ผมทำแผนเที่ยวภาคเหนือของประเทศปากีสถาน ด้วยตัวเอง 9 คืน 10 วัน ช่วง 22-31 ต.ค.2565 เช่ารถจากเมืองอิสลามาบัดขับขึ้นเที่ยวภาคเหนือของปากีฯ ไป-กลับ โดยมีผู้ร่วมเดินทางทั้งหมด 5 คน คนไทย 3 คน คนปากีฯ 2 คน (เจ้าของบริษัทรถเช่าและลูกน้อง) ผมและเพื่อนคนไทย แบ่งกันจองที่พัก ที่พักในส่วนที่ผมเป็นคนจอง ผมจองผ่าน booking.com (ผมใช้ booking จองที่พักเป็นประจำ ก็เคยลองใช้ agoda บ้าง แต่ไม่ถูกใจ ซึ่งที่พักในภาคเหนือของปากีฯ มีเฉพาะบางที่เท่านั้น ที่มีให้จองผ่าน agoda หรือ booking ได้) เพื่อนผมได้จองที่พักที่ชื่อ Egale nest Hotel อยู่ที่เมือง Karimabad (Hunza) โดยจองผ่าน agoda.com แบบยกเลิกไม่ได้ ตัดเงินผ่านบัตรเครดิต ซึ่งโรงแรมนี้เป็นโรงแรมในเครือ PTDC (Pakistan Tourism Development Corporation) ในเครือของรัฐ อยู่ในตำแหน่งที่ดี อยู่มุมสูงในหุบเขา เห็นวิวมุมสูงในหุบเขาได้โดยรอบ และค่าห้องพักมักแพง ซึ่งทัวร์ไทยและทัวร์ชาติอื่นนิยมพักที่นี่กันมาก
พวกผมมีโปรแกรมพักที่ Eagle Nest Hotel ในวันพฤหัสบดีที่ 27 ต.ค.2565 โดยเพื่อนผมได้จองที่พักนี้ล่วงหน้าไว้นานแล้วผ่าน agoda.com จำนวน 2 ห้อง แต่เมื่อไปถึง รร. Eagle nest ปรากฏว่าทางโรงแรมบอกไม่ได้รับข้อมูลการจองผ่าน agoda ของเพื่อนผม ทั้งที่การจองของเพื่อนผมได้ชำระค่าที่พักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้ชำระตัดผ่านบัตรเครดิตแล้ว ที่ราคา 2,835.7 บาท และ 2,808.8 บาท หมายเลขการจอง 759094309 และ 769405885 (ตอนแรกจองห้องเดียว แล้วมาจองเพิ่มอีกห้อง) ทางโรงแรมได้บอกว่าเขาได้แจ้งยกเลิกการให้จองผ่าน agoda ไปแล้ว เขาจึงไม่ให้ห้องกับพวกผม ฉนั้นที่เพื่อนผมจองได้น่าจะเป็นการจองผ่านตัวแทน/ตัวกลาง และตัวแทน/ตัวกลางไม่ได้แจ้งให้กับทางโรงแรมทราบ หรืออย่างไร สรุปก็คือพวกผมไม่ได้ห้องพักที่ Eagle Nest Hotel ในคืนนั้น โดยที่ ที่พักก็ยังไม่เต็ม เพราะพนง.ที่ Eagle Nest Hotel ยังได้บอกว่า ถ้าพวกผมต้องการจะพักที่นี่จริงๆ เขามีห้อง แต่ราคาต่อห้องสูงกว่าที่เพื่อนผมจองไว้ราวเท่าตัว พวกผมต้องจ่ายเพิ่ม พวกผมจึงไม่เอา พวกผมได้ขอให้ทางโรงแรมออกหนังสือรับรองว่า พวกผมไม่ได้เข้าพักที่ Eagle nest Hotel ในวันดังกล่าว และพนง.รร.ก็พิมพ์หนังสือให้ และยังได้บอกพวกผมว่าให้ระวังเป็น Scam และอาจถูกหลอกได้ ซึ่งบุคคลตัวแทน/ตัวกลางคนนี้ ได้เคยโทร whatapp มาถามเพื่อนผม(คนที่จองห้อง)ตอนเพื่อนผมยังอยู่ในไทยยังไมได้ออกเดินทาง ว่า “คุณจองห้องพักที่ Eagle Nest วันที่ 27 ต.ค.ไว้ใช่ไหม ” (ซึ่งคงเป็นคนปากีฯ เพราะคนในปากีฯ ใช้ whatapp)
