ย้อนเส้นทาง 16 ปี บนถนนสายดนตรีของ "น็อตโตะ (Notto)" อดีตศิลปินสังกัดอาร์เอส

มีใครยังจำสาวคนนี้กันได้บ้าง? เธอคืออดีตศิลปินหญิงที่เป็นที่รู้จักในช่วงปี พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2552 เธอคือสาว "น็อตโตะ (NOTTO)" หรือชื่อจริง "วรางคณิภา พวงธนะสาร" นั่นเอง ซึ่งเป็นศิลปินที่ จขกท. เคยชอบมากในช่วงที่มีผลงานเพลง แต่ปัจจุบันสาวคนนี้ได้ผันตัวไปเป็นพิธีกรรายการท่องเที่ยวอย่างเต็มตัว ซึ่งปัจจุบันก็มีผลงานพิธีกรรายการ MAKE AWAKE “คุ้มค่าตื่น” ทางช่อง Workpoint และรายการ "Friend Trip" ออกอากาศวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทางช่อง 5  
แต่ที่ จขกท. จะพูดถึง คือการเป็นศิลปินเดี่ยวของเธอ ภายใต้สังกัดอาร์เอส ซึ่งก็เป็นระยะเวลา 16 ปีแล้ว ที่เพลง "อย่าบอกว่ารัก" ของสาวน็อตโตะ ยังคงมีหลายๆคนเปิดฟัง และยังได้ยินตามคลื่นวิทยุอยู่ตลอด ซึ่งนอกจากเพลงนี้แล้ว ยังมีอีกหลายๆเพลงที่ช่วงเวลานั้น เป็นที่ถูกใจของใครหลายๆคน เช่นเพลง จิตใต้สำนึก , แฟนประสาอะไร, ปลดกระดุม และเพลง รักข้างเดียว เป็นต้น 


 “น็อตโตะ (Notto)” 
วรางคณิภา พวงธนะสาร (พิมพ์ปวีณ์ พวงธนะสาร)
"น็อตโตะ" สาวน้อยที่มีหน้าตาและความชอบส่วนตัวค่อนไปทางญี่ปุ่น โดยมีที่มาของชื่อจากการเป็นพิธีกรในรายการของแดนปลาดิบที่มาถ่ายทำที่เมืองไทย ทำให้ได้เพื่อนเป็นคนญี่ปุ่นจำนวนมาก ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นมักจะมีคำสร้อยตามหลังชื่ออยู่แล้ว จากชื่อเล่นว่า "น็อต" จึงกลายเป็นชื่อ น็อตโตะ (Notto)
น็อตโตะ มีความสามารถทางดนตรีไทยหลายอย่าง โดยสามารถเล่นได้ทั้ง ขิม ซออู้ ซอด้วง รวมไปถึงการขับร้องเพลงไทยเดิม โดยเธอจบการศึกษาที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล แขนงดนตรีปฏิบัติ เอกวิชาขับร้อง ซึ่งเธอสามารถร้องเพลงโอเปร่า ได้ถึง 3 ภาษา คือ เยอรมัน ฝรั่งเศส และ อิตาลี

อัลบั้ม "NOTTO (EP.) / วางจำหน่าย 28 กันยายน 2549"

เธอก้าวเข้าสู่วงการเพลงในวัย 25 ปี ภายใต้สังกัดจีโนมเรเคิดส์ อยู่ในเครือสังกัดอาร์เอส ในช่วงกลางปีพ.ศ. 2549 เปิดตัวด้วยอัลบั้ม "NOTTO (E.P.)" อัลบั้มแรกที่มีชื่อเดียวกับชื่อเล่น เป็นเพลงในแนว Pop คลุกเคล้าเครื่องดนตรีของไทย เช่น ขิม และเสียงเครื่องดนตรีพื้นเมืองของญี่ปุ่น เช่น ขลุ่ย เข้ากับเสียงอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย 
เพลงเปิดตัวอัลบั้มอย่าง "ปลดกระดุม" เพลงที่เขียนคำร้องโดย แนท วาสนา ในจังหวะสนุกๆ ออกแนวยั่วเย้า ผสมกลิ่นอายฮิปฮอป กับเนื้อหาเปรียบเปรยเรื่องใกล้ๆตัว โดยน็อตโตะได้แสดงฝีมือเขียนเนื้อเพลงและร้องแร็ปเป็นภาษาญี่ปุ่นเองด้วย
ส่วนเพลง "อย่าบอกว่ารัก" เป็นเพลงช้าที่ผสานดนตรีป๊อปเข้ากับเครื่องดนตรีไทยอย่างขิม ซึ่งน็อตโตะ เป็นคนออกแบบทำนองขิมในเพลงนี้ด้วยตัวเอง บวกกับเรื่องราวความรักเศร้าๆ ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงซึ้งที่โดนใจใครหลายคน ต่อด้วยเพลง "ริมหน้าต่างกลางเมืองใหญ่"เพลงช้าที่มีเนื้อหาเล่าถึงความรู้สึกของคนขี้เหงาคนหนึ่ง ที่อยากจะมีใครสักคนมาคอยห่วงใย
(ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.siamzone.com)

