สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมส์ระหว่างบราซิลพบโครเอเชีย

ฝันสลายไปอีกรอบสำหรับบราซิล หลังแพ้การดวลจุดโทษให้กับโครเอเชียไป 2 -​ 4 ส่งผลให้เนย์มาร์และพรรคพวกไปไม่ถึงฝันอีกครั้ง และทำให้พวกเขา ยังไม่สามารถคว้าแชมป์โลกได้อีกเลย นับตั้งแต่ยุค 3R  ในปี 2002

ส่วนฝั่งโครเอเชียเป็นอีกครั้งที่พวกเขา ชนะการดวลจุดโทษในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก โดยถ้านับตั้งแต่ฟุตบอลโลกปี 2018 พวกเขาชนะการดวลจุดโทษในรอบน็อคเอาท์ มา 4 ครั้งติดต่อกันแล้ว เรียกได้ว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งการดวลจุดโทษเลย สำหรับทีมตราหมากรุก และชัยชนะครั้งนี้ ส่งผลให้พวกเขา จะได้เข้าไปพบกับทีมชาติอาเจนติน่า ที่เพิ่งชนะการดวลจุดโทษมาเช่นกัน แถมยังมีผู้รักษาประตูจอมเซฟจุดโทษอย่าง เอมิเลียโน มาร์ติเนซอีกด้วย เรียกได้ว่าถ้าทั้ง 2 ทีม ต้องลากไปถึงฎีกา อาจเป็นการดวลที่น่าสนุกทีเดียว และจากนี้ผมขออนุญาตพูดถึงรายละเอียดภายในเกมส์ ถึงสิ่งที่ผมได้เห็นในเกมส์คู่นี้ครับ

1.การจัดตัวผู้เล่น
- โครเอเชียเปลี่ยนผู้เล่นเพียง 2 ตำแหน่ง จากนัดที่ดวลจุดโทษชนะญี่ปุ่น โดยลูก้า โมดริช กองกลางจอมเก๋ายังคงเป็นกำลังหลักในแดนกลางต่อไป ซึ่งผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนลงมาในเกมส์นี้ได้แก่ บอร์นา โซซา แทน บอร์นา บาริซิช และ มาริโอ ปาซาลิช แทน บรูโน่ เพ็ตโควิช 

- ทางฝั่งบราซิล ยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิม จากเกมส์ที่ชนะเกาหลีใต้ 4 -​ 1 แต่เปลี่ยนแผนการเล่นเป็น 4 -​ 3 -​ 3 โดยขยับเนย์มาร์ลงมายืนเป็นมิดฟิลด์ด้านซ้าย 

2.ระบบการเล่น
บราซิล ยังคงใช้แนวทางการเล่นในวิธีการเดิม จากรอบแบ่งกลุ่มและรอบ 16 ทีม ที่ผ่านมา โดยยึดเนย์มาร์เป็นศูนย์กลาง ในการขึ้นเกมส์รุก โดยเนย์มาร์ จะพยายามดึงกองหลังและมิดฟิลด์เข้ามาไว้ที่ตนเอง จากนั้นจะจ่ายออกไปยังที่ว่าง ให้ริมเส้น หรือศูนย์หน้าเข้าทำ 

เพียงแต่เกมส์นี้ ไม่ง่ายเหมือนนัดที่เจอเกาหลีใต้ เนื่องจากโครเอเชียรู้ทันแนวทางการเล่นนี้ จึงทำการคุมโซน และยืนบีบช่องว่างระหว่างเซ็นเตอร์หรือฟูลแบ็คไว้ ไม่ตามรุมเนย์มาร์เหมือนหลายๆทีมที่ผ่านมา ทำให้บราซิล ไม่สามารถหาช่องเจาะแนวรับโครเอเชียได้ 

และอีกหนึ่งเหตุผล ที่บราซิลไม่สามารถทำเกมส์รุกเข้าใส่โครเอเชียได้คือ พวกเขาหวังพึ่งเนย์มาร์มากเกินไป ผู้เล่นในแนวรุกแต่ละคน ไม่ขยับหาพื้นที่ว่าง ไม่ซัพพอร์ตเนย์มาร์ หรือพยายามโอเวอร์แลปเข้าเขตโทษ พวกเขาเพียงแค่รอเนย์มาร์สร้างสิ่งมหัศจรรย์ หรือ รอเนย์มาร์ดึงตัวประกบไปและแทงช่องสวยๆให้พวกเขาเท่านั้น 

