JJNY : "ยุทธพงศ์"ป้อง"ชัชชาติ"| “ตรีชฎา”เย้ย“3 ป.”แตกคอ| ผู้นำยูเครน เผย 6 ล้านครัวเรือนไร้ไฟฟ้า| พิษส่งออกทุเรียนอ่อน

"ยุทธพงศ์" ป้อง "ชัชชาติ" ไม่เกี่ยวหนี้รถไฟฟ้า 4 หมื่นล้าน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_455581/

“ยุทธพงศ์” ซัดรัฐบริหารถไฟฟ้าเหลว ป้องหนี้ 4 หมื่นล้านไม่เกี่ยวผู้ว่าฯ”ชัชชาติ” ปัญหาเกิดมาก่อน แนะยกเลิกมติ คสช.กรณีส่วนต่อขยายนอกเขตกทม. โอนการบริหารคืนรฟม.เปิดประมูลตามพ.ร.บ.ร่วมทุน

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า ที่ล่าสุด บีทีเอส ทวงหนี้4 หมื่นล้านบาท จากกทม.ว่า เรื่องดังกล่าว พรรคเพื่อไทยเปิดประเด็น และนำมาอภิปรายคัดค้าน ถึง 3 ครั้ง แต่การแก้ไขยังไม่คืบหน้า โดยปัญหาดังกล่าวสืบเนื่องมานาน และการก่อสร้างส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต และแบริ่ง – สมุทรปราการ ที่อยู่นอกเขตอำนาจกทม.ทำให้ กทม.ไม่สามารถอนุมัติเบิกจ่ายเงินได้
 
เพราะเป็นเรื่องของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่เป็นเจ้าภาพดำเนินการ แต่รัฐบาลคสช.ได้มอบให้กทม.ไปวิ่งรถแทน รฟม.และกทม.ได้ไปจ้างกรุงเทพธนาคม บริษัทลูก กทม.ซึ่งไปจ้างบีทีเอส ดำเนินการต่อ ทั้งที่เป็นทรัพย์ สินรฟม.โดยให้วิ่งรถไปถึงปี 2585 โดยวิธีพิเศษไม่มีการประมูล ไม่ผ่าน พ.ร.บ.ร่วมทุน ทั้งนี้มูลค่าหนี้ 4 หมื่นล้านบาท ส่วนแรกมีค่าระบบไฟฟ้า ส่วนที่ 2 คือปล่อยนั่งฟรีตั้งแต่ปี 2561 และส่วนที่3 เกิดจากจะควบรวมเป็นเส้นเดียวโดยให้สัมปทาน 40 ปีให้ กทม.ไม่ต้องจ่ายเงิน
 
ดังนั้น ปัญหาทั้งหมดเกิดจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารล้มเหลว ที่เลี่ยงกฎหมายแล้วไปออก ม.44 และให้ กทม.รับโอนจาก รฟม.นำไปสู่การเจรจาและต่อสัมปทานล่วงหน้า
 
ปัญหาตรงนี้เกิดก่อนที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯ จึงเป็นเหตุผลที่นายชัชชาติ ไม่สามารถจ่ายเงินได้ เพราะส่วนต่อขยายดังกล่าวอยู่นอกเขตกทม.ซึ่งสภากทม.ไม่มีอำนาจเบิกจ่ายได้
 
นายยุทธพงษ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ขอเสนอทางออกคือให้กทม.โอนหนี้ และทรัพย์สินส่วนต่อขยายที่ 2 ที่วิ่งรถนอกเขตกทม.กลับคืนไปให้ รฟม.ส่วน รฟม.จะนำไปวิ่งรถหรือจะเปิดประมูลอย่างใดให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ร่วมทุน ไม่ควรให้เป็นภาระ กทม. นอกจากนั้น ครม.ควรมีมติยกเลิกคำสั่งคสช.ที่ 3 / 2562 กรณีส่วนต่อขยายสัมปทานนอกเขตกทม.โดยเร็วที่สุด



