เรื่อง ผู้หญิงคนนั้นชื่อจันทร์จิรา
เรื่องโดย นัฐพันธ์
..........................................................................................................................................................
ชีวิตมันต้องดิ้นรน ไม่สู้ทนก็อดตาย คือคำที่เตือนสติให้คนที่กำลังทดท้อหมดกำลังต้องลุกขึ้นมาสู้กับอุปสรรค์ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เรารู้อยู่ว่า ถึงสู้ไปก็แพ้อยู่ดี แต่มันก็ดีกว่านอนรอวันตายไม่ใช่หรือ
ณ สลัมแห่งหนึ่ง เป็นชุมชนที่ก่อร่างสร้างขึ้นมาจากบ้านไม่กี่หลัง ถยอยกันมาปลูกสร้างบนที่ดินของราชการ ไม่มีบ้านเลขที่ ที่ถูกต้อง ไม่มีโฉลดที่ดินว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของใคร เพราะทุกคนล้วนรู้ดีว่า ที่ปลูกสร้างบ้านอยู่ทุกวันนี้เป็นของหลวง จันทร์จิรา หรือ อีจันทร์ เป็นเด็กสาวที่ปากกัดตีนถีบตั้งแต่เล็ก แม่ของเธอเป็นโสเภณีที่ขายตัวอยู่แถวคลองหลอด พอตั้งท้องได้ไม่เท่าไหร่ ก็ริอาจเล่นยาจนเสียสติ โชคยังดีที่เด็กเกิดมาแล้วปกติดีทุกอย่าง จันทร์จิราถูกทิ้งให้นางบุญเลื่อม อดีตแม่เล้าที่จำใจเลี้ยงด้วยความสงสารเด็ก จึงนำเธอมาเลี้ยงอย่างอดๆอยากๆเพราะนางบุญเลื่อมเองก็ใช่ว่าจะมีเงินซักเท่าไหร่ อาศัยเบี้ยยังชีพเดือนละไม่กี่ร้อนบาท กับขายของไปวันๆ
จันทร์จิรา เป็นผู้หญิงผิวคล้ำ แต่ด้วยความที่คมขำ ทำให้มีผู้ชายมาติดพลันมากหน้าหลายตา บ่อยครั้งที่เธอเกือบจะโดนฉุดไปขมขืน แต่ก็รอดมาได้ ด้วยอาชีพในผับ บาร์ มันไม่ได้วิเศษวิโสอะไร มันก็ผู้หญิงกลางคืนอย่างที่ใครหลายๆคนว่าเอาไว้ แต่เธอต้องฝืนทำ เพราะคำว่า เงิน
เงิน ใครบอกว่าไม่สำคัญ สำหรับเธอแล้ว เงินคือทุกสิ่งทุกอย่าง มันสามารถสร้างให้คนอยู่เป็นคนต่อไป ใครจะเถียงมั้ยล่ะว่า เงินไม่สำคัญ ข้าวก็ต้องซื้อ บ้านก็ต้องเช่า รถก็ต้องผ่อน มันน่าตลกสิ้นดีที่คนรวยบางคน บอกว่าเงินไม่สำคัญ ลองให้คนพวกนั้นมามีชีวิตดิ้นรน หาเงินตัวเป็นเกลียวแบบวันต่อวันบ้างจะรู้สึกเช่นใด
จันทร์จิรา ทำงานในผับ เวลาทำงานคือช่วยดึกของทุกวัน อาชีพเสริมคือการค้าประเวณีกับแขกที่มาเที่ยว เธอกำลังมองหาฝรั่งผิวขาว อายุห้าสิบปี ที่เดินทางมากับเพื่อนชาย มันเป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนในที่แห่งนี้ปรารถนา ที่จะเจอฝรั่งดีดีแล้วพาเธอออกไปจากขุมนรกแห่งนี้ มีหลายคนที่ออกไปแล้วได้ดี เพราะได้ผัวรวย บางคนสร้างเนื้อสร้างตัวได้ดิบได้ดีก็มีมาก และมีอีกหลายคนที่ต้องกลับมาทำอาชีพนี้อีกครั้ง มีคำกล่าวที่ว่า อาชีพขายตัวมันคืออาชีพต้องคำสาป “มันก็เหมือนรอยสัก ที่ติดตัวเราไปจนตาย แม้จะพยายามไปลบออกก็ตาม แต่มันก็ยังมีรอยด่างพล้อยติดตัวไปชั่วชีวิต”
