แม่เราอายุ 60กว่าละ มองภายนอกก็เป็นผู้หญิงเก่งคนนึง แต่ค่อนข้างเข้าถึงยาก แม่เป็นแม่ที่ดีคนเลย เรารักแม่เรามากเหมือนกัน เราเป็นว่าว่านอนสอนง่าย ไม่เคยนอกกรอบ คบแฟนมา 10 กว่าปี ไม่เคยไปเที่ยวค้างคืนกัน 2ต่อ2 เลย ปัจจุบันยังไม่แต่งงาน
แม่เราอายุ 60กว่าละ แม่เป็นผู้หญิงเก่งคนนึง ค่อนข้างเข้าถึงยาก เป็นแม่ที่ดีคนเลย เรารักแม่เรามาก เราเป็นลูกที่ว่านอนสอนง่าย ไม่เคยนอกกรอบ คบแฟนมา 10 กว่าปี ไม่เคยไปเที่ยวค้างคืนกัน 2ต่อ2 เลย เพราะแม่ไม่อนุญาต ซึ่งตรงนี้ไม่ได้เป็นปัญต่อค.สัมพันธ์ของเรากับแฟน เพราะแฟนเข้าใจ เราทำกิจการของครอบครัวค่ะ ทุกอย่างเลยยังอยู่ในสายตาแม่ จะไปไหน เวลาไหน แม่จะรู้ทั้งหมด
.
ช่วงระยะหลังเราจะเถียงกับแม่บ่อย เพราะค.เห็นไม่ตรงกัน จนแม่จะพูดเสมอว่า แม่ไม่อยากคุยกับเราแล้วเพราะค.คิดเราน่ากลัว เราบอกแม่ว่า เราโตขึ้นแล้ว และโลกก็เปลี่ยนไปแล้ว
.
เรื่องที่ทำให้เราเอ๊ะกับ ค. คิดแม่คือ (ขอไล่เรียงตั้งแต่เด็กนะคะ)
--ตอนเรียน เคยบอกแม่ว่ามีทอมมาจีบ (เราเป็นคนที่มีอะไรก็เล่าให้แม่ฟัง) แม่ตอบ-- เกิดมาทั้งทีอย่าให้เสียชาติเกิด (คือส่วนตัวเราชอบผช ค่ะ ไม่ได้คิดคบทอมอยู่แล้ว แต่เราเอ๊ะ กับค คิดแม่มากๆ)
--ตอนมีแฟน เรากับแฟนชอบดูหนังมาก จะขอแม่ไปดูหนัง ซึ่งจะต้องเป็นรอบเย็น เป็นต้นไป เพราะตอนกลางวัน เราทำงานเต็มที่ค่ะ (ไม่มีวันหยุด) แล้วเรามองว่า นี่คือเวลาเลิกงานแล้ว แฟนเราอยากดูรอบกลางวันนะคะ เค้าบอกอยากเห็นแสงแดดบ้าง แต่ก็ยอมเรา
มีอยู่วันนึง แม่บอก เราชอบดูหนัง ทำไมหรอในโรงมันมืดๆ ใช้มั้ยเลยชอบ เรายอมรับว่าโมโหมาก ในใจคิดถ้าไม่ใช่แม่จะสวนแล้ว แต่ก้ทำได้แค่ ถามแม่ว่า เราเป็นลูกแม่รึป่าว ทำไมคิดแบบนี้ แล้วถ้าเราจะทำอะไรจริงๆ ไม่เสียตังค์ค่าตั๋วหนังหรอก ไปรร.ม่านรูด จบๆ
-- เพื่อนนัดกินข้าวตอนเย็น เราบอกแม่ แม่ถามแฟนไปมั้ย เราบอกเดวเค้ามารับ แม่บอกไปกันเป็นคู่ๆอะเนอะ เราแบบ แม๊ ... นี่เราเป็นลุกแม่ใช่มั้ย ทำไมคิดแบบนี้ แล้วเราก้โทรหาแฟนว่า ไม่ต้องมานะ อยากไปกับเพื่อนตามลำพัง แฟนก้ไม่ถามอะไร ว่าไงว่าตามกัน