ทางฝ่งโครเอเชีย พวกเขาระวังแนวรุกบราซิลมากๆ เนื่องจากคงเห็นพิษสงจากเกมส์ที่พบเกาหลีใต้ โดยปกติโครเอเชีย จะเน้นเจาะช่องว่างระหว่างฟูลแบ็คเป็นหลัก โดยให้มิดฟิลด์อย่างโมดริช และ โควาซิช คอยสอดเข้าไปในช่องว่างด้งกล่าว เพื่อสร้างเกมส์รุกในกรอบเขตโทษ 

ซี่งเกมส์นี้โครเอเชียเปลี่ยนวิธีการเล่นจากเกมส์ที่ผ่านๆมา โดยโควาซิช และ โมดริช จะเน้นการยืนคุมพื้นที่ และทำเกมส์จากบริเวณกลางสนามเท่านั้น โดยเมื่อผู้เล่น 2 คนนี้ได้บอล จะจ่ายออกปีกหรือ ฟูลแบ็ค และวางบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ จากนั้นริมเส้นอีกฝั่งหนึ่ง หรือ ศูนย์หน้า จะหาพื้นที่เข้าทำประตูต่อไป 

โดยสาเหตุที่พวกเขาต้องเปลี่ยนวิธีการ เนื่องจากเกมส์ที่แล้ว เกาหลีใต้พยายามเจาะตรงกลางของบราซิล แต่โดนคาเซมิโร่ดักเก็บตรงกลางได้หมด และโดนสวนกลับจากผู้เล่นแนวรุกที่มีความเร็วของบราซิล ทำให้เกมส์นี้พวกเขาระวังการขึ้นเกมส์จากตรงกลางมาก เนื่องจากสุ่มเสี่ยงต่อการโดนย้อนทาง และเปิดพื้นที่ให้แนวรุกบราซิลได้ลงโทษ

เข้าครึ่งหลังเกมส์รุกบราซิลดูดีขึ้น เนื่องจากผู้เล่นแนวรุกและมิดฟิลด์พยายามซัพพอร์ต และดึงตัวประกบเพื่อเปิดพื้นที่ให้เนย์มาร์ ซึ่งในครึ่งหลังเราจะเห็นทางฝั่งบราซิลได้โอกาสเข้าทำอยู่หลายครั้ง แต่ด้วยความสุดยอดของ โดมินิค ลิวาโควิช ทำให้บราซิล ยังไม่สามารถทำประตูออกนำได้ 

และทางฝั่งโครเอเชีย ได้ส่งกองหน้าอย่าง บรูโน่ เพ็ตโควิช ลงมา เนื่องจาก อันเดรย์ ครามาริช ไม่สามารถเก็บบอล หรือพักบอลได้เลย แต่การส่งเพ็ตโควิชลงมา ถ้าไม่นับประตูที่ยิงตีเสมอได้ เจ้าตัวก็ไม่ได้สร้างประโยชน์ได้มากมายเช่นกัน ซึ่งเมื่อเพื่อนร่วมทีม ฝากบอลมาที่ศูนย์หน้านั้น ตัวเขามักจะเสียบอลจากการโดนรุมบีบอยู่ตลอดเวลา เรียกว่าทักษะการเอาตัวรอดต่ำมากๆ 

จนสุดท้ายในช่วงต่อเวลา บราซิลมาได้ประตูขึ้นนำ จากการเสียสมาธิเพียงนิดเดียวของผู้เล่นโครเอเชีย ด้วยการเริ่มสร้างเกมส์รุกของเนย์มาร์ และจังหวะฝากบอลในจังหวะสุดท้าย ผู้เล่นแนวรับ และแดนกลาง เข้าไปรุมบีบ ปาเกต้า กันหมด ทำให้เนย์มาร์ได้พื้นที่เข้าไปดวลเดี่ยวๆ กับลิวาโควิช ถือว่าการเสียสมาธิเพียงนิดเดียว อาจถูกลงโทษได้เลยกับเกมส์ระดับสูงแบบนี้ 

