คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
แบบอัพเดตในเกาหลีล่าสุดนะคะ ข่าวเพิ่งออกเมื่อเดือนต.ค. 2022 https://www.thescoop.co.kr/news/articleView.html?idxno=55579 เดี๋ยวแปลให้คร่าวๆนะคะ ยาวหน่อยนะ
Melon ยังคงครอบอันดับ 1 Platform Streaming ที่คนเกาหลีใช้ค่ะ แต่ Youtube Music เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อปีที่แล้วสามารถแซง Genie ได้แล้ว ส่วนล่าสุดเรียกว่านำห่าง Genie เลยก็ได้ค่ะ แต่พูดตรงๆว่าถึงแม้ Melon จะครองที่ 1 แต่ก็ลดลงมาก จากเมื่อก่อนตอนที่Kakaoเข้ามาซื้อเมล่อน ตอนนั้นกินส่วนแบ่งการตลาดถึง 60% ตอนนี้เหลือแค่ 34.6% เท่านั้น
สัดส่วนคนใช้งานต่อเดือน สำรวจเฉพาะผู้ใช้งาน android เท่านั้นค่ะ จะเห็นเลยว่าเมล่อนก็ยังคงที่ แต่ YT Music เพิ่มขึ้นไวมาก
เหตุผลที่เขียนในข่าวคือคนเกาหลีใช้แอพ Youtube ต่อวันมากที่สุดในประเทศ ใช้งานมากกว่าแอพ Kakao Talk ซะอีก และสมัครครั้งเดียวได้ Premium ดูแบบไม่มีโฆษณา + Youtube Music เป็นอะไรที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งต่อให้ Spotify / Apple Music ที่เป็นGlobal Streaming ทำการตลาดดีแค่ไหนก็สู้ Melon Genie ไม่ได้ แต่ข้อดีของยูทูป มันสู้ได้ เลยเติบโตค่อนข้างไว อีกอย่างคือ คนเกาหลีใช้ Android กันเยอะ และใช้ Google Play ที่สามารถจ่ายพ่วงหลายๆแอพครบจบในทีเดียวได้ ซึ่ง Youtube ก็เป็นหนึ่งในนั้นเลยเติบโตขึ้นมาก
อีกเรื่องคือค่าธรรมเนียม Flo ขึ้นราคาแอพ 14% , Vibe ขึ้นราคาฟังได้ไม่จำกัด 16% , Melon ขึ้นราคา 10% , Genie ขึ้นราคา 5-6% แต่ Youtube Music ไม่ขึ้นราคาเลยตั้งแต่เปิดตัวในเกาหลี ค่าใช้จ่ายอยู่ 10,000 วอน/เดือน ถูกกว่ากินซัมกยอบซัล 1 ที่อีกค่ะ ราคาเหมือนเสื้อยืด1ตัวในเมียงดง ฮงแด
มาดูสาเหตุว่าทำไมต้องขึ้นราคากันค่ะ มาจากที่เกาหลีมีกฎหมายเรื่องค่าลิขสิทธิ์เพลงที่เข้มงวดมาก รัฐเข้ามาดูแลทุกศาสตร์ลิขสิทธิ์ของงานศิลป์ เพื่อไม่ให้เจ้าของลิขสิทธิ์เสียเปรียบ ต่อให้ผู้บริโภคจ่ายเงินเยอะแค่ไหน แต่65% ต้องแบ่งจ่ายให้ค่าลิขสิทธิ์ทั้งนั้นเลยค่ะ 35% เป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ทีนี้ก็เหลือแทบไม่เหลือเข้ากระเป๋าเจ้าของแอพ โดยค่าลิขสิทธิ์แอพสตรีมในเกาหลี ตามกฎหมายจะต้องแบ่งให้ 48.25% สำหรับ Producer , 6.25% สำหรับนักร้อง และ 10.50% สำหรับคนแต่งเนื้อเพลง
แต่! Youtube Music ไม่ได้เซ็นสัญญากลางตัวนี้ของทางรัฐค่ะ เพราะถือว่าตัวเองเป็นบริษัทนอก เวลาจะดีลกับค่ายต่างๆจะเป็น “สัญญาส่วนบุคคล” ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เลยไม่มีใครรู้ว่านางให้แต่ละค่ายเท่าไหร่
ซึ่งสุดท้ายคิดว่าเร็วๆนี้ ภาครัฐจะเข้ามาจัดการในส่วนนี้ค่ะ เพราะ หาก Youtube ใช้ประโยชน์จากการเป็นพันธมิตร Google Play และYoutube ก็ยืนยิ้มขึ้นเป็นที่ 1 ชิวๆแบบนี้ ภาครัฐเข้ามาแน่นอน เพราะ 1.นายทุนต่างประเทศเข้ามาทำให้นายทุนเกาหลีเสียเปรียบ 2.ผู้บริโภคถูกผลักภาระเพราะแอพเล็กๆสู้ค่าลิขสิทธิ์ไม่ไหว เลยขึ้นค่าธรรมเนียม และสุดท้ายค่าลิขสิทธิ์ไม่ถูกต้องตามกฎหมายเกาหลีด้วย เร็วๆนี้อย่าชะล่าใจ เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงแน่นอนค่ะ
ปล. Spotify Apple Music ปัดตกไปได้เลย สู้ให้ตายยังไงก็สู้แอพเกาหลีไม่ได้ค่ะ รัฐเกาหลีก็ต้องซัพพอร์ตนายทุนเกาหลีอยู่แล้ว Melon ของ Kakao , Flo ของ SK Telecom , Vibe ของ Naver , Genie ของ LG นายทุนโหดๆทั้งนั้น
Melon ยังคงครอบอันดับ 1 Platform Streaming ที่คนเกาหลีใช้ค่ะ แต่ Youtube Music เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อปีที่แล้วสามารถแซง Genie ได้แล้ว ส่วนล่าสุดเรียกว่านำห่าง Genie เลยก็ได้ค่ะ แต่พูดตรงๆว่าถึงแม้ Melon จะครองที่ 1 แต่ก็ลดลงมาก จากเมื่อก่อนตอนที่Kakaoเข้ามาซื้อเมล่อน ตอนนั้นกินส่วนแบ่งการตลาดถึง 60% ตอนนี้เหลือแค่ 34.6% เท่านั้น