ตอนนั้นพวกผมเลยให้เพื่อนร่วมทาง (คนปากีฯ) โทรติดต่อคุยกับตัวแทน/ตัวกลางที่เพื่อนผมจองห้อง ผ่านทาง whatsapp ตัวแทน/ตัวกลางคนนั้นบอกว่า เขายินดีหาที่พักแถวนั้นแทนให้ในอัตรา และเรท เดียวกันกับ Eagle Nest โดยพวกผมไม่มีค่าใช้จ่าย โดยได้บอกให้พวกผมไปพักที่โรงแรมชื่อ Tourist Cottage Hunza ซึ่งต้องขับรถลงเขา ไกลจาก Eagle Nest 6.6 ก.ม. พอไปถึงที่พักดังกล่าว เป็นโรงแรมที่อยู่ในหุบเขา Hunza เช่นกัน แต่อยู่ต่ำกว่า Eagle Nest มาก เห็นวิวในวิวหุบเขาไม่ถนัดเพราะมีต้นไม้และอาคารอื่นบัง และที่สำคัญราคาห้องถูกกว่า Eagle nest มาก (ผมกลับมาไทยผมได้เช็คใน google map และใน booking ห้อง 3 คน และห้อง 2 คน ที่ผวกผมไปนอน คืนละราว 433 บ.เอง ราคาถูกกว่า Eagla Nest ตั้ง 6.5 เท่า) และไฟฟ้าในห้องพักก็มีแค่หลอดใส้แดงๆ 2 ดวง สว่างแค่พอมองเห็นอะไรๆได้บ้าง ปลั๊กไฟในห้องพักก็ใช้ชาร์จอะไรไม่ได้เลย ส่วนในห้อง Reception ผมเห็นเขามีแบตเตอรี่รถยนต์ขนาดใหญ่วางต่อพ่วงระบบไฟฟ้าไว้ (ชาร์จมือถือที่ห้อง Reception ได้)
เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย เพื่อนผมคนที่จองห้องผ่าน agoda ได้ติดต่อคุยเรื่องนี้กับ Call center ของ agoda และได้รับการแจ้งว่า staff ของโรงแรม Eagle nest ชื่อว่า Shahzeb บอกว่าพวกผมยอมรับการเปลี่ยนแปลงห้องเอง จึงถือว่า การจองสมบูรณ์แล้ว พวกผมจึงไม่สามารถเรียกร้องขอเคลมอะไรได้ เพื่อนผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็จำต้องยอมรับไป ทั้งที่พวกผมจ่ายเงินค่าที่พักที่ รร.Eagle Nest แพงกว่าที่ Tourist Cottage Hunza ตั้ง 6.5 เท่า เท่ากับว่าพวกผมสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนราว 4777 บ. (ส่วนต่างระหว่างสองที่พัก) ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก และเสียความรู้สึกมากๆ กับ agoda และ Eagle Nest พวกผมก็พลาดที่ตอนนั้นต่างเข้าใจกันว่า เขาช่วยแก้ปัญหาให้ ช่วยหาที่พักทดแทนให้ แล้วออกหนังสือยืนยันว่าเราไม่ได้พักที่ Eagle Nest ให้เรากลับมาเคลมเงินคืนจาก agoda เอาเอง
และที่พวกผมสงสัยคือ ทางโรงแรม Eagle Nest รู้ได้อย่างไร ที่แจ้งว่า พวกผมยอมรับการพักที่โรงแรมอื่น พวกเค้าทราบได้อย่างไร ว่าพวกผมไปพักที่ไหน ประกอบกับในวันนั้น ทาง Eagle Nest ยังได้ออกหนังสือรับรองให้ว่าพวกผมไม่ได้พักที่ Eagle Nest ในวันนั้น และแจ้งผ่านทาง agoda ว่า ทราบว่าพวกผมได้ไปพักกันที่ไหน
ถือเป็นบทเรียนและเป็นประสพการณ์ ซึ่งเคสนี้ พวกผมคิดว่า ทางแก้ปัญหา ที่จะสามารถกลับมาเคลมเงินคืนจาก agoda ได้ อาจต้องดำเนินการดังนี้ คือ
