สายไทย-สังคม เรียนหมอได้มั้ยคะ

แนะนำว่า เรียนต่อทางด้านนักจิตวิทยาดีกว่าครับ

สายจิตวิทยา รับทุกสาย ดีไม่ดี สายภาษา-สังคม สามารถมาทางนี้ได้ เพราะว่า ได้รับรู้เรื่องราวของคนอื่น แล้ว นำข้อคิดดีๆ รวมไปถึง เราต้องฝึกการเป็นผู้ฟังที่ดีนะครับ รับฟังทุกเรื่อง ไม่ต้องไปตัดสินอะไรทั้งนั้น เน้นการเยียวยาจิตใจฝ่ายตรงข้าม ทำอย่างไรก็ได้ วิธีใดก็ได้ ให้คนที่มาหาเรา รู้สึกดี แถมมีเวลามากกว่าจิตแพทย์ที่ไม่ค่อยมีเวลากับคนไข้ งานก็ต้องทำครับ

ส่วนสายแพทย์ น้องต้องเรียนแพทย์ทั่วไป6ปี แล้วไปต่อเฉพาะทางอีก3ปี(จิตแพทย์ผู้ใหญ่) หรือ อีก4ปี(จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น) ซึ่งรวมๆกันแล้ว ไม่ต่ำกว่า 9-10ปี ซึ่งนานมากกว่าจะจบมา อีกทั้ง คนที่จะเป็นจิตแพทย์ หรือ แพทย์เฉพาะทางสาขาอื่น แพทย์ทั่วไป6ปีได้นั้น จำเป็นต้องสอบตรงเท่านั้นนะครับ สอบ กสพท.เท่านั้นเลย และที่สำคัญ ต้องมาจากสาย วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เท่านั้น เพราะ ต้องใช้หลายๆศาสตร์ มาประยุกต์ใช้ และ ยิ่งถ้าเป็นแพทย์เฉพาะทาง ต้องมีความชำนาญสูง มีความอดทน ยอมเสียสละเวลาส่วนตน เพื่อทำงานรับใช้สังคมให้กับส่วนรวม

เวลาว่างของ วงการทางการแพทย์ ไม่ค่อยมีมากหรอกครับ มีแต่งาน คนไข้ก็มาทุกวัน เหนื่อยมาก โรงพยาบาลเอกชนสบายหน่อย เงินดี ค่าตอบแทนดี คนไข้มีฐานะ ส่วนโรงพยาบาลรัฐบาล ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะว่า ดูแลไม่ทั่วถึง ผมไม่ขอเล่ารายละเอียดตรงนี้มากนะครับ เพราะทางนี้ ก็พยายามสืบข้อมูล เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่นให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้เลย

เพิ่มเติมนะครับ สายแพทย์ในมหาวิทยาลัย ต้องมีความชำนาญในด้านชีววิทยาเป็นอย่างสูง ทางด้านเคมี เช่นชีวเคมี เคมีคำนวณ พวกดุลสมการเคมี ปริมาณสารสัมพันธ์(ผสมยา เภสัช) พันธะเคมี แน่นอนครับว่า เจ้าพันธะเคมี มันเป็นพื้นฐานหลักของปริมาณสาร กับ ชีวเคมีอยู่แล้ว รวมไปถึง อาจจะมีเรื่องฟิสิกส์เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะ สมองคนเรา มีคลื่นไฟฟ้าสถิตย์อยู่ หลอดลม อาจจะต้องอาศัยเรื่องของไหล ก็หนีไม่พ้นกลศาสตร์พื้นฐาน พวกการเคลื่อนที่ของมวล-น้ำหนัก คำอุปสรรค เวกเตอร์ สเกล่าร์ และ คณิตศาสตร์ ต้องได้หมดทุกบทเลยนะ เอาไปใช้ในการทำนายโรค การพยากรณ์เกี่ยวกับโรค การจ่ายยา การจัดระเบียบบุคคล มีอีกเยอะเลยครับ


ปล.พี่ไม่ได้เรียนแพทย์มา แต่พอรับรู้คนในสังคมนี้ได้บ้าง เพราะว่า สังคมของแพทย์ มักจะต้องทำงานรับใช้สังคมครับ ต้องขยันอ่าน ขยันทำ ขยันทุกวัน เพื่อให้ตัวเองเป็นคนที่นิ่งที่สุด