แต่ทางฝั่งโครเอเชียก็มาได้ประตูตีเสมอ จากการเสียสมาธิของผู้เล่นบราซิลเช่นกัน โดยในช่วงท้ายเกมส์ ผู้เล่นบราซิลยังพยายามสร้างเกมส์รุกต่อเพื่อจะเอาประตูเพิ่ม ทำให้ในแดนตนเอง เหลือเพียงเซ็นเตอร์ 2 คน และมิดฟิลด์ตัวรับอย่าง คาเซมิโร่เท่านั้น โดยจังหวะนี้เป็นความผิดพลาด ที่ทีมใหญ่มักจะไม่ค่อยผิดพลาดกัน คือ การหลงไปกับเสียงเชียร์ของแฟนบอล แฟนบอลอยากให้ทำประตูเพิ่มก็ดันไลน์ตามที่แฟนบอลสั่ง โดยลืมแท็คติก ที่ผู้เป็นกุนซือได้ออกคำสั่งไว้ เรียกได้ว่าเป็นความผิดพลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้นจริงๆ สำหรับทีมที่มีชื่อชั้นอย่างบราซิล

ซึ่งต่อมาเมื่อผลออกมาเสมอในเวลา 120 นาที ก็ต้องวัดกันที่จุดโทษ ทางฝั่งบราซิลเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมแปลกใจ เพราะติเต้ ได้เลือกให้ โรดริโก้ ลงทำหน้าที่เป็นคนแรก ทั้งที่ในทีม ยังมีผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากมายอย่าง ติอาโก้ ซิลวา , คาเซมิโร่ หรือ เนย์มาร์ แต่ดันเลือกผู้เล่นดาวรุ่งลงทำหน้าที่ ซึ่งถือว่าสำคัญมากๆ เนื่องจากจะส่งผลต่อขวัญกำลังใจ ในการยิงของคนต่อไป 

ทางฝั่งโครเอเชีย ในตอนแรก ผมคิดว่าถ้าพวกเขาต้องลากไปยิงจุดโทษ น่าจะเป็นสิ่งที่ลำบากสำหรับพวกเขาแน่ๆ เนื่องจากดูชื่อชั้นของผู้เล่นแต่ละคน ไม่ได้มีคนที่ยิงจุดโทษได้ดีสักเท่าไหร่ แต่เมื่อถึงเวลาดวลจริงๆ ผมสัมผัสได้เลยว่า นี่แหละคือสิ่งที่พวกเขาต้องการมาตลอดเกมส์ คือการพาบราซิลมาแข่งขันกันในจุดนี้ เพราะผู้ที่ได้รับหน้าที่ในการสังหารจุดโทษ ยิงได้เข้ามุมอับของผู้รักษาประตูทุกคน ซึ่งการจะทำแบบนี้ได้ ต้องผ่านการฝึกซ้อมในด้านนี้มาอย่างหนักหน่วง ถึงจุดนี้ผมเข้าใจแผนการของ ซลัตโก ดาลิช แล้วว่าถ้าเจอทีมใหญ่ๆ พวกเขายอมแลกกับความเหน็ดเหนื่อยไป 120 นาที เพื่อวัดชัยชนะจากการดวลจุดโทษ และถึงแม้จะขาดตัวเก๋าลงทำหน้าที่นี่ แต่พวกเขาก็ยังมั่นใจผู้เล่นคนอื่นภายในทีมที่ลงมาทำหน้าที่แทนเช่นกัน และโดยเฉพาะ โดมินิค ลิวาโควิช หลังจบทัวร์นาเมนต์นี้ อาจมีโอกาสได้ย้ายไปทีมที่ใหญ่กว่าเดิมแน่ๆ
 
3.ผู้เล่นที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
- ริชาร์ลิซอน เกมส์นี้บราซิลหาประโยชน์จากเจ้าตัวได้น้อยมาก ซึ่งโดยปกติแล้ว ริชาร์ลิซอน จะเป็นผู้เล่นที่วิ่งเข้าช่องว่างของแนวรับเก่ง แต่เมื่อเจอแนวรับโครเอเชีย ยืนปิดช่องว่างแบบนี้ ทำให้บทบาทของเจ้าตัวแทบไม่มีเลย ตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม ซึ่ง เปโดร ศูนย์หน้าอีกคนที่ถูกเปลี่ยนลงมา ยังสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้มากกว่าเจ้าตัวเยอะมากๆ 

