First Love (2022) - รักแรกพบ ดาวเทียมที่หลุดจากวงโคจร และความบังเอิญที่เหวี่ยงให้กลับมาพบกัน

First Love: Hatsukoi - รักแรก

" แม้จะไม่ได้มีพล็อตที่ใหม่ แต่วิธีการร้อยเรียงและความแม่นในการถ่ายทอดอารมณ์ ทำได้ดีเยี่ยมจนซาบซึ้งน่าประทับใจ "


สวัสดีครับทุกท่าน ! ในที่สุดก็มาถึงเดือนสุดท้ายของปี 2022 ในเดือนนี้ Netflix มีซีรีส์ที่น่าสนใจหลายเรื่อง ที่ปังที่สุดในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น Wednesday (2022) ซีรีส์ Spin-off ของ Addams Family ที่ดังถล่มทลาย ขณะเดียวกัน ในฟากเอเชีย Netflix ก็ปล่อยซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง First Love: Hatsukoi (2022) ซีรีส์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง First Love และ Hatsukoi ของ Hikaru Utada

ณ ตอนนี้ First Love ก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 บน Netflix ในญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อย แต่ในไทยกระแสดูเหมือนจะไม่ได้พุ่งแรงอย่างญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลายท่านที่กำลังรับชม คงจะซาบซึ้ง ดื่มด่ำไปกับความโรแมนติกที่ซีรีส์ถ่ายทอดออกมา...

วันนี้ผมจึงอยากจะมาเขียนรีวิวแนะนำซีรีส์เรื่องนี้ในฐานะที่เป็นซีรีส์น่าประทับใจในปีนี้ เผื่อว่าท่านใดสนใจนะครับ

เรื่องย่อ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
First Love | Official Teaser

First Love (2022) ได้รับการกำกับโดย Yuri Kanchiku เนื้อเรื่องในซีรีส์กล่าวถึง ยาเอะ (Hikari Mitsushima) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ในเมืองซัปโปโร และ นามิจิ (Takeru Satoh) หนุ่มบริษัทรักษาความปลอดภัยที่กำลังจะแต่งงานกับคู่หมั้น ทั้งสองมีชีวิตในฉบับของตัวเอง ทว่าบางสิ่งบางอย่าง อย่าง "รักแรก" ที่เคยติดคาอยู่ในใจได้พาให้ทั้งสองได้มาเจอกันอีกครั้ง

ความรู้สึกหลังชม

- ยอมรับว่า ในตอนแรก ที่ดู Trailer ค่อนข้างกลัวเหมือนกันว่า ซีรีส์จะเลี่ยนเกินไปไหม จากที่เคยดูหนังรักโรแมนติคของญี่ปุ่นหลาย ๆ เรื่อง รู้สึกว่า หนังรักญี่ปุ่นมักจะออกมาล้นและมีสูตรสำเร็จ แต่หลังจากที่ดู First Love ตอนที่ 1 จบ ก็พบว่า ผลลัพธ์ออกมาตรงกันข้าม ซีรีส์ทำได้เยี่ยมและคงคุณภาพได้ตั้งแต่ต้นจนจบ !

- สำหรับผม ซีรีส์มี 3 องค์ประกอบที่ทำให้ภาพรวมเรื่องออกมาในระดับดีเยี่ยม

-- อย่างแรก "วิธีเล่าเรื่องอันน่าสนใจ" พล็อตเรื่องของ First Love เป็นอะไรที่คลิเช่ ถูกผลิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะจากฝั่งเกาหลี หรือแม้แต่ในญี่ปุ่นเองก็ตาม แต่วิธีการเล่าเรื่องในซีรีส์ไม่ซ้ำจำเจสักทีเดียว

ตัวซีรีส์เดินเรื่องคู่ขนานระหว่างชีวิตของนามิกิและยาเอะในอดีตและปัจจุบัน ในระยะแรก ผู้ชมจะเห็นเพียงความสัมพันธ์และความเชื่อมโยงในระดับกว้างและอาจสงสัยว่า ทำไมเรื่องราวในอดีตที่ดูสวยงาม ดันกลับตาลปัตรไม่เหลือเค้าเดิมเลยในปัจจุบัน จนกระทั่ง เมื่อซีรีส์เดินเรื่องและค่อยเฉลยประเด็น ทุกอย่างค่อย ๆ ถูกร้อยเรียงกันเหมือนจิ๊กซอว์ กลายเป็นภาพใหญ่ที่สมบูรณ์

ต้องชมว่า วิธีนี้ใช้ได้ผล ซีรีส์ใช้วิธีที่น่าสนใจ พาให้เราอยากรู้และพร้อมอดทนรอ เพื่อติดตามเรื่องราวที่แท้จริงว่า ความสัมพันธ์ของนามิกิและนาเอะเบนออกจากกันได้อย่างไร และบทสรุปสุดท้ายของทั้งคู่จะลงเอยเช่นไร

