‘ป๋าเทพ’ ขู่ไม่รัก ‘ลุงตู่’ วอนทำกฎหมายขายแผ่นดินเป็นโมฆะ ห่วงลูกหลานถูกวางระเบิด
https://www.dailynews.co.th/news/1641642/
ตลกดัง "เทพ โพธิ์งาม" ไลฟ์เฟซบุ๊กฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่า ให้หยุดร่างกฎหมาย อนุญาตชาวต่างชาติซื้อที่ดินเอาไว้ก่อน เพราะไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว หวั่นอนาคตลูกหลานไร้แผ่นดินอยู่ ขอให้ฟังเสียงประชาชนบ้าง
จากกรณีโลกออนไลน์จับตาติดตามข่าวในเรื่อง ร่างกฎกระทรวงฯ อนุญาตให้คนต่างชาติซื้อที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ แลกกับนำเงินมาลงทุนในไทย 40 ล้านบาท ซึ่งมีกระแสต่อต้านอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในเพจเฟซบุ๊ก “
ขนมเปี๊ยะขั้นเทพ” ได้โพสต์คลิปการแสดงความเห็นทางการเมืองของ ศิลปินตลกชื่อดัง “
เทพ โพธิ์งาม” หรือ “
ป๋าเทพ” ได้ระบุทำนองว่า “
….ขอฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่า อยากให้หยุดและทำเป็นโมฆะไว้ก่อน ไม่อยากให้มาเสียตอนหลัง…ไหนๆ ก็รักและสนับสนุนมานานแล้ว มาผิดตรงนี้แหละ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถ้าทำผิดแล้วให้อภัยยาก ประเด็นนี้ไม่ขอเอาใจช่วย ถึงจะบอกว่ามีกฎหมายกีดกันอย่างดีแล้ว ไม่ต้องกลัว แต่คำพวกนี้ฟังมาจนชินแล้ว หลายยุคหลายสมัยที่พูดแบบนี้ ผ่านไปแล้วก็เอากลับคืนมาไม่ได้…”
ป๋าเทพ ยังกล่าวด้วยว่า “
….เรื่องที่ดิน เป็นของชาติและเป็นของทุกคน หากท่านมาตัดสินจากแค่คนกลุ่มเดียวไม่กี่ร้อยคน มันไม่ยุติธรรม เรื่องแบบนี้ต้องทำประชามติ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เราต้องเสียดินแดนโดยที่ไม่ได้ตั้งใจกัน ทีมงานของท่านคิดอะไรแปลก ๆ ท่านจะเสียตรงทีมงาน และบางพรรคที่ต้องการให้เป็นแบบนี้หรือท่านอาจจะคิดว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายของท่านแล้วก็ไม่รู้ คิดว่าเป็นการทำอะไรสักอย่างแล้วก็ทิ้งไปเลย มันไม่ถูก เพราะถ้าทำไว้ เขาต้องกล่าวขานถึงตลอดว่า ท่านเป็นคนทำให้บ้านเมืองมีจุดด่างพร้อย มีอย่างเดียวคือต้องโมฆะไปก่อน แล้วมาคิดกันใหม่ มาปรับกันใหม่ มาฟังเสียงของประชาชน”
ป๋าเทพ เผยอีกว่า “
…ให้หยุดเถอะเรื่องขายแผ่นดิน ถ้าท่านไม่หยุดผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง ถ้าท่านคิดว่าจะสู้ประชาชนได้ก็แล้วแต่ท่าน ซึ่งผมยังเป็นห่วงและยังรักอยู่ แต่ว่าท่านทำตรงนี้ ผมไม่มีอะไรจะรักแล้ว สิ่งที่รัฐบาลทำ เป็นการเอื้อและส่งเสริมคนที่มีเงิน เพื่อให้อสังหาริมทรัพย์ขายได้ แต่รัฐบาลไม่ได้ส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพ มันเป็นสิ่งที่ย้อนแย้ง เป็นสิ่งที่คับแค้นใจ ผมไม่เข้าใจตรงนี้…”
ป๋าเทพ ระบุต่อไปอีกว่า “
….รัฐบาลมีเงื่อนไข ต่างชาติสามารถซื้อบ้านและถือครองที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ แลกการลงทุนในไทยขั้นต่ำ 40 ล้านบาท แบบนี้เป็นการเปิด 2 ทาง ต่างชาติได้ทั้งบ้านและธุรกิจ พร้อมถามกลับว่า แล้วคนไทยที่ไปอยู่ที่นู่น ได้ทำอะไรง่าย ๆ แบบนี้หรือไม่ ไปเปิดร้านข้าวแกง เปิดผับ มันไม่ใช่ง่ายๆ เลย นี่ส่งเสริมให้เขามาทำด้วย ถ้าคนหนึ่งทำธุรกิจ 4-5 อย่าง แล้วทำยังไง แล้วรู้เหรอว่าเงินแค่ 40 ล้าน เขาอาจจะเอามา 4,000-5,000 ล้าน ก็ได้ เพื่อจะยึดประเทศไทยเนี่ย คุณไม่คิดตรงนี้เหรอ เดี๋ยวเราก็ไม่อยู่กันแล้ว แล้วคนที่ออกกฎหมาย จะอยู่อีกเท่าไหร่ เดี๋ยวก็ไปแล้วใช่หรือไม่ แล้วเป็นไง ลูกหลานต้องมาเจอทุกอย่าง ที่วางระเบิดเวลาเอาไว้ ซึ่งผมเป็นห่วงตรงนี้ เพราะลูกหลานต้องอยู่ต่อไป ไม่ใช่มาสร้างเรื่องให้ลูกหลานคอยแก้…”
