▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
บ่ายนี้มีเฮ...
สมาชิกหมายเลข 5792677
หุ้นโบร๊คนี่ โค ตะ ระ ซวยเลย หลังเจอวิกฤติหุ้นmoreยังมาโดนวิกฤติเก็บภาษี
ช่วงนี้หลายคนจำใจดูการลงยาวๆของหุ้นโบร๊คเลย
สมาชิกหมายเลข 5791836
อ้าวเก็บแต่รายย่อย ยกเว้นรายใหญ่ๆและกองทุนจริงเหรอครับ
เห็นลงข่าว
สมาชิกหมายเลข 6101614

สมัยทักษิณขายหุ้น เสียภาษีไหมครับ
ด่วน! ครม.ไฟเขียวเก็บภาษีขายหุ้น 0.1% ได้ลดอัตราจัดเก็บในปีแรก
... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/1733770/
สมาชิกหมายเลข 6865645

ข่าว คลังกลับลำเก็บภาษีขายหุ้น...
ตลาดหุ้นไทยเดือดอีกแน่ คลังกลับลำเก็บภาษีขายหุ้น
เชื่อได้ว่าในสัปดาห์นี้ บรรดา “แมลงเม่า” ในตลาดหุ้นไทย คงส่งเสียงร้องระงมกันอีกรอบ ห
สมาชิกหมายเลข 4755513
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
การลงทุน
หุ้น
ตลาดหลักทรัพย์
ภาษีอากร
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
รัฐบาลจะเก็บภาษีขายหุ้นแล้วครับ เริ่มที่ 0.055% ก่อน จนถึงสิ้นปี 2566
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 - 12:49 น.
ครม.ไฟเขียว เก็บภาษีขายหุ้นแล้ว ชี้ให้เวลาปรับตัว 90 วัน ปีแรกเริ่มเก็บอัตรา 0.055% ก่อน ยันสร้างความเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีอื่น
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง เสนอให้ดำเนินการจัดเก็บภาษีขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เรียบร้อยแล้ว โดยการจัดเก็บภาษีจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ของเดือนที่ 4 นับจากกฎหมายเรื่องนี้มีผลบังคับใช้แล้ว หรือ มีระยะเวลาให้ปรับตัว 90 วัน
“ภาษีนี้ ต้องเก็บอัตรา 0.1% เพราะเป็นภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยให้โบรกเกอร์เป็นผู้จัดเก็บให้ เพราะต้องเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ซื้อขายหุ้นอยู่แล้ว ซึ่งการจัดเก็บจะมีทุกเดือนเช่นเดียวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อย่างไรก็ดี ในปีแรกหลังกฎหมายบังคับใช้ แ” แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากคิดรวมกับภาษีท้องถิ่น เพดานสูงสุดจะอยู่ที่อัตรา 0.11% ซึ่งทำให้ในปีแรก จัดเก็บอัตรา 0.055%
ทั้งนี้ ภาษีการขายหุ้น หรือ Financial Transaction Tax เป็นการเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยกฎหมายได้กำหนดไว้ว่า จะต้องเก็บภาษีในอัตรา 0.1% ของมูลค่าหุ้นที่ขาย อย่างไรก็ตาม ภาษีดังกล่าวได้รับการยกเว้นมาตั้งแต่ปี 2534 หรือยกเว้นมานานกว่า 30 ปี เพื่อส่งเสริมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งหากกลับมาจัดเก็บ กระทรวงการคลังคาดว่าจะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นหลักหมื่นล้านบาท
https://www.prachachat.net/finance/news-1133089