เคยเข้ามาหาข้อมูลท่องเที่ยวต่างๆในพันทิปหลายต่อหลายครั้ง
เลยอยากจะมาแบ่งปันข้อมูลไว้ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เดินทางท่านอื่นๆนะคะ
ทริปนี้เป็นทริปที่วางแผนไว้ตั้งแต่ 2019 และหยุดค้างไว้เพราะโควิดมากว่า 3 ปี เลย ในที่สุดก็จะได้ไปเที่ยวต่างประเทศอีกครั้งแล้ว
ช่วงเวลาคือช่วงสิ้นปี คาบเกี่ยวปีใหม่ค่ะ
เกี่ยวกับผู้เดินทาง
ผู้เดินทาง 2 คน เป็นพี่น้องกันนะคะ
เรา(อายุ 36) มีงานประจำที่บริษัทเอกชนสัญชาติญี่ปุ่น ทำมานาน 14 ปีแล้วค่ะ
ส่วนน้องสาว (อายุ32) ไม่ได้ทำงานประจำ อาศัยอยู่บ้านเดียวกับเราและคอยช่วยเหลืองานต่างๆทั่วไป
เราเป็นสปอนเซอร์ให้น้องสาวบางส่วนนะคะ
Timeline การขอวีซ่านะคะ
-ยื่นขอวีซ่าผ่านเว็ปไซต์ วันที่ 30 กันยายน 65
-ไปยื่นเอกสาร วันที่ 5 ตุลาคม 65 ที่ VFS อาคาร Trendy ชั้น 8 ตอนนัดคิวคือมีวันว่างหลายวันเลย (ทำให้หลงเชื่อว่าคนขอไม่เยอะ)
-วันที่ 5 ตุลาคม 65 น้องสาวได้รับอีเมลล์ว่าเอกสารส่งไปที่สถานฑูตแล้ว
ส่วนเมลล์เราไม่ได้ค่ะ (SMS ไม่ได้รับค่ะ จ่ายเงินแล้วแท้ๆ) ทำให้หลงเชื่อว่าน่าจะใช้เวลาไม่นาน (หลงคิดไปเองครั้งที่2)
- น้องสาวได้รับเมลล์และSMS ว่าจะส่งเล่มพาสปอร์ตกลับ วันที่ 3 พฤศจิกายน ส่วนเราได้แต่ SMS ค่ะ
-Thai post มาส่งเอกสารวันถัดมาคือ 4 พฤศจิกายน ค่ะ ผลคือผ่านนะคะ
การยื่นขอผ่านเว็ปไซต์
เราเคยอ่านเจอว่าสามารถขอแบบกลุ่มได้ถ้าเดินทางพร้อมกัน แต่เมื่อดูที่หน้าเว็ปไซต์
มีระบุไว้ชัดเจนว่าแบบกลุ่มสำหรับเอเจนซี่ที่สถานฑูตรับรองเท่านั้น เลยโทรไปสอบถามที่ VFS
ได้รับคำตอบว่าแนะนำให้ยื่นคนละบัญชี เนื่องจากสถาฑูตพิจารณาเป็นรายคนอยู่แล้ว เราก็โอเคค่ะ
ทำตามที่ทางเจ้าหน้าที่แนะนำ และระบุเวลานัดต่อกันเลย
การเตรียมเอกสาร
เช็คลิสต์ที่ระบุมาให้ เหมือนจะครบถ้วนแต่ที่จริงแล้ว มีเอกสารต้องใช้นอกเหนือจากนั้น
(ต้องขอบคุณหลายๆรีวิวในพันทิปด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นต้องเสียค่าถ่ายเอกสารที่แพงกว่าปกติหลายเท่าแน่ๆเลย)
เอกสารของเรา
-ไม่ซับซ้อนเพราะมีงานประจำนะคะ เอกสารเช่นใบรับรองการทำงาน บริษัทเรามีวันหยุดค่อนข้างยาวช่วงปีใหม่
เลยไม่ได้ลางานเพิ่ม ตรงนี้เลยขอให้ทางบริษัทระบุว่า เราได้รับให้เดินทางไปต่างประเทศในช่วงเวลาดังกล่าว
และจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปฏิทินบริษัท พร้อมแนบปฏิทินของบริษัท
-สเตทเม้นท์ 6 เดือน ยอดคงเหลือ ณ วันที่ขอประมาณ 2 แสนบาท
-สำเนาสลิปเงินเดือน 3 เดือน *ต้องถ่ายเอกสารให้อยู่ในรูปแบบ A4 เท่านั้น
(เราแนบตัวจริงไปค่ะ โดนค่าถ่ายเอกสาร แผ่นละหลายบาทเลย)
-สำเนาใบแจ้งยอดเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เราแนบไปเพราะว่ายอดเงินเดือนที่เข้าบัญชีแต่ละเดือนเป็นยอดหลังหักค่าต่างๆไปแล้ว
ในจดหมายแนะนำตัวเราเลยอธิบายว่า ยอดเงินที่ปรากฎคือยอดหลังหัก PVD และ House loan เลยแนบใบนี้ไปด้วยค่ะ
-จดหมายแนะนำตัว บอกว่าทำไมอยากไปเที่ยว, ที่มาของรายได้,เดินทางไปกับใคร และมีความผูกพันธ์อะไรกับประเทศไทย
เราระบุไปว่า ต้องกลับมาทำงาน และกลับมาผ่อนบ้านที่ผ่อนมานานเกือบ 10 ปีแล้ว
เอกสารของน้องสาว
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราขอวีซ่าเชงเก้นกันค่ะ เดิมเคยคิดจะให้น้องสาวใช้สถานะนักศึกษาโดยการลงเรียนป.โทหรืออะไรไว้ดีไหม
เพื่อสร้างภาระผูกพัน แต่ไปๆมาๆ เราก็ไม่อยากจะ Make ข้อมูลอะไรให้เกิดคำถามในการพิจารณามากมาย เลยเอาแบบจริงใจไปเลยดีกว่า
ตั้งแต่เริ่มแพลนมา เรามีการเปลี่ยนการให้เงินใช้จ่ายประจำเดือนของน้อง (ปกติที่บ้านจะให้เป็นเงินสดบ้างโอนบ้าง)
เลยเปลี่ยนมาเป็นการโอนเข้าบัญชีแทน ทีนี้ก็จะสร้างสเตทเม้นต์ของน้องได้ ว่ามีรายได้จากครอบครัวเป็นคนให้
ในเว็ปไซต์ระบุส่วนของน้องสาวว่า มีอาชีพ เป็น Domestic Worker for my own family
และใส่ที่อยู่ที่บ้านเราไปเลยค่ะ
-จดหมายแนะนำตัวก็ระบุว่าเดินทางไปเป็นเพื่อนกับพี่สาว ปกติไปเที่ยวด้วยกันในวันหยุดยาว ระบุประเทศที่เคยไปด้วยกัน เพิ่มเติมว่า ได้รับเงินเดือนโดยคนในครอบครัวจ่าย เดือนละ XXXX ตามที่มียอดเงินเข้า ระบุว่าในทริปนี้พี่สาวจะจ่ายค่าเครื่องบิน และที่พัก ส่วนค่าอาหารและอื่นๆจะจ่ายเอง
และจะกลับมาทำหน้าที่ปกติคือดูแลบ้าน ดูแลหมา และตามปฏิทินทำงานของพี่สาว
-สเตทเม้นท์ ของน้องสาว ยอดคงเหลือ ณ วันที่ขอ ประมาณ 1 แสนบาท
-จดหมายรับรองการเป็นสปอนเซอร์ โดยเราเขียนให้สอดคล้องกันว่าจะออกค่าอะไรให้บ้าง และเรามีรายได้จากไหน
-สำเนาเอกสารเกี่ยวกับการทำงานของเรา,สเตทเม้นท์ของเรา,ปฏิทินบริษัทของเรา