“ตรีชฎา” เย้ย “3 ป.” แตกคอ หลัง “อนุพงษ์” เปรยเตรียมวางมือทางการเมือง
https://siamrath.co.th/n/402702

วันที่ 26 พ.ย. 65 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า หลังจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในงานสัมมนาหนึ่ง ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ว่าจะไม่ไปต่อทางการเมือง ใช้คำพูดว่า แก่แล้ว และ  หมดไฟ ว่า อยากถามพล.อ.อนุพงษ์ ว่าเหตุใดเพิ่งมาคิดหมดไฟยามนี้  หลังจากบ้านเมืองเจอวิกฤตอยู่ในสภาพถูกยึดอำนาจ ประเทศร่อแร่มาเป็นเวลา 8 ปี ยังไม่มีทีท่าจะหยุด แต่พอจังหวะขาลงของ 3ป. กลับทำตัวคล้ายทิ้งเรือแป๊ะเอาตัวรอดใช่หรือไม่  และหากพล.อ.อนุพงษ์ ให้ความชัดเจนในเส้นทางชีวิตของตัวเองจริงอย่างที่พูด เท่ากับว่าการเมืองสมัยหน้า พี่น้อง 3 ป. จะเหลือแค่ 2 ป. คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาหรืออาจจะแพแตกไม่เหลือสัก ป. ก็เป็นได้ เพราะถึงขั้นมีการแบ่งข้างแบ่งคนเสมือน ใครรัก พล.อ.ประวิต ให้เลี้ยวซ้าย รัก พล.อ.ประยุทธ์ให้เลี้ยวขวา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแน่ 

นางสาวตรีชฎา กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร มีความชัดเจนว่า เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและจะลงสนามเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ พล.อ.ประยุทธ์ยังสร้างความสับสนอยู่เหมือนเดิมกรณีจะไปอยู่พรรคไหนระหว่างพลังประชารัฐ หรือ รวมไทยสร้างชาติ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้บอกกับนักข่าวว่า หลังประชุมเอเปค 2022 เสร็จจะประกาศท่าทีทางการเมือง แต่ล่าสุดยังตีโวหารว่า หลังประชุมเอเปคก็ปีหน้า อย่างนี้ไม่เรียกว่ากลับไปกลับมาหลอกล่อรายวันหรือเอียงอายไม่กล้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเพราะกลัวคนขุดคำพูดที่เคยด่านักการเมืองแบบเสียหายพอวันนี้กลืนน้ำลายที่ถ่มเอาไว้เต็มกลืนใช่หรือไม่ แต่อย่างไรก็ดี สภาพบ้านเมืองที่ประชาชนตกทุกข์ได้ยากมา 8 ปี  เป็นประเทศได้นายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้เลือกเข้ามา  หาก 3 ป.จะแตกหัก ยุบสภาลงจากอำนาจ ก็ควรแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่ให้อำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ  ก่อนที่ตนเองจะไป จะถือเป็นบุญใหญ่ของประเทศ

นางสาวตรีชฎากล่าวทิ้งท้ายว่า จากสัญญาณความแตกหักของ 3 ป. จึงได้เห็นสภาพของคนที่เข้าประชุมสภาในซีกฝั่งรัฐบาลอยู่ในสภาพไร้หลัก บวกกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ง่อนแง่นจากความเห็นต่างเรื่อง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง  สภาพยิ่งกว่าบ้านแตกสาแหรกขาด ฝ่ายรัฐบาลขาดเอกภาพ สภาพร้อมล่มทุกเวลา ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ได้เวลาทวงคืนอำนาจจาก 3ป. มาเป็นอำนาจของประชาชนแล้ว



ผู้นำยูเครน เผย 6 ล้านครัวเรือนไร้ไฟฟ้า หลังถูกโจมตีล่าสุด ขณะที่ฤดูหนาวเข้ามา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7385389