-- ช่วงโควิด แฟนเราชวนว่า จดทะเบียนกันมั้ยเพราะถ้ามัวโควิดซา จะได้แต่งเมือไร แวบแรกเรารู้เลย แม่ไม่ยอมแน่ เราบอกไม่ได้ เค้าบอกจัดเล็กๆ แต่ญาติมั้ย เก็บเงินไว้สร้างครอบครัว เราบอกไว้รอหมดโควิดดีกว่า แต่ไม่ได้บอกเหตุผลที่แท้จริงกับแฟน ในใจเรารู้ละ แม่ไม่ยอมแน่ๆ เราลองถามพ่อ พ่อเราบอกได้สิ มาคุยกัน
เราลองแกล้งถามแม่ แม่หงุดหงิดมาก แล้วบอกผช เห็นแก่ตัวนะ แกคิดหรอว่าจดทะเบียนสมรส แล้วจะได้เปรียบ (เราคิดในใจ เรามองแม่ไม่ผิดจริงๆ)
-- พ่อเราไม่แข็งแรง เราดูแลพ่อเรา เต็มที่ พอเราเกริ่นกับแม่เรื่องแต่งงาน แม่ดูเศร้า แล้วบอก ใครจะดูแลพ่อ แล้วกิจการของที่บ้านล่ะ (ร้านค้าเล็กๆ ซึ่งพ่อเราบอกเราว่า ถ้าแต่งงานแล้วมาดูมาช่วยไม่ได้ เพราะต้องช่วยทางนู้น ไม่ต้องห่วงทางนี้ ร้านค้าเล็กๆ ปิดได้ พ่อมีเงินเก็บเยอะแยะ พ่อไม่ลำบาก แต่ในขณะที่แม่นั้นดูเศร้าเลย)
.
เราเคยถามแม่ว่า แม่ดูไม่ดีใจกับเราเลยตอนที่บอกว่าจะแต่ง ถ้าเราแต่งงานไปแล้ว ไม่ได้ดูแลพ่อเต็มที่เหมือนเดิม เราจะเป็นลูกอกตัญญู ในสายตาแม่มั้ย แม่ตอบ---ไม่รู้...
.
จนมาหลังๆ ยุคสมัยมันเปลี่ยน ดารา คนมีชื่อเสียง หรือแม้กระทั่งคนใกล้ตัว หลายคนก็มองข้ามเรื่องเพศในการคบหา ท้องก่อนแต่งบ้าง ล่าสุด แพตตี้-แดน แต่งในวัดบ้าง คือจัดงานเล็กๆ แต่อบอุ่น เราบอกแม่ดูงานเค้าสิ แม่พูด ท้องรึป่าว ทำไมรีบ เราบอกเค้าคบกันมาเป็น 10ปีละแม่ แล้วถ้าเค้าจะท้องก้ดีสิ ยินดีกับเค้า ท้องสิดี บางคนอยากมีลูก ลูกไม่มา
.
แม่ชอบเปรียบว่า สังคมสมัยนี้เหมือนสังคมสัตว์เดรัจฉาน เอากันมั่วซั่ว ถ้าเค้าแรดเค้า

ก้คงจะมีผัวใหม่ไปเรื่อยๆ (พ่อเราเคยนอกใจแม่เป็น 10ปี แล้วก็กลับมาดีกันในที่สุด) เราต้องบอกแม่ว่า แม่ใจเย็นๆ สังคมก็แบบนี้แระ อย่าไปพูดแบบนี้ที่ไหนนะ มันแรง ถ้าคู่สนทนา แรงกลับ จะสุ้เค้ายังไงไหว
.
