โดยเฉพาะคนที่ประกอบธุรกิจหอพักน่าจะมีประสบการณ์เรื่องนี้ เนื้อหายาวหน่อยนะครับ ต้องขอโทษด้วยครับ
คือตอนนี้มีปัญหาที่ตึกที่อยู่(4ชั้น อนาคตจะเป็น 5 ชั้น) ตอนนี้ส่วนที่เป็นถังแซทมีปัญหา คือเป็นตึกเก่าร่วมยี่สิบปีแล้วปรากฎว่าตอนนี้ถังแซท(จากคำบอกเล่าของคนที่บ้านว่าตอนสร้างเขาเอาถังพลาสติกใบใหญ่สองใบเป็นถังรองรับของเสียอยู่ใต้ตึก) คือปรากฎว่าตอนนี้เหมือนว่าพื้นปูนที่เทรองรับถังสองใบนี้มันคงทรุดตามกาลเวลา ทำให้ถังเอียง ท่ออากาศหายใจเริ่มมีปัญหา ทำให้ราดของเสียลงบ้างไม่ลงบ้าง คือต้องไปถีบๆขยับๆท่ออากาศหายใจ ก็จะกลับมาใช้การได้ประมาณนี้ครับ
แต่ทีนี้เนื่องจากมีโครงการในอนาคตว่าจะปล่อยให้เช่าตึกชั้นบนๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นออฟฟิศที่มีคนอยู่ทั้งตึกไม่น่าจะเกิน40-50 คน แน่นอนว่าปริมาณของเสียนั้นต้องเยอะตามไปด้วยและถังแซทของเดิมๆน่าจะไม่พอรองรับ
เคยโทรไปถามเซลขายถังแซทเขาประมาณการว่าน่าจะใช้ขนาดห้าพันลิตรถึงจะเหมาะสมหรือมากกว่านั้นครับ
แต่ปัญหาคือพื้นที่ห้องน้ำเดิมมันเล็กไปไม่พอรองรับถังขนาดใหญ่นี้ได้แน่ และมันต้องเจาะพื้นตึกเพื่อเอาถังเก่าออก ต้องเทพื้นปูนใหม่ เอาง่ายๆการแก้ไขค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่ครับ
ทีนี้บริเวณห่างจากห้องน้ำเดิมนั้นมีห้องพักสองชั้นตอนนี้ร้างไม่ได้ใช้อยู่แต่อนาคตจะปรับปรุงให้เช่า ห่างจากห้องน้ำเดิมไม่เกิน6 เมตร และเป็นพื้นที่โล่งพอที่จะเจาะพื้นห้องเพื่อวางถังใหม่ได้เลย แถมรางน้ำทิ้งก็อยู่ข้างๆห้องพักร้างนี่ด้วย
แต่ปัญหาคือประตูทางเข้ามันเล็กมาก คือเป็นประตูห้องทั่วไปซึ่งถังขนาดห้าพันลิตรนั้นกว้างเกือบสองเมตร มันยัดไม่เข้าแน่ๆ นอกจากจะทุบกำแพงเพื่อเอาถังเข้า แถมราคาก็ไม่ถูกด้วย ใบนึงสองสามหมื่นบาท ยิ่งถังแบบไฟเบอร์กลาสที่เขาว่าทนๆเนี่ย ยี่ห้อดังๆยิ่งแพงน่าจะไม่ต่ำกว่าห้าหมื่นบาท
ทีนี้เลยเกิดไอเดียว่า บ่อเกรอะแบบเดิมปัญหาที่ชอบเกิดคือถ้าระดับน้ำใต้ดินนั้นสูงมากจะทำให้บ่อซึมระบายน้ำมันไม่ทันทำให้น้ำเสียไหลย้อนดันส้วมเกิดอาการราดไม่ลง เขาถึงแนะนำว่าให้ใช้ถังแซทแทนเพราะน้ำไม่เข้า และระบายน้ำที่บำบัดแล้วต่อลงรางน้ำระบายน้ำทิ้งไป แต่ปัญหาก็สามารถเกิดได้หากมีน้ำท่วมในท้องที่นี้จนรางระบายน้ำสู่ท่อน้ำสาธารณะเกิดน้ำท่วมทำให้น้ำออกจากถังแซทไมได้ ก็จะเจออาการเดียวกับบ่อเกรอะบ่อซึมคือ ราดของเสียจากชักโครกไม่ลงเหมือนกัน
