https://mgronline.com/china/detail/9650000100338
หนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุนของญี่ปุ่น รายงานว่า นักวิชาการวัยหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นกำลังเลือกย้ายมาทำการวิจัยที่มหาวิทยาลัยของจีน เพื่อโอกาสทางอาชีพที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
หนังสือพิมพ์อ้างอิงกรณีโมโตยูกิ ฮัตโตริ นักวิชาการหนุ่มอนาคตไกล ซึ่งเดินทางออกจากญี่ปุ่นเมื่อ 7 ปีก่อน เพื่อรับตำแหน่งศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยฟู่ตั้นในเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน
ฮัตโตริ ปัจจุบันอายุ 40 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างและหน้าที่ของตัวลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์ ระบุว่า ตอนเขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเมื่อ 7 ปีก่อน เขาต้องการจัดตั้งห้องปฏิบัติการของตัวเองโดยเร็วที่สุด ทว่ากระบวนการนี้ในญี่ปุ่นมักใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปี เขาจึงตัดสินใจย้ายมายังจีน
หนังสือพิมพ์รายงานว่า ญี่ปุ่นใช้ระบบเงินทุนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ส่งเสริมให้นักวิจัยหนุ่มสาวอยากทำงานในประเทศ ขณะภูมิทัศน์ทางวิชาการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของจีน ทำให้นักวิชาการอย่างฮัตโตริไปต่างประเทศได้ง่ายขึ้น
ฮัตโตริ ระบุว่า บรรดานักวิทยาศาสตร์ชาวจีนในช่วงวัย 30 และ 40 ปี ที่ศึกษาอยู่ในสหรัฐฯ ต่างเริ่มเดินทางกลับประเทศเพื่อทำงานและเผยแพร่บทความทางวิทยาศาสตร์เช่นกัน และเนื่องจากมีคนหนุ่มสาวที่มีทักษะความสามารถเพิ่มมากขึ้น จีนจึงไม่ต้องพึ่งพาโครงการที่มีค่าใช้จ่ายสูงเพื่อเชื้อเชิญนักวิชาการแถวหน้า
ฮัตโตริ เสริมว่า สิ่งสำคัญสำหรับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์คือการมีนักวิชาการจำนวนมากในหลากหลายด้าน โดยการสนับสนุนมหาวิทยาลัยระดับภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลจีนเพื่อยกระดับมาตรฐานทางวิชาการทั่วประเทศนั้นได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีประสิทธิภาพ
-------------------------------------------------------------------------
คราวนี้คุณเริ่มเชื่อรึยังว่าจีนจะเป็นเจ้าเทคเทคโนโลยีแห่งอนาคตจริงๆ
สนใจส่งลูกเรียนวิทยาศาสตร์ต่อที่จีนไหมครับ?
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ญี่ปุ่นบอกว่าจีนตีพิมพ์ผลงานวิจัยเหนือกว่าสหรัฐแล้ว
https://pantip.com/topic/41580455
ในเนื้อหากระทู้มีการพูดถึงการส่งลูกเรียนต่อจีน
นักวิชาการหนุ่มสาวญี่ปุ่น’ ย้ายมาจีน หวังคว้าโอกาสที่ดีกว่า
หนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุนของญี่ปุ่น รายงานว่า นักวิชาการวัยหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นกำลังเลือกย้ายมาทำการวิจัยที่มหาวิทยาลัยของจีน เพื่อโอกาสทางอาชีพที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
หนังสือพิมพ์อ้างอิงกรณีโมโตยูกิ ฮัตโตริ นักวิชาการหนุ่มอนาคตไกล ซึ่งเดินทางออกจากญี่ปุ่นเมื่อ 7 ปีก่อน เพื่อรับตำแหน่งศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยฟู่ตั้นในเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน
ฮัตโตริ ปัจจุบันอายุ 40 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างและหน้าที่ของตัวลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์ ระบุว่า ตอนเขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเมื่อ 7 ปีก่อน เขาต้องการจัดตั้งห้องปฏิบัติการของตัวเองโดยเร็วที่สุด ทว่ากระบวนการนี้ในญี่ปุ่นมักใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปี เขาจึงตัดสินใจย้ายมายังจีน
หนังสือพิมพ์รายงานว่า ญี่ปุ่นใช้ระบบเงินทุนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ส่งเสริมให้นักวิจัยหนุ่มสาวอยากทำงานในประเทศ ขณะภูมิทัศน์ทางวิชาการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของจีน ทำให้นักวิชาการอย่างฮัตโตริไปต่างประเทศได้ง่ายขึ้น
ฮัตโตริ ระบุว่า บรรดานักวิทยาศาสตร์ชาวจีนในช่วงวัย 30 และ 40 ปี ที่ศึกษาอยู่ในสหรัฐฯ ต่างเริ่มเดินทางกลับประเทศเพื่อทำงานและเผยแพร่บทความทางวิทยาศาสตร์เช่นกัน และเนื่องจากมีคนหนุ่มสาวที่มีทักษะความสามารถเพิ่มมากขึ้น จีนจึงไม่ต้องพึ่งพาโครงการที่มีค่าใช้จ่ายสูงเพื่อเชื้อเชิญนักวิชาการแถวหน้า
ฮัตโตริ เสริมว่า สิ่งสำคัญสำหรับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์คือการมีนักวิชาการจำนวนมากในหลากหลายด้าน โดยการสนับสนุนมหาวิทยาลัยระดับภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลจีนเพื่อยกระดับมาตรฐานทางวิชาการทั่วประเทศนั้นได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีประสิทธิภาพ
-------------------------------------------------------------------------
คราวนี้คุณเริ่มเชื่อรึยังว่าจีนจะเป็นเจ้าเทคเทคโนโลยีแห่งอนาคตจริงๆ
สนใจส่งลูกเรียนวิทยาศาสตร์ต่อที่จีนไหมครับ?
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ญี่ปุ่นบอกว่าจีนตีพิมพ์ผลงานวิจัยเหนือกว่าสหรัฐแล้ว
https://pantip.com/topic/41580455
ในเนื้อหากระทู้มีการพูดถึงการส่งลูกเรียนต่อจีน