แม่ก้สะบัดแล้วบอก ค.คิดเราน่ากลัวมาก แม่คุยด้วยไม่ได้ เราก้บอกเราจะ40 แล้ว เราโตแล้ว อยากให้แม่เปลี่ยนมุมมอง แล้วแม่จะมีความสุขในชีวิตเพิ่มมากขึ้น เพราะทุกวันนี้ แม่เราจะพูดเสมอ ไม่ขอเกิด ไม่ขอเจอกับใครอีกแล้ว ชาติเดียวพอ....
.
หลายครั้งที่เรานั่งทบทวน กับค.คิดของแม่ แล้วเรารุ้สึกไม่ชอบ เราเลือกที่จะพุดจะเตือน หรือแม้กระทั่งทำแบบเค้าพูดแบบเค้าใส่เค้าไป เค้าจะบอกเสมอ ชั้นเป็นแม่ ทำอะไรก็ได้ เราบอกแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีสิ เค้าบอกเราโตแล้วก้เลือกเอา อันไหนดี/ไม่ดี ......
.
คือเราไม่อยากไม่รักแม่ เราเอาเรื่องนี้ไประบายกับใครไม่ได้ กับแฟนก็ไม่ได้ กลัวพวกเค้าจะไม่ชอบแม่เรา เคยไม่อินเออ ออกับแม่แล้ว แต่ก็กลัวค.มั่น.ค เป็นเค้าจะทำให้คนอื่นไม่ชอบเค้า
.
ตอนเด็กๆ เค้ากลับมาจากที่ทำงาน เค้าจะบอกเพื่อนร่วมงานบางคนไม่ชอบเค้า จนเราโตมาแล้วสังเกตค เป็นตัวเค้า เราก้เริ่มเอ๊ะในใจ ..
.
นี่แค่ส่วนนึงแม่เป็นคนที่ดูถูกคนที่เป็นพ่อหม้าย แม่หม้ายมาก เราบอกเค้าว่าคนพวกนั้นเค้าไม่success ใน.ค.รักครั้งแรก ก้หาไปเรื่อยๆ ก้ไม่ผิดนะ คือพอเราแก้ต่างให้ คนอื่น เค้าจะบอกค.คิดเราน่ากลัว..
.
เราจะจัดการกับค.คิดตัวเองยังไงดี เราอยากให้แม่มีความสุข แล้วเราก้อยากมีค.สุขด้วย
ปล.เรามีน้องอีกคน คนนั้นไม่เอาไหน พ่อแม่ถอดใจ แต่ห่วงมาก เลยละไว้ ไม่ขอกล่าวถึง..
จะจัดการความรู้สึกที่มีต่อแม่ตัวเองยังไงดี
แม่เราอายุ 60กว่าละ แม่เป็นผู้หญิงเก่งคนนึง ค่อนข้างเข้าถึงยาก เป็นแม่ที่ดีคนเลย เรารักแม่เรามาก เราเป็นลูกที่ว่านอนสอนง่าย ไม่เคยนอกกรอบ คบแฟนมา 10 กว่าปี ไม่เคยไปเที่ยวค้างคืนกัน 2ต่อ2 เลย เพราะแม่ไม่อนุญาต ซึ่งตรงนี้ไม่ได้เป็นปัญต่อค.สัมพันธ์ของเรากับแฟน เพราะแฟนเข้าใจ เราทำกิจการของครอบครัวค่ะ ทุกอย่างเลยยังอยู่ในสายตาแม่ จะไปไหน เวลาไหน แม่จะรู้ทั้งหมด
.
ช่วงระยะหลังเราจะเถียงกับแม่บ่อย เพราะค.เห็นไม่ตรงกัน จนแม่จะพูดเสมอว่า แม่ไม่อยากคุยกับเราแล้วเพราะค.คิดเราน่ากลัว เราบอกแม่ว่า เราโตขึ้นแล้ว และโลกก็เปลี่ยนไปแล้ว
.