1. เราต้องขอหลักฐานยืนยันจาก Eagle Nest ว่าเราได้มาถึงรร.แล้ว แต่ไม่ได้ห้องพัก แล้วเราต้องหาที่พักอื่นเอง และจ่ายเงินเองต่างหาก แล้วเอาใบเสร็จจากที่พักใหม่นั้น กลับมาเคลมเงินคืนจาก agoda
หรือ
2. โทรหา agoda ณ ตอนนั้น ให้เค้าติดต่อประสานหาโรงแรมให้ใหม่ ในประเภทห้อง และราคาที่ใกล้เคียงกัน ไม่ใช่ประสานกับตัวแทน/คนกลาง แต่ ณ วันนั้น พวกเราอยู่ ณ ตรงนั้น เป็นเรื่องยากที่จะโทรหา agoda ในไทย เพราะสัญญาณเน็ตที่นั่นพึ่งไม่ได้
จองที่พัก(แบบยกเลิกไม่ได้) ผ่าน agoda ตัดเงินผ่านบัตรเครดิตแล้ว แต่ไม่ได้ห้องพัก กลับมาถึงไทยเคลมไรไม่ได้เลย
พวกผมมีโปรแกรมพักที่ Eagle Nest Hotel ในวันพฤหัสบดีที่ 27 ต.ค.2565 โดยเพื่อนผมได้จองที่พักนี้ล่วงหน้าไว้นานแล้วผ่าน agoda.com จำนวน 2 ห้อง แต่เมื่อไปถึง รร. Eagle nest ปรากฏว่าทางโรงแรมบอกไม่ได้รับข้อมูลการจองผ่าน agoda ของเพื่อนผม ทั้งที่การจองของเพื่อนผมได้ชำระค่าที่พักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้ชำระตัดผ่านบัตรเครดิตแล้ว ที่ราคา 2,835.7 บาท และ 2,808.8 บาท หมายเลขการจอง 759094309 และ 769405885 (ตอนแรกจองห้องเดียว แล้วมาจองเพิ่มอีกห้อง) ทางโรงแรมได้บอกว่าเขาได้แจ้งยกเลิกการให้จองผ่าน agoda ไปแล้ว เขาจึงไม่ให้ห้องกับพวกผม ฉนั้นที่เพื่อนผมจองได้น่าจะเป็นการจองผ่านตัวแทน/ตัวกลาง และตัวแทน/ตัวกลางไม่ได้แจ้งให้กับทางโรงแรมทราบ หรืออย่างไร สรุปก็คือพวกผมไม่ได้ห้องพักที่ Eagle Nest Hotel ในคืนนั้น โดยที่ ที่พักก็ยังไม่เต็ม เพราะพนง.ที่ Eagle Nest Hotel ยังได้บอกว่า ถ้าพวกผมต้องการจะพักที่นี่จริงๆ เขามีห้อง แต่ราคาต่อห้องสูงกว่าที่เพื่อนผมจองไว้ราวเท่าตัว พวกผมต้องจ่ายเพิ่ม พวกผมจึงไม่เอา พวกผมได้ขอให้ทางโรงแรมออกหนังสือรับรองว่า พวกผมไม่ได้เข้าพักที่ Eagle nest Hotel ในวันดังกล่าว และพนง.รร.ก็พิมพ์หนังสือให้ และยังได้บอกพวกผมว่าให้ระวังเป็น Scam และอาจถูกหลอกได้ ซึ่งบุคคลตัวแทน/ตัวกลางคนนี้ ได้เคยโทร whatapp มาถามเพื่อนผม(คนที่จองห้อง)ตอนเพื่อนผมยังอยู่ในไทยยังไมได้ออกเดินทาง ว่า “คุณจองห้องพักที่ Eagle Nest วันที่ 27 ต.ค.ไว้ใช่ไหม ” (ซึ่งคงเป็นคนปากีฯ เพราะคนในปากีฯ ใช้ whatapp)
ตอนนั้นพวกผมเลยให้เพื่อนร่วมทาง (คนปากีฯ) โทรติดต่อคุยกับตัวแทน/ตัวกลางที่เพื่อนผมจองห้อง ผ่านทาง whatsapp ตัวแทน/ตัวกลางคนนั้นบอกว่า เขายินดีหาที่พักแถวนั้นแทนให้ในอัตรา และเรท เดียวกันกับ Eagle Nest โดยพวกผมไม่มีค่าใช้จ่าย โดยได้บอกให้พวกผมไปพักที่โรงแรมชื่อ Tourist Cottage Hunza ซึ่งต้องขับรถลงเขา ไกลจาก Eagle Nest 6.6 ก.