ป๋าเทพ ยังฝากไปถึงนักการเมืองที่เห็นด้วยว่า “
….ให้ระวังไว้ เดี๋ยวไม่มีใครเลือก ฝากประชาชนคนไทยว่า ให้พิจารณาว่าสมควรมองคนแบบนี้ในรูปลักษณะแบบไหน จะเป็นนักการเมืองได้หรือไม่ เพราะคนเราตอนนี้มองกันลำบาก บางครั้งหลงภูมิใจไปซะนาน แต่พอถึงตอนท้ายเหมือนกับดูหนังไม่รู้ว่าคนไหนพระเอก คนไหนผู้ร้าย สุดท้ายกลับตาลปัตร ครั้งแรกดูเป็นผู้ร้ายกลับกลายเป็นพระเอก…”
สามารถติดตามชมคลิปได้
ที่นี่…คลิก
ก้าวไกล ร่อนแถลงการณ์ ไม่ยอมแพ้ ลั่นขอเสียงวันเลือกตั้ง สู้ต่อทลายนายทุนผูกขาด
ก้าวไกล ร่อนแถลงการณ์ ไม่ยอมแพ้ ลั่นขอเสียงวันเลือกตั้ง สู้ต่อทลายนายทุนผูกขาด ส.ส.เท่าพิภพ ซัด 2 คะแนนปีศาจ ทำสุราก้าวหน้าไม่ถึงฝัน
จากกรณี ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติ คะแนน 196 ต่อ 194 งดออกเสียง 15 คะแนน คว่ำร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญได้พิจารณาเสร็จแล้วนั้น
ล่าสุด ( 2 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคก้าวไกล (ก.ก.) หลังสภาผู้แทนราษฎรตีตก ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต หรือพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ว่า เป็นอีกครั้งที่สภาฯ แห่งนี้ต้องตอบคำถามประชาชนว่า ผู้แทนในสภาฯ เป็นผู้แทนราษฎร หรือผู้แทนของใคร การตัดสินใจโหวต ทำโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย หรือทำเพื่อปกป้องทุนใหญ่ ผู้มีอำนาจอิทธิพลมีเส้นสายใกล้ชิดรัฐบาล
พรรค ก.ก. รณรงค์เรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ และได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมากที่เข้าใจแก่นสารของ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ว่าไม่ใช่การเพิ่มนักดื่ม แต่คือการเพิ่มผู้ผลิต จากที่ผูกขาดกันอยู่ไม่กี่ราย ปลดล็อกให้มีผู้ผลิตรายย่อยและรายใหม่มากขึ้น กระจายเงินหลักแสนล้านต่อปีสู่ผู้ประกอบการ SMEs แทนที่จะกองอยู่กับเจ้าใหญ่ไม่กี่ราย
หากตัดสินกันตามหลักการ หรือความต้องการของประชาชน ร่างกฎหมายฉบับนี้ต้องผ่านสภาอย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่ระบบการเมืองที่มุ่งเอื้อประโยชน์ให้แก่ทุนใหญ่และกลุ่มการเมืองไม่กี่ราย กลับมาสกัดกั้นโอกาสการสร้างความเจริญก้าวหน้าของประเทศในวันนี้
กฎกระทรวงที่ออกมาเมื่อวานนี้ คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ว่าผู้มีอำนาจจงใจสกัดกั้นการสร้างความก้าวหน้าให้กับประเทศ ด้วยการทำเหมือนปลดล็อกสุรา แต่ที่จริงแล้วเป็นการสับขาหลอก เพื่อเปลี่ยนล็อค ซึ่งสุดท้ายแล้ว ภายใต้กฎใหม่นี้ เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยยังคงไม่สามารถประกอบธุรกิจแข่งกับรายใหญ่ได้เช่นเดิม
ภายใต้การเมืองที่ยังคงไม่เห็นหัวประชาชน ไม่ยอมตัดสินใจบนผลประโยชน์ประชาชนเช่นนี้ พรรค ก.ก. ยืนยันว่า เราจะยังคงยึดมั่นในนโยบายทลายทุนผูกขาด ซึ่งไม่เพียงในอุตสาหกรรมสุราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการค้าปลีก โทรคมนาคม พลังงาน และธุรกิจอื่น ที่ปิดกันโอกาสทางเศรษฐกิจและการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ของประชาชน
