หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] True Relaxing Trip 27 เวียดนาม(ดานัง-ฮอยฮัน) 27-30/10/22
กระทู้รีวิว
เที่ยวต่างประเทศ
บันทึกนักเดินทาง
ท่องเที่ยว
โรงแรมรีสอร์ท
ในที่สุดปีนี้ก็เป็นปีที่เปิดประเทศสักที หลังจากที่ไปล่าสุดคือปี 2019 ก็ผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว เนื่องด้วยทริปนี้จะพาพ่อแม่ไปด้วย เลยเลือกเวียดนาม จองผ่านเอเจนซี่คือนิดหน่อยทัวร์ ช่วงที่ไปคือช่วงหน้าฝนของเวียดนามด้วย ภาวนาขอให้ทริปนี้ไม่เจอฝน ราคาทัวร์อยู่ที่ 13,999 บาท ได้ส่วนลด 500 บาท และบวกค่าทิปไกด์ท้องถิ่นอีก 1,000 บาท รวมค่าทัวร์คือ 14,499 บาทต่อคน อาหารให้ทุกมื้อ ซึ่งราคานี้ถ้าไม่ได้ซื้อของอะไรก็อยู่ได้เลย ไม่ต้องแลกเงินไปก็ได้เลย
วันแรกของการเดินทางนัดเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิตอนเวลา 12.30 น. บินผ่านสายการบินเวียดเจ๊ตแอร์ ไปถึงไกด์ก็รออยู่ที่ประตูที่ 3-4 ชื่อไกด์เต้ย จากบริษัททัวร์ KAF Journey ขอชมก่อนว่าไกด์เต้ยน่ารักมาก บริการดีงามตลอดทริปเลย ไปถึงก็ทำการโหลดกระเป๋า ผ่าน ตม.เข้าไปรอเครื่องออก ซึ่งเครื่องจะออกประมาณ 15.50 น. และถึงประมาณ 17.30 น. สนามบินที่ดานังเล็กนิดเดียว การเข้า-ออก ตม.ก็ทำได้ง่ายๆ สบายๆ คนไม่เยอะมาก น่าจะเพราะวันที่ไปเป็นวันพฤหัสด้วย ไปถึงเวียดนามก็จะมีรถทัวร์มารับพร้อมกับไกด์ท้องถิ่นชื่อว่าต้อม พูดไทยเก่งมากๆบริการก็ดีมากๆ ทริปนี้มีสมาชิกทัวร์จากหลากหลายเอเจนซี่ร่วมเดินทางมาประมาณ 30 คน ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
มาถึงก็เย็นแล้ว ทางทัวร์ก็พาไปกินข้าวเย็นก่อนเลย ซึ่งพาไปที่ร้านอาหาร นั่งแบบโต๊ะจีนเลย ได้ไปนั่งร่วมกับคนอื่นก็ทำให้รู้จัก ได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมทัวร์คนอื่นมากขึ้น อาหารมื้อนี้ก็พอกินได้ ไม่ได้โดนใจอะไรมากมาย ดีที่ไกด์เตรียมน้ำพริกจากไทยมาให้ด้วย น้ำพริกคือ the best ของมื้อนี้
กินอิ่มแล้วก็ออกเดินทางต่อ ที่แรกที่ไกด์จะพาเที่ยวคือพาชมวิวสะพานมังกรยามค่ำคืน ตรงนั้นก็จะมีรูปปั้นคาร์ฟดราก้อนและชมสะพานแห่งความรักที่อยู่ตรงนั้นด้วย วิวกลางคืนก็สวยดีนะ ชอบที่ว่าทางเดิน พื้นที่ ดูสะอาดสะอ้าน สวยงาม ชอบสะพานมังกร ออกแบบสร้างมาได้สวยมาก เอาจริงทริปนี้ขับรถผ่านสะพานมังกรบ่อยมาก เห็นสะพานใกล้ๆแล้วสวยจริงๆ