ม. พอไปถึงที่พักดังกล่าว เป็นโรงแรมที่อยู่ในหุบเขา Hunza เช่นกัน แต่อยู่ต่ำกว่า Eagle Nest มาก เห็นวิวในวิวหุบเขาไม่ถนัดเพราะมีต้นไม้และอาคารอื่นบัง และที่สำคัญราคาห้องถูกกว่า Eagle nest มาก (ผมกลับมาไทยผมได้เช็คใน google map และใน booking ห้อง 3 คน และห้อง 2 คน ที่ผวกผมไปนอน คืนละราว 433 บ.เอง ราคาถูกกว่า Eagla Nest ตั้ง 6.5 เท่า) และไฟฟ้าในห้องพักก็มีแค่หลอดใส้แดงๆ 2 ดวง สว่างแค่พอมองเห็นอะไรๆได้บ้าง ปลั๊กไฟในห้องพักก็ใช้ชาร์จอะไรไม่ได้เลย ส่วนในห้อง Reception ผมเห็นเขามีแบตเตอรี่รถยนต์ขนาดใหญ่วางต่อพ่วงระบบไฟฟ้าไว้ (ชาร์จมือถือที่ห้อง Reception ได้)
เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย เพื่อนผมคนที่จองห้องผ่าน agoda ได้ติดต่อคุยเรื่องนี้กับ Call center ของ agoda และได้รับการแจ้งว่า staff ของโรงแรม Eagle nest ชื่อว่า Shahzeb บอกว่าพวกผมยอมรับการเปลี่ยนแปลงห้องเอง จึงถือว่า การจองสมบูรณ์แล้ว พวกผมจึงไม่สามารถเรียกร้องขอเคลมอะไรได้ เพื่อนผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็จำต้องยอมรับไป ทั้งที่พวกผมจ่ายเงินค่าที่พักที่ รร.Eagle Nest แพงกว่าที่ Tourist Cottage Hunza ตั้ง 6.5 เท่า เท่ากับว่าพวกผมสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนราว 4777 บ. (ส่วนต่างระหว่างสองที่พัก) ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก และเสียความรู้สึกมากๆ กับ agoda และ Eagle Nest พวกผมก็พลาดที่ตอนนั้นต่างเข้าใจกันว่า เขาช่วยแก้ปัญหาให้ ช่วยหาที่พักทดแทนให้ แล้วออกหนังสือยืนยันว่าเราไม่ได้พักที่ Eagle Nest ให้เรากลับมาเคลมเงินคืนจาก agoda เอาเอง
และที่พวกผมสงสัยคือ ทางโรงแรม Eagle Nest รู้ได้อย่างไร ที่แจ้งว่า พวกผมยอมรับการพักที่โรงแรมอื่น พวกเค้าทราบได้อย่างไร ว่าพวกผมไปพักที่ไหน ประกอบกับในวันนั้น ทาง Eagle Nest ยังได้ออกหนังสือรับรองให้ว่าพวกผมไม่ได้พักที่ Eagle Nest ในวันนั้น และแจ้งผ่านทาง agoda ว่า ทราบว่าพวกผมได้ไปพักกันที่ไหน
ถือเป็นบทเรียนและเป็นประสพการณ์ ซึ่งเคสนี้ พวกผมคิดว่า ทางแก้ปัญหา ที่จะสามารถกลับมาเคลมเงินคืนจาก agoda ได้ อาจต้องดำเนินการดังนี้ คือ
1. เราต้องขอหลักฐานยืนยันจาก Eagle Nest ว่าเราได้มาถึงรร.แล้ว แต่ไม่ได้ห้องพัก แล้วเราต้องหาที่พักอื่นเอง และจ่ายเงินเองต่างหาก แล้วเอาใบเสร็จจากที่พักใหม่นั้น กลับมาเคลมเงินคืนจาก agoda
หรือ
2. โทรหา agoda ณ ตอนนั้น ให้เค้าติดต่อประสานหาโรงแรมให้ใหม่ ในประเภทห้อง และราคาที่ใกล้เคียงกัน ไม่ใช่ประสานกับตัวแทน/คนกลาง แต่ ณ วันนั้น พวกเราอยู่ ณ ตรงนั้น เป็นเรื่องยากที่จะโทรหา agoda ในไทย เพราะสัญญาณเน็ตที่นั่นพึ่งไม่ได้