ชายฝรั่งคนนั้น เกี้ยวล้อก้อติดเธอนานอยู่หลายเดือน จนเธอแน่ใจแล้ว แต่จะทำอย่าไรให้เขาพาเธอกลับไปต่างประเทศด้วย เธอไม่อยากมีชีวิตเป็นสาวบาร์ เป็นอีตัวอีกต่อไป ทันทีที่เธฮคิด ในหัวก็นึกถึงคำพูดของพี่เปิ้ล

รุ่นพี่ที่บอกกับเธอคราวหนึ่งว่า
“พี่มีของดี ของเด็ด ของสิ่งนี้มันเรียกว่าน้ำมันพราย ใครได้โดดดีดใส่ มีอันต้องหลงหัวปักหัวปำ” เธอตัดสิ้นใจทันที โทรหาพี่เปิ้ล และขอซื้อสิ่ง สิ่งนั้นมา เธอหวังว่ามันจะนำพาให้เธอไปสู่เส้นชัย
ทันทีที่เธอย่างก้าวเข้ามาในสนามบินสุวรรณภูมิ มันเป็นสิ่งที่เด็กสลัมด้อยค่าอย่างเธอรู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก เดวิท ขอเธอแต่งงาน และจะพาเธอไปอยู่ที่บ้านเกิดของเขาที่ต่างประเทศ เธอคาดคิดว่า น้ำมันพรายขวดนั้น จะพาให้เธอไปสู้เส้นชัย ความหวังทั้งหมดทั้งมวล ก่อขึ้นและกำลังจะสร้างฝันที่เคยมีให้เป็นจริง ลาก่อนประเทศไทย ลาก่อนชีวิตโสเภณี
ณ ประเทศแถบยุโรป
ทันทีที่จันทร์จิรา ก้าวผ่านเข้ามาที่บ้านพักแห่งหนึ่ง เธอเหมือนเจ้าหญิง บ้านหลังใหญ่เหมือนปราสาทในเทพนิยาย เธอไม่ได้ฝันไป เธอไม่ได้คิดไปเอง แต่มันคือเรื่องจริง
“ยินดีต้อนรับสู่บ้านของเรา” เสียงของเดวิดพูดเป็นภาษาอังกฤษ จันทร์จิรายิ้มร่า เข้าไปเกี่ยวแขนเขา และโอบกอด เสียงฝีเท้าของผู้มาเยือนหลายคนดังตามหลัง ทั้งหมดเดินเข้ามาในบ้านพัก เธอหันมอง เห็นชายฉกรรยืนเรียงรายกันอยู่หลายสิบคน ด้วยหุ่นกำยำ เธอไม่เฉลี่ยวใจ คิดว่าพวกนั้นคงเป็นคนงานของบ้าน
“ยินดีต้อนรับ จัน จิ รา พวกเราจะทำให้เธอสนุกสนานตลอดไป” เสียงพวกมันหัวเราะชอบใจ พร้อมกับปรี่เข้ามาเหมือนฝูงหมาป่า จันทร์จิราตกใจอาศัยสัญชาติญาณที่มีอยู่ รู้แน่ว่า พวกมันกำลังจะทำอะไร
ไม่มีใครที่ได้อะไรมาง่ายๆ อย่าคิดว่าการนอนแหกแข้งแหกขา แล้วจะพบเจ้าชายในเทพนิยาย เพราะนั้นอาจจะไม่จริงเสมอไป ไม่เชื่อลองถาม จันทร์จิราดูสิ ครับ
จบ
เรื่องสั้น ชวนหักมุม "ผู้หญิงคนนั้นชื่อจันทร์จิรา"
เรื่องโดย นัฐพันธ์
..........................................................................................................................................................