พอเดินเล่นถ่ายรูปกันสักพัก ประมาณ 30 นาที ทางไกด์ก็พากลับที่พัก ที่พักครั้งนี้เป็นที่พัก 4 ดาว ชื่อ Magnolia Hotel โรงแรมไม่ใหญ่มาก ถ้าเทียบ 4 ดาวของไทย ถือว่าเล็ก ห้องก็เล็กๆ แต่มีของอำนวยความสะดวกครบ ชอบแปรงสีฟันของทางที่พัก ปกติแปรงของโรงแรมมันจะไม่ค่อยดี จะแข็ง จะเล็ก ใช้ไม่ดี แต่ของที่นี่คือดีมาก เตียงคือดี นุ่มดีแต่ไม่ชอบหมอน หมอนมันจะแบนๆ ใครชอบนอนหมอนแบนๆน่าจะถูกใจ ไกด์น่ารักมาก ไกด์จะทำการโทรเช็คมาทุกห้อง ว่าห้องโอเคมั๊ย และมีบริการ Morning Call ทุกห้องตอน 6.30 ด้วย พักอยู่ชั้น 4 ที่ชั้น 3 ของโรงแรมเค้าทำเป็นสวนขนาดย่อมด้วยนะ
วันที่สอง เปิดวันด้วยเช้าวันใหม่แสนสดใสที่นอนไม่ค่อยหลับ อาหารเช้าที่นี่เริ่มต้อง 6.30 ไกด์นัดออกตอน 8.30 เลยตื่นมาปุ๊บกินขาวก่อนแล้วค่อยไปอาบน้ำแต่งตัว อาหารเช้าที่โรงแรมก็มีหลากหลาย แต่ความรู้สึกคิดว่าน้อยนะสำหรับโรงแรม 4 ดาว ของน่าจะเยอะกว่านี้ รสชาติก็จืดๆ กลางๆ ถ้าคนกินยาก แนะนำว่ากินขนมปังไข่ดาวไป เฝอที่นี่ก็จะมีกลิ่นใบสมุนไพรที่เฝอเมืองไทยไม่มี ถ้าคนไม่ชอบกลิ่นฉุนๆก็จะรู้สึกไม่อร่อย ข้าวผัดที่นี่ก็จะเป็นข้าวแข็งๆ ไม่ค่อยคุ้นลิ้นเท่าไหร่
กำหนดการวันนี้ไกด์บอกว่าจะพาขึ้นบาน่าฮิลล์ ถ้าตามโปรแกรมทัวร์จริงๆ บาน่าฮิลล์ต้องขึ้นวันพรุ่งนี้ แต่ไกด์แจ้งว่า เนื่องจากทางบาน่าฮิลล์แจ้งว่ามีห้องพักให้ในวันนี้เท่านั้น ทัวร์เลยต้องสลับเอาโปรแกรมวันที่ 2 กับ 3 มาขึ้นบาน่าฮิลล์วันนี้แทน ก่อนขึ้นบาน่าฮิลล์ก็จะไปกันที่วัดหลินอิ๋งกันก่อน เป็นวัดที่มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่มากกกกกก และมีรูปปั้นองค์เทพจีนต่างๆอยู่ในวัด ก็ไม่ได้อินกับรูปปั้น แต่ชอบวิว เนื่องจากวัดอยู่ที่สูง วิวที่มองลงไปคือวิวแม่น้ำสวยงามมาก อากาศวันนี้ก็แดดดีทีเดียว
เดินเล่นไหว้พระถ่ายรูปเสร็จ ทางทัวร์ก็พาไปร้านเยื่อไฝ่ เป้นร้านที่ขายของที่ทำจากไผ่ ประมาณสินค้า OTOP บ้านเค้า ทั้งเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว กางเกงใน ครีม ทุกสิ่งอย่าง พนักงานต้อนรับเราด้วยน้ำชาที่รสชาติเหมือนชาใน MK จากนั้นจะพาเราเข้าห้องไปฟังพนักงานสาวสวยที่จะมาบรรยายผลิตภัณฑ์ให้เราฟัง บรรยายจบก็จะปล่อยให้เราช๊อปปิ้งตามอัธยาศัย
