กลับมารีรันอีกรอบเราก็ดู และระดับบุพเพควรเอาไปลงหลังข่าวด้วย

ถ้าเช็คกระแสในโซเชียลก็จะรู้ว่าบุพเพฯเป็นละครที่คนดูย้อนหลังเยอะสุดๆ ละครจบมาจะ 5 ปีแล้ว ยังไม่เคยหลุด Top 10 ละครยอดนิยมของ app 3 plus เลยสักครั้ง นั่นแปลว่าละครเรื่องนี้ยังประทับใจคนดูอยู่เสมอทั้ง TikTok Facebook YouTube คนยังพูดถึงละครเรื่องนี้อยู่ ยิ่งได้กระแสจากหนังบุพเพสันนิวาส๒ มาต่อยอด คนยิ่งย้อนกลับมาดูบุพเพมากขึ้น (เท่าที่อ่านเม้นท์มานะ)

โดยเฉพาะ YouTube ช่องคอมเม้นต์ของละครเรื่องนี้ อย่างกับที่ Check in ปฏิทินออนไลน์ มีมาทุกปี ตั้งแต่ละครออกอากาศครั้งแรก
“ปี 2018 2019 2020 2021 2022ใครยังดูอยู่บ้าง” ขนาดช็อต Fin เมื่อปี 2020 ยอดวิวบางคลิปยังสูงถึง 20 ล้าน ทั้งที่ในคลิปนั้นเนื้อหาก็ไม่ได้ต่างจากคลิปปี 2018 เลยนะ

บุพเพสันนิวาสเป็นละครน้ำดี ฟีลกู๊ดด้วย ต้องยอมรับว่าตัวพระเอกนางเอก เคมีดีมาก ดูแล้วทำให้คนเชื่อว่ารักกันจริง เชื่อกันทั้งประเทศด้วย

ส่วนใครที่บอกว่า เอาแต่บุพเพมารีรัน ก็ไม่ต้องทำเรื่องอื่นกันพอดี คิดในทางตรงกันข้ามนะ มองให้ละเอียด

ถ้าการนำบุพเพกลับมารีรันทุกรอบ แล้วเรตติ้งยังดีเหมือนเดิมทุกครั้ง นั่นหมายความว่า… คนทำละครต้องรู้แล้วนะ ว่ารสนิยมของคนดูเป็นแบบไหน ทำละครยังไงคนถึงดู

จุดแข็งของบุพเพ คือ “เนื้อเรื่อง บทละคร การดำเนินเรื่อง นักแสดงที่เหมาะสม” ทำให้ดูได้เรื่อยๆ สนุก ตลก มีสาระแบบไม่ยัดเยียด

จุดแข็งอีกอย่างของบุพเพคือ แฟนละครนี่แหละ มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะมีละครสักกี่เรื่อง ที่ทำเป็นภาพยนตร์แล้วยังได้กระแสตอบรับที่ดีจากแฟนละครขนาดนี้

พูดในเชิงการตลาดนะ ถ้าต้องเลือกรีรันละครสักเรื่อง เราก็เลือกเรื่องนี้อยู่ดี เพราะรู้ว่า ฐานแฟนละครเรื่องนี้เยอะแค่ไหน

แล้วคนดูจะได้อะไรจากการรีรันครั้งนี้ ได้ความผ่อนคลาย สบายหัว มีสาระ ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน อย่างน้อยๆก็ครอบครัว จขกท นั่นแหละ

ไม่รู้ว่าช่อง 3 จะกล้าทำไหม แต่เราก็อยากเห็นนะ คือ…

รีรันบุพเพสันนิวาสหลังข่าวเสร็จ แล้วต่อด้วยพรหมลิขิตเลย คนดูก็ได้ดูละครต่อเนื่องกัน เรทติ้งตอนจบของบุพเพสันนิวาส ก็ถูกส่งต่อมาที่พรหมลิขิตทันที

แต่วิธีนี้โหดมากนะสำหรับนักแสดง เพราะไม่มีเวลาให้คนดูได้สลัดคราบพี่หมื่นกับการะเกดออกจากหัวเลย ถ้าเล่นพรหมลิขิตไม่ดี แยกคาแรกเตอร์ไม่ชัด หรือพลาดแม้แต่จุดเดียว ต้องเป็นประเด็นแน่ๆ

ส่วนเรื่องพระนางหน้าตาเหมือนกันยังไงก็โดนอยู่ดี แต่ถ้าเล่นได้ชัด จนคนเชื่อ ประเด็นนี้จะถูกปัดตกไป และจะทำให้จุดอ่อนของละครเรื่องนี้ กลายเป็นจุดแข็งได้ทันที (เหมือนญาญ่าที่เล่น 6 คาแรคเตอร์ในคนๆเดียว)

อย่างไรก็ตามภาคต่ออย่างพรหมลิขิตเส้นเรื่องแข็งแรงมากจริงๆ ฉีกออกจากบุพเพได้ชัดเจนมาก สมกับเป็นภาคต่อ มีจุดพีคของตัวเองในทุกๆตอน บุพเพอาจจะเน้นเรื่องประวัติศาสตร์ แต่เราว่าพรหมลิขิตจะเน้นหนักไปเรื่องของเวรกรรม เวลาเกลียดใครอย่าสาปแช่ง เพราะเวรกรรมอาจจะมาในรูปแบบคนใกล้ตัวเราก็ได้

ส่วนตัวเราชอบพุดตานมากกว่าเกดสุรางค์นิดๆ ที่ชอบมากกว่า เพราะพุดตานนางสู้คน ใครดีมาก็ดีตอบ ใครร้ายมาก็ร้ายตอบ เราชอบนางเอกสไตล์นี้
(เพราะไม่ได้เป็นคนดีจนเกินไป แต่จะเป็นคนดีเท่าที่เป็นได้)