เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญมีราคาแตกต่างกันมากในตลาด ราคาจะขึ้นอยู่กับหลายๆ อย่าง ถ้าเลือกไม่ดี บางทีเราอาจจะได้ของธรรมดา ในราคาแพง เพื่อนๆ จึงควรเลือกอย่างถี่ถ้วน แต่การเลือกเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญราคาถูก โดยไม่พิจารณาปัจจัยอื่นนั้น อาจมีค่าใช้จ่ายแฝงมาให้เจ็บปวดใจในรูปของค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาที่ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของคนขายและค่าเสียโอกาสที่เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญเสียแล้วช่างไม่มาซ่อม เพื่อให้เพื่อนๆ รู้ทันคนขายอุปกรณ์หยอดเหรียญ ว่าเอากำไรแต่ไม่ดูแลไหม? การรับประกันจะครอบคลุมตามที่เราคาดหวังไหม เราจะมาวิเคราะห์ให้เพื่อนๆ เห็นเป็นข้อๆ เลย ดังนี้
โครงสร้างราคาเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ต้องไม่สูงหรือต่ำเกินไป: ถ้าไม่รู้ว่าเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญราคาที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไร เราก็ไม่สามารถรู้ทันคนขายได้
เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ราคากลางๆ 10,000 บาท มาจาก
1) ค่าเครื่องซักผ้า 5,000 (ไม่ผ่าน QC) - 6,500 บาท
2) ค่าติดกล่องเครื่องซักผ้า 1,000 (คุณภาพค่อนข้างต่ำ) - 2,000 บาท
3) ค่าขนส่งและติดตั้ง 500 - 750 บาท
4) ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและดูแลช่วงรับประกัน 750 – 1,000 บาท
5) กำไร 500 – 1,000 บาท
เราจึงสามารถเห็นบางร้านที่สามารถขายเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ราคา 7,000 บาทได้ เพราะอะไร? แล้วเราจะเจออะไรบ้างกับเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญราคาถูก
อาจได้เครื่องไม่ผ่าน QC คือ จุดเริ่มต้นแห่งหายนะ
ในวงการหยอดเหรียญคนขายสามารถไปหาเครื่องซักผ้าไม่ผ่าน QC ได้ไม่ยาก และสำหรับเครื่องที่ใช้งานหนักมากอย่างเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญนั้น ความผิดปกติเพียงเล็กน้อยจากการไม่ผ่าน QC เช่น โดนกระแทกบุบ, ไฟสัญญาณบางส่วนไม่ขึ้นหรือกดปุ่มไม่ได้ หรือ รอยต่อและจุดต่อไม่เสมอกัน ก็อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้
วิธีแก้ ก็คือ ตรวจสอบทุกจุดของเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญว่าไม่มีรอย และทุกฟังก์ชั่นการทำงานสามารถทำงานได้ คือ มีไฟแสดงทุกจุดได้ กดปุ่มได้ทุกปุ่ม
กล่องหยอดเหรียญที่ไม่ประณีต คือ การทำงานที่ไม่ราบรื่น
กล่องหยอดเหรียญคุณภาพไม่ดีทำปัญหาให้เพื่อนๆ ปวดหัวกว่าที่คิด เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญของเพื่อนๆ อาจจะกินเหรียญบ่อย และไม่ปรับค่าต่างๆ ตามที่ควร หรือแม้กระทั่งทำให้แผงวงจรของเพื่อนๆ ช็อตได้อีกด้วย
วิธีแก้ ก็คือ สำหรับเพื่อนๆ ที่ตรวจสอบทางเทคนิคไม่เป็น ไปดูกล่องที่ร้านเลย ดูว่างานขึ้นรูปกล่องดีไหม มีอะไรกระเดิด, มีคม, ไม่เรียบเผยอ หรือ สีหลุดร่อนไหม แต่ถ้าดูเพิ่มเติมได้ เราก็อยากให้เพื่อนๆ ดูแผงวงจรด้วยว่างานดีไหม ดูง่ายๆ ก็เหมือนคนเขียนหนังสือสวยไหม เส้นสายบนแผงวงจรดูเลื่อนเปื้อนไหม อันนี้ไม่ผ่านนะครับ