ผู้นำยูเครน เผย 6 ล้านครัวเรือนไร้ไฟฟ้า หลังถูกโจมตีล่าสุด ขณะที่ฤดูหนาวเข้ามา
 
วันที่ 26 พ.ย. บีบีซี รายงานสถานการณ์ของสงครามในยูเครนว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ระบุว่า ครัวเรือนยูเครน 6 ล้านหลังคาเรือนยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ หลังถูกขีปนาวุธโจมตีระลอกใหญ่เมื่อสัปดาห์นี้
 
นายเซเลนสกีแถลงเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า จนถึงตอนนี้ กระแสไฟฟ้ายังดับในหลายแคว้นส่วนใหญ่ และในกรุงเคียฟ ส่วนจำนวนครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบนั้นลดลงครึ่งหนึ่งตั้งแต่วันพุธที่ 23 พ.ย. อย่างไรก็ตาม หลายล้านคนยังไม่มีแสงไฟ น้ำประปา และความอบอุ่น ขณะที่ฤดูหนาวเข้ามา

นายเซเลนสกีกล่าวว่า กรุงเคียฟและแคว้นโดยรอบอยู่ในหลายพื้นที่ถูกโจมตีที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุด และว่า ผู้อยู่อาศัยหลายคนในกรุงเคียฟไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้เป็นเวลา 20-30 ชั่วโมง ส่วนพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุด ได้แก่ แคว้นโอเดซา ทางเหนือ แคว้นลวิว ทางตะวันตก ตลอดจนแคว้นวินนิตเซีย และแคว้นดนีโปรเปตรอฟสค์ ตอนกลาง
 
“หากคุณเจอกระแสไฟฟ้าดับ ไม่ได้หมายความว่าปัญหาจะจบลง ได้โปรด หากคุณมีไฟฟ้า ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้ที่มีประสิทธิภาพหลายอย่างพร้อมกันในคราวเดียวได้ หนาวนี้เราต้องทน หนาวนี้เป็นหนาวที่ทุกคนจะจดจำ” นายเซเลนสกีกล่าว

ขณะที่นายเดนิส ชมีฮัล นายกรัฐมนตรียูเครน กล่าวว่า แม้จะถูกโจมตีหลายระลอก แต่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญๆ ส่วนใหญ่เกือบทั้งประเทศกลับมาเชื่อมต่อแล้ว รวมถึงหลายอย่าง เช่น น้ำประปา โรงผลิตความร้อน โรงพยาบาล และหน่วยงานบริการพลังงาน อย่างไรก็ตาม ประชาชนทั่วไปยังเผชิญการตัดกระแสไฟฟ้าตามกำหนดทั่วทุกแคว้นของยูเครน

มีความกลัวกันว่า เป้าหมายของรัสเซียในการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานยูเครน ประกอบกับหิมะตกและอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ อาจเกิดวิกฤตสาธารณสุขในประเทศ ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกกล่าวมาตลอดว่า รัสเซียก่ออาชญากรรมโดยโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนสำคัญๆ แต่รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 25 พ.ย. ผู้ว่าการแคว้นเคอร์ซอนระบุว่า ผู้ป่วยโรงพยาบาลถูกอพยพจากพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากรัสเซียทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่สภาเมืองเคอร์ซอนระบุว่า ผู้อยู่อาศัย 15 รายเสียชีวิตในเมืองดังกล่าวเมื่อสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นเมืองที่กองกำลังยูเครนเพิ่งยึดคืนมาจากรัสเซีย
 
การโจมตีทางอากาศของรัสเซียมีขึ้นขณะที่หน่วยงานนิวเคลียร์ของสหประชาชาติระบุว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 3 แห่งในดินแดนของยูเครนเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าอีกครั้ง หลังถูกบังคับปิดระหว่างการโจมตีสัปดาห์นี้ โดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งที่ 4 ในเมืองซาโปริฌเฌียที่รัสเซียควบคุม กลับมาเชื่อมต่อเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่