เพลงในอัลบั้ม NOTTO (E.P.)
เพลง ปลดกระดุม
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เพลง อย่าบอกว่ารัก
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เพลง ริมหน้าต่าง...กลางเมืองใหญ่
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เพลง เมื่อไหร่จะเลิกกับเขา
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เพลง คนกำลังมีความรัก
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


อัลบั้ม "IN DEEP" / วางจำหน่าย 22 พฤศจิกายน 2550

เป็นเวลาถึง 1 ปีกว่า หลังจากเผยโฉมในวงการเพลงด้วยอัลบั้มแรก น็อตโตะ (Notto) ในปี 2006 บ่งบอกความเป็นตัวเองให้แฟนๆ ได้รู้จัก คราวนี้สาวหน้าญี่ปุ่น เจ้าของเสียงร้องในเพลง ปลดกระดุม แถมพ่วงด้วยการเป็นพิธีกร กลับมาอีกครั้งด้วยภาพลักษณ์ที่เซ็กซี่ขึ้น พร้อมอัลบั้มชุดที่สอง In Deep ภายใต้การดูแลของค่าย เมโลดีกา ในเครือบริษัทอาร์เอส
น็อตโตะ เปิดใจเกี่ยวกับผลงานเพลงชุดนี้ว่าเป็นแนวเพลงโมเดิร์นป๊อปที่ชัดเจนขึ้นกว่าชุดแรก แต่ก็ยังคงความเป็นตัวเองไม่เปลี่ยน โดยตั้งใจถ่ายทอดเบื้องลึก ความรู้สึกและอารมณ์ของผู้หญิง ซึ่งบางครั้งก็ไม่สามารถบอกใครได้ ซึ่งทั้ง 5 เพลงในอัลบั้มจะเป็นเพลงหลากอารมณ์ ไม่ว่าจะ เศร้า อกหัก เสียใจ ไปจนถึงดีใจ มีความสุขสุดๆ 
เปิดตัวอัลบั้มนี้ด้วย "จิตใต้สำนึก" เพลงช้าๆ อารมณ์เศร้า ผสานกลิ่นอายตะวันออกเช่นเดียวกันกับอัลบั้มแรก บอกเล่าเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อถึงคราวที่ต้องเลิกกับใครสักคนแล้ว แต่จิตใต้สำนึกกลับคิดว่ายังคบกันอยู่
ถัดมาเป็นเพลง "แฟนประสาอะไร" พูดถึงคนรักที่ไม่เคยทำตัวเหมือนคนที่รักกัน ไม่เคยดูแลเอาใจใส่กัน ถ้าเป็นแบบนั้นไม่มีแฟนเลยน่าจะดีเสียกว่า

เพลงในอัลบั้ม
เพลง จิตใต้สำนึก
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เพลง แฟนประสาอะไร
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เพลง รักหรือไม่รัก
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เพลง โทร.มาอีกนะ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เพลง เปลี่ยน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


หลังจากที่ออกอัลบั้มมา 2 ชุดแล้ว สาวน็อตโตะก็ได้มีงานเพลงกับทางค่ายอาร์เอสอีกสองซิงเกิ้ล ก่อนที่จะหมดสัญญากับทางค่ายอาร์เอส และไปทำงานพิธีกรอย่างเต็มตัว กับเพลง "เพื่อนคนสุดท้าย" เพลงช้าซึ้งๆ เด่นที่เสียงเปียโน ซึ่งเพลงนี้ใช้เวลาคิด เตรียมตัวนานถึง 1 ปีเต็ม ซึ่งเนื้อหาของเพลงเป็นเรื่องราวที่โตขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการมองความรักอย่างมีเหตุผลมากขึ้น ยอมรับในความเป็นจริงได้ น็อตโตะ ก็เลยอยากที่จะถ่ายทอดเพลง เพื่อนคนสุดท้าย โดยมีบรรยากาศเป็นใจเพื่อเป็นตัวแทนของคนที่มีความรู้สึกผิดหวังหรืออกหักในเรื่องของความรัก รวมถึงไม่สมหวังในเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ฝนตก ซึ่งก็หวังว่าแฟน ๆ ที่ฟังเพลงในช่วงหน้าฝนจะต้องนึกถึงเพลง เพื่อนคนสุดท้าย
ต่อด้วยเพลง "รักข้างเดียว" เป็นเพลงที่มีเนื้อหาความรู้สึกของความรักที่จะมีทั้งความสุข ความทุกข์ ในมุมของคนที่รักข้างเดียว ผ่านเสียงร้องบวกกับเสียงเปียโนที่จะชวนซึ้งไปด้วยกัน ซึ่งเพลงนี้ก็ได้นำไปเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เกาหลี เรื่อง “ขอบคุณที่รักกัน” (Love , First) อีกด้วย