การรับประกันทิพย์ คือ ความปวดใจที่คิดว่าเราเลือกดีแล้ว
เพื่อนๆ ต้องระวังเรื่องนี้เพราะเรื่องประกันทิพย์นั้นมีอยู่บ่อย เพราะ เครื่องซักผ้าที่เราติดกล่องหยอดเหรียญเป็นเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญแล้ว ผู้ผลิตเครื่องซักผ้าจะตัดการรับประกันทิ้งไป ทำให้เกิดเป็นช่องว่างว่าใครจะรับผิดชอบถ้าเกิดใช้ไปแล้วเสีย นี่เป็นปัญหาระดับชาติที่เมื่อเกิดขึ้นจริงแล้วเถียงกันทุกกรณี เพื่อนๆ ต้องคุยให้ดีเลยว่าขอบเขตการรับประกันของเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญครอบคลุมอะไรบ้าง คนขายหลายคนบอกรับประกัน 1 ปี แต่พอถามเข้าจริงๆ แล้ว รับประกันแค่กล่องหยอดเหรียญ หรือดีกว่านั้นคือรับประกันค่าแรงซ่อมเครื่องซักผ้าแต่เบิกค่าอะไหล่จากเรา
วิธีแก้ ก็คือ เพื่อนๆ ต้องคุยกับคนขายให้ชัดและขอใบรับประกันจากคนขายเลยว่ารับประกันทั้งตัวเครื่องซักผ้าและกล่องหยอดเหรียญ
จะดูว่าดูแลอย่างไร ให้ใช้ Social ตรวจสอบคนขายให้เรา
ข้อมูลที่เราต้องการรู้คือ ถ้าเกิดความเสียหายขึ้น เค้าจะมาหาเราภายใน 24 – 48 ชม.ไหม? เพื่อให้เราไม่ต้องเสียโอกาสในการขาย ดังนั้น เพื่อนๆ ต้องไฝ่หาข้อมูลจากโลก social ห้ามากหน่อยโดยเฉพาะเรื่องประวัติผู้ขาย, รีวิวและคอมเม้นต์จากคนใช้งานจริงด้วย แน่นอนว่าคนขายสามารถให้หน้าม้าหรือทีมงานมาเขียนให้ดูดีได้บ้างแต่โลก social นั้นซับซ้อนมากเกินกว่าจะปิดได้หมดและเพื่อนๆ น่าจะพอมองออกว่าถ้าเขียนอวยเว่อร์ๆ ก็น่าจะไม่จริง ดังนั้น เราต้องยอมเสียเวลาซอกซอนสัก 2-3 ชม. ดีกว่าจะมาเสียเวลาหาช่างจากที่อื่นมาซ่อมอีก
ทำแค่ 3 สิ่งนี้ เราก็เลือกซื้อเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญได้อย่างสบายใจแล้วครับ ก่อนจากกันไป ก็ขออวยพรให้เพื่อนๆ ทำธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญได้อย่างปังๆ ครับ
ระวัง!! อย่าเพิ่งทำธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ถ้ายังไม่รู้ทันคนขายอุปกรณ์หยอดเหรียญ
โครงสร้างราคาเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ต้องไม่สูงหรือต่ำเกินไป: ถ้าไม่รู้ว่าเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญราคาที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไร เราก็ไม่สามารถรู้ทันคนขายได้
เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ราคากลางๆ 10,000 บาท มาจาก
1) ค่าเครื่องซักผ้า 5,000 (ไม่ผ่าน QC) - 6,500 บาท
2) ค่าติดกล่องเครื่องซักผ้า 1,000 (คุณภาพค่อนข้างต่ำ) - 2,000 บาท
3) ค่าขนส่งและติดตั้ง 500 - 750 บาท
4) ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและดูแลช่วงรับประกัน 750 – 1,000 บาท
5) กำไร 500 – 1,000 บาท
เราจึงสามารถเห็นบางร้านที่สามารถขายเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ราคา 7,000 บาทได้ เพราะอะไร? แล้วเราจะเจออะไรบ้างกับเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญราคาถูก
อาจได้เครื่องไม่ผ่าน QC คือ จุดเริ่มต้นแห่งหายนะ
