เราเรียนสายวิทย์-คณิต ต่อ ปวส.บัญชี เพราะถูกบังคับให้เรียน ชีวิตเราไม่สามารถวางแผนเองได้เพราะพี่เราวางแผนไว้ให้หมดแล้ว
2 เดือนก่อนเรียนจบ เราขอไปสมัคเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นเพื่อจะไปทำงาน เราบอกเค้าว่าขอเวลา 3 ปีก่อนได้มั้ย เราอยากทำในสิ่งที่ตัวเองเรียก กลับมามันยังไม่สายที่เราจะไปสอบข้าราชการต่างๆที่พี่เราต้องการ แต่เค้าไม่ให้เราไปอยู่ดี ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราเฟลมาก ทุกอย่างมันว่างเปล่าไปหมด ความรู้สึกมันดิ่งลงไปหมด เราแค่คิดว่าสิ่งๆนั้นที่เราอยากทำ เราตั้งใจมันต้องออกมาดีแน่ๆ

พอเรียนจบเราก็ขอแม่ไปเรียนภาษาเกาหลี แม่ให้ไปค่ะ แต่เค้าไม่ถามเราเลยว่าค่าใช้จ่ายมันยังไง แค่พูดว่าให้ไปแล้วทุกอย่างก็หายเงียบไปเลย.
เราจึงขอไปทำงานแต่เค้าก็ไม่ให้ไป เราไม่เข้าใจเลย บางทีเมือนจะเข้าใจแต่ไม่มีใครเข้าใจเราเลย มันแย่แบบแย่มากๆ.
ต่อมาเราขอตัง 500 เพื่อจะลงทุนขายของออนไลน์ ก็โดนปฏิเสธ บอกว่าเราขายไม่ได้สารพัดคำพูดที่ทำให้เราไม่อยากไปต่อ

ปัจจุบันนี้เราต้องไปทำงานที่พี่เราสมัคให้ทำงานเกี่ยวกับบัญชี เราไม่มีความมั่นใจอะไรเลยค่ะ เราเรียนจบบัญชีก็จริง แต่ไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ จบมาได้เพราะเพื่อน 80% เลยค่ะ ไม่กล้าปฏิเสธ ไม่กล้าขัดอะไรเลย
(เราอายุ 21-22 นะคะ)
อนาคตที่เลือกไม่ได้
2 เดือนก่อนเรียนจบ เราขอไปสมัคเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นเพื่อจะไปทำงาน เราบอกเค้าว่าขอเวลา 3 ปีก่อนได้มั้ย เราอยากทำในสิ่งที่ตัวเองเรียก กลับมามันยังไม่สายที่เราจะไปสอบข้าราชการต่างๆที่พี่เราต้องการ แต่เค้าไม่ให้เราไปอยู่ดี ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราเฟลมาก ทุกอย่างมันว่างเปล่าไปหมด ความรู้สึกมันดิ่งลงไปหมด เราแค่คิดว่าสิ่งๆนั้นที่เราอยากทำ เราตั้งใจมันต้องออกมาดีแน่ๆ
พอเรียนจบเราก็ขอแม่ไปเรียนภาษาเกาหลี แม่ให้ไปค่ะ แต่เค้าไม่ถามเราเลยว่าค่าใช้จ่ายมันยังไง แค่พูดว่าให้ไปแล้วทุกอย่างก็หายเงียบไปเลย.
เราจึงขอไปทำงานแต่เค้าก็ไม่ให้ไป เราไม่เข้าใจเลย บางทีเมือนจะเข้าใจแต่ไม่มีใครเข้าใจเราเลย มันแย่แบบแย่มากๆ.
ต่อมาเราขอตัง 500 เพื่อจะลงทุนขายของออนไลน์ ก็โดนปฏิเสธ บอกว่าเราขายไม่ได้สารพัดคำพูดที่ทำให้เราไม่อยากไปต่อ
ปัจจุบันนี้เราต้องไปทำงานที่พี่เราสมัคให้ทำงานเกี่ยวกับบัญชี เราไม่มีความมั่นใจอะไรเลยค่ะ เราเรียนจบบัญชีก็จริง แต่ไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ จบมาได้เพราะเพื่อน 80% เลยค่ะ ไม่กล้าปฏิเสธ ไม่กล้าขัดอะไรเลย
(เราอายุ 21-22 นะคะ)