ผมเลยเกิดไอเดียว่า ถ้าอย่างนั้นผมจะขุดพื้นตรงห้องพักที่ร้างตอนนี้ให้เป็นหลุมกว้างพอสมควร แล้วเอาบ่อเกรอะมาวางแทนถังแซท แล้วต่อบ่อซึมเหมือนระบบปกติ แต่แทนที่ผมจะใช้ระบบบ่อเกรอะบ่อซึมแบบเดิมๆคือรอให้น้ำซึมจากบ่อซึมไปพื้นที่รอบๆ ก็ต่อท่อจากบ่อซึมให้ไหลออกรางน้ำเสียที่บ้านไปเลย สุดท้ายก็จะได้ผลเหมือนกับเราวางถังแซทเลย ที่สำคัญน่าจะประหยัดกว่าด้วย เพราะวงปูนเราสามารถเพิ่มได้ตามที่ต้องการ ทีนี้จะเอามากกว่าห้าพันลิตรก็ได้เท่าที่พื้นที่สามารถวางได้ ส่วนน้ำเสียจากบ่อซึมเราก็ต่อตรงลงรางน้ำเสียที่บ้านไปเลย
ผมคิดแบบนี้ถือว่าถูกต้องเปล่าครับ เพราะว่าไม่ต้องทุบกำแพง ราคาวงปูนก็ถูกกว่าถังแซท ปัญหาเรื่องน้ำใต้ดินทำให้ราดส้วมไม่ลงก็แก้ไขได้ หรือไม่ก็ไหนๆก็ขุดหลุมแล้ว ก็จัดการหล่อบ่อเก็บของเสียไปเลย(เหมือนเราสร้างอ่างปูนขึ้นมาใต้ดิน) คิดว่าอย่างไรบ้างครับกับวิธีนี้ ผมคิดเอาเองว่าคนทำหอพักทีคนเยอะๆน่าจะใช้วิธีนี้กันเพราะปริมาณของเสียเยอะมาก เขาน่าจะหล่อบ่อบำบัดน้ำเสียใต้ตึกไปเลยแทนที่จะวางหลายๆถัง อันนี้คือคิดไปเองนะครับคนที่ทำหอพักน่าจะตอบได้ ช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณครับ
จำเป็นไหมครับที่ถังแซทต้องดีกว่าบ่อเกรอะแบบเดิม แล้วกรณีนี้จะถือว่าใช้ทดแทนได้และดีไม่แพ้กันเปล่าครับ
คือตอนนี้มีปัญหาที่ตึกที่อยู่(4ชั้น อนาคตจะเป็น 5 ชั้น) ตอนนี้ส่วนที่เป็นถังแซทมีปัญหา คือเป็นตึกเก่าร่วมยี่สิบปีแล้วปรากฎว่าตอนนี้ถังแซท(จากคำบอกเล่าของคนที่บ้านว่าตอนสร้างเขาเอาถังพลาสติกใบใหญ่สองใบเป็นถังรองรับของเสียอยู่ใต้ตึก) คือปรากฎว่าตอนนี้เหมือนว่าพื้นปูนที่เทรองรับถังสองใบนี้มันคงทรุดตามกาลเวลา ทำให้ถังเอียง ท่ออากาศหายใจเริ่มมีปัญหา ทำให้ราดของเสียลงบ้างไม่ลงบ้าง คือต้องไปถีบๆขยับๆท่ออากาศหายใจ ก็จะกลับมาใช้การได้ประมาณนี้ครับ
แต่ทีนี้เนื่องจากมีโครงการในอนาคตว่าจะปล่อยให้เช่าตึกชั้นบนๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นออฟฟิศที่มีคนอยู่ทั้งตึกไม่น่าจะเกิน40-50 คน แน่นอนว่าปริมาณของเสียนั้นต้องเยอะตามไปด้วยและถังแซทของเดิมๆน่าจะไม่พอรองรับ
เคยโทรไปถามเซลขายถังแซทเขาประมาณการว่าน่าจะใช้ขนาดห้าพันลิตรถึงจะเหมาะสมหรือมากกว่านั้นครับ
แต่ปัญหาคือพื้นที่ห้องน้ำเดิมมันเล็กไปไม่พอรองรับถังขนาดใหญ่นี้ได้แน่ และมันต้องเจาะพื้นตึกเพื่อเอาถังเก่าออก ต้องเทพื้นปูนใหม่ เอาง่ายๆการแก้ไขค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่ครับ