ช๊อปปิ้งเสร็จก็ได้เวลาไปกินเที่ยง ซึ่งดีใจมาก เพราะมื้อเช้ากินไม่ค่อยได้ เลยหิวไว มื้อเที่ยงมื้อนี้คือ the best ของทริป อร่อยมาก อร่อยไปทุกอย่าง ไม่มีให้ติ ชอบความที่พอมากับไกด์แล้วอาหารจะเตรียมไว้ให้เลย มาถึงก็กินได้เลยไม่ต้องรอ แล้วที่สำคัญ ไกด์มีน้ำพริกมาแจกอีกแล้ว มื้อนี้เป็นมื้อที่รู้สึกอาหารมีความเป็นไทยมากที่สุดแล้ว รสชาติจัดจ้าน ไม่มีน้ำพริกก็เอาอยู่
กินกันอิ่มก็ได้เวลาขึ้นบาน่าฮิลล์ ด้วยความคาดหวังว่าข้างล่างแดดดี ข้างบนฟ้าน่าจะเปิด ก่อนขึ้นไกด์จะแวะร้านขายของชำให้เราซื้อของที่ต้องการ พวกขนมขบเคี้ยว เพราะข้างบนไม่มีขาย พอมากับทัวร์ ทัวร์ก็จะทำการไปซื้อตั๋วขึ้นกระเช้า ส่วนเรามีหน้าที่นั่งสวยๆรอ กระเช้าใหญ่มาก นั่งได้ 8-10 คนเลย ขึ้นแรกๆท้องฟ้าก็สดใสดีแต่พอเริ่มขึ้นกระเช้าไปเรื่อยๆ ความรู้สึกเหมือนทะลุมาอีกมิตินึง มิติแห่งหมอก เมืองแห่ง Silent Hill หมอกหนาแบบไม่สามารถมองเห็นทางได้เลย บนเขาหมอกเยอะจนหัวเปียก ฝนไม่ได้ตกนะ แต่เปียกหมอก และหนาวมากกกกกกกกกกก ข้างล่างคือมีแดดแต่ไม่ได้ร้อนมาก แต่ข้างบนนี่อย่างหนาว อุณหภูมิประมาณ 17 องศาเท่านั้น และลมแรงมาก พยายามไปสะพานมือ ไปถ่ายรูป แต่มองไม่เห็นวิวอะไรเลยจริงๆ น่าเสียดายมาก เลยได้บรรยากาศหลอนๆเข้ากับเทศกาลฮันโลวีนมาแทน ที่นี่มีสวนสนุกนะ แต่ไม่ได้เล่นเลย แก่แล้วเลยไม่อิน
ห้องนอนที่บาน่าฮิลล์จะมีหลายตึกมาก แล้วแต่เค้าจัดให้ ห้องที่ได้จะตกแต่งสไตล์ยุโรปโบราณ มีหน้าต่างให้เปิด มีพัดลม ไม่มีแอร์ ซึ่งก็ไม่จำเป็นเลย ขนาดหน้าต่างยังไม่อยากเปิดเลย มีฮีทเตอร์ และที่ชอบคือมีเตารีด ใครชุดยับ ชุดไม่พร้อม รีดได้เลย ข้อดีของห้องน้ำคือแยกห้องอาบน้ำกับห้องขับถ่ายเป็น 2 ห้อง แต่ข้อที่ไม่ชอบห้องน้ำตรงต้องออกมาแต่งตัวข้างนอก ซึ่งถ้าไปนอนกับเพื่อน มันก็จะอายที่ต้องแก้ผ้าออกมาแต่งตัวหน้าห้องน้ำ แถมหนาวด้วย เตียงก็นุ่มดี หมอนหนากว่าที่แรกแต่ก็บางอยู่ดี คนที่นี่คงชอบนอนหมอนบางๆ
จากนั้นไกด์ก็จะปล่อยเราเดินเล่นทำอะไรก็ได้ ก่อนถึงเวลามื้อเย็น เลยลองไปสะพานมืออีกรอบ สรุป หนาวกว่าเดิม ลมแรงกว่าเดิม หมอกหนากว่าเดิม ยอมแพ้ทันที ตอนกลับมาบนเขาก็ลองซื้อฮอดดอกเค้ามากิน ตกอันละ 144 บาท (90,000ดง) อร่อยมาก กินไว้ก่อน อาจเพราะมันร้อนและเป็นขนมปังเลยรู้สึกอร่อย เผื่อมื้อเย็นกินไม่ได้ มื้อเย็นวันนี้เป็นบุฟเฟ่บนบาน่าฮิลล์เริ่ม 18.00 น. คราวนี้ไกด์ไม่มีน้ำพริกแต่มีน้ำจิ้มซีฟู้ดมาให้ อาหารมีหลากหลายมาก ห้องอาหารใหญ่มาก ไกด์จะมีจุดที่นั่งของทัวร์เตรียมไว้ให้อยู่แล้ว เหมือนเดิมคือใครกินไมได้ก็มีขนมปังให้อยู่ มีกุ้งหอยให้ แต่ของที่นี่เติมช้า หมดแล้วกว่าจะมาเติมก็ช้า กุ้งก็ตัวเล็กๆ ชอบตรงด้วยความที่ห้องอาหารใหญ่ จะมีพนักงานยืนประจำจุดต่างๆตัวมุมห้อง คอยมองเก็บจานที่ใช้แล้วออกจากโต๊ะ ถึงเติมของช้าแต่เก็บจานไวนะ กินเสร็จก็เดินย่อย เดิมชมบรรยากาศหมอกๆไปนี่แหละ ข้างนอกจะมีบาร์ คนมากินเบียร์คลายหนาวกัน โอ้โหคิดว่าอยู่ไทย เปิดเพลงลูกทุ่งไทยสนั่น ได้ยินแล้วอยากไปเต้นด้วยเลย
ชื่อสินค้า:
เวียดนาม บาน่าฮิลล์ ฮอยอัน ดานัง
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
โรดทริป อีสาน (31/08 -05/09/2568) EP.1 กทม. - นครราชสีมา - ชัยภูมิ
สวัสดีครับ ทริปนี้เป็นการเดินทางกันโดยรถยนต์ส่วนตัว ท่องเที่ยวอีสานครั้งที่ 2 ครั้งแรก เมื่อ 2 ปีก่อน ติดตามชมกระทู้ ได้ตาม Link ด้านล่างนี้ เลาะริมโขง จาก เลย ถึง บึงกาฬ (27/10-1/11/2566) ตอน 1 พระ
AUN_SAP
เชียร์ฟุตบอลกัน😀
เชียร์ฟุตบอลรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกกก ฮอลเเลนด์ vs โปรเเลนด์ เราเป็นคนชอบดูกีฬามาก เราดูเกือบทุกประเภท😅😅😅😅 วันนี้ก็เป็นอีกวันที่จะนั่งเฝ้าหน้าจอ อยู่ฮอลเเลนด์ก็เชียร์อัศวินสีส้ม 😀 หวังว่าฮอลเเล
สมาชิกหมายเลข 4038178
เที่ยว "ลาวใต้" 1 คืน 2 วัน
ສະບາຍດີທຸກຄົນ ทริปนี้มีสมาฃิกร่วมเดินทางด้วยกันทั้งหมด 8 คนค่ะ เนื่องจากไปกันหลายคนเจ้าของกระทู้ดูแลไม่ไหวค่ะ เลยหาซื้อแพ็คเกจ เพื่อความสะดวกสบายของทุกคน แพ็คเกจที่ซื้อจะเป็นแพ็คเกจ ลาวใต้ 2 วัน 1 คืน
สมาชิกหมายเลข 3503145
“สองเดือน 🗓️ สองกุ๊บกั๊บ 🥾: บันทึกการผจญภัย 🧭 ของชายผู้รักหมอก 🌫️(มั้ง)ครับ 😆🌄”
บันทึกการผจญภัยของชายผู้รักหมอก(มั้ง)ครับ" ห้วยกุ๊บกั๊บ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ บนดอยในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและสโลว์ไลฟ์ ด้วยบรรยากาศเงี
บะหมี่เกี๊ยวเที่ยวเก่ง
ม่านเมือง @ ถนนรามคำแหง แขวงสะพานสูง กรุงเทพมหานคร
พามาทานอาหารเหนือ ที่ร้านม่านเมือง ร้านตั้งอยู่ในหมู่บ้านสัมมากร ถนนรามคำแหง แขวงสะพานสูง กรุงเทพมหานคร เปิดให้บริการทุกวันเวลา 9.00-21.00 น. มีที่จอดรถ หากมาในช่วงเย็นหรือวันหยุดอาจต้องหาที่จอดริมถนน
Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
True Relaxing Trip 31 จูไห่-มาเก๊า 22-24/12/23
ทริปนี้เกิดจากไปบังเอิญเจอทัวร์ต่างประเทศ จูไห่-มาเก๊า ราคา 6,990 บาท + ค่าภาษีสนามบิน 2,200 บาท + ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นอีก 2,000 บาท&nbs
cconelove
@@ แค่บอกแม่ว่า...อยากกินน้ำพริกกะปิ ^^ @@
สวัสดีครับ ขอเปิดหัวกระทู้ด้วย ดอกโสนผัดน้ำมัน แบบฉ่ำๆ ยั่วๆเลยครับ อิอิเมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา (19-20 กรกฏาคม 2568)ไปหาคุณแม่ที่บ้านคลองสี่มาครับ เรื่องเกิดจากเย็นวันศุกร์คุยโทรศัพท์กับคุณแม่แค
เซเว่นหน้าหอใน
สวัสดี หนีห่าว เฉิงตู เสฉวน ซงพาน จิ่วจ้ายโกว หวงหลง ต๋ากู่ปิงชวน ตูเจียงเยี่ยน แพนด้า 6วัน5คืน
บันทึกการเดินทางครั้งนี้ขอแบ่งเป็น 2 ตอน EP.1 ก่อนเดินทาง ,ทัวร์ไฟไหม้ ,เฉิงตู , ซงพาน, จิ่วจ้ายโกว https://pantip.com/topic/43503115 EP.2 หวงหลง, ต๋ากู่ปิงชวน, ตูเจียงเยี่ยน, หมีแพนด้า, วัดต้าฉือ,ถ
สมาชิกหมายเลข 3206800
...เย้ๆๆ ได้กิน Mutton biryani ตำรับบังกลาแล้ว...
กระทู้ก่อนหน้า หนอนฯเล่าว่ามาบังกลาเทศ กินจนเหนื่อย เหนื่อยเรื่องกิน เรื่องงานไม่เหนื่อย อิอิ https://pantip.com/topic/43624294 แต่สามสี่วันผ่านไปหนอนฯก็บ่นหงุงหงิงว่า "มาบังกลาเทศครั้งนี้
หนอนแบกเป้
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวต่างประเทศ
บันทึกนักเดินทาง
ท่องเที่ยว
โรงแรมรีสอร์ท
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 6
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] True Relaxing Trip 27 เวียดนาม(ดานัง-ฮอยฮัน) 27-30/10/22
ในที่สุดปีนี้ก็เป็นปีที่เปิดประเทศสักที หลังจากที่ไปล่าสุดคือปี 2019 ก็ผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว เนื่องด้วยทริปนี้จะพาพ่อแม่ไปด้วย เลยเลือกเวียดนาม จองผ่านเอเจนซี่คือนิดหน่อยทัวร์ ช่วงที่ไปคือช่วงหน้าฝนของเวียดนามด้วย ภาวนาขอให้ทริปนี้ไม่เจอฝน ราคาทัวร์อยู่ที่ 13,999 บาท ได้ส่วนลด 500 บาท และบวกค่าทิปไกด์ท้องถิ่นอีก 1,000 บาท รวมค่าทัวร์คือ 14,499 บาทต่อคน อาหารให้ทุกมื้อ ซึ่งราคานี้ถ้าไม่ได้ซื้อของอะไรก็อยู่ได้เลย ไม่ต้องแลกเงินไปก็ได้เลย
วันแรกของการเดินทางนัดเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิตอนเวลา 12.30 น. บินผ่านสายการบินเวียดเจ๊ตแอร์ ไปถึงไกด์ก็รออยู่ที่ประตูที่ 3-4 ชื่อไกด์เต้ย จากบริษัททัวร์ KAF Journey ขอชมก่อนว่าไกด์เต้ยน่ารักมาก บริการดีงามตลอดทริปเลย ไปถึงก็ทำการโหลดกระเป๋า ผ่าน ตม.เข้าไปรอเครื่องออก ซึ่งเครื่องจะออกประมาณ 15.50 น. และถึงประมาณ 17.30 น. สนามบินที่ดานังเล็กนิดเดียว การเข้า-ออก ตม.ก็ทำได้ง่ายๆ สบายๆ คนไม่เยอะมาก น่าจะเพราะวันที่ไปเป็นวันพฤหัสด้วย ไปถึงเวียดนามก็จะมีรถทัวร์มารับพร้อมกับไกด์ท้องถิ่นชื่อว่าต้อม พูดไทยเก่งมากๆบริการก็ดีมากๆ ทริปนี้มีสมาชิกทัวร์จากหลากหลายเอเจนซี่ร่วมเดินทางมาประมาณ 30 คน ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
มาถึงก็เย็นแล้ว ทางทัวร์ก็พาไปกินข้าวเย็นก่อนเลย ซึ่งพาไปที่ร้านอาหาร นั่งแบบโต๊ะจีนเลย ได้ไปนั่งร่วมกับคนอื่นก็ทำให้รู้จัก ได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมทัวร์คนอื่นมากขึ้น อาหารมื้อนี้ก็พอกินได้ ไม่ได้โดนใจอะไรมากมาย ดีที่ไกด์เตรียมน้ำพริกจากไทยมาให้ด้วย น้ำพริกคือ the best ของมื้อนี้
กินอิ่มแล้วก็ออกเดินทางต่อ ที่แรกที่ไกด์จะพาเที่ยวคือพาชมวิวสะพานมังกรยามค่ำคืน ตรงนั้นก็จะมีรูปปั้นคาร์ฟดราก้อนและชมสะพานแห่งความรักที่อยู่ตรงนั้นด้วย วิวกลางคืนก็สวยดีนะ ชอบที่ว่าทางเดิน พื้นที่ ดูสะอาดสะอ้าน สวยงาม ชอบสะพานมังกร ออกแบบสร้างมาได้สวยมาก เอาจริงทริปนี้ขับรถผ่านสะพานมังกรบ่อยมาก เห็นสะพานใกล้ๆแล้วสวยจริงๆ
พอเดินเล่นถ่ายรูปกันสักพัก ประมาณ 30 นาที ทางไกด์ก็พากลับที่พัก ที่พักครั้งนี้เป็นที่พัก 4 ดาว ชื่อ Magnolia Hotel โรงแรมไม่ใหญ่มาก ถ้าเทียบ 4 ดาวของไทย ถือว่าเล็ก ห้องก็เล็กๆ แต่มีของอำนวยความสะดวกครบ ชอบแปรงสีฟันของทางที่พัก ปกติแปรงของโรงแรมมันจะไม่ค่อยดี จะแข็ง จะเล็ก ใช้ไม่ดี แต่ของที่นี่คือดีมาก เตียงคือดี นุ่มดีแต่ไม่ชอบหมอน หมอนมันจะแบนๆ ใครชอบนอนหมอนแบนๆน่าจะถูกใจ ไกด์น่ารักมาก ไกด์จะทำการโทรเช็คมาทุกห้อง ว่าห้องโอเคมั๊ย และมีบริการ Morning Call ทุกห้องตอน 6.30 ด้วย พักอยู่ชั้น 4 ที่ชั้น 3 ของโรงแรมเค้าทำเป็นสวนขนาดย่อมด้วยนะ