แม้ผู้มีอำนาจในปัจจุบันยังไม่ยอมเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับส่วนแบ่งจากความมั่งคั่งของทุนใหญ่ พรรค ก.ก. จะยังผลักดัน พ.ร.บ. สุราก้าวหน้าต่อไป เพื่อเป็นประตูบานแรกในการทลายระบบทุนผูกขาด
วันนี้เราผลักดันมาได้เท่านี้ เพราะเรายังมีเสียงไม่มากพอ ดังนั้น ทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนจะมอบให้พรรค ก.ก. ในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะเป็นเสียงแห่งการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เราได้ใช้อำนาจสูงสุดของประชาชน เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนจะมอบให้พรรค ก.ก. ในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะเป็นเสียงที่เปลี่ยนไทยให้ก้าวหน้า”
ด้าน นาย
เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นถึงมติดังกล่าว โดยระบุว่า
“
2 คะแนนปีศาจ ถึงแม้วันนี้จะไม่ถึงฝัน แต่สิ่งที่คอยผลักหลังผมอยู่ตลอดคือพวกคุณทุกคนที่คอยร่วมเดินกับผมตลอดมา ขอบคุณทุกแรงใจจริงๆ
แต่ถึงยังไงความหวังเรายังอยู่ การส่งต่อเจตนารมณ์หรือหลักความคิด ผมเชื่อว่ามันได้ถูกส่งต่อไปยังทุกคนแล้ว
หากในครั้งหน้า พรรคก้าวไกล – Move Forward Party ได้เป็นรัฐบาล แน่นอนว่า มันจะรวดเร็วทันใจแน่นอน เพราะแก้เพียงไม่กี่มาตรา ก้าวไกลสองใบเท่านั้น”
ปธ.กกต.แจง ศาลรธน.ปมร่างกม.เลือกตั้งแล้ว ยกเลิกคำนวณ ส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์ พึงมี
https://www.matichon.co.th/politics/news_3652027
ปธ.กกต.แจงศาลปมร่างกม.เลือกตั้งส.ส.แล้ว ยกเหตุ ‘รธน.-กม.ลูก’ เปลี่ยน ไม่ต้องคำนวณส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์แต่ละพรรคพึงมีตามม. 92-ม.94
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) ได้นำคำชี้แจงของนาย
อิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ ส่งความเห็นเพิ่มเติมในคำร้องที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของส.ส.และส.ว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 ว่า ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. มาตรา 25 และมาตรา 26 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 93 และมาตรา 94 หรือไม่ และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ ไปส่งยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของกรอบเวลา 15วันที่ศาลกำหนดให้ชี้แจง สำหรับประเด็นที่ศาลขอให้กกต.ชี้แจงเกี่ยวกับหลักเกณฑ์วิธีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หลังมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่1 พ.ศ.2564และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (แก้ไขเพิ่มเติม) ฉบับที่.. พ.ศ…
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ประธานกกต.ชี้แจงว่ารัฐธรรมนูญ (แก้ไขเพิ่มเติม) ฉบับที่ 1 พ.ศ.2564 ไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 92 ถึงมาตรา 94 ให้สอดคล้องกับรูปแบบการเลือกตั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม โดยยกเลิกวิธีการคำนวณจำนวนส.ส. ที่แต่ละพรรคจะพึงมีและจำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคพึงได้รับ กกต.จึงไม่มีกรณีที่จะต้องคำนวณหาจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อตามมาตรา 92 ถึงมาตรา 94
