สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ความร้อนจากอุกกาบาต ดาวตก กระสวยอวกาศตอนร่อนกลับโลก
มาจากการ "อัด" อากาศครับ
กระบวนการนี้เกิดเมื่ออุกกาบาตตกลงมาจากอวกาศ
และเริ่มเจอกับบรรยากาศที่หนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ
(ประมาณ 50 กิโลเมตรลงมา)
อุกกาบาตนั้นจะผ่านโมเลกุลอากาศที่หนาแน่น
ไปเร็วมาก ๆ เร็วมากถึง 30 - 60 km/sec
ทำให้โมเลกุลอากาศในด้านหน้าของอุกกาบาต
ถูก "อัด" (Compressed) ครับ
และเนื่องจากความเร็วของอุกกาบาตสูงมาก
layer ของโมเลกุลแก้สหน้าอุกกาบาตจะถูกอัด
ในรูปแบบของ adiabatic compression
ซึ่งกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อการ อัด นั้น
รวดเร็วจนความร้อนไม่สามารถถ่ายเทระหว่าง
ระบบ กับ สิ่งแวดล้อมได้ทัน ..... ดังนั้น
แก้สหน้าอุกกาบาตจึงร้อนจัดนับหมื่น ๆ ℃
จนสสารของอุกกาบาตเผาไหม้ให้เราเห็น
เป็นแสงจ้าแบบนั้นได้ โดยเฉพาะโลหะในอุกกาบาต เนี่ย
เป็นตัวที่เผาไหม้เกิน 4 - 5,000 ℃ แล้ว จะสว่างเป็นพิเศษครับ
แสงจ้าที่เราเห็นนั้น ส่วนใหญ่มาจากดาวตกที่มีขนาดใหญ่สุด
เพียงลูกอมเท่านั้น แต่มันร้อนมากจนโลหะเกิดปฏิกิริยารุนแรง
เม็ดเท่าลูกอมที่ความสูง 30 กิโลเมตรจึงสว่างจ้าแบบนั้นได้
ส่วนเรื่อง เสียดสี หรือ อัด
ในตำราเก่า ๆ ก็กล่าวไว้ทั้ง 2 แบบ ตามภาพครับ
ในเอกสารนี้ (หน้า 3) อธิบายว่า .....
เมื่ออุกกาบาตเริ่มผ่านอากาศหนาแน่น
มันจะสร้าง work done ให้กับอากาศ
และจะแปลงเป็นพลังงานจลน์ให้อากาศ
ในรูปแบบของ adiabatic compression
ดังนั้น .... จึงสรุปว่าความร้อนนี้เกิดจากการ "อัด" ครับ
https://royalsocietypublishing.org/doi/pdf/10.1098/rspa.1923.0003
มาจากการ "อัด" อากาศครับ
กระบวนการนี้เกิดเมื่ออุกกาบาตตกลงมาจากอวกาศ
และเริ่มเจอกับบรรยากาศที่หนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ
(ประมาณ 50 กิโลเมตรลงมา)
อุกกาบาตนั้นจะผ่านโมเลกุลอากาศที่หนาแน่น
ไปเร็วมาก ๆ เร็วมากถึง 30 - 60 km/sec
ทำให้โมเลกุลอากาศในด้านหน้าของอุกกาบาต
ถูก "อัด" (Compressed) ครับ
และเนื่องจากความเร็วของอุกกาบาตสูงมาก
layer ของโมเลกุลแก้สหน้าอุกกาบาตจะถูกอัด
ในรูปแบบของ adiabatic compression
ซึ่งกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อการ อัด นั้น
รวดเร็วจนความร้อนไม่สามารถถ่ายเทระหว่าง
ระบบ กับ สิ่งแวดล้อมได้ทัน ..... ดังนั้น
แก้สหน้าอุกกาบาตจึงร้อนจัดนับหมื่น ๆ ℃
จนสสารของอุกกาบาตเผาไหม้ให้เราเห็น
เป็นแสงจ้าแบบนั้นได้ โดยเฉพาะโลหะในอุกกาบาต เนี่ย
เป็นตัวที่เผาไหม้เกิน 4 - 5,000 ℃ แล้ว จะสว่างเป็นพิเศษครับ
แสงจ้าที่เราเห็นนั้น ส่วนใหญ่มาจากดาวตกที่มีขนาดใหญ่สุด
เพียงลูกอมเท่านั้น แต่มันร้อนมากจนโลหะเกิดปฏิกิริยารุนแรง
เม็ดเท่าลูกอมที่ความสูง 30 กิโลเมตรจึงสว่างจ้าแบบนั้นได้
ส่วนเรื่อง เสียดสี หรือ อัด
ในตำราเก่า ๆ ก็กล่าวไว้ทั้ง 2 แบบ ตามภาพครับ
ในเอกสารนี้ (หน้า 3) อธิบายว่า .....
เมื่ออุกกาบาตเริ่มผ่านอากาศหนาแน่น
มันจะสร้าง work done ให้กับอากาศ
และจะแปลงเป็นพลังงานจลน์ให้อากาศ
ในรูปแบบของ adiabatic compression
ดังนั้น .... จึงสรุปว่าความร้อนนี้เกิดจากการ "อัด" ครับ
https://royalsocietypublishing.org/doi/pdf/10.1098/rspa.1923.0003

แสดงความคิดเห็น
ดาวเคราะห์น้อยที่เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ มันเผาไหม้ด้วยหลักการใดกันแน่?
คนที่บอกว่าเกิดจากการอัดอากาศ 555
คนที่บอกว่าเกิดจากการเสียดสี
ส่วนตัวผมขอตั้งคำถามแต่ละประเด็นนะครับ ได้แก่
1.ถ้ามันเกิดจากการอัดอากาศ
-พวกฝนดาวตกที่มาจากฝุ่นดาวหาง มันสามารถอัดอากาศได้เหรอครับ
2.ถ้ามันเกิดจากการเสียดสี
-ด้านข้างของตัวดาวตก ทำไมถึงไม่ร้อนเท่าด้านหน้า
*ความล้มเหลวการศึกษาไทยเปล่านิ*