อยากให้เพื่อนๆลองเปรียบเทียบดูหน่อยคะ ระหว่าง 2 คนนี้ ถ้าต้องร่วมงานด้วย เพื่อนๆชอบใครมากกว่า
คนแรก : ทำงานเก่ง ประสิทธิภาพงานออกมาดี แต่เก่งแต่เรื่องงานอย่างเดียว ความสามารถอื่นนอกเหนือจากงานที่ทำไม่ค่อยมี เวลาจะให้ทำงานอะไรจะขี้สงสัยเป็นเจ้าหนูจำไม ว่าทำไมต้องทำแบบนั้น แบบนี้ ทำวิธีอื่นได้มั้ย ถ้าทำวิธีอื่นจะเร็วกว่ามั้ย งานอันนี้จำเป็นต้องทำมั้ย จนบางครั้งดูเหมือนเป็นคนใช้งานยากและดื้อนิดๆ เพราะจะใช้งานแต่ละทีต้องอธิบายละเอียดถึงเหตุผลที่ต้องทำ และเหตุผลละเอียดที่ต้องทำวิธีนั้นวิธีนี้ให้ฟังด้วย และคุยสัพเพเหระอะไรนอกจากเรื่องงานไม่ค่อยได้ เพราะนอกจากเรื่องงานแล้ว น้องคนนี้ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ ทำให้เป็นคนคุยไม่ค่อยสนุก
คนที่สอง : ทำงานได้กลางๆ ประสิทธิภาพออกมาสู้คนแรกไม่ได้ แต่นอกเหนือจากงานที่ทำแล้ว มีความรู้เรื่องอื่นหลายอย่าง ทำให้สามารถไปช่วยงานคนอื่นนอกจากงานในหน้าที่ตัวเองได้ด้วย เวลาให้ทำงานอะไรก็จะทำตามง่ายกว่า ไม่ขี้สงสัยตั้งคำถามเยอะแบบคนแรก ทำให้งานเดินเร็ว เป็นคนทำงานด้วยแล้วสนุกกว่าคนแรก เพราะนอกจากเรื่องงานแล้วสามารถคุยเรื่องสัพเพเหระ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตกันได้ด้วย เพราะเป็นคนมีกิจกรรมในชีวิตหลายอย่างที่น่าสนใจนอกจากเรื่องงาน
ส่วนตัวเราและเพื่อนร่วมงานคนอื่น ชอบทำงานกับคนที่สองมากกว่า เพราะทำงานด้วยง่ายกว่า ไม่ถามเยอะทำให้งานเดินเร็วกว่า รู้สึกถึงความเป็นทีมมากกว่า บรรยากาศในการทำงานดีกว่า เค้าทำงานได้หลายอย่างด้วย ไม่ใช่แค่งานในหน้าที่ ทำให้เราใช้งานคนที่สองทำงานบ่อยกว่ากว่าคนแรก แต่เจ้านายใหญ่ดูเหมือนจะชอบคนแรกมากกว่า เพราะเวลาถามเราเกี่ยวกับเรื่องสารทุกสุขดิบในออฟฟิศ จะพูดถึง ถามถึงน้องคนแรกบ่อยมากอย่างชัดเจน ดูรู้เลยว่าชอบน้องคนแรกพอสมควร มีแววเป็นลูกรักเลย แถมเราเคยโดนนายใหญ่เรียกไปดุ ว่าทำไมไม่ค่อยใช้น้องคนแรกทำงาน ใช้แต่คนที่สองบ่อย เจ้านายบอกว่าเราไม่รู้วิธีใช้งานน้องคนแรกถ้าใช้คนแรกทำงานเนื้องานน่าจะออกมาได้ดีกว่านี้(จริงๆงานที่น้องคนที่สองทำ อาจจะทำได้ไม่ดีเท่าคนแรก แต่ก็ดีพอจะส่งให้ลูกค้าได้เหมือนกัน แล้วลูกค้าก็พอใจด้วย) และให้เราหาวิธีใช้งานความสามารถน้องคนแรกให้ได้คุ้มกว่านี้ แต่เจ้านายไม่มาเห็นไงว่าในแง่การทำงานเป็นทีมคนที่สองเข้ากับทีมได้มากกว่าคนแรก
