สวัสดีครับ ผมคบกับแฟนมา 2 ปีแล้ว ในช่วงปีแรกเรามีความสุขกันมากเลย ต่างคนต่างเป็นกำลังใจให้กัน เป็นพลังบวกให้กันเสมอ คอยรับฟังคอยเป็นที่ปรึกษากันเสมอมา ทุกช่วงจังหวะของชีวิตจะอยู่ข้างกันเสมอ พอเข้าช่วงปีที่ 2 ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป แฟนผมดูห่างออกไป สิ่งต่างๆที่เราเคยทำให้กัน ความสุขต่างๆมันหายไปอย่างเห็นได้ชัดเลย กลายเป็นว่าสิ่งที่เราเคยทำให้กัน มีผมทำอยู่คนเดียว เค้าดูไม่ใส่ใจเหมือนเมื่อก่อนเลย เวลาผมถามอะไร หรือ ส่งอะไรน่ารักๆ ที่เค้าชอบให้ดู เค้าก็ตอบแค่ อืมๆ เออๆ หรือ 555 หรือ ถ้าผมไม่ถามเค้าก็ไม่ถามกลับเลย มันกลายเป็นบทสนทนาที่ถูกตัดจบบ่อยๆ เค้าดูหงุดหงิดง่าย แล้ว ก็ชอบพูดไม่ดีใส่ผม ตวาดผมบ้างขึ้นเสียงใส่ผมบ้าง มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ผมเฟลมาก คือเค้าป่วยไม่สบาย ผมก็คอยดูแลเค้า เก็บอ้วก เช็ดตัว หาข้าวหาน้ำ หายาให้กิน ดูแลเค้าตลอดเวลา เป็นห่วงเค้า คืนหนึ่งผมก็ปลุกเค้าเพื่อมากินข้าวจะได้กินยา เค้าบอกว่าไม่มีแรง ผมก็เลยป้อนโจ๊กให้ แต่ผมลืมเป่า ซึ่งมันเป็นความผิดผมเอง จากนั้นเค้าก็ปัดถ้วยโจ๊กทิ้ง หกเต็มพื้น พร้อมกับตวาดด่าผม ผมรู้สึกชาไปหมดทั้งตัว น้ำตาก็ไหลออกมา แต่เค้าก็ดูไม่สนใจอะไรผมเลย เค้าก็นอนต่อ โดยที่ผมต้องมาเก็บเศษอาหารบนพื้น ผมก็ปลุกเค้ามากินยาต่อ ทั้งที่น้ำตายังไหลอยู่นั่นแหละ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมผมยังต้องทำแบบนั้นอยู่ทั้งๆที่ตัวเองโดนแบบนี้ เพราะรัก หรือเพราะผูกพัน หรือ โง่กันแน่ ผมไม่รู้ว่าผมยังมีค่ากับเธออยู่ไหม ยังสำคัญกับเธออยู่ไหม ทำไมเธอถึงเย็นชาได้ขนาดนั จากที่เมื่อก่อนไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็ยังคงรู้สึกถึงการมีกันและกัน แต่ตอนนี้อยู่ด้วยกัน กลับไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือนห่างออกไปกว่าเดิมด้วยซ้ำ มันรู้สึกว่าการกระทำของเราที่อยากให้เค้ามีความสุข สิ่งที่เรา พยายามทำทุกวันอยากให้มันออกมาดี มันดูไร้ค่าไปหมดเลย ทำอะไรก็ดูผิดไปหมด ในวันที่ผมจะเดินออกมาเค้ากลับรั้งผมไว้ คำที่บอกว่ารักกันมันโกหกทั้งเพ ผมสับสน ผมรู้สึกเหนื่อย ผมมันก็แค่คนที่หลอกตัวเองว่าเค้ายังรักผมอยู่ ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ช่วยแชร์แบ่งปันประสบการณ์หน่อยครับ
ต้องทำตัวอย่างไร เมื่อสิ่งที่เราทำไปมันดูไร้ค่า