JJNY : นักสิทธิฯ อัดรบ.ไทย ห่วงแต่หน้าตา│เพื่อไทย แนะภท.│กองเชียร์‘ตู่’เถียงสู้ไม่ไหว ยกพวกรุมแทง│ตลาดอสังหาฯฟุบทั่วโลก

นักสิทธิฯ อัดรบ.ไทย ห่วงแต่หน้าตา จัดเอเปค อ้างความไม่สงบ ไล่จับนักกิจกรรมม.ราม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3678599
 
 
นักสิทธิฯ อัดรบ.ไทย ห่วงแต่หน้าตา จัดเอเปค อ้างความไม่สงบ ไล่จับนักกิจกรรมม.ราม
 
จากกรณีที่ สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย (MUSTFETH) เปิดเผยว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก เข้าควบคุมตัว 3 นักศึกษา ม.รามคำแหง ที่ห้องพัก เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยอ้างว่าจะก่อความไม่สงบในระหว่างการประชุมเอเปคนั้น

ล่าสุด ( 17 พ.ย.) นายกัณวีร์ สืบแสง นักสิทธิมนุษยชน ประธานมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ ประธานยุทธศาสตร์ และรองหัวหน้าพรรคเป็นธรรม ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า 
 
“รัฐไทยให้ความสำคัญเรื่องหน้าตายิ่งกว่าสิทธิเสรีภาพของประชาชน จึงระดมจับกุมเพื่อปิดปากนักกิจกรรม

ทำไมกลุ่มนักกิจกรรมและนักศึกษา โดยเฉพาะจากจังหวัดชายแดนใต้จึงเป็นเป้าหมายในการถูกควบคุมตัว โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญของประเทศที่เป็นเจ้าภาพเอเปค

เป็นการตัดไม้ข่มนาม โดยเลือกกลุ่มเปราะบางที่แสดงตัวชัดเจนว่าเป็นนักกิจกรรมที่ดำเนินการเปิดตัวต่อสาธารณะ เพราะไม่อยากให้ใครทำกิจกรรมที่ทำให้ไทยเสียหน้าช่วงเวลาสำคัญนี้เหรอ หรือเพียงแค่จะโชว์ว่า “Thailand is peaceful?”
หากผู้มีอำนาจอยากเพียงแค่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยไม่มีปัญหาใดๆ ในประเทศ โดยการปิดปากนักกิจกรรมให้ถูกจองจำเพียงเพื่อผ่านช่วงเวลาเอเปคนี้ ยิ่งทำให้ประเทศไทยถูกมองว่าเป็นประเทศที่ล้าหลังในสายตาชาวโลก
ในความเป็นจริงแล้ว การปล่อยให้ประชาชนแสดงออกความคิดต่าง ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ควรเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุนอย่างยิ่งจากรัฐบาล การรับฟังความคิดต่างและหาแนวทางการแก้ไขปัญหา จากการรับฟัง หารือ และพูดคุยถึงจุดสมดุลต่างหากเป็นเรื่องที่น่าทำ และจะได้รับการสรรเสริญจากประชาชนของตนเอง และนานาชาติ
 
ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับมันสมอง ศักยภาพ และความตั้งใจจริงของผู้นำในการสร้างความเป็นธรรมและชอบธรรมให้เกิดขึ่นในสังคม
ผมขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรม นายรัมลี กูโน อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงและนักกิจกรรมกลุ่มนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ P.N.Y.S ที่ถูกควบคุมตัวไปเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน และ กลุ่มชมรมมุสลิมรามคำแหง 3 คนที่ถูกควบคุมตัวเมื่อเช้าวันนี้ที่ 16 พฤศจิกายน คือ นายอับดุลเลาะ กะลาแต (ประธานชมรมมุสลิมรามคำแหง) นานศักดา เมาะอะ และนายฟิตรี อารง โดยเร็ว”
 
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นักศึกษาทั้ง 3 คน ได้รับการปล่อยตัวจาก สน.หัวหมากแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าเป็นการเชิญตัวมาทำประวัติเท่านั้น และไม่มีการตรวจพบสารอันตรายแต่อย่างใด”
 

 
เพื่อไทย แนะภท. ก่อนโทษฝ่ายค้าน เรื่องกัญชา ให้ไปดูความเห็น พรรคร่วมรบ.ก่อน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3678658
 
“อนุสรณ์” ชี้ นโยบายพรรคการเมือง แค่พูดแล้วทำไม่พอ ต้องทำอย่างถูกต้อง เหน็บ โค้งสุดท้ายพรรคร่วม รบ.จะถล่มกันเอง แม้แต่ “บิ๊กตู่” ยังขนลูกพรรคก๊วนตัวเองโบกมือลา พปชร.
 
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. … ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ช่วงหลังการประชุมเอเปค ว่า ก่อนที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะมาโทษฝ่ายค้าน ควรหันกลับไปดูการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลก่อน จนถึงขณะนี้ยังมีความเห็นต่างกันอย่างมากในหลายประเด็น และไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้เชื่อว่ายิ่งใกล้วันยุบสภาจะยิ่งเกิดความขัดแย้งรุนแรงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กับพรรค ภท. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งกำลังประสบกับปัญหาเผชิญกับสภาวะวิกฤตศรัทธาจากประชาชน หลายนโยบายที่หาเสียงไว้แล้ว ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ คาดว่าในช่วงโค้งสุดท้าย จะหันกลับมาร่วมวงไพบูลย์ถล่มพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง เพราะอาจจะเหลือแนวทางที่เป็นทางเลือกและทางรอดสุดท้ายที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
  