กกร. จ่อทำหนังสือถึงรองนายกฯ ขอให้ลดภาษีที่ดินฯต่ออีก 2 ปี
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/318438
นาย
สนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกร.วันนี้ได้หารือถึงประเด็นที่ รัฐบาลได้ประกาศคงอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปีภาษี 2565-2566 ในอัตราเช่นเดียวกับปี 2563-2564 แต่ไม่มีการปรับลดการจัดเก็บลง 90% เหมือนที่ผ่านมา ขณะที่ราคาประเมินใหม่รอบปี 2566-2569 ทั้งประเทศปรับขึ้นเฉลี่ย 8% ที่ดินรกร้างว่างเปล่าจะครบกำหนด 3 ปี ที่ต้องเพิ่มอัตราเก็บภาษีอีก 0.3% และกทม.จ่อปรับอัตราเก็บภาษีที่ดินเกษตรกรรมเต็มเพดาน 0.15% หรือ เก็บเพิ่ม 15 เท่า
โดย กกร.เตรียมทำหนังสือถึงนาย
สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี ขอให้พิจารณาแก้ไขให้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ระหว่างการพัฒนา หรือ สร้างเสร็จ แต่ยังไม่ได้ขาย รวมถึงดินและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ส่วนกลางในโครงการบ้านจัดสรรฯ และอาคารชุดที่ใช้ร่วมกัน เป็นประเภทที่อยู่อาศัย
และให้พิจารณาปรับลดอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่อไปอีก 2 ปี และเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีแบบขั้นบันได โดยในปี 2566 ขอลดหย่อน 75% และปีต่อไป 50% และพิจารณายกเว้น เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และดอกเบี้ยสำหรับผู้ค้างชำระในปี 65 โดยให้ผ่อนชำระในปี 66 ได้
JJNY : 5in1 ‘ป๋าเทพ’ขู่ไม่รัก|ก้าวไกลไม่ยอมแพ้|ศาลรธน.ปมร่างกม.|กกร.จ่อลดภาษีที่ดินฯ|‘อานนท์’ ชี้สิ่งเผด็จการกลัวที่สุด
https://www.dailynews.co.th/news/1641642/
ตลกดัง "เทพ โพธิ์งาม" ไลฟ์เฟซบุ๊กฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่า ให้หยุดร่างกฎหมาย อนุญาตชาวต่างชาติซื้อที่ดินเอาไว้ก่อน เพราะไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว หวั่นอนาคตลูกหลานไร้แผ่นดินอยู่ ขอให้ฟังเสียงประชาชนบ้าง
จากกรณีโลกออนไลน์จับตาติดตามข่าวในเรื่อง ร่างกฎกระทรวงฯ อนุญาตให้คนต่างชาติซื้อที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ แลกกับนำเงินมาลงทุนในไทย 40 ล้านบาท ซึ่งมีกระแสต่อต้านอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในเพจเฟซบุ๊ก “ขนมเปี๊ยะขั้นเทพ” ได้โพสต์คลิปการแสดงความเห็นทางการเมืองของ ศิลปินตลกชื่อดัง “เทพ โพธิ์งาม” หรือ “ป๋าเทพ” ได้ระบุทำนองว่า “….ขอฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่า อยากให้หยุดและทำเป็นโมฆะไว้ก่อน ไม่อยากให้มาเสียตอนหลัง…ไหนๆ ก็รักและสนับสนุนมานานแล้ว มาผิดตรงนี้แหละ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถ้าทำผิดแล้วให้อภัยยาก ประเด็นนี้ไม่ขอเอาใจช่วย ถึงจะบอกว่ามีกฎหมายกีดกันอย่างดีแล้ว ไม่ต้องกลัว แต่คำพวกนี้ฟังมาจนชินแล้ว หลายยุคหลายสมัยที่พูดแบบนี้ ผ่านไปแล้วก็เอากลับคืนมาไม่ได้…”
