อาแปะมานั่งสรุปประเด็นที่ถกเถียงกันเรื่อง"ตู๋ห่าว" สรุปได้สี่ประเด็น...คือ...

กระทู้คำถาม
ประเด็นที่ 1 ...เรื่องการแปลงสัญชาติ
ประเด็นที่ 2 ...เรื่องการซื้อบ้านหรู
ประเด็นที่ 3 ...เรื่องบริจาคเงินให้พรรคการเมือง
ประเด็นที่ 4 ...เรื่องนักการเมืองรับของกำนัล

เรื่องการแปลงสัญชาติ...  อาแปะอ่านๆดูแล้ว ไม่มีน้ำหนัก ที่จะโทษฝ่ายการเมืองได้ หากเค้าทำตามขั้นตอนและเงื่อนไขครบตาม พร.สัญชาติ พศ.2508 อันนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องขุดคุ้ยว่า การขอแปลงสัญชาติเค้าในสมัยนั้นมีคุณสมบัติครบหรือไม่ 

เรื่องการซื้อบ้านหรู...  อาแปะก็ยังไม่เห็นน้ำหนักที่จะไปโทษฝ่ายการเมือง แม้เจ้าของบริษัทอสังหาจะเล่นการเมือง แต่ธุรกรรมการซื้อขายถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ขายรับเงิน ผู้ซื้อจ่ายเงิน เรื่องของการทำธุรกิจก็จบแค่นี้   ส่วนเงินที่มาซื้อจะมาอย่างไรไม่ใช่หน้าที่ของนักธุรกิจฝ่ายอสังหาเจ้าของโครงการต้องตรวจสอบ  เป็นหน้าที่ของสรรพพากรในสมัยนั้น หากสงสัยในธุรกรรมที่ผิดปกติ  

เรื่องบริจาคเงินให้พรรค...  อันนี้อาแปะว่าพรรคที่รับเงินบกพร่องในการตรวจสอบ  บริษัทของตู๋ห่าว ขาดทุนก็มาก แต่กลับมีเงินมาบริจาคให้พรรคได้ อีกทั้งตัวตู๋ห่าวก็มีคดีความหลายคดี   อันนี้ก่อนที่พรรคจะรับเงินใครไม่สืบประวัติเลยหรือว่าคนๆนั้นดำหรือขาวอย่างไร.?  งานการเมืองเกี่ยวกับอำนาจและผลประโยชน์นะครับไม่ใช่ธุรกิจ  งานการเมืองต้องคัดกรองคนที่มาสัมพันด้วยให้มากๆ ไม่ควรเลินเล่อแบบนี้..

เรื่องให้ของกำนัลนักการเมือง...  อันนี้ยิ่งหนัก  ของราคาเท่าไหร่ไม่รู้เพราะอาแปะไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือ  ข่าวว่าแพงมาก... นักการเมืองที่รับ รับเข้าไปได้งัย จะไม่รู้เลยเหรอว่าผู้ให้กระดำกระด่างมาก มีคดีความมากมาย  อย่างน้อยก็ต้องเฉลียวใจปฏิเสธไปเลยกับผู้ให้ประเภทนี้...  รับของง่ายแบบนี้เวอร์จิ้นมากๆครัช.. 

สรุปว่า...   ในสายตาอาแปะ นักการเมืองและการเมืองไทย ไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย  ยังเป็นวงจรเอื่อกันเองระหว่างนายทุนกับอำนาจ 
...คงต้องปลงกับการเมืองไทยอีกรอบแล้ว...มั๊งเนอะ..

อมิตพุทธ...
ສະ​ບາຍ​ດີ​ຕອນ​ເຊົ້າ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่