วันที่สอง เปิดวันด้วยเช้าวันใหม่แสนสดใสที่นอนไม่ค่อยหลับ อาหารเช้าที่นี่เริ่มต้อง 6.30 ไกด์นัดออกตอน 8.30 เลยตื่นมาปุ๊บกินขาวก่อนแล้วค่อยไปอาบน้ำแต่งตัว อาหารเช้าที่โรงแรมก็มีหลากหลาย แต่ความรู้สึกคิดว่าน้อยนะสำหรับโรงแรม 4 ดาว ของน่าจะเยอะกว่านี้ รสชาติก็จืดๆ กลางๆ ถ้าคนกินยาก แนะนำว่ากินขนมปังไข่ดาวไป เฝอที่นี่ก็จะมีกลิ่นใบสมุนไพรที่เฝอเมืองไทยไม่มี ถ้าคนไม่ชอบกลิ่นฉุนๆก็จะรู้สึกไม่อร่อย ข้าวผัดที่นี่ก็จะเป็นข้าวแข็งๆ ไม่ค่อยคุ้นลิ้นเท่าไหร่
กำหนดการวันนี้ไกด์บอกว่าจะพาขึ้นบาน่าฮิลล์ ถ้าตามโปรแกรมทัวร์จริงๆ บาน่าฮิลล์ต้องขึ้นวันพรุ่งนี้ แต่ไกด์แจ้งว่า เนื่องจากทางบาน่าฮิลล์แจ้งว่ามีห้องพักให้ในวันนี้เท่านั้น ทัวร์เลยต้องสลับเอาโปรแกรมวันที่ 2 กับ 3 มาขึ้นบาน่าฮิลล์วันนี้แทน ก่อนขึ้นบาน่าฮิลล์ก็จะไปกันที่วัดหลินอิ๋งกันก่อน เป็นวัดที่มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่มากกกกกก และมีรูปปั้นองค์เทพจีนต่างๆอยู่ในวัด ก็ไม่ได้อินกับรูปปั้น แต่ชอบวิว เนื่องจากวัดอยู่ที่สูง วิวที่มองลงไปคือวิวแม่น้ำสวยงามมาก อากาศวันนี้ก็แดดดีทีเดียว
เดินเล่นไหว้พระถ่ายรูปเสร็จ ทางทัวร์ก็พาไปร้านเยื่อไฝ่ เป้นร้านที่ขายของที่ทำจากไผ่ ประมาณสินค้า OTOP บ้านเค้า ทั้งเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว กางเกงใน ครีม ทุกสิ่งอย่าง พนักงานต้อนรับเราด้วยน้ำชาที่รสชาติเหมือนชาใน MK จากนั้นจะพาเราเข้าห้องไปฟังพนักงานสาวสวยที่จะมาบรรยายผลิตภัณฑ์ให้เราฟัง บรรยายจบก็จะปล่อยให้เราช๊อปปิ้งตามอัธยาศัย
ช๊อปปิ้งเสร็จก็ได้เวลาไปกินเที่ยง ซึ่งดีใจมาก เพราะมื้อเช้ากินไม่ค่อยได้ เลยหิวไว มื้อเที่ยงมื้อนี้คือ the best ของทริป อร่อยมาก อร่อยไปทุกอย่าง ไม่มีให้ติ ชอบความที่พอมากับไกด์แล้วอาหารจะเตรียมไว้ให้เลย มาถึงก็กินได้เลยไม่ต้องรอ แล้วที่สำคัญ ไกด์มีน้ำพริกมาแจกอีกแล้ว มื้อนี้เป็นมื้อที่รู้สึกอาหารมีความเป็นไทยมากที่สุดแล้ว รสชาติจัดจ้าน ไม่มีน้ำพริกก็เอาอยู่
