เราเข้าอากู๋ไปเช็กข่าวล่าสุดเกี่ยวกับการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์มาแล้วเมื่อกี๊ เหมือนกับว่าตอนนี้เขากำลังดำเนินการและอยู่ในช่วงการต่อราคาค่าลิขสิทธิ์กันอยู่นะ แต่เหลือเวลาอีก 10 กว่าวันแล้ว นี่ก็วันที่ 6 แล้ว รอลุ้นว่าสุดท้ายแล้วคนไทยอย่างเราจะได้ดูฟุตบอลโลกครั้งนี้ฟรีครบทุกคู่กันไหม?
แต่ประเด็นเรื่องค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่มีมูลค่าสูงถึง 1,600 ล้านบาท มันแพงขนาดนั้นเลยเหรอ? ถ้าจะให้คนไทยได้ดูบอลโลกฟรีครบทุกคู่ ลดลงมาเหลือสักประมาณ 6-8 ร้อยล้านไม่ได้เหรอ? 1.6 พันล้าน เราก็ว่ามันแพงเกินไปจริง ๆ น่ะแหละ โอเค ถ้าไทยจะซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกมาถ่ายในราคานี้ก็ซื้อได้นะ แต่ถ้าให้เราดูฟรีเป็นบางคู่แล้วให้เราไปเสียเงินสมัครแอพเพื่อดูครบทุกคู่แบบดูละครเกาหลีในแอพต่าง ๆ เช่น Viu หรือ เน็ตฟลิกซ์ อย่างนี้ มันก็ไม่ไหวนะ ต้องเดือดร้อนไปโหลดแอพนั้นมาดูให้เปลืองพื้นที่โทรศัพท์อีก อีกทั้งคนไทยอย่างเราก็ดูบอลโลกฟรีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งน่าจะรู้กันอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าจะซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกมาถ่าย ต้องให้คนไทยได้ดูฟรีครบทุกคู่ แต่ค่าลิขสิทธิ์ก็ไม่ควรจะแพงเกิน 1,000 ล้านบาท ไม่งั้นซื้อไม่ไหว คนไทยก็คงจะไม่ได้ฟุตบอลโลกแบบนี้ทุกครั้ง
ส่วนกฎ Must have และกฎ Must carry เห็นมีคนบอกว่าให้ยกเลิกกฎนี้ทิ้งซะ เราว่าไม่ต้องไปยกเลิกมันหรอก Must have กับ Must carry น่ะ เราเห็นว่ากฎนี้มันดีอยู่แล้วล่ะ เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้เราได้ดูฟุตบอลโลกฟรีกันครบทุกคู่ แต่ยอมรับว่ากฎนี้มีปัญหา ทำให้เวลามีคนซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก หรือ กีฬาโอลิมปิก ไปถ่าย มักจะทำให้เราไม่สามารถดูการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกหรือโอลิมปิกในแอพดูทีวีได้ทุกแอพ ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าทรูไอดีซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ เราที่ใช้ AIS Play ก็จะดูบอลโลกในแอพนั้นไม่ได้ เนื่องจากด้วยเรื่องของลิขสิทธิ์ ต้องไปดูในแอพทรูไอดีอย่างเดียว ดังนั้น ในเมื่อ กสทช. ออกกฎ Must have และ Must carry ออกมาแล้ว แทนที่จะให้ยกเลิก ก็ควรที่จะบังคับใช้กฎนี้อย่างจริงจัง และ ทำการแก้ไขกฎ Must carry ให้ระบุชัดเจนไปเลยว่า ต่อไปนี้ใครที่ใช้แอพดูทีวียอดนิยมอย่าง AIS Play, ทรูไอดี, Loox TV, PSI จะต้องได้ดูการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก, กีฬาโอลิมปิก, กีฬาพาราลิมปิก, กีฬาเอเชี่ยนเกมส์, กีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์, กีฬาซีเกมส์ และ กีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ผ่านช่องฟรีทีวีที่ออกอากาศอยู่ในแอพหรือแพลตฟอร์มเหล่านี้ด้วย เพื่อให้คนไทยอย่างเราได้ดูฟุตบอลโลก หรือ กีฬาโอลิมปิกซึ่งเป็นกีฬาของมวลมนุษยชาติได้ทุกครั้งต่อไป นอกจากเรื่องค่าลิขสิทธิ์ที่จะต้องถูกลงแล้ว จะได้ไม่มีปัญหาว่าคนใช้ทรูไอดีดูบอลโลกได้ แต่เราใช้ AIS Play ดูไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
เราดูฟุตบอลโลกมาตั้งแต่เด็ก จำได้ว่าดูฟุตบอลโลกปี 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ มันอาจจะไม่ใช่ฟุตบอลโลกครั้งแรกสุดที่เด็กชายกุกจงได้ดู แต่มันเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่เด็กชายกุกจงได้รู้จักกับคำว่า "ฟุตบอลโลก" แล้วหลังจากนั้นเราก็ได้ดูฟุตบอลโลกทุกครั้งเรื่อยมา ซึ่งถ้าฟุตบอลโลกครั้งนี้ไม่มีใครซื้อลิขสิทธิ์มาถ่ายทอดสดแล้วประเทศไทยก็จะไม่ได้ดูฟุตบอลโลกครั้งนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ๆ เลยนะ เพราะเราเองก็อยากดูเหมือนกัน