เรื่องที่ทำให้เราเอ๊ะกับ ค. คิดแม่คือ (ขอไล่เรียงตั้งแต่เด็กนะคะ)
--ตอนเรียน เคยบอกแม่ว่ามีทอมมาจีบ (เราเป็นคนที่มีอะไรก็เล่าให้แม่ฟัง) แม่ตอบ-- เกิดมาทั้งทีอย่าให้เสียชาติเกิด (คือส่วนตัวเราชอบผช ค่ะ ไม่ได้คิดคบทอมอยู่แล้ว แต่เราเอ๊ะ กับค คิดแม่มากๆ)
--ตอนมีแฟน เรากับแฟนชอบดูหนังมาก จะขอแม่ไปดูหนัง ซึ่งจะต้องเป็นรอบเย็น เป็นต้นไป เพราะตอนกลางวัน เราทำงานเต็มที่ค่ะ (ไม่มีวันหยุด) แล้วเรามองว่า นี่คือเวลาเลิกงานแล้ว แฟนเราอยากดูรอบกลางวันนะคะ เค้าบอกอยากเห็นแสงแดดบ้าง แต่ก็ยอมเรา
มีอยู่วันนึง แม่บอก เราชอบดูหนัง ทำไมหรอในโรงมันมืดๆ ใช้มั้ยเลยชอบ เรายอมรับว่าโมโหมาก ในใจคิดถ้าไม่ใช่แม่จะสวนแล้ว แต่ก้ทำได้แค่ ถามแม่ว่า เราเป็นลูกแม่รึป่าว ทำไมคิดแบบนี้ แล้วถ้าเราจะทำอะไรจริงๆ ไม่เสียตังค์ค่าตั๋วหนังหรอก ไปรร.ม่านรูด จบๆ
-- เพื่อนนัดกินข้าวตอนเย็น เราบอกแม่ แม่ถามแฟนไปมั้ย เราบอกเดวเค้ามารับ แม่บอกไปกันเป็นคู่ๆอะเนอะ เราแบบ แม๊ ... นี่เราเป็นลุกแม่ใช่มั้ย ทำไมคิดแบบนี้ แล้วเราก้โทรหาแฟนว่า ไม่ต้องมานะ อยากไปกับเพื่อนตามลำพัง แฟนก้ไม่ถามอะไร ว่าไงว่าตามกัน
-- ช่วงโควิด แฟนเราชวนว่า จดทะเบียนกันมั้ยเพราะถ้ามัวโควิดซา จะได้แต่งเมือไร แวบแรกเรารู้เลย แม่ไม่ยอมแน่ เราบอกไม่ได้ เค้าบอกจัดเล็กๆ แต่ญาติมั้ย เก็บเงินไว้สร้างครอบครัว เราบอกไว้รอหมดโควิดดีกว่า แต่ไม่ได้บอกเหตุผลที่แท้จริงกับแฟน ในใจเรารู้ละ แม่ไม่ยอมแน่ๆ เราลองถามพ่อ พ่อเราบอกได้สิ มาคุยกัน
เราลองแกล้งถามแม่ แม่หงุดหงิดมาก แล้วบอกผช เห็นแก่ตัวนะ แกคิดหรอว่าจดทะเบียนสมรส แล้วจะได้เปรียบ (เราคิดในใจ เรามองแม่ไม่ผิดจริงๆ)
-- พ่อเราไม่แข็งแรง เราดูแลพ่อเรา เต็มที่ พอเราเกริ่นกับแม่เรื่องแต่งงาน แม่ดูเศร้า แล้วบอก ใครจะดูแลพ่อ แล้วกิจการของที่บ้านล่ะ (ร้านค้าเล็กๆ ซึ่งพ่อเราบอกเราว่า ถ้าแต่งงานแล้วมาดูมาช่วยไม่ได้ เพราะต้องช่วยทางนู้น ไม่ต้องห่วงทางนี้ ร้านค้าเล็กๆ ปิดได้ พ่อมีเงินเก็บเยอะแยะ พ่อไม่ลำบาก แต่ในขณะที่แม่นั้นดูเศร้าเลย)
.
