จับมือบึ้มอิสตันบูล รมต.มหาดไทยตุรกีซัด PKK อยู่เบื้องหลัง นานาชาติร่วมประณาม
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3672247
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนว่า นาย
สุเลมาน ซอยลู รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของตุรกี ให้รายละเอียดว่าขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งที่ก่อเหตุวางระเบิดที่ถนนอิสติกลาล บริเวณจตุรัสเบยอกลู แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังใจกลางนครอิสตันบูล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 81 ราย และอ้างว่า พรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (พีเคเค) เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ
นาย
ซอยลูแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ของตุรกีว่า ผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุวางระเบิดถูกจับกุมแล้ว และตามรายงานข้อมูลที่มีอยู่ พบว่ากลุ่มก่อการร้ายพีเคเค เป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้
กลุ่มพีเคเค ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีและต่อสู้เพื่อต้องการจะก่อตั้งรัฐเป็นของตัวเอง ซึ่งถูกรัฐบาลตุรกีและพันธมิตรชาติตะวันตกของตุรกีจัดเป็นกลุ่มก่อการร้าย ได้ก่อเหตุความไม่สงบในตุรกีมาตลอดหลายสิบปี
ก่อนหน้านี้ ทั้งประธานาธิบดี
เรเจพ เทยิพ แอร์โดอาน ตลอดจนรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรียุติธรรมระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นการก่อการร้าย ที่มีผู้ก่อเหตุเป็นหญิงรายหนึ่ง แต่แถลงการณ์ของนาย
ซอยลูไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมถึงผู้ต้องสงสัยที่เป็นหญิงคนดังกล่าว
ด้านนานาชาติได้ออกมาประณามการก่อเหตุดังกล่าวแล้ว
คารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า
“เรายืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับตุรกี เพื่อนสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติเหนือ (นาโต) ในการต่อต้านการก่อการร้าย”
นาย
เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวไปถึงชาวตุรกีว่า
“เราร่วมแบ่งความเจ็บปวดที่ชาวตุรกีต้องเผชิญ เราจะยืนอยู่เคียงข้างคุณในการต่อสู้กับการก่อการร้าย”
ส่วนนาย
โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์เป็นภาษาตุรกีว่า
“ความเจ็บปวดของชาวตุรกีผู้เป็นมิตรคือความเจ็บปวดของเรา”
และนายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป โพสต์ในทวิตเตอร์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่า
“ขอแสดงความระลึกถึงไปแก่ผู้เสียชีวิต และครอบครัวของพวกเขา”
‘ชัชชาติ’ ย้ำ ใครอยากแสดงออกก็มา แต่ขออยู่ในพื้นที่ ‘อย่าออกมาด้านนอก’ อย่าให้รุนแรง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3672305
‘ชัชชาติ’ ย้ำ ใครอยากแสดงออกก็มา ‘ลานคนเมือง’ ขอแค่อยู่ในพื้นที่ ยันม็อบได้ แต่อย่าออกมาด้านนอก อย่ารุนแรง
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน เวลาราว 4.56 น. นาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ถ่ายทอดสดผ่านเพจเฟซบุ๊ก ขณะวิ่งออกกำลังกายที่สวนลุมพินี และวิ่งซิตี้รันบริเวณรอบเมือง อีกทั้งได้เดินทางไปเยี่ยมศูนย์พักพิงเหตุเพลิงไหม้ที่ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 6 เขตสาทร
โดยในขณะที่วิ่งบริเวณใกล้เคียง ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สถานที่จัดการประชุมเอเปค 2022 นาย
ชัชชาติกล่าวว่า ต้องมีตำรวจเยอะ จึงนำตำรวจมาจากหลากหลายจังหวัด เมื่อวานนี้ไปศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ก็เจอตำรวจที่มาจาก จ.ยโสธร ขอบคุณตำรวจทุกคนที่ต้องจากบ้าน จากครอบครัว มาช่วยดูแลความเรียบร้อยให้คนกรุงเทพฯ ต้องช่วยร่วมมือกัน
“
มีคนคล้ายๆ กับต่อว่าเรา ว่า กทม.ไม่เปิดพื้นที่ให้กลุ่มชุมนุม ต้องเรียนว่า เรามีการหารือกับฝ่ายความมั่นคงตลอด พื้นที่ลานคนเมืองเป็นพื้นที่ที่เราให้แสดงออกอยู่แล้ว ความจริงแล้วเป็นเรื่องปกติ เราจัดพื้นที่เป็นที่เป็นทางดีกว่า แทนที่จะให้… สมมติถ้าเกิดไม่มีพื้นที่เลย สุดท้ายต้องมาอยู่บนถนน ยิ่งเกะกะ และภาพลักษณ์ก็ไม่ได้ดี ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดา ก็รับฟังความเห็น แต่อย่างที่เราเรียนว่าเราไม่ได้คิดเอง เรามีการหารือร่วมกันพิจารณาถึงทางออกที่ดีที่สุด คือเปิดพื้นที่
