เปิดลึก คดีตู้ห่าว-เมีย เผาสวนงู ทุบหัว รปภ. ยื้อ 5 ปีอัยการสั่งไม่ฟ้อง
จากตู้ห่าว กลายเป็นนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ ในทุกวันนี้ คงไม่แคล้วเป็นผลจากระบบพิกลพิการแบบไทยๆ ที่มักแพ้ทาง “กำลังภายใน” ซึ่งตู้ห่าวไม่ใช่มีแค่พลังเงิน แต่ยังแบ๊กดี ไม่ธรรมดา มีกระบวนท่าหลายซับหลายซ้อน
แบ๊กคนแรกก็คือ ภรรยาของเขา ที่ชื่อ พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ หรือ “หนูนา” ตำแหน่ง ผกก.ฝ่ายความร่วมมือและกิจการระหว่างประเทศ กองการต่างประเทศ
เมื่อปี 2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ก็เพิ่งเซ็นคำสั่งแต่งตั้งให้ พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ เป็นคณะทำงานโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถือว่ามีความรู้ความสามารถเข้าตานาย
พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ เอง ถือว่ามีชาติกำเนิดที่คนในวงการตำรวจต้องเกรงใจ เพราะเธอเป็นหลานสาวของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้เป็นทั้ง อ.ตร.คนสุดท้าย และผบ.ตร.คนแรก
“พรหมนอก” ถือเป็นตระกูลตำรวจ ลูกชายของ พล.ต.อ.ประชา เจริญรอยตามพ่อ เป็นตำรวจถึง 2 คน แถมยังมีลูกเขยเป็นตำรวจระดับบิ๊ก คือ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน อดีตรอง ผบ.ตร.
พอเลิกรับราชการ พล.ต.อ.ประชาก็หันไปเล่นการเมือง ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ ได้เป็นรัฐมนตรีในหลายกระทรวง ตำแหน่งทางการเมืองสุดท้าย เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
พอโดนรัฐประหารโดย คสช. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ก็วางมือทางการเมือง หันไปจับธุรกิจจิวเวลรี่พันล้าน ในชื่อ รอยัล เจมส์ ภูเก็ต ตั้งอยู่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต มีพิธีแกรนด์โอเพนนิ่งอย่างยิ่งใหญ่
ซึ่ง พล.ต.อ.ประชา มอบหมายหน้าที่บริหารบริษัท ให้กับหลานเขยที่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน ไม่ใช่ใครที่ไหน ตู้ห่าว หรือนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ นั่นเอง
โดยตู้ห่าวถือเป็นขาใหญ่ของเมืองภูเก็ต เขาประสบความสำเร็จอย่างสูงกับการเปิดทัวร์ศูนย์เหรียญ จนถือเป็น “5 เสือทัวร์ศูนย์เหรียญ” ของไทย วงการทัวร์ศูนย์เหรียญภูเก็ต เกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง นำมาสู่เหตุการณ์เมื่อปี 2555 เกิดเหตุวางเพลิงเผาสวนงูภูเก็ต โดยรปภ.ถูกตีหัว จนสลบไปนาน 3 วัน ก่อนฟื้นขึ้นมาในสภาพคนสมองพิการ
คดีนี้ไม่คืบนานถึง 5 ปี ตำรวจท้องที่ทำอะไรไม่ได้ ร้อนถึงกองปราบปรามต้องเข้ามาสะสางเอง จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ เมื่อปี 2560 ให้การซัดทอดไปถึงคนบงการ 2 คน จนมีการขยายผลจับกุม ตั้งข้อหาร้ายแรง ทั้งพยายามฆ่าและวางเพลิง
ผู้ต้องหาทั้งสองคือ ตู้ห่าวและหนูนา ภรรยาของเขา ซึ่งเวลานั้น เป็นตำรวจท่องเที่ยว ยศ พ.ต.ท. แต่ทั้งสองรอดมาได้ โดยไม่ต้องต่อสู้คดีในชั้นศาลให้เมื่อย
เพราะพอพนักงานสอบสวนส่งสำนวนไป 500 กว่าหน้า อัยการก็มีคำสั่งไม่ฟ้องทันที ภายในวันเดียวกัน คดีจบแบบห้วนๆ ไม่ต้องมีลีลาท่ามาก ท่ามกลางเสียงลือทั่วเมืองภูเก็ต ถึงเงิน 30 ล้าน
ฝ่ายแม่ของ รปภ. สุดช้ำกับการเกิดมาจน พยายามร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ช่วย แต่ก็ไม่มีอะไรพลิกผันจนบัดนี้ ตู้ห่าว ไม่ได้มีกิจการแค่ทัวร์ศูนย์เหรียญ แต่ยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รังนก ที่นอนยางพารา และอื่นๆ นับสิบอย่าง เขายังรู้จักกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งเป็นเพื่อนเตรียมทหาร รุ่นเดียวกับลูกชายของ พล.ต.อ.ประชา ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสนั้น เรียก พล.ต.อ.ประชาว่า “พ่อ” มานานแล้ว
Cr
https://mgronline.com/crime/detail/9650000104488