ป๋าเทพ ยังกล่าวด้วยว่า “….เรื่องที่ดิน เป็นของชาติและเป็นของทุกคน หากท่านมาตัดสินจากแค่คนกลุ่มเดียวไม่กี่ร้อยคน มันไม่ยุติธรรม เรื่องแบบนี้ต้องทำประชามติ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เราต้องเสียดินแดนโดยที่ไม่ได้ตั้งใจกัน ทีมงานของท่านคิดอะไรแปลก ๆ ท่านจะเสียตรงทีมงาน และบางพรรคที่ต้องการให้เป็นแบบนี้หรือท่านอาจจะคิดว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายของท่านแล้วก็ไม่รู้ คิดว่าเป็นการทำอะไรสักอย่างแล้วก็ทิ้งไปเลย มันไม่ถูก เพราะถ้าทำไว้ เขาต้องกล่าวขานถึงตลอดว่า ท่านเป็นคนทำให้บ้านเมืองมีจุดด่างพร้อย มีอย่างเดียวคือต้องโมฆะไปก่อน แล้วมาคิดกันใหม่ มาปรับกันใหม่ มาฟังเสียงของประชาชน”
ป๋าเทพ เผยอีกว่า “…ให้หยุดเถอะเรื่องขายแผ่นดิน ถ้าท่านไม่หยุดผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง ถ้าท่านคิดว่าจะสู้ประชาชนได้ก็แล้วแต่ท่าน ซึ่งผมยังเป็นห่วงและยังรักอยู่ แต่ว่าท่านทำตรงนี้ ผมไม่มีอะไรจะรักแล้ว สิ่งที่รัฐบาลทำ เป็นการเอื้อและส่งเสริมคนที่มีเงิน เพื่อให้อสังหาริมทรัพย์ขายได้ แต่รัฐบาลไม่ได้ส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพ มันเป็นสิ่งที่ย้อนแย้ง เป็นสิ่งที่คับแค้นใจ ผมไม่เข้าใจตรงนี้…”
ป๋าเทพ ระบุต่อไปอีกว่า “….รัฐบาลมีเงื่อนไข ต่างชาติสามารถซื้อบ้านและถือครองที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ แลกการลงทุนในไทยขั้นต่ำ 40 ล้านบาท แบบนี้เป็นการเปิด 2 ทาง ต่างชาติได้ทั้งบ้านและธุรกิจ พร้อมถามกลับว่า แล้วคนไทยที่ไปอยู่ที่นู่น ได้ทำอะไรง่าย ๆ แบบนี้หรือไม่ ไปเปิดร้านข้าวแกง เปิดผับ มันไม่ใช่ง่ายๆ เลย นี่ส่งเสริมให้เขามาทำด้วย ถ้าคนหนึ่งทำธุรกิจ 4-5 อย่าง แล้วทำยังไง แล้วรู้เหรอว่าเงินแค่ 40 ล้าน เขาอาจจะเอามา 4,000-5,000 ล้าน ก็ได้ เพื่อจะยึดประเทศไทยเนี่ย คุณไม่คิดตรงนี้เหรอ เดี๋ยวเราก็ไม่อยู่กันแล้ว แล้วคนที่ออกกฎหมาย จะอยู่อีกเท่าไหร่ เดี๋ยวก็ไปแล้วใช่หรือไม่ แล้วเป็นไง ลูกหลานต้องมาเจอทุกอย่าง ที่วางระเบิดเวลาเอาไว้ ซึ่งผมเป็นห่วงตรงนี้ เพราะลูกหลานต้องอยู่ต่อไป ไม่ใช่มาสร้างเรื่องให้ลูกหลานคอยแก้…”
ป๋าเทพ ยังฝากไปถึงนักการเมืองที่เห็นด้วยว่า “….ให้ระวังไว้ เดี๋ยวไม่มีใครเลือก ฝากประชาชนคนไทยว่า ให้พิจารณาว่าสมควรมองคนแบบนี้ในรูปลักษณะแบบไหน จะเป็นนักการเมืองได้หรือไม่ เพราะคนเราตอนนี้มองกันลำบาก บางครั้งหลงภูมิใจไปซะนาน แต่พอถึงตอนท้ายเหมือนกับดูหนังไม่รู้ว่าคนไหนพระเอก คนไหนผู้ร้าย สุดท้ายกลับตาลปัตร ครั้งแรกดูเป็นผู้ร้ายกลับกลายเป็นพระเอก…”
สามารถติดตามชมคลิปได้ที่นี่…คลิก
จากกรณี ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติ คะแนน 196 ต่อ 194 งดออกเสียง 15 คะแนน คว่ำร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญได้พิจารณาเสร็จแล้วนั้น
ล่าสุด ( 2 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคก้าวไกล (ก.ก.) หลังสภาผู้แทนราษฎรตีตก ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต หรือพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ว่า เป็นอีกครั้งที่สภาฯ แห่งนี้ต้องตอบคำถามประชาชนว่า ผู้แทนในสภาฯ เป็นผู้แทนราษฎร หรือผู้แทนของใคร การตัดสินใจโหวต ทำโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย หรือทำเพื่อปกป้องทุนใหญ่ ผู้มีอำนาจอิทธิพลมีเส้นสายใกล้ชิดรัฐบาล