ใครอยากแสดงออกก็มาแสดง ขอให้อยู่ในพื้นที่ อย่าออกมาด้านนอก ก็เป็นเหตุผล และอย่างที่บอกว่าได้หารือกับตำรวจมาตลอด ก็ช่วยกันดูแล ไม่เป็นไร คนเห็นต่างได้แต่อย่าให้รุนแรง” นาย
ชัชชาติกล่าว
ศรีสุวรรณ นำชาวบ้านฉาง ยื่นฟ้องทัพเรือ ระงับก่อสร้างรันเวย์ที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7363590
ศรีสุวรรณ นำชาวบ้านฉาง ยื่นศาลปกครองกลาง ฟ้องกองทัพเรือ ขอให้ระงับโครงการรันเวย์ที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา หลังพบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมผิดปกติ
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2565 ที่ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ นา
ยศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมแกนนำชาว ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงและมลพิษทางอากาศ จากการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาในโครงการก่อสร้างรันเวย์ที่ 2
เข้ายื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง โดยฟ้องกองทัพเรือ (ทร.) คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) สำนักการบินพลเรือน และคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) ฐานใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ และละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ
นาย
ศรีสุวรรณ กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลได้ผลักดันโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภารตะวันออก (EEC) เพื่อรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 โดยมอบหมายให้กองทัพเรือเป็นผู้ดำเนินการว่าจ้างให้เอกชน จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรายงาน EHIA ดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติไปแล้วเมื่อวันที่ 17 ก.พ. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 1 พ.ย.
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า แต่เนื่องจากชาว ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง ได้คัดค้านมาตลอดว่า การจัดทำรายงาน EHIA มีความผิดปกติหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำแผนที่เส้นเสียงสูงสุด (NEF มากกว่า 40) ครั้งล่าสุด ที่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นเสียงใหม่
ทำให้เหลือบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบที่อยู่ในเส้นเสียง NEF-40 ลดลงจากครั้งก่อน 480 ครัวเรือน เหลือ 80 ครัวเรือน และมาเพิ่มขึ้นเป็น 93 ครัวเรือน ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถยอมรับได้กับการทำแผนที่เส้นเสียงในครั้งนี้ จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนการคิดคำนวนใหม่ โดยให้สถาบันวิชาการที่เป็นกลาง อาทิ NIDA มาดำเนินการศึกษา เพื่อให้เป็นที่ยอมรับตามหลักวิชาการ
นาย
ศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นชาว ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง พยายามเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องสั่งการให้มีการทบทวนเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยื่นต่อคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นสนามบินอู่ตะเภาของสำนักงานการบินพลเรือนฯ ด้วย แต่ก็ไม่เป็นผลแต่อย่างใด ในที่สุดจำต้องมาขอให้สมาคมเราช่วยเป็นภาระในการฟ้องร้องทางศาล เพื่อเพิกถอนกระบวนการจัดทำ EHIA และระงับการก่อสร้างรันเวย์ที่ 2 ของสนามบินอู่ตะเภาด้วย
“
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงไม่จบลงง่าย ๆ เพราะเมื่อสืบข้อมูลเชิงลึกแล้ว โครงการนี้มีกลิ่นไม่ค่อยดีหลายโครงการ จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลต่อไป เพราะมีผลประโยชน์นับหมื่นล้านบาท แต่ภาครัฐกลับมองไม่เห็นความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน คิดแต่เพียงจะลดค่าใช้จ่ายที่จะต้องซื้อคืนที่ดินจากชาวบ้านให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ อันเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างชัดเจน” นาย
