นักวิเคราะห์เพิ่มเป้า BTG เป็น 71 บาท มองกำไรโตก้าวกระโดด

กระทู้คำถาม
โดยหากพิจารณากำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.64-30 มิ.ย.65) ซึ่งเท่ากับ 3,650.1 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้ว 1,934,800,000 หุ้นภายหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (ไม่รวมกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) เท่ากับ 1.89 บาทต่อหุ้น และ P/E ประมาณ 21.2 เท่า แต่หากภายหลังจากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้มีจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้ว 2,000,000,000 หุ้น (มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) เท่ากับ 1.83 บาทต่อหุ้น และ P/E ประมาณ 21.9 เท่า
 
  BTG เปิดเผยในหนังสือชี้ชวน เรื่องการเปรียบเทียบอัตราส่วน P/E ของบริษัทเทียบเคียงที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 3 บริษัท ที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกัน โดยสรุปข้อมูลที่ใช้ในการเปรียบเทียบเป็นอัตราส่วน P/E อ้างอิงข้อมูลในช่วงระยะเวลา 60 วันย้อนหลังล่าสุด นับจากวันที่ 1 ก.ค.65 ถึงวันที่ 28 ก.ย.65 ได้แก่ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) อยู่ที่ 25 เท่า, บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) 32.8 เท่า และ บมจ.จีเอฟพีที (GFPT) 27.3 เท่า
  * อนึ่ง ปัจจุบัน (ณ วันที่ 5 ต.ค.65)  อัตราส่วน P/E ของ CPF อยู่ที่ 24.53 เท่า , TFG อยู่ที่ 20.51 เท่า และ GFPT อยู่ที่ 20.17 เท่า
 
  ด้านวัตถุประสงค์ที่จะใช้เงินจากการเสนอขายหุ้น IPO (ในกรณีที่ไม่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินทั้งจำนวน) 17,392 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการเข้าซื้อและ/หรือก่อสร้างฟาร์มและโรงงานแห่งใหม่ 8,000 ล้านบาท, ชำระหนี้ระยะสั้นและ/หรือระยะยาว 8,960-10,500 ล้านบาท ที่เหลือใช้เป็นทุนหมุนเวียน
  BTG เป็นผู้ประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจรชั้นนำในประเทศไทย โดยครอบคลุมตั้งแต่การผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และสารเสริมสำหรับสัตว์ ปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์สุกรและสัตว์ปีก ไข่ไก่ อาหารแปรรูปที่เกี่ยวข้อง และอาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ฟาร์ม และการดำเนินงานด้านการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้อง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่