พรรค ก.ก. รณรงค์เรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ และได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมากที่เข้าใจแก่นสารของ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ว่าไม่ใช่การเพิ่มนักดื่ม แต่คือการเพิ่มผู้ผลิต จากที่ผูกขาดกันอยู่ไม่กี่ราย ปลดล็อกให้มีผู้ผลิตรายย่อยและรายใหม่มากขึ้น กระจายเงินหลักแสนล้านต่อปีสู่ผู้ประกอบการ SMEs แทนที่จะกองอยู่กับเจ้าใหญ่ไม่กี่ราย
หากตัดสินกันตามหลักการ หรือความต้องการของประชาชน ร่างกฎหมายฉบับนี้ต้องผ่านสภาอย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่ระบบการเมืองที่มุ่งเอื้อประโยชน์ให้แก่ทุนใหญ่และกลุ่มการเมืองไม่กี่ราย กลับมาสกัดกั้นโอกาสการสร้างความเจริญก้าวหน้าของประเทศในวันนี้
กฎกระทรวงที่ออกมาเมื่อวานนี้ คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ว่าผู้มีอำนาจจงใจสกัดกั้นการสร้างความก้าวหน้าให้กับประเทศ ด้วยการทำเหมือนปลดล็อกสุรา แต่ที่จริงแล้วเป็นการสับขาหลอก เพื่อเปลี่ยนล็อค ซึ่งสุดท้ายแล้ว ภายใต้กฎใหม่นี้ เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยยังคงไม่สามารถประกอบธุรกิจแข่งกับรายใหญ่ได้เช่นเดิม
ภายใต้การเมืองที่ยังคงไม่เห็นหัวประชาชน ไม่ยอมตัดสินใจบนผลประโยชน์ประชาชนเช่นนี้ พรรค ก.ก. ยืนยันว่า เราจะยังคงยึดมั่นในนโยบายทลายทุนผูกขาด ซึ่งไม่เพียงในอุตสาหกรรมสุราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการค้าปลีก โทรคมนาคม พลังงาน และธุรกิจอื่น ที่ปิดกันโอกาสทางเศรษฐกิจและการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ของประชาชน
แม้ผู้มีอำนาจในปัจจุบันยังไม่ยอมเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับส่วนแบ่งจากความมั่งคั่งของทุนใหญ่ พรรค ก.ก. จะยังผลักดัน พ.ร.บ. สุราก้าวหน้าต่อไป เพื่อเป็นประตูบานแรกในการทลายระบบทุนผูกขาด
วันนี้เราผลักดันมาได้เท่านี้ เพราะเรายังมีเสียงไม่มากพอ ดังนั้น ทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนจะมอบให้พรรค ก.ก. ในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะเป็นเสียงแห่งการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เราได้ใช้อำนาจสูงสุดของประชาชน เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนจะมอบให้พรรค ก.ก. ในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะเป็นเสียงที่เปลี่ยนไทยให้ก้าวหน้า”
ด้าน นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นถึงมติดังกล่าว โดยระบุว่า
“2 คะแนนปีศาจ ถึงแม้วันนี้จะไม่ถึงฝัน แต่สิ่งที่คอยผลักหลังผมอยู่ตลอดคือพวกคุณทุกคนที่คอยร่วมเดินกับผมตลอดมา ขอบคุณทุกแรงใจจริงๆ
แต่ถึงยังไงความหวังเรายังอยู่ การส่งต่อเจตนารมณ์หรือหลักความคิด ผมเชื่อว่ามันได้ถูกส่งต่อไปยังทุกคนแล้ว
หากในครั้งหน้า พรรคก้าวไกล – Move Forward Party ได้เป็นรัฐบาล แน่นอนว่า มันจะรวดเร็วทันใจแน่นอน เพราะแก้เพียงไม่กี่มาตรา ก้าวไกลสองใบเท่านั้น”
ปธ.กกต.แจง ศาลรธน.ปมร่างกม.เลือกตั้งแล้ว ยกเลิกคำนวณ ส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์ พึงมี
https://www.matichon.co.th/politics/news_3652027
