JJNY : ปูตินมาไม่ได้ประชุมเอเปคร่วมไทย| ศิริกัญญาบุกปปช.| สภาองค์กรผู้บริโภคยื่นฟ้องศาลปกครอง | ค่าไฟม.ค.66 ฉุดไม่อยู่

ปูตินมาไม่ได้ประชุมเอเปคร่วมไทย ให้รองนายกฯนำคณะเข้าแทน
https://siamrath.co.th/n/398529
 
 
 
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ว่า นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย ในการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำ กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ( เอเปค ) ที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย.นี้ คือ นายอังเดร เบลูซอฟ รองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง.​ 
 

 
ศิริกัญญา บุก ปปช. ยื่นสอบ กสทช. ปมควบรวมทรู-ดีแทค ชี้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7360032

ศิริกัญญา บุก ป.ป.ช. ยื่นสอบ กสทช. ปมปล่อยควบรวมทรู-ดีแทค ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หอบหลักฐานเอาผิดรายคน จ่อยื่นศาลปกครองสั่งระงับ
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พ.ย. 2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางไปยื่นหนังสือให้มีการไต่สวนและตรวจสอบ กรณีการปล่อยให้มีการควบรวมทรู-ดีแทค ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังกสทช.มีการลงมติเพียงแค่รับทราบการควบรวมกิจการ 2 ค่ายมือถือ
  
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ตนได้ศึกษาราคาค่าบริการหลังควบรวม พบว่าราคาค่าบริการจะสูงขึ้นและศักยภาพการให้บริการจะด้อยลง แตกต่างจากในตลาดมือถือที่มีการแข่งขันของรายใหญ่ 3 เจ้า แต่กสทช. ไม่ทำหน้าที่ให้เหมาะสม ในการยับยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
 
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในการลงมติของกสทช.ที่เป็นมติพิเศษ มีหลักเกณฑ์ว่าจะต้องได้เสียงกึ่งหนึ่งในการลงมติ โดยคณะกรรมการในครั้งนี้มีทั้งหมด 5 คน จึงต้องลงเสียงให้ได้คะแนน 3:2 แต่มติในครั้งนี้คือ 2:2:1 งดออกเสียงหนึ่งเสียง หากว่ากันตามข้อบังคับการประชุมจะต้องได้ทั้งหมด 3 เสียงขึ้นไป ดังนั้น กสทช.กำลังทำผิดกฎหมายที่ตนเองร่างขึ้นมา
 
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า การลงมติควบรวมทรู-ดีแทค ของกสทช. เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่ตนเองได้รับมอบอำนาจ และผลประโยชน์ทับซ้อนของคณะกรรมการ โดยในหนังสือที่ยื่นแก่ ป.ป.ช. ได้มีการขอไต่สวน นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ นายต่อพงศ์ เสลานนท์ และพล.อ.ท.ธนพันธุ์ 
หร่ายเจริญ
 โดยหลังจากนี้จะมีการยื่นเรื่องต่อศาลปกครอง เพื่อขอคำสั่งระงับฉุกเฉิน เพื่อระงับการควบรวม เพราะถ้าหากปล่อยให้กระบวนการเดินไปข้างหน้าจะมีผลเสียมากกว่านี้ จะแก้ไขก็ไม่ทันการณ์
 

  
สภาองค์กรผู้บริโภค ยื่นฟ้อง ศาลปกครอง ถอนมติควบรวมทรู-ดีแทค
https://ch3plus.com/news/economy/morning/319774
  
วานนี้ (วันที่ 10 พ.ย.) สภาองค์กรของผู้บริโภค ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และสำนักงาน กสทช. เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อให้เพิกถอนมติ กสทช. “รับทราบ” การรวมธุรกิจระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ทรู และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค รวมทั้งได้ยื่นคำขอไต่สวนฉุกเฉิน และขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา
 
ทั้งนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภคได้นำรายชื่อผู้บริโภคจำนวน 2,022 ราย ที่ร่วมรณรงค์คัดค้านและสนับสนุนการฟ้องคดีดังกล่าวยื่นต่อศาลปกครองด้วย โดยประเด็นการฟ้องคดี มีดังนี้
 