ศรีสุวรรณ กล่าว
JJNY : จับมือบึ้มอิสตันบูล| ‘ชัชชาติ’ย้ำขออยู่ในพื้นที่| ศรีสุวรรณนำชาวบ้านยื่นฟ้องทัพเรือ|กกพ.เปิดประชาพิจารณ์ 3 ช้อยส์
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3672247
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนว่า นายสุเลมาน ซอยลู รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของตุรกี ให้รายละเอียดว่าขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งที่ก่อเหตุวางระเบิดที่ถนนอิสติกลาล บริเวณจตุรัสเบยอกลู แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังใจกลางนครอิสตันบูล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 81 ราย และอ้างว่า พรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (พีเคเค) เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ
นายซอยลูแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ของตุรกีว่า ผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุวางระเบิดถูกจับกุมแล้ว และตามรายงานข้อมูลที่มีอยู่ พบว่ากลุ่มก่อการร้ายพีเคเค เป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้
กลุ่มพีเคเค ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีและต่อสู้เพื่อต้องการจะก่อตั้งรัฐเป็นของตัวเอง ซึ่งถูกรัฐบาลตุรกีและพันธมิตรชาติตะวันตกของตุรกีจัดเป็นกลุ่มก่อการร้าย ได้ก่อเหตุความไม่สงบในตุรกีมาตลอดหลายสิบปี
ก่อนหน้านี้ ทั้งประธานาธิบดีเรเจพ เทยิพ แอร์โดอาน ตลอดจนรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรียุติธรรมระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นการก่อการร้าย ที่มีผู้ก่อเหตุเป็นหญิงรายหนึ่ง แต่แถลงการณ์ของนายซอยลูไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมถึงผู้ต้องสงสัยที่เป็นหญิงคนดังกล่าว
ด้านนานาชาติได้ออกมาประณามการก่อเหตุดังกล่าวแล้ว
คารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “เรายืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับตุรกี เพื่อนสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติเหนือ (นาโต) ในการต่อต้านการก่อการร้าย”
นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวไปถึงชาวตุรกีว่า “เราร่วมแบ่งความเจ็บปวดที่ชาวตุรกีต้องเผชิญ เราจะยืนอยู่เคียงข้างคุณในการต่อสู้กับการก่อการร้าย”
ส่วนนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์เป็นภาษาตุรกีว่า “ความเจ็บปวดของชาวตุรกีผู้เป็นมิตรคือความเจ็บปวดของเรา”
และนายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป โพสต์ในทวิตเตอร์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ขอแสดงความระลึกถึงไปแก่ผู้เสียชีวิต และครอบครัวของพวกเขา”
‘ชัชชาติ’ ย้ำ ใครอยากแสดงออกก็มา แต่ขออยู่ในพื้นที่ ‘อย่าออกมาด้านนอก’ อย่าให้รุนแรง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3672305
‘ชัชชาติ’ ย้ำ ใครอยากแสดงออกก็มา ‘ลานคนเมือง’ ขอแค่อยู่ในพื้นที่ ยันม็อบได้ แต่อย่าออกมาด้านนอก อย่ารุนแรง
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน เวลาราว 4.56 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ถ่ายทอดสดผ่านเพจเฟซบุ๊ก ขณะวิ่งออกกำลังกายที่สวนลุมพินี และวิ่งซิตี้รันบริเวณรอบเมือง อีกทั้งได้เดินทางไปเยี่ยมศูนย์พักพิงเหตุเพลิงไหม้ที่ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 6 เขตสาทร
โดยในขณะที่วิ่งบริเวณใกล้เคียง ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สถานที่จัดการประชุมเอเปค 2022 นายชัชชาติกล่าวว่า ต้องมีตำรวจเยอะ จึงนำตำรวจมาจากหลากหลายจังหวัด เมื่อวานนี้ไปศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ก็เจอตำรวจที่มาจาก จ.ยโสธร ขอบคุณตำรวจทุกคนที่ต้องจากบ้าน จากครอบครัว มาช่วยดูแลความเรียบร้อยให้คนกรุงเทพฯ ต้องช่วยร่วมมือกัน
“มีคนคล้ายๆ กับต่อว่าเรา ว่า กทม.ไม่เปิดพื้นที่ให้กลุ่มชุมนุม ต้องเรียนว่า เรามีการหารือกับฝ่ายความมั่นคงตลอด พื้นที่ลานคนเมืองเป็นพื้นที่ที่เราให้แสดงออกอยู่แล้ว ความจริงแล้วเป็นเรื่องปกติ เราจัดพื้นที่เป็นที่เป็นทางดีกว่า แทนที่จะให้… สมมติถ้าเกิดไม่มีพื้นที่เลย สุดท้ายต้องมาอยู่บนถนน ยิ่งเกะกะ และภาพลักษณ์ก็ไม่ได้ดี ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดา ก็รับฟังความเห็น แต่อย่างที่เราเรียนว่าเราไม่ได้คิดเอง เรามีการหารือร่วมกันพิจารณาถึงทางออกที่ดีที่สุด คือเปิดพื้นที่