ยาเอะ (Hikari Mitsushima) ในวัยปัจจุบัน

-- อย่างที่สอง "ความแม่นในจังหวะและการถ่ายทอดอารมณ์" ส่วนนี้ทำได้เป๊ะเช่นกัน ซีรีส์พรรณนาอารมณ์ได้อย่างเฉียบคม บรรยากาศโรแมนติก ความเหงา ความเศร้า และความสุข ถูกถ่ายทอดผ่าน เนื้อเรื่อง สัญลักษณ์ (Symbol) มุมกล้อง แสง สี (Color Grading) ดนตรีประกอบ และเพลงของ Hikaru Utada... ทุกอย่างถูกจัดวางด้วยความประณีต งดงาม

แม้ว่าสตอรี่บางอย่างในหนัง อาจมีความไม่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบความจริงบ้าง แต่พอส่วนนี้ทำได้เนี้ยบ ก็ช่วยกล่อมให้ผู้ชมเชื่อและอินไปกับเรื่องราว อย่างน้อยก็พร้อมที่จะยอมรับตรรกกะและเหตุผลของตัวละครด้วยความเปิดใจ

ยาเอะ (Rikako Yagi) และ นามิกิ (Taisei Kido) ในช่วงรักแรกพบ

-- อย่างที่สาม "บทภาพยนตร์ที่ดี" ซีรีส์เล่าเรื่องสลับไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบัน แต่ทุกอย่างดูไม่สับสน เพราะ บทซีรีส์มีเส้นทางที่ชัดเจนว่า ตัวเองจะเดินไปในทิศทางไหน และจะถึงเป้าหมายได้อย่างไร

อีกส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมมิติภาพยนตร์ คือ พาร์ทดราม่าชีวิต (ของยาเอะและนามิกิ) ส่วนนี้ช่วยให้เนื้อเรื่องดูลึก Practical สมจริงอย่างที่ปุถุชนบนโลกเผชิญกัน โดยเฉพาะฝั่งของยาเอะ ดราม่าหนักหน่วงจริง ๆ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวตัวละครรองที่ไม่ได้ถูกทิ้งร้างไว้ แต่เข้ามาช่วยแต่งเติมสีสันให้กับเรื่อง ไปจนถึงมีบทบาทกับชีวิตของตัวละครหลักทั้งสอง จุดนี้เกลี่ยบทได้ดี

-- วิธีการเล่าเรื่องโดยหยิบผูกเข้ากับ Timeline เหตุการณ์สำคัญของญี่ปุ่น ก็ทำได้เยี่ยม ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเสมือนจดหมายเหตุที่บันทึกเรื่องราวสำคัญของญี่ปุ่นไปในตัว ไม่ว่าจะบทเพลง First Love ของ Hikaru Utada ในปี 1999, การส่งยานอวกาศไปดาวอังคารของญี่ปุ่น, กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น เข้าปฏิบัติในสงครามอิรัก, เหตุการณ์แผ่นดินไหวและกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลในปี 2011 ยาวมาจนถึงเหตุการณ์โควิดระบาดในปี 2019

ว่าไปแล้ว ก็นึกถึง Comrades: Almost a Love Story (1996) หรือ เถียนมีมี่ 3,650 วัน...รักเธอคนเดียว ที่เล่าเรื่องราวรักแรกของหนุ่มสาวจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่อพยพไปตามหาอนาคตที่ดีกว่า ทั้งคู่ผ่านเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ในฮ่องกงควบคู่ไปกับบทเพลงของ เติ้ง ลี่จวิน 

การเล่าเรื่องผ่าน Timeline และบทเพลงของ Hikaru Utada ทำให้ธีมเรื่องโดยรวมมีคล้ายคลึงพอสมควร และทำงานกับผู้ชมยิ่งขึ้นด้วยความรู้สึกเหงา ๆ Nostalgia คิดถึงถึงวันวานในอดีต


- ซีรีส์ First Love จัดว่าโปรดักชั่นอยู่ในเกรดภาพยนตร์ ไม่ว่าจะมุมกล้อง แสง สี เสียง นักแสดง ทุกอย่างดูคราฟต์ มีความเป็นภาพยนตร์สูง (ซีนพรรณนานาอารมณ์หลาย ๆ ซีนยังดูมีความหว่องด้วย) จุดนี้น่าขอบคุณ Netflix ถ้าเป็นทุนจากฝั่งญี่ปุ่นแท้ ๆ ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่า จะทำซีรีส์ออกมาในสเกลนี้ได้หรือเปล่า

- Location ต่าง ๆ ในเรื่องสวยมาก โดยเฉพาะสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองซัปโปโร ฮอกไกโด น่าตามรอยไปเที่ยว !