เพลง เพื่อนคนสุดท้าย (ปี 2552)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เพลง รักข้างเดียว (ปี 2552)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



ซิงเกิล ยังอยู่กับฉันไหม , ฝนซาซา Feat.จั๊ก ชวิน / ซิงเกิลพิเศษของสาวน็อตโตะที่ทำเนื่องในโอกาสพิเศษ วันเกิดของน็อตโตะ เมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม พ.ศ. 2554 ที่ร้องให้กับแฟนคลับ นอกจากนี้ยังได้ "จั๊ก ชวิน จิตสมบูรณ์" มาร่วมเล่นกีต้าร์ในทั้ง 2 เพลงอีกด้วย ซึ่งจะเป็นแนวเพลงอคูสติก มีเครื่องเล่นกีต้าร์โปร่งเพียงชิ้นเดียว กับเสียงใสๆของสาวน็อตโตะ เรียกได้ว่าเป็นเพลงที่เพราะมากๆ ถึงแม้จะได้ได้อยู่ในค่ายดัง แต่คุณภาพเพลงดีเลยทีเดียว

เพลง ฝนซาซา
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เพลง ยังอยู่กับฉันไหม
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ




ซิงเกิ้ล "เวลาบอกให้พอ ใจบอกให้รอ (Distance) Notto Feat. Jugg Chawin" ซิงเกิ้ลล่าสุดของสาวน็อตโตะ หลังจากที่ห่างหายจากการจับไมค์ร้องเพลงไปนาน 10 กว่าปี เป็นเพลงที่เป็นตัวแทนของความคิดถึง ที่ถ่ายทอดออกมาได้เพราะเช่นเคย โดยได้ “จั๊ก ชวิน จิตสมบูรณ์” มารับหน้าที่โปรดิวเซอร์เพลงนี้ให้อีกด้วย 
“น็อตโตะ” กล่าวว่า "จุดเริ่มต้นของการกลับมาร้องเพลงอีกรอบ ที่มาที่ไปเลยคือมีน้องที่ออฟฟิศก็เล่น TikTok เป็นอะไรที่ยอดฮิตช่วง COVID1-19แล้ววันนั้นน้องก็มาถ่าย น็อตโตะ แล้วใส่เพลง “อย่าบอกว่ารัก” ปรากฎว่าประมาณเดือนกว่าๆมั้งคะ มีคนดูประมาณล้านกว่าวิว แล้วก็ในคอมเมนท์หลายๆคนคิดถึงเสียงร้อง อยากเห็นเรากลับมาร้องเพลงอีก บวกกับเกิดสถานการณ์ของ COVID-19 ด้วยความที่ว่าหลายปีมาแล้วที่น็อตโตะ ทำรายการท่องเที่ยว ชีวิตคือเดินทางตลอด พอวันนึงเราเดินทางไม่ได้ ผ่านไปหนึ่งเดือน สองเดือน เรายังโอเค แต่นี่คือเกือบปีแล้ว พูดตรงๆคือ รู้สึกอะไรขาดหายไปเหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมา ในทุกๆปีช่วงตั้งแต่ ตุลาคม-ธันวาคม แทบไม่ได้อยู่เมืองไทยเลย จะเดินทางตลอด ส่วนใหญ่ก็คือถ่ายรายการที่ญี่ปุ่น พอปีนี้เราไม่ได้เดินทางญี่ปุ่น ทางการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเกาะคิวชูก็ถามเราว่า กลับมาร้องเพลงมั้ย น็อตโตะ ร้องเพลงเถอะ โปรเจคนี้ก็เลยเกิดขึ้นจริงจังค่ะ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

"น็อตโตะในอดีต"








แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่