ปธ.กกต.แจงศาลปมร่างกม.เลือกตั้งส.ส.แล้ว ยกเหตุ ‘รธน.-กม.ลูก’ เปลี่ยน ไม่ต้องคำนวณส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์แต่ละพรรคพึงมีตามม. 92-ม.94
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) ได้นำคำชี้แจงของนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ ส่งความเห็นเพิ่มเติมในคำร้องที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของส.ส.และส.ว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 ว่า ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. มาตรา 25 และมาตรา 26 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 93 และมาตรา 94 หรือไม่ และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ ไปส่งยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของกรอบเวลา 15วันที่ศาลกำหนดให้ชี้แจง สำหรับประเด็นที่ศาลขอให้กกต.ชี้แจงเกี่ยวกับหลักเกณฑ์วิธีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หลังมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่1 พ.ศ.2564และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (แก้ไขเพิ่มเติม) ฉบับที่.. พ.ศ…
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ประธานกกต.ชี้แจงว่ารัฐธรรมนูญ (แก้ไขเพิ่มเติม) ฉบับที่ 1 พ.ศ.2564 ไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 92 ถึงมาตรา 94 ให้สอดคล้องกับรูปแบบการเลือกตั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม โดยยกเลิกวิธีการคำนวณจำนวนส.ส. ที่แต่ละพรรคจะพึงมีและจำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคพึงได้รับ กกต.จึงไม่มีกรณีที่จะต้องคำนวณหาจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อตามมาตรา 92 ถึงมาตรา 94
กกร. จ่อทำหนังสือถึงรองนายกฯ ขอให้ลดภาษีที่ดินฯต่ออีก 2 ปี
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/318438
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกร.วันนี้ได้หารือถึงประเด็นที่ รัฐบาลได้ประกาศคงอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปีภาษี 2565-2566 ในอัตราเช่นเดียวกับปี 2563-2564 แต่ไม่มีการปรับลดการจัดเก็บลง 90% เหมือนที่ผ่านมา ขณะที่ราคาประเมินใหม่รอบปี 2566-2569 ทั้งประเทศปรับขึ้นเฉลี่ย 8% ที่ดินรกร้างว่างเปล่าจะครบกำหนด 3 ปี ที่ต้องเพิ่มอัตราเก็บภาษีอีก 0.3% และกทม.จ่อปรับอัตราเก็บภาษีที่ดินเกษตรกรรมเต็มเพดาน 0.15% หรือ เก็บเพิ่ม 15 เท่า
โดย กกร.เตรียมทำหนังสือถึงนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี ขอให้พิจารณาแก้ไขให้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ระหว่างการพัฒนา หรือ สร้างเสร็จ แต่ยังไม่ได้ขาย รวมถึงดินและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ส่วนกลางในโครงการบ้านจัดสรรฯ และอาคารชุดที่ใช้ร่วมกัน เป็นประเภทที่อยู่อาศัย
และให้พิจารณาปรับลดอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่อไปอีก 2 ปี และเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีแบบขั้นบันได โดยในปี 2566 ขอลดหย่อน 75% และปีต่อไป 50% และพิจารณายกเว้น เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และดอกเบี้ยสำหรับผู้ค้างชำระในปี 65 โดยให้ผ่อนชำระในปี 66 ได้