เจ้าหโทรมาบอกว่าเดือนหน้าขึ้นศาลบัตรเฟิร์สช้อย

เรามีบัตรเฟิร์สช้อยที่ไม่ได้ใช้เอง ไม่มีเอกสารแจ้งชำระหนี้เลยค่ะ ต้องเช็คเลขกับยอดทางเครดิตบูโรเอา  ล่าสุดมีหนี้อยู่ ประมาณ 47,000 เคยโทรหาบัตรแล้ว ทางบัตรแจ้งว่าอยู่ที่บริษัทกฏหมาย ก็โทรไปที่บริษัทกฏหมายเอง ความตั้งใจแรกคือ อยากปิดบัตรนี้ แต่มีเงินที่จ่ายได้ 30,000 คืออยากขอส่วนลดด้วย แต่ปรากฏว่า บริษัทบอกว่า ไม่ได้ ถ้าจะปิดก็ต้องจ่าย 59,000  ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นธรรมกับเรา ทั่งที่เราเจตนาอยากปิดบัตร เจราจากันหลายครั้ง เจ้าหน้าที่พูดไม่ดีเลย เราบอกมี 30,000 อยากปิดจริงๆ เจ้าหน้าที่บอกก็ไปหายืมใครมาให้ครบ  ใจร้ายมาก เราเป็นคนติดต่อเข้าไปเพื่อขอปิดบัตรนี้ โทรคุยกับเจ้าหน้าที่บริษัทนี้ตลอด ปรากฎว่าล่าสุด เมื่อวันเสาร์ 22/10 นี้เอง เจ้าหน้าที่ของบริษัทนี้ก็โทรมาบอกว่า จะฟ้องละนะ ให้ไปขึ้นศาลเดือนหน้า จำวันที่ไม่ได้ค่ะ ยอดห้องที่ 81,000 เราบอกว่าทำไมถึงฟ้อง ทั้งที่โทรติดต่อกันตลอด แล้วยอดที่แจ้งคือกะเอาตายเลย ทั้งที่เราแจ้งตั้งแต่แรกว่า ขอปิดบัตรนี้ เจ้าหน้าที่ตอบกลับว่า ถ้าไม่งั้นก็จ่าย 58,000 สรุปคือเฟิร์สช้อยใจร้าย หรือบริษัทนี้ใจร้าย เรมีเงิน 30,000 อยากปิดเลย รึต้องรอไปขึ้นศาล รอหมายศาลมา เอายังไงดี ขอผู้รู้แนะนำเป็นแนวทางค่ะ  (เคยขึ้นศาลคดีบัตร KTC ครั้งนึงค่ะ แต่ตอนนั้นได้ส่วนลดปิดจบไป) มีบัตรเฟิร์สช้อยใบนี้ใบแรก ที่ขอส่วนลดไม่ได้ และจะฟ้องเราทั้งที่เจตนาอยากปิดบัตร แค่เรามีเงิน เท่านี้จริงๆค่ะ 😭😅
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ผมยืมคุณ 1,000,000

แต่ผมมี 30,000 ผมคืนแค่ 30,000 ได้ไหม

ใจร้ายมาก.... ขอส่วนลดก็ไม่ได้....


มีบัตร ไม่ได้ใช้เอง ให้คนอื่นใช้ บัตรคุณๆก็ต้องรับผิดชอบ

ในปัจจุบัน สามารถใช้ แอพ Uchoose เพื่อดูยอดหนี้ต่างๆ ชำระค่าบัตรต่างๆได้ผ่านแอพ (เรื่องการบริหารตัวเอง เป็นเรื่องต้องจัดการเอง) ถึงไม่มีใบแจ้งหนี้ ก็บริหารตัวเองหน่อย ถ้าใบแจ้งหนี้ต่างๆส่งไปผิดที่หรือเราเปลี่ยนที่อยู่ ก็แจ้งธนาคาร

สุดท้ายนี้ "ธนาคาร เป็นธุรกิจ ไม่ใช่การกุศล"

ความคิดเห็นที่ 2
ขึ้นศาลยิ่งดี อย่ากลัว
ขึ้นศาลแพ่ง ไม่มีติดคุก
เรื่องถึงศาล จะมีห้องไกล่เกลี่ย
ในห้องไกล่เกลี่ย จนท จะช่วยตัดหนี้ส่วนที่บวกเพิ่มเวอร์ๆเช่นค่าติดตามทวงถามรายครั้ง ค่าปรับ ค่าธรรมเนียม โน่นนี่นั่น เอายอดหนี้เพียวๆกับดอกเบี้ยมาเจรจา
ถ้าฝ่ายเจ้าหนี้ไม่ตกลง ก็ไปถึงศาล ศาลจะยิ่งตัดหนี้ลงไปให้อีก รวมถึงจัดอัตราผ่อนที่เราไม่เป็นภาระให้ด้วย
ดังนั้น ขึ้นศาลเรื่องหนี้ ไม่น่ากลัว
อย่าหนีให้ศาลพิพากษาฝ่ายเดียวจนโดนยึดเงินเดือน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่