ชีวิตมันต้องดิ้นรน ไม่สู้ทนก็อดตาย คือคำที่เตือนสติให้คนที่กำลังทดท้อหมดกำลังต้องลุกขึ้นมาสู้กับอุปสรรค์ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เรารู้อยู่ว่า ถึงสู้ไปก็แพ้อยู่ดี แต่มันก็ดีกว่านอนรอวันตายไม่ใช่หรือ
ณ สลัมแห่งหนึ่ง เป็นชุมชนที่ก่อร่างสร้างขึ้นมาจากบ้านไม่กี่หลัง ถยอยกันมาปลูกสร้างบนที่ดินของราชการ ไม่มีบ้านเลขที่ ที่ถูกต้อง ไม่มีโฉลดที่ดินว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของใคร เพราะทุกคนล้วนรู้ดีว่า ที่ปลูกสร้างบ้านอยู่ทุกวันนี้เป็นของหลวง จันทร์จิรา หรือ อีจันทร์ เป็นเด็กสาวที่ปากกัดตีนถีบตั้งแต่เล็ก แม่ของเธอเป็นโสเภณีที่ขายตัวอยู่แถวคลองหลอด พอตั้งท้องได้ไม่เท่าไหร่ ก็ริอาจเล่นยาจนเสียสติ โชคยังดีที่เด็กเกิดมาแล้วปกติดีทุกอย่าง จันทร์จิราถูกทิ้งให้นางบุญเลื่อม อดีตแม่เล้าที่จำใจเลี้ยงด้วยความสงสารเด็ก จึงนำเธอมาเลี้ยงอย่างอดๆอยากๆเพราะนางบุญเลื่อมเองก็ใช่ว่าจะมีเงินซักเท่าไหร่ อาศัยเบี้ยยังชีพเดือนละไม่กี่ร้อนบาท กับขายของไปวันๆ
จันทร์จิรา เป็นผู้หญิงผิวคล้ำ แต่ด้วยความที่คมขำ ทำให้มีผู้ชายมาติดพลันมากหน้าหลายตา บ่อยครั้งที่เธอเกือบจะโดนฉุดไปขมขืน แต่ก็รอดมาได้ ด้วยอาชีพในผับ บาร์ มันไม่ได้วิเศษวิโสอะไร มันก็ผู้หญิงกลางคืนอย่างที่ใครหลายๆคนว่าเอาไว้ แต่เธอต้องฝืนทำ เพราะคำว่า เงิน
เงิน ใครบอกว่าไม่สำคัญ สำหรับเธอแล้ว เงินคือทุกสิ่งทุกอย่าง มันสามารถสร้างให้คนอยู่เป็นคนต่อไป ใครจะเถียงมั้ยล่ะว่า เงินไม่สำคัญ ข้าวก็ต้องซื้อ บ้านก็ต้องเช่า รถก็ต้องผ่อน มันน่าตลกสิ้นดีที่คนรวยบางคน บอกว่าเงินไม่สำคัญ ลองให้คนพวกนั้นมามีชีวิตดิ้นรน หาเงินตัวเป็นเกลียวแบบวันต่อวันบ้างจะรู้สึกเช่นใด
จันทร์จิรา ทำงานในผับ เวลาทำงานคือช่วยดึกของทุกวัน อาชีพเสริมคือการค้าประเวณีกับแขกที่มาเที่ยว เธอกำลังมองหาฝรั่งผิวขาว อายุห้าสิบปี ที่เดินทางมากับเพื่อนชาย มันเป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนในที่แห่งนี้ปรารถนา ที่จะเจอฝรั่งดีดีแล้วพาเธอออกไปจากขุมนรกแห่งนี้ มีหลายคนที่ออกไปแล้วได้ดี เพราะได้ผัวรวย บางคนสร้างเนื้อสร้างตัวได้ดิบได้ดีก็มีมาก และมีอีกหลายคนที่ต้องกลับมาทำอาชีพนี้อีกครั้ง มีคำกล่าวที่ว่า อาชีพขายตัวมันคืออาชีพต้องคำสาป “มันก็เหมือนรอยสัก ที่ติดตัวเราไปจนตาย แม้จะพยายามไปลบออกก็ตาม แต่มันก็ยังมีรอยด่างพล้อยติดตัวไปชั่วชีวิต”
