สวัสดีค่ะ ตอนนี้จขกท.กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยและค่อนข้างกังวลกับค่าใช้จ่ายของทางบ้านค่ะ
บ้านเราทำธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ ขายเครื่องใช้ในบ้านราคาหลักร้อย-พัน ก่อนหน้านี้(6-7ปีที่แล้ว)กิจการของบ้านเราค่อนข้างจะไปได้ดีค่ะ ขายของได้เรื่อยๆ วันละหลายชิ้น มีลูกค้าเข้า-ออกร้านตลอด จนช่วงนี้เศรษฐกิจแย่ลงบางวันก็ขายไม่ได้เลย แต่ยังต้องจ่ายค่าแรงลูกน้อง ก็เท่ากับว่ามันขาดทุนค่ะ พอเราเห็นแบบนั้นก็ไม่สบายใจค่ะ เราไม่กล้าจะลงเรียนพิเศษเพราะกลัวเดือดร้อนที่บ้าน พยายามหาเงินเพิ่มนิดๆหน่อยๆจากการวาดรูปมาลงเรียนเองค่ะ แต่พ่อแม่เราไม่เคยขอให้ประหยัดเงิน ไม่เคยให้ทำงานพาร์ทไทม์ ยังพาไปทานของดีๆ อาหารโรงแรม บุฟเฟต์หัวละเป็นพัน พาไปเที่ยวต่างประเทศ ทั้งๆที่เราเห็นพ่อแม่เครียดกับยอดขายที่ลดลงค่ะ ตอนนี้เราเลยไม่แน่ใจกับสถานะการเงินที่บ้าน ได้แต่ประหยัดไปก่อน จนวันนึงเราคุยกับแม่ก็เลยแอบๆถามไป ได้ความว่าเรามีหนี้อยู่ ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกมั้ยนะคะ เพราะไม่ค่อยมีความรู้ แต่น่าจะเป็นประมาณว่าธนาคารมีวงเงินให้สำหรับคนที่ทำกิจการรายย่อย เอาเงินไปหมุนเป็นเงินทุนค่ะ เราถามแม่ว่าเป็นหนี้อยู่เท่าไหร่ แม่เราก็บอกปัดไปค่ะ บอกว่าไม่ต้องรู้หรอก
เราเข้าใจว่าพ่อแม่อยากจะให้เราได้สิ่งที่ดีที่สุด แต่ก็อดกังวลไม่ได้ค่ะ กลัวว่ามันจะเกินกำลังมากเกินไป เราจะทำให้พ่อแม่ลำบากหรือเปล่า เราจะสามารถแบ่งเบาภาระอะไรของที่บ้านได้บ้างมั้ย ถึงพ่อแม่เราจะบอกว่าต่อให้เราเรียนจบมีงานทำก็ไม่จำเป็นต้องมาเลี้ยงพ่อแม่ก็ตามค่ะ
เลยอยากจะถามความเห็นค่ะ ว่าควรจะถามพ่อแม่ออกไปตรงๆเลยดีมั้ย หรือเราควรตั้งใจเรียน แล้วก็ประหยัดเงินต่อไปโดยที่ไม่ต้องรับรู้สถานะของที่บ้านก็ได้
ควรถามพ่อแม่เกี่ยวกับสถานะการเงินที่บ้านมั้ยคะ?