ฟุตบอลโลก 2022: สุดท้ายแล้ว คนไทยจะได้ดูฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่กาตาร์ไหม แล้วค่าลิขสิทธิ์ 1,600 ล้าน มันแพงมากขนาดนั้นเลยรึ
แต่ประเด็นเรื่องค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่มีมูลค่าสูงถึง 1,600 ล้านบาท มันแพงขนาดนั้นเลยเหรอ? ถ้าจะให้คนไทยได้ดูบอลโลกฟรีครบทุกคู่ ลดลงมาเหลือสักประมาณ 6-8 ร้อยล้านไม่ได้เหรอ? 1.6 พันล้าน เราก็ว่ามันแพงเกินไปจริง ๆ น่ะแหละ โอเค ถ้าไทยจะซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกมาถ่ายในราคานี้ก็ซื้อได้นะ แต่ถ้าให้เราดูฟรีเป็นบางคู่แล้วให้เราไปเสียเงินสมัครแอพเพื่อดูครบทุกคู่แบบดูละครเกาหลีในแอพต่าง ๆ เช่น Viu หรือ เน็ตฟลิกซ์ อย่างนี้ มันก็ไม่ไหวนะ ต้องเดือดร้อนไปโหลดแอพนั้นมาดูให้เปลืองพื้นที่โทรศัพท์อีก อีกทั้งคนไทยอย่างเราก็ดูบอลโลกฟรีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งน่าจะรู้กันอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าจะซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกมาถ่าย ต้องให้คนไทยได้ดูฟรีครบทุกคู่ แต่ค่าลิขสิทธิ์ก็ไม่ควรจะแพงเกิน 1,000 ล้านบาท ไม่งั้นซื้อไม่ไหว คนไทยก็คงจะไม่ได้ฟุตบอลโลกแบบนี้ทุกครั้ง
ส่วนกฎ Must have และกฎ Must carry เห็นมีคนบอกว่าให้ยกเลิกกฎนี้ทิ้งซะ เราว่าไม่ต้องไปยกเลิกมันหรอก Must have กับ Must carry น่ะ เราเห็นว่ากฎนี้มันดีอยู่แล้วล่ะ เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้เราได้ดูฟุตบอลโลกฟรีกันครบทุกคู่ แต่ยอมรับว่ากฎนี้มีปัญหา ทำให้เวลามีคนซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก หรือ กีฬาโอลิมปิก ไปถ่าย มักจะทำให้เราไม่สามารถดูการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกหรือโอลิมปิกในแอพดูทีวีได้ทุกแอพ ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าทรูไอดีซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ เราที่ใช้ AIS Play ก็จะดูบอลโลกในแอพนั้นไม่ได้ เนื่องจากด้วยเรื่องของลิขสิทธิ์ ต้องไปดูในแอพทรูไอดีอย่างเดียว ดังนั้น ในเมื่อ กสทช. ออกกฎ Must have และ Must carry ออกมาแล้ว แทนที่จะให้ยกเลิก ก็ควรที่จะบังคับใช้กฎนี้อย่างจริงจัง และ ทำการแก้ไขกฎ Must carry ให้ระบุชัดเจนไปเลยว่า ต่อไปนี้ใครที่ใช้แอพดูทีวียอดนิยมอย่าง AIS Play, ทรูไอดี, Loox TV, PSI จะต้องได้ดูการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก, กีฬาโอลิมปิก, กีฬาพาราลิมปิก, กีฬาเอเชี่ยนเกมส์, กีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์, กีฬาซีเกมส์ และ กีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ผ่านช่องฟรีทีวีที่ออกอากาศอยู่ในแอพหรือแพลตฟอร์มเหล่านี้ด้วย เพื่อให้คนไทยอย่างเราได้ดูฟุตบอลโลก หรือ กีฬาโอลิมปิกซึ่งเป็นกีฬาของมวลมนุษยชาติได้ทุกครั้งต่อไป นอกจากเรื่องค่าลิขสิทธิ์ที่จะต้องถูกลงแล้ว จะได้ไม่มีปัญหาว่าคนใช้ทรูไอดีดูบอลโลกได้ แต่เราใช้ AIS Play ดูไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
เราดูฟุตบอลโลกมาตั้งแต่เด็ก จำได้ว่าดูฟุตบอลโลกปี 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ มันอาจจะไม่ใช่ฟุตบอลโลกครั้งแรกสุดที่เด็กชายกุกจงได้ดู แต่มันเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่เด็กชายกุกจงได้รู้จักกับคำว่า "ฟุตบอลโลก" แล้วหลังจากนั้นเราก็ได้ดูฟุตบอลโลกทุกครั้งเรื่อยมา ซึ่งถ้าฟุตบอลโลกครั้งนี้ไม่มีใครซื้อลิขสิทธิ์มาถ่ายทอดสดแล้วประเทศไทยก็จะไม่ได้ดูฟุตบอลโลกครั้งนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ๆ เลยนะ เพราะเราเองก็อยากดูเหมือนกัน