วงเวียนในเมืองซัปโปโรที่ยาเอะขับรถผ่านอยู่บ่อย ๆ
บรรยากาศชนบทในฮอกไกโด

- พาร์ทนักแสดง ส่วนนี้ประทับใจเกินคาด ว่ากันตามตรง ปกติในฝั่งซีรีส์ญี่ปุ่น จะเห็นนักแสดง Overacting บ่อย แต่มาใน First Love ทุกคนแสดงได้นิ่งลึก นักแสดงที่ประทับใจเป็นพิเศษ ขอยกให้เป็น Takeru Satoh และ Hikari Mitsushima ในบทนามิกิ - ยาเอะตอนโต แสดงได้ดีจริง พาทุกคนน้ำตาไหลตาม

Takeru Satoh และ Hikari Mitsushima

ส่วนคนอื่นที่น่าสนใจ ขอยกให้ Taisei Kido และ Rikako Yagi ในบทนามิกิ - ยาเอะในสมัยเรียน ทั้งสองแสดงได้ดีและน่าจะเป็นนักแสดงที่โด่งดังในอนาคต

Taisei Kido และ Rikako Yagi

คนสุดท้ายที่น่าชื่นชม ก็ Minami ในบทยู น้องสาวของนามิกิ ที่ต้องแสดงโดยใช้ภาษามือเป็นหลัก ถ้าในระดับนานาชาติ Minami เคยร่วมงานกับ Johny Depp ใน Minamata (2020) ซึ่งเธอแสดงได้เยี่ยมเช่นกัน สำหรับ First Love เธอแสดงได้เยี่ยมเช่นเคย ติดนิดเดียวตรงในบทเธอเป็นน้อง แต่ดันดูแก่กว่าทาเครุเสียอีก 😂
 
- ซีนที่ประทับใจในเรื่อง ผมขอยกให้ 2 ซีน ซีนแรกคือ "ซีนนามิกิกับยาเอะจูบกันบนดาดฟ้าโรงเรียน" ในตอนที่ 2 และซีนท้ายตอนที่ 8 โดยเฉพาะซีนหลัง เป็นช็อตเรียกน้ำตาผู้ชมให้ไหลเป็นแถบ

- ส่วนสุดท้ายที่น่าจดจำ ก็คือ "บทเพลงของ Hikaru Utada" เช่น First Love และ Hatsukoi ตัวเพลงไม่ได้เปิดกันบ่อย ๆ ในเรื่อง แต่การมาแต่ละที แสดงอารมณ์ได้ทรงพลังทุกครั้ง ทั้งซาบซึ้งและพาให้น้ำตาซึม

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
『First Love 初恋』特別映像「First Love」ショート版 - Netflix

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
宇多田ヒカル 『初恋』- Hatsukoi

สรุป

First Love ถือเป็นซีรีส์ที่อยู่ในเกรดแข่งในระดับนานาชาติได้สบาย ซึ่งยุคหลัง ๆ ดูเกาหลีจะทำได้ดีกว่าญี่ปุ่น ดังนั้นการที่ญี่ปุ่นมีซีรีส์ดี ๆ แบบนี้ก็ถือว่าดีเหมือนกัน เป็นกำไรกับผู้ชม ตัวซีรีส์มีคาแรคเตอร์ - สตอรี่ที่สะท้อนตัวตนสไตล์ญี่ปุ่นอยู่เต็มเปี่ยม เรียบ ๆ ไม่หวือหวา แต่ถ่ายทอดออกมาได้พอดิบพอดี มีไม่บ่อยที่จะเห็นซีรีส์รักโรแมนติกญี่ปุ่นที่ทำได้พอดีและมีโปรดักชั่นระดับนี้

สุดท้ายนี้ ก็ขอแนะนำเลยนะครับ จัดเป็นซีรีส์เรื่องเยี่ยมในปี 2022 เชื่อว่า ซีรีส์น่าจะคว้ารางวัลได้เพียบในญี่ปุ่น และน่าติดตามว่า ผู้กำกับ Yuri Kanchiku จะทำเรื่องใดต่อไป รอเลย !

" เหตุการณ์ไม่คาดฝัน พาให้ชีวิตของยาเอะและนามิกิ หลุดจากวงโคจรของกันและกัน

ขณะเดียวกัน ความบังเอิญที่ไม่คาดคิด ก็พาให้โชคชะตาทั้งคู่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง...

ไม่รู้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นพรหมลิขิตหรือแค่ความบังเอิญ

แต่รักแรกพบที่ทั้งคู่ได้พบกันคงมิใช่ความบังเอิญอย่างแน่นอน... "

_________________________________

ป.ล. อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพุดคุยหรือติดต่อกับผม

 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่