ใครอยากแสดงออกก็มาแสดง ขอให้อยู่ในพื้นที่ อย่าออกมาด้านนอก ก็เป็นเหตุผล และอย่างที่บอกว่าได้หารือกับตำรวจมาตลอด ก็ช่วยกันดูแล ไม่เป็นไร คนเห็นต่างได้แต่อย่าให้รุนแรง” นายชัชชาติกล่าว
ศรีสุวรรณ นำชาวบ้านฉาง ยื่นฟ้องทัพเรือ ระงับก่อสร้างรันเวย์ที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7363590
ศรีสุวรรณ นำชาวบ้านฉาง ยื่นศาลปกครองกลาง ฟ้องกองทัพเรือ ขอให้ระงับโครงการรันเวย์ที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา หลังพบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมผิดปกติ
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2565 ที่ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมแกนนำชาว ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงและมลพิษทางอากาศ จากการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาในโครงการก่อสร้างรันเวย์ที่ 2
เข้ายื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง โดยฟ้องกองทัพเรือ (ทร.) คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) สำนักการบินพลเรือน และคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) ฐานใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ และละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลได้ผลักดันโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภารตะวันออก (EEC) เพื่อรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 โดยมอบหมายให้กองทัพเรือเป็นผู้ดำเนินการว่าจ้างให้เอกชน จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรายงาน EHIA ดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติไปแล้วเมื่อวันที่ 17 ก.พ. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 1 พ.ย.
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า แต่เนื่องจากชาว ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง ได้คัดค้านมาตลอดว่า การจัดทำรายงาน EHIA มีความผิดปกติหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำแผนที่เส้นเสียงสูงสุด (NEF มากกว่า 40) ครั้งล่าสุด ที่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นเสียงใหม่
ทำให้เหลือบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบที่อยู่ในเส้นเสียง NEF-40 ลดลงจากครั้งก่อน 480 ครัวเรือน เหลือ 80 ครัวเรือน และมาเพิ่มขึ้นเป็น 93 ครัวเรือน ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถยอมรับได้กับการทำแผนที่เส้นเสียงในครั้งนี้ จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนการคิดคำนวนใหม่ โดยให้สถาบันวิชาการที่เป็นกลาง อาทิ NIDA มาดำเนินการศึกษา เพื่อให้เป็นที่ยอมรับตามหลักวิชาการ
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นชาว ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง พยายามเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องสั่งการให้มีการทบทวนเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยื่นต่อคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นสนามบินอู่ตะเภาของสำนักงานการบินพลเรือนฯ ด้วย แต่ก็ไม่เป็นผลแต่อย่างใด ในที่สุดจำต้องมาขอให้สมาคมเราช่วยเป็นภาระในการฟ้องร้องทางศาล เพื่อเพิกถอนกระบวนการจัดทำ EHIA และระงับการก่อสร้างรันเวย์ที่ 2 ของสนามบินอู่ตะเภาด้วย
“อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงไม่จบลงง่าย ๆ เพราะเมื่อสืบข้อมูลเชิงลึกแล้ว โครงการนี้มีกลิ่นไม่ค่อยดีหลายโครงการ จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลต่อไป เพราะมีผลประโยชน์นับหมื่นล้านบาท แต่ภาครัฐกลับมองไม่เห็นความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน คิดแต่เพียงจะลดค่าใช้จ่ายที่จะต้องซื้อคืนที่ดินจากชาวบ้านให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ อันเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างชัดเจน” นายศรีสุวรรณ กล่าว