สัดส่วนคนใช้งานต่อเดือน สำรวจเฉพาะผู้ใช้งาน android เท่านั้นค่ะ จะเห็นเลยว่าเมล่อนก็ยังคงที่ แต่ YT Music เพิ่มขึ้นไวมาก
เหตุผลที่เขียนในข่าวคือคนเกาหลีใช้แอพ Youtube ต่อวันมากที่สุดในประเทศ ใช้งานมากกว่าแอพ Kakao Talk ซะอีก และสมัครครั้งเดียวได้ Premium ดูแบบไม่มีโฆษณา + Youtube Music เป็นอะไรที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งต่อให้ Spotify / Apple Music ที่เป็นGlobal Streaming ทำการตลาดดีแค่ไหนก็สู้ Melon Genie ไม่ได้ แต่ข้อดีของยูทูป มันสู้ได้ เลยเติบโตค่อนข้างไว อีกอย่างคือ คนเกาหลีใช้ Android กันเยอะ และใช้ Google Play ที่สามารถจ่ายพ่วงหลายๆแอพครบจบในทีเดียวได้ ซึ่ง Youtube ก็เป็นหนึ่งในนั้นเลยเติบโตขึ้นมาก
อีกเรื่องคือค่าธรรมเนียม Flo ขึ้นราคาแอพ 14% , Vibe ขึ้นราคาฟังได้ไม่จำกัด 16% , Melon ขึ้นราคา 10% , Genie ขึ้นราคา 5-6% แต่ Youtube Music ไม่ขึ้นราคาเลยตั้งแต่เปิดตัวในเกาหลี ค่าใช้จ่ายอยู่ 10,000 วอน/เดือน ถูกกว่ากินซัมกยอบซัล 1 ที่อีกค่ะ ราคาเหมือนเสื้อยืด1ตัวในเมียงดง ฮงแด
มาดูสาเหตุว่าทำไมต้องขึ้นราคากันค่ะ มาจากที่เกาหลีมีกฎหมายเรื่องค่าลิขสิทธิ์เพลงที่เข้มงวดมาก รัฐเข้ามาดูแลทุกศาสตร์ลิขสิทธิ์ของงานศิลป์ เพื่อไม่ให้เจ้าของลิขสิทธิ์เสียเปรียบ ต่อให้ผู้บริโภคจ่ายเงินเยอะแค่ไหน แต่65% ต้องแบ่งจ่ายให้ค่าลิขสิทธิ์ทั้งนั้นเลยค่ะ 35% เป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ทีนี้ก็เหลือแทบไม่เหลือเข้ากระเป๋าเจ้าของแอพ โดยค่าลิขสิทธิ์แอพสตรีมในเกาหลี ตามกฎหมายจะต้องแบ่งให้ 48.25% สำหรับ Producer , 6.25% สำหรับนักร้อง และ 10.50% สำหรับคนแต่งเนื้อเพลง
แต่! Youtube Music ไม่ได้เซ็นสัญญากลางตัวนี้ของทางรัฐค่ะ เพราะถือว่าตัวเองเป็นบริษัทนอก เวลาจะดีลกับค่ายต่างๆจะเป็น “สัญญาส่วนบุคคล” ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เลยไม่มีใครรู้ว่านางให้แต่ละค่ายเท่าไหร่
ซึ่งสุดท้ายคิดว่าเร็วๆนี้ ภาครัฐจะเข้ามาจัดการในส่วนนี้ค่ะ เพราะ หาก Youtube ใช้ประโยชน์จากการเป็นพันธมิตร Google Play และYoutube ก็ยืนยิ้มขึ้นเป็นที่ 1 ชิวๆแบบนี้ ภาครัฐเข้ามาแน่นอน เพราะ 1.นายทุนต่างประเทศเข้ามาทำให้นายทุนเกาหลีเสียเปรียบ 2.ผู้บริโภคถูกผลักภาระเพราะแอพเล็กๆสู้ค่าลิขสิทธิ์ไม่ไหว เลยขึ้นค่าธรรมเนียม และสุดท้ายค่าลิขสิทธิ์ไม่ถูกต้องตามกฎหมายเกาหลีด้วย เร็วๆนี้อย่าชะล่าใจ เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงแน่นอนค่ะ
ปล. Spotify Apple Music ปัดตกไปได้เลย สู้ให้ตายยังไงก็สู้แอพเกาหลีไม่ได้ค่ะ รัฐเกาหลีก็ต้องซัพพอร์ตนายทุนเกาหลีอยู่แล้ว Melon ของ Kakao , Flo ของ SK Telecom , Vibe ของ Naver , Genie ของ LG นายทุนโหดๆทั้งนั้น
สมาชิกหมายเลข 995311 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6707201 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3533719 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4024363 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6442332 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7195613 ถูกใจ, สวยแต่โสด ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4359613 ถูกใจ, ASDF ถูกใจ, $$$ ถูกใจรวมถึงอีก 5 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ระหว่าง global streaming (spotify, apple music, etc.) กับ korean streaming (melon, vibe, etc.) อันไหนผู้ใช้มากกว่ากันคะ