-ตั๋วเครื่องบินจองเป็นตั๋วแบบ Hold ของ KLM มีค่าใช้จ่าย 1100 บาท ตัดจากบัตร ได้ตั๋วมาทางเมลล์ค่ะ
ตรงนี้มีช้อสังเกตอย่างนึงว่า ถ้าหน้าเว็ปของ KLM ที่เป็นภาษาอังกฤษจะไม่มีตัวเลือก Hold ให้ แต่เปลี่ยนเป็นภาษาไทยแล้วมีค่ะ
-ประกันสมัครของ MSIG ทางออนไลน์นะคะ สะดวกมากๆ
-แผนการท่องเที่ยว เราเดินทางแค่ออสโล-เบรเก้น จำนวนวันก็ไม่เกิน 10 วันค่ะ
ส่วนแผนการเที่ยวก็เขียนสถานที่ยอดนิยม เน้นการเที่ยวแบบ City Sigh seeing ลงค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวไม่สูงมากนะคะ
ประมาณ 1/3 ของสเตทเม้นต์เองค่ะ (แม้ความเป็นจริงจะเกินไปเยอะเลย)
นอกจากนี้ก็จะมีสำเนาหน้าพาสปอร์ตที่มีตราประทับเข้า/ออกเมือง หรือวีซ่าท่องเที่ยวทุกหน้า ของเรามีคนละ 3 เล่ม ก็ถ่ายไปทั้งหมดเลยค่ะ
เคยเดินทางไปญี่ปุ่น เกาหลี จีน เวียดนาม สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊า ค่ะ
วันที่ยื่นเอกสาร
ไปถึง VFS ก่อนเวลานัดหมายประมาณ 30 นาที ตอนแรกเจ้าหน้าที่ให้รอด้านนอกก่อน จากนั้นก็เข้าไปรับบัตรคิว
และได้เข้าไปยื่นเอกสาร ใช้เวลาสองคน 30 นาทีเท่านั้นเองค่ะ เข้าไปทีละคนนะคะ
ตอนยื่นคือรู้สึกราบรื่นมากเลยค่ะ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่แจ้งตอนสุดท้ายว่า ช่วงนี้วีซ่านานนะคะ ประมาณ 15-45 วัน
แอบตกใจแต่ก็เข้าข้างตัวเอง ว่าของจริงคงไม่นานขนาดนั้น 555
พอครบ 15 วันนี่ร้อนใจแล้วค่ะ เพราะค่าตั๋วเครื่องบินช่วงที่จะเดินทางคือขยับขึ้นทุกวันเลย
จากตอนแรกแพลนว่าว่า ขึ้นยังไงก็น่าจะประมาณ 38K /คน คือที่รับไหว
พอกลางเดือนตุลาคือตั๋วไปเกินที่รับไหวแล้ว วีซ่าก็ยังเงียบอยู่ ก็เลยตัดสินใจซื้อตั๋วซะเลยค่ะ ได้มา 42K/คน (ก็ยังเกินที่คิดอยู่ดี)
จังหวะที่ซื้อคือแบบเครียดมากเลยค่ะ เชงเก้นครั้งแรก จะผ่านไหมก็ไม่รู้ แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าถ้าวีซ่าผ่านแล้วไม่มีเงินซื้อตั๋วคงเศร้ากว่า
ในที่สุดก็ได้วีซ่ามาให้อุ่นใจแล้ว รวมเวลารอ 1 เดือนพอดีค่ะ
ได้มาพอดีวันเลย เท่าที่ศึกษาทางนอร์เวย์เหมือนจะให้พอดีวันเป็นปกติค่ะ
จบแล้วค่ะ หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อื่นบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ
[CR] แบ่งปันข้อมูลขอวีซ่าท่องเที่ยวนอร์เวย์ผ่าน VFS ตุลา 2022
เลยอยากจะมาแบ่งปันข้อมูลไว้ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เดินทางท่านอื่นๆนะคะ
ทริปนี้เป็นทริปที่วางแผนไว้ตั้งแต่ 2019 และหยุดค้างไว้เพราะโควิดมากว่า 3 ปี เลย ในที่สุดก็จะได้ไปเที่ยวต่างประเทศอีกครั้งแล้ว
ช่วงเวลาคือช่วงสิ้นปี คาบเกี่ยวปีใหม่ค่ะ
เกี่ยวกับผู้เดินทาง
ผู้เดินทาง 2 คน เป็นพี่น้องกันนะคะ
เรา(อายุ 36) มีงานประจำที่บริษัทเอกชนสัญชาติญี่ปุ่น ทำมานาน 14 ปีแล้วค่ะ
ส่วนน้องสาว (อายุ32) ไม่ได้ทำงานประจำ อาศัยอยู่บ้านเดียวกับเราและคอยช่วยเหลืองานต่างๆทั่วไป
เราเป็นสปอนเซอร์ให้น้องสาวบางส่วนนะคะ
Timeline การขอวีซ่านะคะ
-ยื่นขอวีซ่าผ่านเว็ปไซต์ วันที่ 30 กันยายน 65
-ไปยื่นเอกสาร วันที่ 5 ตุลาคม 65 ที่ VFS อาคาร Trendy ชั้น 8 ตอนนัดคิวคือมีวันว่างหลายวันเลย (ทำให้หลงเชื่อว่าคนขอไม่เยอะ)
-วันที่ 5 ตุลาคม 65 น้องสาวได้รับอีเมลล์ว่าเอกสารส่งไปที่สถานฑูตแล้ว
ส่วนเมลล์เราไม่ได้ค่ะ (SMS ไม่ได้รับค่ะ จ่ายเงินแล้วแท้ๆ) ทำให้หลงเชื่อว่าน่าจะใช้เวลาไม่นาน (หลงคิดไปเองครั้งที่2)
- น้องสาวได้รับเมลล์และSMS ว่าจะส่งเล่มพาสปอร์ตกลับ วันที่ 3 พฤศจิกายน ส่วนเราได้แต่ SMS ค่ะ
-Thai post มาส่งเอกสารวันถัดมาคือ 4 พฤศจิกายน ค่ะ ผลคือผ่านนะคะ
การยื่นขอผ่านเว็ปไซต์
เราเคยอ่านเจอว่าสามารถขอแบบกลุ่มได้ถ้าเดินทางพร้อมกัน แต่เมื่อดูที่หน้าเว็ปไซต์
มีระบุไว้ชัดเจนว่าแบบกลุ่มสำหรับเอเจนซี่ที่สถานฑูตรับรองเท่านั้น เลยโทรไปสอบถามที่ VFS
ได้รับคำตอบว่าแนะนำให้ยื่นคนละบัญชี เนื่องจากสถาฑูตพิจารณาเป็นรายคนอยู่แล้ว เราก็โอเคค่ะ
ทำตามที่ทางเจ้าหน้าที่แนะนำ และระบุเวลานัดต่อกันเลย
การเตรียมเอกสาร
เช็คลิสต์ที่ระบุมาให้ เหมือนจะครบถ้วนแต่ที่จริงแล้ว มีเอกสารต้องใช้นอกเหนือจากนั้น
(ต้องขอบคุณหลายๆรีวิวในพันทิปด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นต้องเสียค่าถ่ายเอกสารที่แพงกว่าปกติหลายเท่าแน่ๆเลย)
เอกสารของเรา
-ไม่ซับซ้อนเพราะมีงานประจำนะคะ เอกสารเช่นใบรับรองการทำงาน บริษัทเรามีวันหยุดค่อนข้างยาวช่วงปีใหม่
เลยไม่ได้ลางานเพิ่ม ตรงนี้เลยขอให้ทางบริษัทระบุว่า เราได้รับให้เดินทางไปต่างประเทศในช่วงเวลาดังกล่าว
และจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปฏิทินบริษัท พร้อมแนบปฏิทินของบริษัท
-สเตทเม้นท์ 6 เดือน ยอดคงเหลือ ณ วันที่ขอประมาณ 2 แสนบาท
-สำเนาสลิปเงินเดือน 3 เดือน *ต้องถ่ายเอกสารให้อยู่ในรูปแบบ A4 เท่านั้น
(เราแนบตัวจริงไปค่ะ โดนค่าถ่ายเอกสาร แผ่นละหลายบาทเลย)
-สำเนาใบแจ้งยอดเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เราแนบไปเพราะว่ายอดเงินเดือนที่เข้าบัญชีแต่ละเดือนเป็นยอดหลังหักค่าต่างๆไปแล้ว
ในจดหมายแนะนำตัวเราเลยอธิบายว่า ยอดเงินที่ปรากฎคือยอดหลังหัก PVD และ House loan เลยแนบใบนี้ไปด้วยค่ะ
-จดหมายแนะนำตัว บอกว่าทำไมอยากไปเที่ยว, ที่มาของรายได้,เดินทางไปกับใคร และมีความผูกพันธ์อะไรกับประเทศไทย
เราระบุไปว่า ต้องกลับมาทำงาน และกลับมาผ่อนบ้านที่ผ่อนมานานเกือบ 10 ปีแล้ว
เอกสารของน้องสาว
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราขอวีซ่าเชงเก้นกันค่ะ เดิมเคยคิดจะให้น้องสาวใช้สถานะนักศึกษาโดยการลงเรียนป.โทหรืออะไรไว้ดีไหม
เพื่อสร้างภาระผูกพัน แต่ไปๆมาๆ เราก็ไม่อยากจะ Make ข้อมูลอะไรให้เกิดคำถามในการพิจารณามากมาย เลยเอาแบบจริงใจไปเลยดีกว่า
ตั้งแต่เริ่มแพลนมา เรามีการเปลี่ยนการให้เงินใช้จ่ายประจำเดือนของน้อง (ปกติที่บ้านจะให้เป็นเงินสดบ้างโอนบ้าง)
เลยเปลี่ยนมาเป็นการโอนเข้าบัญชีแทน ทีนี้ก็จะสร้างสเตทเม้นต์ของน้องได้ ว่ามีรายได้จากครอบครัวเป็นคนให้
ในเว็ปไซต์ระบุส่วนของน้องสาวว่า มีอาชีพ เป็น Domestic Worker for my own family
และใส่ที่อยู่ที่บ้านเราไปเลยค่ะ
-จดหมายแนะนำตัวก็ระบุว่าเดินทางไปเป็นเพื่อนกับพี่สาว ปกติไปเที่ยวด้วยกันในวันหยุดยาว ระบุประเทศที่เคยไปด้วยกัน เพิ่มเติมว่า ได้รับเงินเดือนโดยคนในครอบครัวจ่าย เดือนละ XXXX ตามที่มียอดเงินเข้า ระบุว่าในทริปนี้พี่สาวจะจ่ายค่าเครื่องบิน และที่พัก ส่วนค่าอาหารและอื่นๆจะจ่ายเอง
และจะกลับมาทำหน้าที่ปกติคือดูแลบ้าน ดูแลหมา และตามปฏิทินทำงานของพี่สาว
-สเตทเม้นท์ ของน้องสาว ยอดคงเหลือ ณ วันที่ขอ ประมาณ 1 แสนบาท
-จดหมายรับรองการเป็นสปอนเซอร์ โดยเราเขียนให้สอดคล้องกันว่าจะออกค่าอะไรให้บ้าง และเรามีรายได้จากไหน
-สำเนาเอกสารเกี่ยวกับการทำงานของเรา,สเตทเม้นท์ของเรา,ปฏิทินบริษัทของเรา
