยเยอะโดยเฉพาะวิชาคณิต เราจะกลายเป็นคนเก่งขึ้นมาแบบเรียกเสียงตบมือจากเพื่อนๆในห้องได้เลย ส่วนวิชาอื่นก็อาจจะมีการสอนต่างจากที่ไทยเยอะ พวกวิชาแล็ป นี้ขอบอกเลยสนุกมาก ได้ทดลอง ได้ผ่าจริงอะไรจริงเยอะ ถ้าเรื่องเรียนบอกเลย ถ้าพยายามก็ไม่ยากนัก ส่วนเรื่องเพื่อนก็อาจต้องพยายามเข้าหาเค้าก่อน  อันนี้ขึ้นกับฝีมือของแต่ละคนเลย ถ้าเรามีเพื่อนเราจะได้ไปปาร์ตี้และเที่ยวแบบฉบับวัยรุ่นอเมริกันเหมือนในซีรีส์เลย อย่างเราก็เคยเล่นซ่อนแอบโดยใช้รถยนต์ขับซ่อนตามถนนมาแล้ว แปลกดี ส่วนครูนี่ต้องยกนิ้วให้แบบทุกนิ้ว เพราะดีงามมาก พยายามช่วยเหลือมากๆ เพราะรู้ว่าเราคือเด็กแลกเปลี่ยน ได้มีโอกาสเป็นลีด ก็เพราะครูจริงๆ มาที่การเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยว เราอาจจะได้เที่ยวน้อยเพราะไปช่วงที่อุทยานปิดปรับปรุง ช่างน่าเศร้ามาก ก็เลยได้เที่ยวแนวแคมปิ้งกลางป่าแทน ไปตกปลาในทะเลสาบ เจาะน้ำแข็ง แล้วหย่อนเบ็ดลงไปตกปลา แบบนั่งเป็นวัน คุณอาจได้ปลา 2-3 ตัว 555 แต่ก็หนาวยะเยือกแบบตื่นเต้นถ้าได้ปลา อ้อ มีโอกาสไปล่าสัตว์ในป่าด้วย ไปนั่งห้างดูสัตว์ ได้เจอกวางป่าเดินผ่านใต้ห้างที่เราอยู่ ก็ตื่นเต้นอีกนั่นแหละ เพราะไม่เคยได้ทำแบบนี้มาก่อน แต่อย่างที่บอกทุกกิจกรรมคือหนาวสะท้านมาก เพราะรัฐที่เราอยู่คือหนาวถึง -30 ก็อยู่มาแล้ว 555 ถ้าอยากได้ความหนาวสะใจก็แนะนำเลย
 
 แต่เราก็อยู่ไม่ครบ 10 เดือนนะ เพราะต้องกลับมาก่อน จากสถานการณ์โควิดระบาดที่นั่น เลยอดไปงานอำลาจบการศึกษาเลย คือเช่าชุดไปงานพรอมที่นั่นก็ไม่ได้ใส่เลยต้องกลับก่อนแอบเสียดายมาก เพราะดูซีรีส์ฝรั่งเยอะ  แต่โฮสต์เราใจดีเลยจัดพรอมเซอไพรส์ที่บ้านให้ น่ารักมากๆ แต่สิ่งได้กลับมาคือภาษาแน่ๆ คุณจะเก่งขึ้นเยอะ อันนี้คือจริงจังมาก สำเนียงถูกต้องมากขึ้น คำศัพท์ รูปประโยคที่ใช้สนทนา ได้มาแบบไม่รู้ตัว 555 ที่สำคัญความขาวและน้ำหนักที่พุ่งพรวด จากชีส อาหารแทบทุกอย่างจะมีชีส แต่คืออร่อยมาก ขนมนี่บอกเลย ต้องกิน ส่วนใหญ่ครอบครัวจะทำอาหารเองที่บ้าน และเค้ามักมีฝีมือทำขนมอร่อย คือเรากินจนอ้วนไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกก็ตอนกลับไทย
 
ถ้าถามเรานะ ถ้าคุณมีโอกาสได้ไปแลกเปลี่ยนก็คว้าโอกาสนั้นเถอะ อย่ากังวลเรื่องภาษาว่าจะคุยกับเขารู้เรื่องมั้ย เค้ารู้ว่าเราคือเด็กแลกเปลี่ยน มาจากโครงการแลกเปลี่ยน เค้าก็พยายามฟังเราพูดอยู่แล้ว ไม่ต้องเขินหรืออายที่จะพูด สำเนียงผิดถูกก็พูดไปเถอะ ไม่มีใครมาล้อเลียนเรา เขาจะพยายามช่วยและสุดท้ายเราจะได้ภาษากลับมาเอง แต่จริงๆแล้วเรื่องภาษาที่เราถือว่าเป็นเรื่องหลักที่เราอยากจะไปแลกเปลี่ยนมันกลายเป็นเรื่องรองไปเลย เพราะยังไงเราก็พัฒนาและได้ภาษามาแน่ๆอยู่แล้ว  แต่สิ่งที่กลายเป็นเรื่องหลักที่เราได้กลับมาจากการที่เราไปแลกเปลี่ยนคือเราได้เปิดประสบการณ์ในหลายๆ ด้านเลย ทำให้เราโตขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าได้ด้วยตัวเอง เรากลับมาเราว่าเราเก่งขึ้นเยอะในหลายๆด้านจริงๆ ที่สำคัญอยากแนะนำนะ ถ้าเพื่อนมีโอกาสแบบนี้ ต้องคว้าไว้ เพื่อนๆอาจได้ประสบการณ์ที่ดีกว่าเราก็ได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่