ทำงานเก่ง ขี้สงสัย เก่งแต่เรื่องงานที่ทำอย่างเดียว vs ทำงานกลางๆ ไม่ขี้สงสัย และทำงานได้หลายอย่าง ชอบคนไหนมากกวา
คนแรก : ทำงานเก่ง ประสิทธิภาพงานออกมาดี แต่เก่งแต่เรื่องงานอย่างเดียว ความสามารถอื่นนอกเหนือจากงานที่ทำไม่ค่อยมี เวลาจะให้ทำงานอะไรจะขี้สงสัยเป็นเจ้าหนูจำไม ว่าทำไมต้องทำแบบนั้น แบบนี้ ทำวิธีอื่นได้มั้ย ถ้าทำวิธีอื่นจะเร็วกว่ามั้ย งานอันนี้จำเป็นต้องทำมั้ย จนบางครั้งดูเหมือนเป็นคนใช้งานยากและดื้อนิดๆ เพราะจะใช้งานแต่ละทีต้องอธิบายละเอียดถึงเหตุผลที่ต้องทำ และเหตุผลละเอียดที่ต้องทำวิธีนั้นวิธีนี้ให้ฟังด้วย และคุยสัพเพเหระอะไรนอกจากเรื่องงานไม่ค่อยได้ เพราะนอกจากเรื่องงานแล้ว น้องคนนี้ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ ทำให้เป็นคนคุยไม่ค่อยสนุก
คนที่สอง : ทำงานได้กลางๆ ประสิทธิภาพออกมาสู้คนแรกไม่ได้ แต่นอกเหนือจากงานที่ทำแล้ว มีความรู้เรื่องอื่นหลายอย่าง ทำให้สามารถไปช่วยงานคนอื่นนอกจากงานในหน้าที่ตัวเองได้ด้วย เวลาให้ทำงานอะไรก็จะทำตามง่ายกว่า ไม่ขี้สงสัยตั้งคำถามเยอะแบบคนแรก ทำให้งานเดินเร็ว เป็นคนทำงานด้วยแล้วสนุกกว่าคนแรก เพราะนอกจากเรื่องงานแล้วสามารถคุยเรื่องสัพเพเหระ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตกันได้ด้วย เพราะเป็นคนมีกิจกรรมในชีวิตหลายอย่างที่น่าสนใจนอกจากเรื่องงาน
ส่วนตัวเราและเพื่อนร่วมงานคนอื่น ชอบทำงานกับคนที่สองมากกว่า เพราะทำงานด้วยง่ายกว่า ไม่ถามเยอะทำให้งานเดินเร็วกว่า รู้สึกถึงความเป็นทีมมากกว่า บรรยากาศในการทำงานดีกว่า เค้าทำงานได้หลายอย่างด้วย ไม่ใช่แค่งานในหน้าที่ ทำให้เราใช้งานคนที่สองทำงานบ่อยกว่ากว่าคนแรก แต่เจ้านายใหญ่ดูเหมือนจะชอบคนแรกมากกว่า เพราะเวลาถามเราเกี่ยวกับเรื่องสารทุกสุขดิบในออฟฟิศ จะพูดถึง ถามถึงน้องคนแรกบ่อยมากอย่างชัดเจน ดูรู้เลยว่าชอบน้องคนแรกพอสมควร มีแววเป็นลูกรักเลย แถมเราเคยโดนนายใหญ่เรียกไปดุ ว่าทำไมไม่ค่อยใช้น้องคนแรกทำงาน ใช้แต่คนที่สองบ่อย เจ้านายบอกว่าเราไม่รู้วิธีใช้งานน้องคนแรกถ้าใช้คนแรกทำงานเนื้องานน่าจะออกมาได้ดีกว่านี้(จริงๆงานที่น้องคนที่สองทำ อาจจะทำได้ไม่ดีเท่าคนแรก แต่ก็ดีพอจะส่งให้ลูกค้าได้เหมือนกัน แล้วลูกค้าก็พอใจด้วย) และให้เราหาวิธีใช้งานความสามารถน้องคนแรกให้ได้คุ้มกว่านี้ แต่เจ้านายไม่มาเห็นไงว่าในแง่การทำงานเป็นทีมคนที่สองเข้ากับทีมได้มากกว่าคนแรก