แท้กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค พปชร. ยังมีแนวโน้มจะโบกมือลา ขนลูกพรรคในกลุ่มก๊วนของตัวเองไปอยู่พรรคการเมืองใหม่ แสดงว่าชื่อของพรรค พปชร.และพรรคร่วมรัฐบาลขายไม่ได้ และไปต่อลำบาก ซึ่งจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกพรรคการเมืองที่จะนำเสนอนโยบายต่อพี่น้องประชาชน ไม่ใช่แค่พูดแล้วทำ แต่ต้องทำอย่างถูกต้องไม่ใช่ทำผิดทิศผิดทาง และไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชน 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ การปฏิรูปการเมืองไม่มีอยู่จริง วิกฤตศรัทธาประชาชนที่พุ่งเข้าใส่พรรคร่วมรัฐบาล นำมาซึ่งความขัดแย้งรุนแรงในพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ประชาชนอยู่อย่างสิ้นหวัง” นายอนุสรณ์ กล่าว
   

 
คุยโม้เรื่องการเมืองในวงเหล้า! กองเชียร์ ‘บิ๊กตู่’ เถียงสู้ไม่ไหว ยกพวกรุมแทงฝั่งตรงข้ามสาหัส
https://www.dailynews.co.th/news/1690728/

เพื่อนร่วมงานใน จ.ระยอง เลิกงานชวนกันมาตั้งวงเหล้า ก่อนเมาได้ที่ คุยโม้เรื่องการเมือง ฝ่ายกองเชียร์ "บิ๊กตู่" เถียงสู้ไม่ไหว ยกพวกรุมแทงฝั่งตรงข้ามแบบไม่ยั้ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนหลบหนีลอยนวล
 
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ร.ต.อ.นิธินันท์ ศรีรุต ร้อยเวร สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณห้องเช่าแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ระยอง จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.เฉลิมพระเกียรติฯ มาบตาพุด และหน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล

ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นห้องแถวชั้นเดียว พบมีชาวบ้านมายืนมุงกันอยู่ตรงหน้าห้องที่ 9 จึงเข้าไปตรวจสอบ พบกับ นายกฤษฎา มโนวงศ์  อายุ 52 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ นั่งอยู่ตรงหน้าบ้าน สภาพโชกเลือดไปทั้งตัว เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าไปปฐมพยาบาลเบื้องต้น พบบาดแผลทั้งหมด 8 แผล ที่แขนมีรอยถูกฟัน 2 แผล ที่ศีรษะ 1 แผล และถูกแทงที่ลำตัวอีกประมาณ 5 แผล แต่โชคดีไม่เข้าจุดสำคัญ แต่เสียเลือดมาก จึงรีบนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาล
 
จากการสอบสวนนายต๋อย อายุ 72 ปี เพื่อนบ้านได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ทั้งคู่ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน โดยคนบาดเจ็บเป็นลูกน้อง ได้มานั่งดื่มสุรากัน เพื่อจะคุยกันเรื่องฝากคนเข้าทำงาน แต่ปรากฏว่า พอเหล้าเข้าปาก จู่ๆ ก็หันมาคุยเรื่องการเมือง โดยฝ่ายคนทำร้ายได้เปิดประเด็นเรื่องการเมือง โดยพูดเข้าข้าง “นายกฯ ประยุทธ์” อีกฝ่ายจึงมีการตอบโต้กันไปมา จนเหตุการณ์เริ่มบานปลาย ฝ่ายผู้ได้รับบาดเจ็บได้ไล่ให้หัวหน้างานกลับบ้าน จึงทำให้อีกฝ่ายเกิดความไม่พอใจ จนเกิดการชกต่อยกันขึ้น ฝ่ายหัวหน้างานสู้ไม่ได้เพราะตัวเล็กกว่า จึงขี่ จยย. กลับออกไป

ผ่านไปประมาณ 15 นาที ฝ่ายหัวหน้างานได้ขี่ จยย. เข้ามา พร้อมเพื่อนรวม 4 คน มาจอดที่หน้าห้องผู้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนมายืนเรียกให้ออกมาจากห้อง เป็นจังหวะที่ทั้ง 4 คน ถือมีดยืนรออยู่ จึงพุ่งเข้ารุมฟันและแทงไม่ยั้ง หลังจากที่คนเจ็บล้มฟุบลงไปจมกองเลือด ทั้ง 4 คน ก็รีบขี่ จยย. หนีไป” เพื่อนบ้าน กล่าว.

ด้าน น.ส.จิตรี ปานทับ อายุ 42 ปี เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ได้เปิดเผยว่า เป็นการกระทำที่รุนแรงมาก ที่กะจะเอากันถึงตาย เพราะทั้ง 4 คน ถือมีดกันมาคนละเล่ม มีทั้งมีดสปาต้า มีดพกปลายแหลม รุมเข้าฟันไม่ยั้ง โดยที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม ส่วนสาเหตุ ก็ได้ยินว่าทะเลาะกันเรื่องนายกฯ ประยุทธ์ ก่อนจะมีการชกต่อยกัน ส่วนคนก่อเหตุไม่ทราบชื่อ แต่งกายใส่เสื้อคลุมลายทหาร แต่เป็นหัวหน้าของผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ทำงานก่อสร้างอยู่ในพื้นที่ ต.มาบตาพุด จ.ระยอง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหาตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คนแล้ว และเตรียมสอบสวนผู้ได้รับบาดเจ็บหลังอาการพ้นขีดอันตราย ซึ่งขณะนี้อาการยังสาหัส เพราะเสียเลือดมาก.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่