- ราฟินญ่า เป็นอีกเกมส์ที่ทำได้ไม่ดีพอ โดยเกมส์นี้ติเต้ค่อนข้างระวังริมเส้นทั้งสองฝั่งมากๆ โดยฟูลแบ็คจะไม่ค่อยเติมสูงขึ้นมาทำเกมส์รุกมากนัก ทำให้เจ้าตัวต้องโดดเดี่ยว และเมื่อเจ้าตัวโดดเดี่ยวก็ไม่สามารถเอาตัวรอดเองได้เลย โดยแอนโทนี่ ที่ถูกส่งลงมาครึ่งหลัง ยังสร้างความอันตรายให้แนวรับโครเอเชียได้มากกว่า เนื่องจากเวลาโดนรุมบีบ สามารถเอาตัวรอดได้ และยังดึงฟูลแบ็คขึ้นมา เพื่อเปิดช่องว่างระหว่างฟูลแบ็คได้อีกด้วย 

- บรูโน่ เพ็ตโควิช ถ้าไม่นับประตูที่ยิงได้ เกมส์นี้ถือว่าเจ้าตัวไร้ประโยชน์มากๆ เนื่องจากเอาตัวรอดในแดนหน้าไม่ได้เลย ทั้งๆที่ ดาลิช ตั้งใจส่งลงมาแทนครามาริช เพื่อหาพื้นที่เข้าทำ และเก็บบอลช่วยเพื่อนร่วมทีม แต่เมื่อเจ้าตัวได้บอล มักจะโดนแซะโดนแย่งจนเสียบอลแทบทุกครั้ง สำหรับผมจุดอ่อนของโครเอเชียที่มีมานานคือ ศูนย์หน้า ปีนี้มันหนักกว่าปีที่ผ่านๆมาเสียอีก เนื่องจากไม่มีใครที่สามารถเชื่อใจได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์เลยแม้แต่คนเดียว

- อันเดรย์ ครามาริช ไม่มีประโยชน์อะไรเลยในสนาม เหมือนโครเอเชียเล่นอยู่ 10 คน ซึ่งจุดนี้ผมพอจะเข้าใจดาลิชแล้ว ว่าทำไมถึงต้องโยกเจ้าตัวไปเล่นด้านขวาอยู่ตลอด เพราะการขยับเจ้าตัวขึ้นมาเล่นเป็นหน้าเป้า ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับทีมเลย แต่จะใช้ผู้เล่นคนอื่นก็ไม่มั่นใจในศักยภาพ จึงจำเป็นต้องหาที่ให้ลงในแนวรุก แต่หลังจากนี้ อาจจะได้เห็น นิโคลา วลาซิช ได้ลงทำหน้าที่บ้างแล้ว หลังจากลงสนามมาแล้วปั่นป่วนแนวรับราซิลได้ค่อนข้างเยอะ 

**เรียกได้ว่าตกรอบไปเพียงเพราะความไม่ละเอียดเล็กๆน้อยๆ และการหลงไปกับเสียงเชียร์ของแฟนบอล ซึ่งทัวร์นาเมนต์นี้เราอาจจะได้เห็นเนย์มาร์ได้ลงเล่นเป็นครั้งสุดท้าย จากการเปิดเผยของเจ้าตัว โดยการตกรอบครั้งนี้ของบราซิล มีโอกาสที่พวกเขา จะกลับมาได้อย่างแข็งแกร่งกว่าเดิม เนื่องจากผู้เล่นในแนวรุกมีอายุค่อนข้างน้อย และในทัวร์นาเมนต์หน้า จะเป็นช่วงพีคของผู้เล่นเหล่านี้พอดี 

**ส่วนทางฝั่งโครเอเชีย เกมส์หน้าจะต้องไปพบกับอาเจนติน่า ซึ่งเป็นทีมที่เล่นในสไตล์เดียวกับบราซิล คือการพึ่งผู้เล่นเบอร์หนึ่งของพวกเขาอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า เราจะได้เห็นโครเอเชียพยายามลากอาเจนติน่าไปดวลจุดโทษ เหมือนในเกมส์นี้แน่นอน และน่าจะเป็นงานที่ยากลำบากของอาเจนติน่าเช่นกัน เพราะพวกเขาต้องเจอกับทีม ที่มีสมาธิในการเล่น ที่สำหรับผมน่าจะมากที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้แล้วสำหรับโครเอเชีย

ผมได้เขียนบทวิเคราะห์นี้ลงใน Pantip ควบคู่ไปกับเพจ Facebook ถ้าใครอ่านแล้วชอบบทความนี้สามารถติดตามที่เพจได้ครับ อัพเดทงานใหม่เรื่อยๆครับ https://www.facebook.com/profile.php?id=100088002469902&mibextid=ZbWKwL
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่