กินกันอิ่มก็ได้เวลาขึ้นบาน่าฮิลล์ ด้วยความคาดหวังว่าข้างล่างแดดดี ข้างบนฟ้าน่าจะเปิด ก่อนขึ้นไกด์จะแวะร้านขายของชำให้เราซื้อของที่ต้องการ พวกขนมขบเคี้ยว เพราะข้างบนไม่มีขาย พอมากับทัวร์ ทัวร์ก็จะทำการไปซื้อตั๋วขึ้นกระเช้า ส่วนเรามีหน้าที่นั่งสวยๆรอ กระเช้าใหญ่มาก นั่งได้ 8-10 คนเลย ขึ้นแรกๆท้องฟ้าก็สดใสดีแต่พอเริ่มขึ้นกระเช้าไปเรื่อยๆ ความรู้สึกเหมือนทะลุมาอีกมิตินึง มิติแห่งหมอก เมืองแห่ง Silent Hill หมอกหนาแบบไม่สามารถมองเห็นทางได้เลย บนเขาหมอกเยอะจนหัวเปียก ฝนไม่ได้ตกนะ แต่เปียกหมอก และหนาวมากกกกกกกกกกก ข้างล่างคือมีแดดแต่ไม่ได้ร้อนมาก แต่ข้างบนนี่อย่างหนาว อุณหภูมิประมาณ 17 องศาเท่านั้น และลมแรงมาก พยายามไปสะพานมือ ไปถ่ายรูป แต่มองไม่เห็นวิวอะไรเลยจริงๆ น่าเสียดายมาก เลยได้บรรยากาศหลอนๆเข้ากับเทศกาลฮันโลวีนมาแทน ที่นี่มีสวนสนุกนะ แต่ไม่ได้เล่นเลย แก่แล้วเลยไม่อิน
ห้องนอนที่บาน่าฮิลล์จะมีหลายตึกมาก แล้วแต่เค้าจัดให้ ห้องที่ได้จะตกแต่งสไตล์ยุโรปโบราณ มีหน้าต่างให้เปิด มีพัดลม ไม่มีแอร์ ซึ่งก็ไม่จำเป็นเลย ขนาดหน้าต่างยังไม่อยากเปิดเลย มีฮีทเตอร์ และที่ชอบคือมีเตารีด ใครชุดยับ ชุดไม่พร้อม รีดได้เลย ข้อดีของห้องน้ำคือแยกห้องอาบน้ำกับห้องขับถ่ายเป็น 2 ห้อง แต่ข้อที่ไม่ชอบห้องน้ำตรงต้องออกมาแต่งตัวข้างนอก ซึ่งถ้าไปนอนกับเพื่อน มันก็จะอายที่ต้องแก้ผ้าออกมาแต่งตัวหน้าห้องน้ำ แถมหนาวด้วย เตียงก็นุ่มดี หมอนหนากว่าที่แรกแต่ก็บางอยู่ดี คนที่นี่คงชอบนอนหมอนบางๆ
จากนั้นไกด์ก็จะปล่อยเราเดินเล่นทำอะไรก็ได้ ก่อนถึงเวลามื้อเย็น เลยลองไปสะพานมืออีกรอบ สรุป หนาวกว่าเดิม ลมแรงกว่าเดิม หมอกหนากว่าเดิม ยอมแพ้ทันที ตอนกลับมาบนเขาก็ลองซื้อฮอดดอกเค้ามากิน ตกอันละ 144 บาท (90,000ดง) อร่อยมาก กินไว้ก่อน อาจเพราะมันร้อนและเป็นขนมปังเลยรู้สึกอร่อย เผื่อมื้อเย็นกินไม่ได้ มื้อเย็นวันนี้เป็นบุฟเฟ่บนบาน่าฮิลล์เริ่ม 18.00 น. คราวนี้ไกด์ไม่มีน้ำพริกแต่มีน้ำจิ้มซีฟู้ดมาให้ อาหารมีหลากหลายมาก ห้องอาหารใหญ่มาก ไกด์จะมีจุดที่นั่งของทัวร์เตรียมไว้ให้อยู่แล้ว เหมือนเดิมคือใครกินไมได้ก็มีขนมปังให้อยู่ มีกุ้งหอยให้ แต่ของที่นี่เติมช้า หมดแล้วกว่าจะมาเติมก็ช้า กุ้งก็ตัวเล็กๆ ชอบตรงด้วยความที่ห้องอาหารใหญ่ จะมีพนักงานยืนประจำจุดต่างๆตัวมุมห้อง คอยมองเก็บจานที่ใช้แล้วออกจากโต๊ะ ถึงเติมของช้าแต่เก็บจานไวนะ กินเสร็จก็เดินย่อย เดิมชมบรรยากาศหมอกๆไปนี่แหละ ข้างนอกจะมีบาร์ คนมากินเบียร์คลายหนาวกัน โอ้โหคิดว่าอยู่ไทย เปิดเพลงลูกทุ่งไทยสนั่น ได้ยินแล้วอยากไปเต้นด้วยเลย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้