การกระทำของแม่แบบนี้เรียกว่ารักหรอ แม่ใครเป็นแบบนี้บ้าง

ขอเกริ่นก่อนว่า พูดถึงแต่แม่นะคะ ในครอบครัว พ่อแม่พี่ชายแล้วก็เรา เราไม่เคยหรือไม่ค่อยได้ทะเลาะกับใครเลยค่ะ นอกจากแม่ กับแม่นิน่าจะทุกวันได้ ไม่รู้เพราะอยู่ด้วยกันบ่อยด้วยมั้ย แต่ไม่เคยเข้าใจกันเลย
เข้าเรื่อง เราอายุ 24แล้วค่ะ ทำงานใกล้บ้าน ก็คือยังอยู่กับพ่อแม่อยู่นั่นแหละ ประเด็นคือแม่ชอบบ่นค่ะ ชอบประจานเรา แม่บ่นเรื่องอะไร?
1.มีครั้งนึง เราอยู่บ้านค่ะ ด้วยความที่จะวูบความดันต่ำ เราเคยหาในเน็ตค่ะว่าอาการแบบนี้ความดันต่ำแล้ววิธีแก้1ในนั้นคือจิบเบียร์ช่วยได้ บ้านเราเป็นร้านขายของอยู่แล้ว เราเลยลองเอามาจิบค่ะ ช่วยได้จริง (บอกก่อนนะคะ เราไม่ค่อยเป็นคนชอบดื่มเท่าไหร่ ไม่ค่อยได้ไปงานเลี้ยงปาร์ตี้อะไรแบบนี้ด้วย เพื่อนเราน้อยมากๆ จะมีดื่มก็ตอนที่นัดกันสองสามคนเท่านั้น แต่2-3เดือนดื่มครั้ง แต่ไม่ได้ดื่มแบบเหล้ากรม หรือเบียร์สองสามขวดแบบนั้น เราดื่มกันอย่างมากแค่โซจูค่ะผสมด้วย ไม่ก็แอลกระป๋อง3%คนละกระป๋องแค่นั้นค่ะ) มาต่อ เราเอาเบียร์มาจิบใช่มั้ยคะ เรากินไม่หมดเลยเอาไว้ตู้เย็น วันนั้นแม่ออกไปข้างนอกแล้วเพิ่งกลับบ้าน มาเจอเบียร์ในตู้เย็นค่ะ ขึ้นกู ขึ้นคำหยาบใส่เราค่ะ ว่าเอาเบียร์มากินหรอ เราก็บอกไปตามตรงค่ะว่ากินแก้ความดันต่ำ แล้วแกก็บอกว่า ถ้าอยากกินก็ไปซื้อที่อื่นกิน อย่ามากินขอแกเอาไว้ขาย เลยบอกว่าไม่มีรถไป แกเลยบอกว่า ก็เดินไปสิ นิเลยตอบกลับ ถ้าเดินไปเป็นลมรถเหยียบตายจะทำไง ไม่ได้อยากกินมากนักหรอก ถ้าหนูชอบมากหนูเอาขวดใหญ่มาเปิดกินแล้วไม่เหลือให้แม่ทักด้วย แค่นี้อะค่ะแล้วเราก็คิดว่าแม่น่าจะเข้าใจเราแล้วว่าเรากินเป็นยาจริงๆ (เราไม่ได้กินทุกวันแล้วอีกอย่างเราอายุ24แล้วอะเราผิดมากเลยหรอคะ) แถมยังเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนตัวเองฟัง เอาไปเล่าให้คนอื่นฟังอีก คือต้องการจะให้คนอื่นมองลูกตัวเองเป็นคนยังไงกันหรอคะ ทำไมต้องประจาน? มันผิดขนาดนั้นเลยหรอ มันน่าเล่ามากขนาดนั้นเลยหรอคะ ทำไมไม่ให้เกียรติ์ ทีแม่มีเรื่องที่ทำผิดกว่าเราอีกเรายังเก็บไว้คนเดียวไม่บอกใครเลย มันเป็นเรื่องที่คนในครอบครัวไม่รู้ด้วย 

2.เรื่องที่สอง เราเป็นคนไม่ค่อยได้ออกไปข้างนอกค่ะ ช่วงที่เพื่อนเรายังไม่ย้ายงานมาแถวบ้าน เรียกได้ว่าเราไม่เคยได้ออกไปข้างนอกเลยค่ะ นอกจากไปทำงาน กับไปซื้อของกินของใช้  แต่เดี๋ยวนี้เพื่อนเราย้ายมาทำงานแถวบ้านค่ะ วันหยุดเสาร์อาทิตย์ส่วนมากจะเป็นวันอาทิตย์ค่ะ เพื่อนเรามารับออกไปข้างนอก ก็ออกไปกินบุฟเฟ่ต์ หมูทะ ไปคาเฟ่ ไปสวนสาธารณะ ไปห้างบ้างอะไรแบบนี้อะค่ะแค่นี้ ส่วนมากนัดกันไปช่วงบ่ายโมง บ่ายสองโมง กลับก็สี่โมงเย็น หกโมงเย็นประมาณนี้ แล้วแม่เราว่าเรากลับดึกค่ะ พูดเหมือนว่าเพื่อนพาไปที่ๆไม่ดี ไปทำอะไรกันอะไรแบบนี้อะค่ะ คือหกโมงเย็นมันดึกมากเลยหรอคะ นิคิดว่าคนที่อายุน้อยกว่าเรากลับดึกกว่านี้ก็มีนะคะ เราโตแล้วนะ... อีกอย่างถ้าดุที่กลับค่ำเพราะเรื่องกินข้าว ไม่ค่ะ ครอบครัวเรากินข้าวพร้อมหน้ากันทุ่มนึงขึ้นไป เรากลับหกโมงก็ไม่ใช่หกโมงห้าสิบเก้านะ เรากลับประมาณห้าโมงห้าสิบประมาณนี้ค่ะไม่ก็หกโมงสิบสิบห้างี้ กลับค่ำ? 

3.บ่นเรื่องการแต่งตัว ต้องบอกไว้ก่อนว่าเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับไม่กล้าแต่งตัวสักช่วงที่เราอายุ 21-22ประมาณนี้ เพราะเราไม่มั่นใจค่ะ เราไม่สวยไม่เหมาะกับเสื้อผ้าสวยๆคิดแบบนี้มาตลอด จนมีหลายๆเม้นต์เข้ามาให้กำลังใจเรา บอกว่าเป็นวัยที่สนุกกับการแต่งตัว (ขอบคุณมากๆนะคะ) เราเพิ่งกล้ามาแต่งตัวจริงๆตอน23ค่ะ ด้วยความที่คิดว่าเอาวะ สักตั้งตอนนั้นอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วย ชีวิตมันสั้น อยากใส่เสื้อผ้าดีๆก็ลองดู ด้วยความที่สมัยก่อนใส่เสื้อเก่าๆเชยๆเสื้อแถมน่ะค่ะ แล้วน้องข้างบ้านแม่บอกว่าเขาไม่ค่อยมีเท่าเรา แต่เราเห็นเขาใส่แต่เสื้อใหม่ๆสวยๆค่ะ เราเลยเปลี่ยนความคิดบ้าง แม่ไม่ดคยซื้อเสื้อให้เราใส่เลยตั้งแต่เรายังหาเงินเองไม่ได้ แล้วก็ชอบดูถูกว่าเราใส่แต่เสื้อเชยๆเสื้อแถมค่ะ แต่เขาไม่เคยซื้อให้เราใส่เลย เราเห็นน้องข้างบ้านได้ใส่เสื้อผ้าใหม่ๆบ้าง เราเลยในเมื่อแม่ไม่ซื้อให้ เราซื้อเองเลย แล้วแม่ก็มาว่าเราค่ะ ว่าเราแต่งตัว คือลุคที่แต่งไม่โป๊ด้วยค่ะ เสื้อยืดเสื้อครอป แค่มันไม่ใช่เสื้อแถมเหมือนสมัยก่อนแล้ว แพงสุดก็เสื้อกชแจ็คเก็ตยีนส์ค่ะ แพงสุดที่เราซื้อ200กว่าบาท แม่ว่าเราดูแต่งตัวเกินไปค่ะ แล้วเราไม่ค่อยใส่กางเกงขาสั้นด้วยค่ะ จะใส่ก็แค่ตอนอยู่ที่บ้านแต่ไม่ค่อยมั่นใจในผิวขาตัวเองเท่าไหร่ด้วย สองอาทิตย์เลยใส่ครั้งนึงค่ะโดยประมาณอะนะ 