เราเคยถามแม่ว่า แม่ดูไม่ดีใจกับเราเลยตอนที่บอกว่าจะแต่ง ถ้าเราแต่งงานไปแล้ว ไม่ได้ดูแลพ่อเต็มที่เหมือนเดิม เราจะเป็นลูกอกตัญญู ในสายตาแม่มั้ย แม่ตอบ---ไม่รู้...
.
จนมาหลังๆ ยุคสมัยมันเปลี่ยน ดารา คนมีชื่อเสียง หรือแม้กระทั่งคนใกล้ตัว หลายคนก็มองข้ามเรื่องเพศในการคบหา ท้องก่อนแต่งบ้าง ล่าสุด แพตตี้-แดน แต่งในวัดบ้าง คือจัดงานเล็กๆ แต่อบอุ่น เราบอกแม่ดูงานเค้าสิ แม่พูด ท้องรึป่าว ทำไมรีบ เราบอกเค้าคบกันมาเป็น 10ปีละแม่ แล้วถ้าเค้าจะท้องก้ดีสิ ยินดีกับเค้า ท้องสิดี บางคนอยากมีลูก ลูกไม่มา
.
แม่ชอบเปรียบว่า สังคมสมัยนี้เหมือนสังคมสัตว์เดรัจฉาน เอากันมั่วซั่ว ถ้าเค้าแรดเค้า
.
แม่ก้สะบัดแล้วบอก ค.คิดเราน่ากลัวมาก แม่คุยด้วยไม่ได้ เราก้บอกเราจะ40 แล้ว เราโตแล้ว อยากให้แม่เปลี่ยนมุมมอง แล้วแม่จะมีความสุขในชีวิตเพิ่มมากขึ้น เพราะทุกวันนี้ แม่เราจะพูดเสมอ ไม่ขอเกิด ไม่ขอเจอกับใครอีกแล้ว ชาติเดียวพอ....
.
หลายครั้งที่เรานั่งทบทวน กับค.คิดของแม่ แล้วเรารุ้สึกไม่ชอบ เราเลือกที่จะพุดจะเตือน หรือแม้กระทั่งทำแบบเค้าพูดแบบเค้าใส่เค้าไป เค้าจะบอกเสมอ ชั้นเป็นแม่ ทำอะไรก็ได้ เราบอกแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีสิ เค้าบอกเราโตแล้วก้เลือกเอา อันไหนดี/ไม่ดี ......
.
คือเราไม่อยากไม่รักแม่ เราเอาเรื่องนี้ไประบายกับใครไม่ได้ กับแฟนก็ไม่ได้ กลัวพวกเค้าจะไม่ชอบแม่เรา เคยไม่อินเออ ออกับแม่แล้ว แต่ก็กลัวค.มั่น.ค เป็นเค้าจะทำให้คนอื่นไม่ชอบเค้า
.
ตอนเด็กๆ เค้ากลับมาจากที่ทำงาน เค้าจะบอกเพื่อนร่วมงานบางคนไม่ชอบเค้า จนเราโตมาแล้วสังเกตค เป็นตัวเค้า เราก้เริ่มเอ๊ะในใจ ..
.
นี่แค่ส่วนนึงแม่เป็นคนที่ดูถูกคนที่เป็นพ่อหม้าย แม่หม้ายมาก เราบอกเค้าว่าคนพวกนั้นเค้าไม่success ใน.ค.รักครั้งแรก ก้หาไปเรื่อยๆ ก้ไม่ผิดนะ คือพอเราแก้ต่างให้ คนอื่น เค้าจะบอกค.คิดเราน่ากลัว..
.
เราจะจัดการกับค.คิดตัวเองยังไงดี เราอยากให้แม่มีความสุข แล้วเราก้อยากมีค.สุขด้วย
ปล.เรามีน้องอีกคน คนนั้นไม่เอาไหน พ่อแม่ถอดใจ แต่ห่วงมาก เลยละไว้ ไม่ขอกล่าวถึง..