-ตั๋วเครื่องบินจองเป็นตั๋วแบบ Hold ของ KLM มีค่าใช้จ่าย 1100 บาท ตัดจากบัตร ได้ตั๋วมาทางเมลล์ค่ะ
ตรงนี้มีช้อสังเกตอย่างนึงว่า ถ้าหน้าเว็ปของ KLM ที่เป็นภาษาอังกฤษจะไม่มีตัวเลือก Hold ให้ แต่เปลี่ยนเป็นภาษาไทยแล้วมีค่ะ
-ประกันสมัครของ MSIG ทางออนไลน์นะคะ สะดวกมากๆ
-แผนการท่องเที่ยว เราเดินทางแค่ออสโล-เบรเก้น จำนวนวันก็ไม่เกิน 10 วันค่ะ
ส่วนแผนการเที่ยวก็เขียนสถานที่ยอดนิยม เน้นการเที่ยวแบบ City Sigh seeing ลงค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวไม่สูงมากนะคะ
ประมาณ 1/3 ของสเตทเม้นต์เองค่ะ (แม้ความเป็นจริงจะเกินไปเยอะเลย)
นอกจากนี้ก็จะมีสำเนาหน้าพาสปอร์ตที่มีตราประทับเข้า/ออกเมือง หรือวีซ่าท่องเที่ยวทุกหน้า ของเรามีคนละ 3 เล่ม ก็ถ่ายไปทั้งหมดเลยค่ะ
เคยเดินทางไปญี่ปุ่น เกาหลี จีน เวียดนาม สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊า ค่ะ
วันที่ยื่นเอกสาร
ไปถึง VFS ก่อนเวลานัดหมายประมาณ 30 นาที ตอนแรกเจ้าหน้าที่ให้รอด้านนอกก่อน จากนั้นก็เข้าไปรับบัตรคิว
และได้เข้าไปยื่นเอกสาร ใช้เวลาสองคน 30 นาทีเท่านั้นเองค่ะ เข้าไปทีละคนนะคะ
ตอนยื่นคือรู้สึกราบรื่นมากเลยค่ะ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่แจ้งตอนสุดท้ายว่า ช่วงนี้วีซ่านานนะคะ ประมาณ 15-45 วัน
แอบตกใจแต่ก็เข้าข้างตัวเอง ว่าของจริงคงไม่นานขนาดนั้น 555
พอครบ 15 วันนี่ร้อนใจแล้วค่ะ เพราะค่าตั๋วเครื่องบินช่วงที่จะเดินทางคือขยับขึ้นทุกวันเลย
จากตอนแรกแพลนว่าว่า ขึ้นยังไงก็น่าจะประมาณ 38K /คน คือที่รับไหว
พอกลางเดือนตุลาคือตั๋วไปเกินที่รับไหวแล้ว วีซ่าก็ยังเงียบอยู่ ก็เลยตัดสินใจซื้อตั๋วซะเลยค่ะ ได้มา 42K/คน (ก็ยังเกินที่คิดอยู่ดี)
จังหวะที่ซื้อคือแบบเครียดมากเลยค่ะ เชงเก้นครั้งแรก จะผ่านไหมก็ไม่รู้ แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าถ้าวีซ่าผ่านแล้วไม่มีเงินซื้อตั๋วคงเศร้ากว่า
ในที่สุดก็ได้วีซ่ามาให้อุ่นใจแล้ว รวมเวลารอ 1 เดือนพอดีค่ะ
ได้มาพอดีวันเลย เท่าที่ศึกษาทางนอร์เวย์เหมือนจะให้พอดีวันเป็นปกติค่ะ
จบแล้วค่ะ หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อื่นบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้