ในวงการหยอดเหรียญคนขายสามารถไปหาเครื่องซักผ้าไม่ผ่าน QC ได้ไม่ยาก และสำหรับเครื่องที่ใช้งานหนักมากอย่างเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญนั้น ความผิดปกติเพียงเล็กน้อยจากการไม่ผ่าน QC เช่น โดนกระแทกบุบ, ไฟสัญญาณบางส่วนไม่ขึ้นหรือกดปุ่มไม่ได้ หรือ รอยต่อและจุดต่อไม่เสมอกัน ก็อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้
วิธีแก้ ก็คือ ตรวจสอบทุกจุดของเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญว่าไม่มีรอย และทุกฟังก์ชั่นการทำงานสามารถทำงานได้ คือ มีไฟแสดงทุกจุดได้ กดปุ่มได้ทุกปุ่ม
กล่องหยอดเหรียญที่ไม่ประณีต คือ การทำงานที่ไม่ราบรื่น
กล่องหยอดเหรียญคุณภาพไม่ดีทำปัญหาให้เพื่อนๆ ปวดหัวกว่าที่คิด เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญของเพื่อนๆ อาจจะกินเหรียญบ่อย และไม่ปรับค่าต่างๆ ตามที่ควร หรือแม้กระทั่งทำให้แผงวงจรของเพื่อนๆ ช็อตได้อีกด้วย
วิธีแก้ ก็คือ สำหรับเพื่อนๆ ที่ตรวจสอบทางเทคนิคไม่เป็น ไปดูกล่องที่ร้านเลย ดูว่างานขึ้นรูปกล่องดีไหม มีอะไรกระเดิด, มีคม, ไม่เรียบเผยอ หรือ สีหลุดร่อนไหม แต่ถ้าดูเพิ่มเติมได้ เราก็อยากให้เพื่อนๆ ดูแผงวงจรด้วยว่างานดีไหม ดูง่ายๆ ก็เหมือนคนเขียนหนังสือสวยไหม เส้นสายบนแผงวงจรดูเลื่อนเปื้อนไหม อันนี้ไม่ผ่านนะครับ
การรับประกันทิพย์ คือ ความปวดใจที่คิดว่าเราเลือกดีแล้ว
เพื่อนๆ ต้องระวังเรื่องนี้เพราะเรื่องประกันทิพย์นั้นมีอยู่บ่อย เพราะ เครื่องซักผ้าที่เราติดกล่องหยอดเหรียญเป็นเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญแล้ว ผู้ผลิตเครื่องซักผ้าจะตัดการรับประกันทิ้งไป ทำให้เกิดเป็นช่องว่างว่าใครจะรับผิดชอบถ้าเกิดใช้ไปแล้วเสีย นี่เป็นปัญหาระดับชาติที่เมื่อเกิดขึ้นจริงแล้วเถียงกันทุกกรณี เพื่อนๆ ต้องคุยให้ดีเลยว่าขอบเขตการรับประกันของเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญครอบคลุมอะไรบ้าง คนขายหลายคนบอกรับประกัน 1 ปี แต่พอถามเข้าจริงๆ แล้ว รับประกันแค่กล่องหยอดเหรียญ หรือดีกว่านั้นคือรับประกันค่าแรงซ่อมเครื่องซักผ้าแต่เบิกค่าอะไหล่จากเรา
วิธีแก้ ก็คือ เพื่อนๆ ต้องคุยกับคนขายให้ชัดและขอใบรับประกันจากคนขายเลยว่ารับประกันทั้งตัวเครื่องซักผ้าและกล่องหยอดเหรียญ
จะดูว่าดูแลอย่างไร ให้ใช้ Social ตรวจสอบคนขายให้เรา
ข้อมูลที่เราต้องการรู้คือ ถ้าเกิดความเสียหายขึ้น เค้าจะมาหาเราภายใน 24 – 48 ชม.ไหม? เพื่อให้เราไม่ต้องเสียโอกาสในการขาย ดังนั้น เพื่อนๆ ต้องไฝ่หาข้อมูลจากโลก social ห้ามากหน่อยโดยเฉพาะเรื่องประวัติผู้ขาย, รีวิวและคอมเม้นต์จากคนใช้งานจริงด้วย แน่นอนว่าคนขายสามารถให้หน้าม้าหรือทีมงานมาเขียนให้ดูดีได้บ้างแต่โลก social นั้นซับซ้อนมากเกินกว่าจะปิดได้หมดและเพื่อนๆ น่าจะพอมองออกว่าถ้าเขียนอวยเว่อร์ๆ ก็น่าจะไม่จริง ดังนั้น เราต้องยอมเสียเวลาซอกซอนสัก 2-3 ชม. ดีกว่าจะมาเสียเวลาหาช่างจากที่อื่นมาซ่อมอีก
ทำแค่ 3 สิ่งนี้ เราก็เลือกซื้อเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญได้อย่างสบายใจแล้วครับ ก่อนจากกันไป ก็ขออวยพรให้เพื่อนๆ ทำธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญได้อย่างปังๆ ครับ