มติของ กสทช. ในการประชุม กสทช. นัดพิเศษ ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 20 ต.ค.65 ที่เห็นว่า การรวมธุรกิจในกรณีนี้ ไม่เป็นการถือครองธุรกิจในบริการประเภทเดียวกันตามข้อ 8 ของประกาศ กทช. เรื่อง มาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2549 โดยนัยของผลตามข้อ 9 ของประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคมและให้พิจารณาดำเนินการตามประกาศฉบับปี 2561 โดยรับทราบการรวมธุรกิจ รวมถึงการกำหนดเงื่อนไข/มาตรการเฉพาะ เป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งในด้านเนื้อหาและกระบวนการ
 
สาเหตุที่กระบวนการลงมติฯ มิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจาก ก่อนมีการลงมติฯ กสทช.ไม่ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผู้ใช้บริการก่อนกำหนดเงื่อนไขและมาตรการเฉพาะ ทั้งที่มติดังกล่าวกระทบกับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีจำนวนมากกว่า 118 ล้านเลขหมาย โดยเฉพาะผู้ใช้บริการของทรูและดีแทคที่มีจำนวนสูงถึง 60 ล้านเลขหมาย คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด และก่อนการลงมติคณะกรรมการ กสทช. ยังไม่ได้ดำเนินการรับฟังรายงานฉบับสมบูรณ์ของที่ปรึกษาต่างประเทศที่ทางสำนักงานฯ ได้ว่าจ้าง
 
อีกทั้ง ในการลงมติฯ ประธานได้ออกเสียงชี้ขาดขัดต่อระเบียบคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ว่าด้วยข้อบังคับการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ.2555
 
นอกจากนี้ เนื้อหาของมติดังกล่าวก็มิชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน โดยขัดต่อข้อ 9 ของประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจ ในกิจการโทรคมนาคม และให้พิจารณาดำเนินการตามประกาศฉบับปี 2561 ประกอบข้อ 8 ของประกาศ กทช. เรื่อง มาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2549 ที่ระบุถึงอำนาจของคณะกรรมการ กสทช. ไว้อย่างชัดแจ้ง โดยในการลงมติจะต้องเป็นการอนุญาต หรือไม่อนุญาตเท่านั้น การที่มติของ กสทช. เพียง “รับทราบ”
 
จึงเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งมาตรการและเงื่อนไขดังที่ กสทช. กำหนด ยังคงได้รับข้อท้วงติงจากนักเศรษฐศาสตร์ทั้งก่อนและหลังการมีมติ ว่าไม่สามารถแก้ไขหรือลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้โดยยังขาดการกำหนดมาตรการและเงื่อนไขที่เข้มข้นในเชิงโครงสร้างและยังคงต้องเพิ่มประสิทธิภาพของการกำกับเชิงพฤติกรรม
 
จากพฤติการณ์ของ กสทช. ดังกล่าวข้างต้น อาจถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะและดำเนินการให้เกิดการแข่งขันโดยเสรีและเป็นธรรม ซึ่งอาจเป็นการกระทำที่ถือได้ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 60 และขัดต่อพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 รวมถึงขัดต่อพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ตลอดจนไม่เป็นไปตามแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2562 - 2566)
 
ดังนั้น สภาองค์กรของผู้บริโภคจึงได้ยื่นคำขอไต่สวนฉุกเฉิน และขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา เพื่อขอให้ศาลโปรดมีคำสั่ง ดังนี้
 
1. ขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติรับทราบการรวมธุรกิจระหว่างทรูและดีแทค ในการประชุม กสทช. นัดพิเศษ ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ทั้งหมด โดยให้ผลแห่งการทุเลาคำสั่งมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2565
 
2. ขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งห้ามหรือระงับการกระทำและนิติกรรมที่เกี่ยวข้องหรือเกี่ยวเนื่องมติรับทราบการรวมธุรกิจระหว่างทรูและดีแทค ในการประชุม กสทช. นัดพิเศษ ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ทั้งหมดจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
 
3. ขอให้ศาลมีคำสั่งให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยดำเนินการชะลอหรือระงับการรับซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านการควบบริษัทระหว่างทรูและดีแทคไว้ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
 
 4. ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัด กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ชะลอหรือระงับการรับจดทะเบียนและการดำเนินการควบรวมบริษัททรูและดีแทคไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
 
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/9s5s2p0-iSk
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่