4.ชอบหาว่าเราเถียงค่ะ ตัวเองถูกเสมอ เวลาที่พูดมาแล้วอันไหนที่ไม่ใช่ความจริงเราจะสวนออกมา พูดเรื่องจริงให้มันถูกต้อง แต่การกระทำแบบนี้ทำไม่ได้ค่ะ เราแค่อธิบายแต่เขาหาว่าเราเถียง ซึ่งเราแยกแยะได้อันไหนเถียงอันไหนอธิบายถ้าเรื่องที่แม่พูดเป็นความจริงเราจะไม่สวนค่ะ บางเรื่องแม่ไม่ได้รู้จริงๆแต่เชื่อจากเซ้นส์ตัวเองแล้วเราพูดขึ้นบ้างเพราะเราเรียนมาอะไรงี้ แม่ก็จะบอกว่าไม่ใช่ๆมันไม่ใช่แบบนั้น ฉันเกิดมาก่อนแก ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อน มันเป็นแบบที่ฉันพูดนิแหละ จะชอบพูดแบบนี้ค่ะเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง แล้วเวลาที่เราพูดอะไรแกเถียง นิเลยบอกแม่ว่าแบบนี้แหละเรียกว่าเถียง แล้วแกก็จะดันค่ะ เถียงแต่สิ่งที่พูดก็ความจริงมั้ย แล้วสิ่งที่เราเคยสวนไปตอนนั้นมันไม่ใช่ความจริงตรงไหน คือเขาต้องชนะอะค่ะ 

5.ชอบเอาความผิดเราไปปประจานให้คนอื่นฟังซ้ำๆบางทีก็ใส่ความให้ดูแย่มากขึ้น แล้วก็ใส่ประโยคทำเป็นเหมือนสอนเราให้เพื่อนให้คนอื่นฟัง ทั้งที่เหตุการณ์จริงตอนนั้นตัวเองไม่ได้เป็นคนพูดคนสอนเราเลย แถมตอนเล่าให้เพื่อนฟังยังเปลี่ยนน้ำเสียงให้เราดูเป็นคนที่ใช้น้ำเสียงกระแทก-ดันในการพูดแล้วตัวเองใช้ถ้อยคำนุ่มๆสอนเรา เหอะ ก่อนอื่นนะ เรื่องลูกตัวเองมันน่าเอาไปเล่ามากหรอ คนอื่นจำเป็นต้องรู้ด้วยมั้ย 

6.เวลาเราทำอะไรไม่ได้ดั่งใจแก  แกจะชอบด่าเราว่าไม่มีสมองค่ะ บางเรื่องเรายอมรับว่าเราไม่มีไหวพริบจริงๆในการแก้ไขปัญหาเราไม่เถียงค่ะ แต่บางเรื่องเช่นเรื่องเราพูดสวนที่แม่หาว่าเราเถียงน่ะค่ะ จนเราต้องยอมอ่อนลงทุกครั้ง พอแม่รู้สึกเหมือนตัวเองชนะ เพราะคิดว่าที่เรายอม เราผิดจริงๆแม่น่ะถูก แม่ก็จะชอบพูดว่า เอ้ออออ น้ำเสียงเย้ยๆ แล้วลงท้ายด้วยคำว่า ไม่มีสมอง 

อยากถามทุกคนจังค่ะ แม่ใครเป็นแบบนี้รึป่าวคะ คือเวลาเล่าให้พ่อฟัง พ่อเข้าใจค่ะ แต่พ่อทำอะไรไม่ได้ พ่อใจเย็นมากๆ แต่เราอึดอัดค่ะ เรารู้สึกว่าจริงๆครอบครัวเหมือนจะอบอุ่นนะ แต่บ้านไม่ใช่เซฟโซนเลย แม่ไม่ใช่เซฟโซน เรื่องเล็กๆน้อยๆทำไมต้องชอบพูดชอบทำให้เราเสียใจคิดมากด้วย เรารู้สึกประสาทเสียสุขภาพจิตเสียมากที่ทำไมเขาต้องเป็นแบบนี้ หรือทั้งหมดเราผิดเองจริงๆคะ? แต่แม่ก็ไม่ได้ถูกเสมอไปสักหน่อย ถ้าบอกเป็นห่วงแต่การกระทำคือแบบนี้... แม่ใครเป็นแบบนี้บ้างหรือแม่เราเกินไปคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่