เผาสวนงู ตู้ห่าวและหนูนา ธรรมนัส เรียก พล.ต.อ.ประชาว่า “พ่อ” มานานแล้ว “ทัวร์ศูนย์เหรียญ”
จากตู้ห่าว กลายเป็นนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ ในทุกวันนี้ คงไม่แคล้วเป็นผลจากระบบพิกลพิการแบบไทยๆ ที่มักแพ้ทาง “กำลังภายใน” ซึ่งตู้ห่าวไม่ใช่มีแค่พลังเงิน แต่ยังแบ๊กดี ไม่ธรรมดา มีกระบวนท่าหลายซับหลายซ้อน
แบ๊กคนแรกก็คือ ภรรยาของเขา ที่ชื่อ พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ หรือ “หนูนา” ตำแหน่ง ผกก.ฝ่ายความร่วมมือและกิจการระหว่างประเทศ กองการต่างประเทศ
เมื่อปี 2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ก็เพิ่งเซ็นคำสั่งแต่งตั้งให้ พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ เป็นคณะทำงานโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถือว่ามีความรู้ความสามารถเข้าตานาย
พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ เอง ถือว่ามีชาติกำเนิดที่คนในวงการตำรวจต้องเกรงใจ เพราะเธอเป็นหลานสาวของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้เป็นทั้ง อ.ตร.คนสุดท้าย และผบ.ตร.คนแรก
“พรหมนอก” ถือเป็นตระกูลตำรวจ ลูกชายของ พล.ต.อ.ประชา เจริญรอยตามพ่อ เป็นตำรวจถึง 2 คน แถมยังมีลูกเขยเป็นตำรวจระดับบิ๊ก คือ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน อดีตรอง ผบ.ตร.
พอเลิกรับราชการ พล.ต.อ.ประชาก็หันไปเล่นการเมือง ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ ได้เป็นรัฐมนตรีในหลายกระทรวง ตำแหน่งทางการเมืองสุดท้าย เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
พอโดนรัฐประหารโดย คสช. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ก็วางมือทางการเมือง หันไปจับธุรกิจจิวเวลรี่พันล้าน ในชื่อ รอยัล เจมส์ ภูเก็ต ตั้งอยู่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต มีพิธีแกรนด์โอเพนนิ่งอย่างยิ่งใหญ่
ซึ่ง พล.ต.อ.ประชา มอบหมายหน้าที่บริหารบริษัท ให้กับหลานเขยที่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน ไม่ใช่ใครที่ไหน ตู้ห่าว หรือนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ นั่นเอง
โดยตู้ห่าวถือเป็นขาใหญ่ของเมืองภูเก็ต เขาประสบความสำเร็จอย่างสูงกับการเปิดทัวร์ศูนย์เหรียญ จนถือเป็น “5 เสือทัวร์ศูนย์เหรียญ” ของไทย วงการทัวร์ศูนย์เหรียญภูเก็ต เกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง นำมาสู่เหตุการณ์เมื่อปี 2555 เกิดเหตุวางเพลิงเผาสวนงูภูเก็ต โดยรปภ.ถูกตีหัว จนสลบไปนาน 3 วัน ก่อนฟื้นขึ้นมาในสภาพคนสมองพิการ
คดีนี้ไม่คืบนานถึง 5 ปี ตำรวจท้องที่ทำอะไรไม่ได้ ร้อนถึงกองปราบปรามต้องเข้ามาสะสางเอง จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ เมื่อปี 2560 ให้การซัดทอดไปถึงคนบงการ 2 คน จนมีการขยายผลจับกุม ตั้งข้อหาร้ายแรง ทั้งพยายามฆ่าและวางเพลิง
ผู้ต้องหาทั้งสองคือ ตู้ห่าวและหนูนา ภรรยาของเขา ซึ่งเวลานั้น เป็นตำรวจท่องเที่ยว ยศ พ.ต.ท. แต่ทั้งสองรอดมาได้ โดยไม่ต้องต่อสู้คดีในชั้นศาลให้เมื่อย
เพราะพอพนักงานสอบสวนส่งสำนวนไป 500 กว่าหน้า อัยการก็มีคำสั่งไม่ฟ้องทันที ภายในวันเดียวกัน คดีจบแบบห้วนๆ ไม่ต้องมีลีลาท่ามาก ท่ามกลางเสียงลือทั่วเมืองภูเก็ต ถึงเงิน 30 ล้าน
ฝ่ายแม่ของ รปภ. สุดช้ำกับการเกิดมาจน พยายามร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ช่วย แต่ก็ไม่มีอะไรพลิกผันจนบัดนี้ ตู้ห่าว ไม่ได้มีกิจการแค่ทัวร์ศูนย์เหรียญ แต่ยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รังนก ที่นอนยางพารา และอื่นๆ นับสิบอย่าง เขายังรู้จักกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งเป็นเพื่อนเตรียมทหาร รุ่นเดียวกับลูกชายของ พล.ต.อ.ประชา ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสนั้น เรียก พล.ต.อ.ประชาว่า “พ่อ” มานานแล้ว
Cr https://mgronline.com/crime/detail/9650000104488