ทีนี้บริเวณห่างจากห้องน้ำเดิมนั้นมีห้องพักสองชั้นตอนนี้ร้างไม่ได้ใช้อยู่แต่อนาคตจะปรับปรุงให้เช่า ห่างจากห้องน้ำเดิมไม่เกิน6 เมตร และเป็นพื้นที่โล่งพอที่จะเจาะพื้นห้องเพื่อวางถังใหม่ได้เลย แถมรางน้ำทิ้งก็อยู่ข้างๆห้องพักร้างนี่ด้วย
แต่ปัญหาคือประตูทางเข้ามันเล็กมาก คือเป็นประตูห้องทั่วไปซึ่งถังขนาดห้าพันลิตรนั้นกว้างเกือบสองเมตร มันยัดไม่เข้าแน่ๆ นอกจากจะทุบกำแพงเพื่อเอาถังเข้า แถมราคาก็ไม่ถูกด้วย ใบนึงสองสามหมื่นบาท ยิ่งถังแบบไฟเบอร์กลาสที่เขาว่าทนๆเนี่ย ยี่ห้อดังๆยิ่งแพงน่าจะไม่ต่ำกว่าห้าหมื่นบาท
ทีนี้เลยเกิดไอเดียว่า บ่อเกรอะแบบเดิมปัญหาที่ชอบเกิดคือถ้าระดับน้ำใต้ดินนั้นสูงมากจะทำให้บ่อซึมระบายน้ำมันไม่ทันทำให้น้ำเสียไหลย้อนดันส้วมเกิดอาการราดไม่ลง เขาถึงแนะนำว่าให้ใช้ถังแซทแทนเพราะน้ำไม่เข้า และระบายน้ำที่บำบัดแล้วต่อลงรางน้ำระบายน้ำทิ้งไป แต่ปัญหาก็สามารถเกิดได้หากมีน้ำท่วมในท้องที่นี้จนรางระบายน้ำสู่ท่อน้ำสาธารณะเกิดน้ำท่วมทำให้น้ำออกจากถังแซทไมได้ ก็จะเจออาการเดียวกับบ่อเกรอะบ่อซึมคือ ราดของเสียจากชักโครกไม่ลงเหมือนกัน
ผมเลยเกิดไอเดียว่า ถ้าอย่างนั้นผมจะขุดพื้นตรงห้องพักที่ร้างตอนนี้ให้เป็นหลุมกว้างพอสมควร แล้วเอาบ่อเกรอะมาวางแทนถังแซท แล้วต่อบ่อซึมเหมือนระบบปกติ แต่แทนที่ผมจะใช้ระบบบ่อเกรอะบ่อซึมแบบเดิมๆคือรอให้น้ำซึมจากบ่อซึมไปพื้นที่รอบๆ ก็ต่อท่อจากบ่อซึมให้ไหลออกรางน้ำเสียที่บ้านไปเลย สุดท้ายก็จะได้ผลเหมือนกับเราวางถังแซทเลย ที่สำคัญน่าจะประหยัดกว่าด้วย เพราะวงปูนเราสามารถเพิ่มได้ตามที่ต้องการ ทีนี้จะเอามากกว่าห้าพันลิตรก็ได้เท่าที่พื้นที่สามารถวางได้ ส่วนน้ำเสียจากบ่อซึมเราก็ต่อตรงลงรางน้ำเสียที่บ้านไปเลย
ผมคิดแบบนี้ถือว่าถูกต้องเปล่าครับ เพราะว่าไม่ต้องทุบกำแพง ราคาวงปูนก็ถูกกว่าถังแซท ปัญหาเรื่องน้ำใต้ดินทำให้ราดส้วมไม่ลงก็แก้ไขได้ หรือไม่ก็ไหนๆก็ขุดหลุมแล้ว ก็จัดการหล่อบ่อเก็บของเสียไปเลย(เหมือนเราสร้างอ่างปูนขึ้นมาใต้ดิน) คิดว่าอย่างไรบ้างครับกับวิธีนี้ ผมคิดเอาเองว่าคนทำหอพักทีคนเยอะๆน่าจะใช้วิธีนี้กันเพราะปริมาณของเสียเยอะมาก เขาน่าจะหล่อบ่อบำบัดน้ำเสียใต้ตึกไปเลยแทนที่จะวางหลายๆถัง อันนี้คือคิดไปเองนะครับคนที่ทำหอพักน่าจะตอบได้ ช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณครับ