เราควรทำยังงัยดี ไปต่อไม่ถูกแล้วค่ะ
เรากับแฟนคบกันประมาณ 8 ปี ค่ะ ตอนนี้อายุ 30+กันทั้งคู่ เราทำงานรับราชการ ส่วนแฟนเราเป็นพนักงานบริษัททั่วไปค่ะ ตั้งแต่คบกันมา แฟนเปลี่ยนที่ทำงานประมาณ 4 ครั้ง งานที่แฟนเราทำตรงกับที่เรียนมานะคะ แต่เค้าบอกว่าเค้าทำไปงั้นแหละ ไม่ได้ชอบ ไม่ได้อยากทำ พอดีที่บ้านแฟนมีธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ อยู่ประมาณ 3-4 อย่าง ประเภทบ้านเช่า อาคารพานิชให้เช่า เช่ารถมอไซค์ งานเกษตรเล็กๆ น้อย ไม่มีหนี้สินอะไร รายได้ก็คือมีเหลือเก็บ เวลาจะซื้อจะใช้จ่ายอะไรก็ไม่ได้ขัดสน มีภาระแค่ผ่อนรถคันเดียว เค้าเคยบอกว่าสุดท้ายแล้วก็ต้องมาทำงานของที่บ้าน เลยไม่ได้มีpassion กับงานที่บริษัทเท่าไหร่ และที่ทำงานเพราะเราอยากให้ทำ ถ้าแต่งงานกันไปแล้วก็จะลาออกมาทำงานที่บ้าน
จริงๆ ตอนแรกที่คบกัน แฟนเราจะช่วยงานที่บ้านอยู่ ซึ่งเรามีความรู้สึกว่า รายได้ไม่แน่นอน และแฟนใช้เงินกระเป๋าเดียวกันกับที่บ้าน เราอยากให้แฟนมีเงินเก็บ และมีเงินใช้เป็นของตัวเองมากกว่า เวลาจะใช้อะไรจะได้ไม่ต้องไปขอแม่และมีเงินเก็บเพื่อไว้ใช้ในอนาคตเป็นของตัวเอง เราเลยเสนอว่า ลองไปสมัครงานดูมั้ย จะได้มีรายได้เป็นของตัวเองบวกกับที่บ้านเรา พ่อเรามองว่าแฟนเราไม่มีงานทำที่มั่นคง เลยไม่ค่อยเห็นด้วยกับการคบกันของเราเท่าไหร่ กลัวเราแต่งงานไปแล้วจะลำบาก เราเลยอยากให้แฟนทำงาน พ่อเราจะได้เห็นว่าแฟนเราก็ทำงานเหมือนกันนะ แฟนเราเลยไปสมัครทำงานที่แรก แล้วก็เปลี่ยนที่ทำงานไปเรื่อยๆ ด้วยเหตุผลเรื่องเวลาทำงาน ลักษณะงาน ภาระงาน เพราะต้องแบ่งเวลามาช่วยงานที่บ้านด้วย ตอนแรกแฟนยังไม่ซื้อรถ ที่บ้านมีภาระต้องผ่อนบ้าน แฟนใช้เวลาทำงานประมาณ 2-3 ปีก็ผ่อนบ้านจนหมด คือใช้เงินเดือนเกือบทุกบาทมาผ่อนบ้าน ส่วนเงินใช้จ่ายแต่ละวันคือขอเงินแม่ใช้บ้าง หรือแบ่งเงินเดือนไว้แค่ 1-2 พันบาท ไว้ใช้จ่าย เพราะแฟนเราไม่ค่อยใช้อะไรเลย กินก็กินข้าวที่บ้าน เลยใช้เวลาแค่ 2-3 ปี ก็ผ่อนบ้านหมด หลังจากนั้นจึงค่อยซื้อรถ และมีภาระแค่ผ่อนรถมาจนถึงทุกวันนี้ และก็ยังคงใช้จ่ายกระเป๋าเดียวกับแม่เค้าแล้วก็ยังคงไม่มีเงินเก็บเป็นของตัวเอง
เราคบกับแฟนตอนแรก ที่บ้านแฟนรับรู้ตลอด เราไปบ้านแฟนเราหลายครั้งมาก ส่วนที่บ้านรู้แค่ว่าเรามีแฟน แต่เรายังไม่พาเข้าบ้าน เราพาแฟนไปแนะนำให้ที่บ้านรู้จักหลังจากที่เราคบกับแฟนได้สัก 5 ปีน่าจะได้ และแฟนเราก็ไม่ค่อยได้ไปเจอพ่อกับแม่เราเท่าไหร่ เพราะบ้านเรามันอยู่คนละฝั่งกะบ้านแฟน ใช้เวลาเดินทาง ประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงได้ และแฟนเราก็เป็นคนที่พูดน้อย พูดกับผู้ใหญ่ไม่เก่ง เข้าหาผู้ใหญ่ไม่เป็น แต่ทุกครั้งที่แฟนเราไปที่บ้าน พ่อกับแม่ก็จะคุยกับแฟนดี ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรว่าไม่ชอบ ส่วนเรากับแฟนเจอกับเกือบทุกอาทิตย์ เรามีบ้านพักข้าราชการ แฟนมาหาที่บ้านพักบ้าง เราไปหาแฟนที่บ้านบ้าง แต่ส่วนใหญ่แฟนเราจะมาหา เราจะกลับบ้านเฉพาะวันหยุดเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ที่เราคบกับแฟนทะเลาะกันน้อยมาก แทบจะนับครั้งได้ จนมาช่วง 2-3 ปีหลังนี้ แฟนเราอยากแต่งงาน เราเคยไปคุยกะที่บ้านเรา แต่เหมือนพ่อเรายังไม่โอเคกะแฟนเรา โดยให้เหตุผลว่าอยากรู้จักแฟนเราให้มากกว่านี้ พ่อกับแม่เราก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน วันหยุดเรากะแฟนก็ไม่ตรงกัน พ่อเราเลยเหมือนกับรู้สึกว่ายังไม่รู้จักแฟนของลูกตัวเองเท่าไหร่เลย แม่เราเคยบอกว่าจะคุยกะพ่อให้ แต่เหมือนคำตอบที่ได้จากพ่อคือ อย่าเพิ่งแต่งก่อน แล้วก็บอกปัดไปว่าให้พ้นช่วงโควิดไปก่อนค่อยว่ากันอีกทีเรื่องแต่งงาน เรารับฟัง แล้วหลังจากนั้นเราก็ไม่พูดถึงเรื่องแต่งงานกับที่บ้านอีกเลย แต่มันกลับเป็นประเด็นที่ทำให้เรากับแฟนมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันบ่อยขึ้น เพราะแฟนเรารู้สึกว่าอายุขนาดนี้ควรจะมีครอบครัวได้แล้ว และก็น้อยใจ พูดแบบประชดประชันไม่รู้เมื่อไหร่จะได้แต่งงานบ่อยขึ้น จนตอนนี้เรารู้สึกว่ามันก็ยังไม่มีวี่แววที่พ่อเราจะยอมให้เราแต่งงานเลย ที่พ่อบอกว่าอยากรู้จักแฟนเราให้มากกว่านี้ แฟนเราก็ยังหาเวลามาที่บ้านไม่ค่อยได้เลย เราเคยคุยกะแฟนแบบจริงจังว่าจะทำยังงัยต่อดี แฟนเราก็พูดประมาณว่าเหมือนเค้าพยายามทำอยู่ฝ่ายเดียว เราเคยขอให้แฟนเราทำงาน แฟนเราก็ทำให้แล้ว ส่วนเราไม่ช่วยพูดอะไรเค้าเลย เราฟังแล้วแบบรู้สึก fail มากอ่ะ เรารู้สึกว่าเราก็พยายามหาเรื่องชวนแฟนมาที่บ้านนะ แต่แฟนเราบอกว่าขี้เกียจขับรถคนเดียว ถ้าจะไปบ้านเราก็คือต้องมาพร้อมเราและกลับพร้อมเราเท่านั้น การที่จะเป็นแบบนั้นได้คือเรากะแฟนจะต้องหยุดงานพร้อมกัน แล้ววันหยุดแฟนมันไม่ใช่เสาร์อาทิตย์งัย ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นพ่อกับแม่เราก็จะทำงาน ไปที่บ้านก็ไม่ค่อยได้เจออยู่ดี มันก็เลยยังเป็บแบบเดิมคือพ่อกะแม่เราได้เจอแฟนเราน้อยมาก
เราควรทำยังงัยต่อไปดี เราก็มีมุมมองของเรา เราเข้าใจที่บ้านเรา ส่วนแฟนเราก็มีมุมมองของแฟน เราเองก็เข้าใจแฟนเรานะ แต่บางทีเราก็คิดว่า มันคงไปต่อไม่ได้แล้วรึเปล่า ทุกสิ่งทุกอย่างดูไม่เป็นใจ ดูเป็นอุปสรรค์ไปหมด ใครเคยมีประสบการณ์ หรือมีข้อแนะนำอะไรสำหรับคู่เราบ้างมั้ยคะ ตอนนี้เริ่มรู้สึกไม่ค่อยโอเค ไปต่อไม่ค่อยถูกแล้วค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของทุกคนล่วงหน้านะคะ เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
เราควรทำยังงัยต่อไปดีคะ
เรากับแฟนคบกันประมาณ 8 ปี ค่ะ ตอนนี้อายุ 30+กันทั้งคู่ เราทำงานรับราชการ ส่วนแฟนเราเป็นพนักงานบริษัททั่วไปค่ะ ตั้งแต่คบกันมา แฟนเปลี่ยนที่ทำงานประมาณ 4 ครั้ง งานที่แฟนเราทำตรงกับที่เรียนมานะคะ แต่เค้าบอกว่าเค้าทำไปงั้นแหละ ไม่ได้ชอบ ไม่ได้อยากทำ พอดีที่บ้านแฟนมีธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ อยู่ประมาณ 3-4 อย่าง ประเภทบ้านเช่า อาคารพานิชให้เช่า เช่ารถมอไซค์ งานเกษตรเล็กๆ น้อย ไม่มีหนี้สินอะไร รายได้ก็คือมีเหลือเก็บ เวลาจะซื้อจะใช้จ่ายอะไรก็ไม่ได้ขัดสน มีภาระแค่ผ่อนรถคันเดียว เค้าเคยบอกว่าสุดท้ายแล้วก็ต้องมาทำงานของที่บ้าน เลยไม่ได้มีpassion กับงานที่บริษัทเท่าไหร่ และที่ทำงานเพราะเราอยากให้ทำ ถ้าแต่งงานกันไปแล้วก็จะลาออกมาทำงานที่บ้าน
จริงๆ ตอนแรกที่คบกัน แฟนเราจะช่วยงานที่บ้านอยู่ ซึ่งเรามีความรู้สึกว่า รายได้ไม่แน่นอน และแฟนใช้เงินกระเป๋าเดียวกันกับที่บ้าน เราอยากให้แฟนมีเงินเก็บ และมีเงินใช้เป็นของตัวเองมากกว่า เวลาจะใช้อะไรจะได้ไม่ต้องไปขอแม่และมีเงินเก็บเพื่อไว้ใช้ในอนาคตเป็นของตัวเอง เราเลยเสนอว่า ลองไปสมัครงานดูมั้ย จะได้มีรายได้เป็นของตัวเองบวกกับที่บ้านเรา พ่อเรามองว่าแฟนเราไม่มีงานทำที่มั่นคง เลยไม่ค่อยเห็นด้วยกับการคบกันของเราเท่าไหร่ กลัวเราแต่งงานไปแล้วจะลำบาก เราเลยอยากให้แฟนทำงาน พ่อเราจะได้เห็นว่าแฟนเราก็ทำงานเหมือนกันนะ แฟนเราเลยไปสมัครทำงานที่แรก แล้วก็เปลี่ยนที่ทำงานไปเรื่อยๆ ด้วยเหตุผลเรื่องเวลาทำงาน ลักษณะงาน ภาระงาน เพราะต้องแบ่งเวลามาช่วยงานที่บ้านด้วย ตอนแรกแฟนยังไม่ซื้อรถ ที่บ้านมีภาระต้องผ่อนบ้าน แฟนใช้เวลาทำงานประมาณ 2-3 ปีก็ผ่อนบ้านจนหมด คือใช้เงินเดือนเกือบทุกบาทมาผ่อนบ้าน ส่วนเงินใช้จ่ายแต่ละวันคือขอเงินแม่ใช้บ้าง หรือแบ่งเงินเดือนไว้แค่ 1-2 พันบาท ไว้ใช้จ่าย เพราะแฟนเราไม่ค่อยใช้อะไรเลย กินก็กินข้าวที่บ้าน เลยใช้เวลาแค่ 2-3 ปี ก็ผ่อนบ้านหมด หลังจากนั้นจึงค่อยซื้อรถ และมีภาระแค่ผ่อนรถมาจนถึงทุกวันนี้ และก็ยังคงใช้จ่ายกระเป๋าเดียวกับแม่เค้าแล้วก็ยังคงไม่มีเงินเก็บเป็นของตัวเอง
เราคบกับแฟนตอนแรก ที่บ้านแฟนรับรู้ตลอด เราไปบ้านแฟนเราหลายครั้งมาก ส่วนที่บ้านรู้แค่ว่าเรามีแฟน แต่เรายังไม่พาเข้าบ้าน เราพาแฟนไปแนะนำให้ที่บ้านรู้จักหลังจากที่เราคบกับแฟนได้สัก 5 ปีน่าจะได้ และแฟนเราก็ไม่ค่อยได้ไปเจอพ่อกับแม่เราเท่าไหร่ เพราะบ้านเรามันอยู่คนละฝั่งกะบ้านแฟน ใช้เวลาเดินทาง ประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงได้ และแฟนเราก็เป็นคนที่พูดน้อย พูดกับผู้ใหญ่ไม่เก่ง เข้าหาผู้ใหญ่ไม่เป็น แต่ทุกครั้งที่แฟนเราไปที่บ้าน พ่อกับแม่ก็จะคุยกับแฟนดี ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรว่าไม่ชอบ ส่วนเรากับแฟนเจอกับเกือบทุกอาทิตย์ เรามีบ้านพักข้าราชการ แฟนมาหาที่บ้านพักบ้าง เราไปหาแฟนที่บ้านบ้าง แต่ส่วนใหญ่แฟนเราจะมาหา เราจะกลับบ้านเฉพาะวันหยุดเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ที่เราคบกับแฟนทะเลาะกันน้อยมาก แทบจะนับครั้งได้ จนมาช่วง 2-3 ปีหลังนี้ แฟนเราอยากแต่งงาน เราเคยไปคุยกะที่บ้านเรา แต่เหมือนพ่อเรายังไม่โอเคกะแฟนเรา โดยให้เหตุผลว่าอยากรู้จักแฟนเราให้มากกว่านี้ พ่อกับแม่เราก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน วันหยุดเรากะแฟนก็ไม่ตรงกัน พ่อเราเลยเหมือนกับรู้สึกว่ายังไม่รู้จักแฟนของลูกตัวเองเท่าไหร่เลย แม่เราเคยบอกว่าจะคุยกะพ่อให้ แต่เหมือนคำตอบที่ได้จากพ่อคือ อย่าเพิ่งแต่งก่อน แล้วก็บอกปัดไปว่าให้พ้นช่วงโควิดไปก่อนค่อยว่ากันอีกทีเรื่องแต่งงาน เรารับฟัง แล้วหลังจากนั้นเราก็ไม่พูดถึงเรื่องแต่งงานกับที่บ้านอีกเลย แต่มันกลับเป็นประเด็นที่ทำให้เรากับแฟนมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันบ่อยขึ้น เพราะแฟนเรารู้สึกว่าอายุขนาดนี้ควรจะมีครอบครัวได้แล้ว และก็น้อยใจ พูดแบบประชดประชันไม่รู้เมื่อไหร่จะได้แต่งงานบ่อยขึ้น จนตอนนี้เรารู้สึกว่ามันก็ยังไม่มีวี่แววที่พ่อเราจะยอมให้เราแต่งงานเลย ที่พ่อบอกว่าอยากรู้จักแฟนเราให้มากกว่านี้ แฟนเราก็ยังหาเวลามาที่บ้านไม่ค่อยได้เลย เราเคยคุยกะแฟนแบบจริงจังว่าจะทำยังงัยต่อดี แฟนเราก็พูดประมาณว่าเหมือนเค้าพยายามทำอยู่ฝ่ายเดียว เราเคยขอให้แฟนเราทำงาน แฟนเราก็ทำให้แล้ว ส่วนเราไม่ช่วยพูดอะไรเค้าเลย เราฟังแล้วแบบรู้สึก fail มากอ่ะ เรารู้สึกว่าเราก็พยายามหาเรื่องชวนแฟนมาที่บ้านนะ แต่แฟนเราบอกว่าขี้เกียจขับรถคนเดียว ถ้าจะไปบ้านเราก็คือต้องมาพร้อมเราและกลับพร้อมเราเท่านั้น การที่จะเป็นแบบนั้นได้คือเรากะแฟนจะต้องหยุดงานพร้อมกัน แล้ววันหยุดแฟนมันไม่ใช่เสาร์อาทิตย์งัย ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นพ่อกับแม่เราก็จะทำงาน ไปที่บ้านก็ไม่ค่อยได้เจออยู่ดี มันก็เลยยังเป็บแบบเดิมคือพ่อกะแม่เราได้เจอแฟนเราน้อยมาก
เราควรทำยังงัยต่อไปดี เราก็มีมุมมองของเรา เราเข้าใจที่บ้านเรา ส่วนแฟนเราก็มีมุมมองของแฟน เราเองก็เข้าใจแฟนเรานะ แต่บางทีเราก็คิดว่า มันคงไปต่อไม่ได้แล้วรึเปล่า ทุกสิ่งทุกอย่างดูไม่เป็นใจ ดูเป็นอุปสรรค์ไปหมด ใครเคยมีประสบการณ์ หรือมีข้อแนะนำอะไรสำหรับคู่เราบ้างมั้ยคะ ตอนนี้เริ่มรู้สึกไม่ค่อยโอเค ไปต่อไม่ค่อยถูกแล้วค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของทุกคนล่วงหน้านะคะ เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