ชายฝรั่งคนนั้น เกี้ยวล้อก้อติดเธอนานอยู่หลายเดือน จนเธอแน่ใจแล้ว แต่จะทำอย่าไรให้เขาพาเธอกลับไปต่างประเทศด้วย เธอไม่อยากมีชีวิตเป็นสาวบาร์ เป็นอีตัวอีกต่อไป ทันทีที่เธฮคิด ในหัวก็นึกถึงคำพูดของพี่เปิ้ล
“พี่มีของดี ของเด็ด ของสิ่งนี้มันเรียกว่าน้ำมันพราย ใครได้โดดดีดใส่ มีอันต้องหลงหัวปักหัวปำ” เธอตัดสิ้นใจทันที โทรหาพี่เปิ้ล และขอซื้อสิ่ง สิ่งนั้นมา เธอหวังว่ามันจะนำพาให้เธอไปสู่เส้นชัย
ทันทีที่เธอย่างก้าวเข้ามาในสนามบินสุวรรณภูมิ มันเป็นสิ่งที่เด็กสลัมด้อยค่าอย่างเธอรู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก เดวิท ขอเธอแต่งงาน และจะพาเธอไปอยู่ที่บ้านเกิดของเขาที่ต่างประเทศ เธอคาดคิดว่า น้ำมันพรายขวดนั้น จะพาให้เธอไปสู้เส้นชัย ความหวังทั้งหมดทั้งมวล ก่อขึ้นและกำลังจะสร้างฝันที่เคยมีให้เป็นจริง ลาก่อนประเทศไทย ลาก่อนชีวิตโสเภณี
ณ ประเทศแถบยุโรป
ทันทีที่จันทร์จิรา ก้าวผ่านเข้ามาที่บ้านพักแห่งหนึ่ง เธอเหมือนเจ้าหญิง บ้านหลังใหญ่เหมือนปราสาทในเทพนิยาย เธอไม่ได้ฝันไป เธอไม่ได้คิดไปเอง แต่มันคือเรื่องจริง
“ยินดีต้อนรับสู่บ้านของเรา” เสียงของเดวิดพูดเป็นภาษาอังกฤษ จันทร์จิรายิ้มร่า เข้าไปเกี่ยวแขนเขา และโอบกอด เสียงฝีเท้าของผู้มาเยือนหลายคนดังตามหลัง ทั้งหมดเดินเข้ามาในบ้านพัก เธอหันมอง เห็นชายฉกรรยืนเรียงรายกันอยู่หลายสิบคน ด้วยหุ่นกำยำ เธอไม่เฉลี่ยวใจ คิดว่าพวกนั้นคงเป็นคนงานของบ้าน
“ยินดีต้อนรับ จัน จิ รา พวกเราจะทำให้เธอสนุกสนานตลอดไป” เสียงพวกมันหัวเราะชอบใจ พร้อมกับปรี่เข้ามาเหมือนฝูงหมาป่า จันทร์จิราตกใจอาศัยสัญชาติญาณที่มีอยู่ รู้แน่ว่า พวกมันกำลังจะทำอะไร
ไม่มีใครที่ได้อะไรมาง่ายๆ อย่าคิดว่าการนอนแหกแข้งแหกขา แล้วจะพบเจ้าชายในเทพนิยาย เพราะนั้นอาจจะไม่จริงเสมอไป ไม่เชื่อลองถาม จันทร์จิราดูสิ ครับ
จบ